(กระทู้ชวนโหวต) อย่าให้กระทู้นี้ขึ้นกระทู้แนะนำนะครับ ผมเกรงว่าคุณวสิษฐ เดชกุญชร แกจะอาย

กระทู้สนทนา



เข้าใจครับว่า   ความหมายในคำพูดนี้ของคุณวสิษฐ  ไม่ได้หมายถึงการจับอาวุธขึ้นมาเข่นฆ่าต่อสู้กัน
แต่หมายถึงการต่อสู้ด้วยคำพูด  วาจา  คำกล่าวหา  คำป้ายสี  คำใส่ร้าย  การบิดเบือน  ฯลฯ
ง่าย ๆ ก็คือ   พูด-ทำอะไร เรื่องราวอะไรก็ตาม  ที่ทำลายนายกฯยิ่งลักษณ์  ทักษิณ  และพวกได้ก็ขอให้เอาออกมาใช้มาทำ

เข้าใจครับ

แล้วทำไมต้องถึงขนาดใช้วิธีอันไร้รสนิยมเช่นนี้   เพราะอะไร ?

ผมคิดว่าก็คงเพราะหลายปีมานี่    ไม่ว่าจะส่งสารอะไรออกมาสู่สังคม   พยายามใช้เหตุผล  ข้อมูลทำลายเครือข่ายทักษิณเท่าไร
ก็ไม่ได้ผล
ประชาชนคนส่วนใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ยังให้การสนับสนุนเครือข่ายทักษิณอยู่ต่อไป  และมีแนวโน้มมากขึ้น ๆ ทุกวัน

เหตุคงเพราะข้อมูล  เหตุผลที่คุณวสิษฐและพวกนำเสนอสู่สังคมนั้น   มันเ็ป็นข้อมูลเหตุผลที่ไม่เมคเซนซ์เอาซะเลย
เป็นข้อมูลเหตุผลที่หยาบ ๆ   ที่คิดและหลงกันเองว่า  เมื่อนำเสนอออกมาแล้ว  สังคมจะเชื่อจะคล้อยตาม
ก็มีครับ   กลุ่มชนที่เชื่อและคล้อยตาม   กลุ่มชนนี้เรียกว่า "สลิ่ม"
แต่สำหรับชนส่วนใหญ่ในประเทศ   ยิ่งนำเสนอ  ผ่านไปหลายปี   ยิ่งรู้สึกเอือมระอา  เบื่อหน่าย  รำคาญแผ่นเสียงตกร่อง
ผลมันจึงยิ่งทำให้คุณวสิษฐและพวกเกิดอาการขุ่นเคือง  คับแค้น
พอคับแค้นก็มือบอดทางความคิดและสิตปัญญา  มองคนอื่นโง่ไปหมด   ดีและฉลาดแต่พวกตัวเอง

ก็คิดถึงภาพคนถ่มน้ำลายดฟ้าก็แล้วกันครับ   ฟ้าจะเปียกหรือคนถ่มจะเหม็นซะเอง



ความจริงแล้ว   คุณวสิืษฐกับพวกนี่   ไม่ได้มีอิทธิพลทางสังคมถึงขั้นขนาดจะชี้นำสังคมได้นะครับ
ไม่ได้หลักแหลม  มีพลัีงทางความคิด   มีบุคลิกทางสังคมที่ชวนให้เชื่อถือมากมายอะไร
ก็แค่มีผลงานและอาชีพในสื่อสารมวลชนเท่านั้นเอง  เลยทำให้บทบาทปรากฎต่อสาธารณะบ่อย  สังคมกล่าวถึงบ่อย
แต่คงเพราะหลงมั้งครับ   คุณวสิษฐกับพวกหลง   หลงว่าพวกตัวเองมีพลังทางสังคมสูง  ที่จะชี้นำให้สังคมคล้อยตามได้
เลยหวังมาก   หวังว่าพวกตัวเองจะทำให้สังคมเกลียดชังและไม่เอาทักษิณ
แต่สังคมส่วนใหญ่ไม่เล่นด้วย  
ยิ่งมาประกอบกับแสดงตัวยืนอยู่ฝ่ายอำมาตย์   ไม่ต้านเผด็จการ   ก็เลยยิ่งทำให้ประชาชนเขาไม่เชื่อถือ ไม่นับถือเท่าที่ควร
ก็เลยเกิดอาการสติแตกขึ้นมา


แรก ๆ  ก็พยายามครับ  พยายามชี้นำสังคมด้วยข้อมูล  เหตุผล  หลักกการ
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ๆ   การชี้นำด้วยเหตุผล ข้อมูลไม่ได้ผล   ก็หันมาใช้วิธีใส่ร้ายป้ายสี  โหน
ก็ยังไม่ได้ผลอีก
ก็หันมาใช้วิธีที่เห็นกันอยู่นี่แหละครับ   คือด่าเอาตรง ๆ เลย

พิลึกนะครับ
ในสังคมคนปกตินั้น   ความหยาบคาย การด่าทอถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเห็นพ้องต้องกันนัก  จะมีบ้าง  ยอมให้มีบ้าง
ก็ในเรื่องที่มันบ่งบอกถึงความคับแค้นเจ็บปวดจริง ๆ   เช่น  โดนโจรฆ่าขืมขืน  ปล้นฆ่า  อะไรทำนองนี้
แต่แค่ขนาดเกลียดชังแล้วด่ากันเสีย ๆ หาย ๆ ด้วยคำหยาบ ๆ คาย ๆ นี่
สังคมไทยไม่ค่อยเ็ห็นด้วยครับ   และดีไม่ดีหันมาประนามคนด่าเองซะด้วยสิ
แต่แปลก   ที่การกระทำของชัย  ราชวัตร  กลับได้รับกำลังใจและคำยกย่องอย่างมากมายจากคุณวสิษฐและพวก

คนเรานั้น   
หากเหตุผล  ข้อมูลที่ำนำเสนอออกมามีความจริง  น่าเชื่อถือ   นำเสนอด้วยความซื่อตรงซื่อสัตย์ต่อสังคม
ไม่มีวาระซ้อนเร้นเพื่อชี้นำ  เพื่อสร้างความเกลียดชัง
สังคมย่อมรับ  ย่อมเห็นด้วย  ย่อมคล้อยตาม
แต่หากสังคมพิจารณาเหตุผล และข้อมูลที่นำเสนอออกมาแล้วไม่เห็นพ้อง  ไม่ยอมรับ  หรือรับบ้างในบางสิ่งบางเรื่อง
คนนำเสนอย่อมต้องหันกลับมาพิจารณาข้อมูล และเหตุผลของตัวเอง   
ไม่ใช่เอาแต่ชี้โทษว่าคนอื่นเป็น "ขี้ข้า" ทักษิณไปแล้ว


ผมเห็นว่า  การกระทำของคุณชัย  ราชวัตร   
การออกมาให้กำลังใจสนับสนุนคุณชัย  ราชวัตรของคุณวสิษฐและพวกนั้น
เป็นวิธีการ  เป็นการกระทำของคนสิ้นคิด  ไร้ปัญญา  ขาดเหตุผลครับ
สู้ด้วยข้อมูล  เหตุผล  หลักคิดไม่ได้   ก็หันมาใช้วิธีสั่ว ๆ  ง่าย ๆ  คือด่าหยาบ ๆ คาย ๆ  ไปแบบสติแตก
เหมือนคนพาลครับ   ไม่เหลือคราบบัณฑิตอะไรเลยสักนิด

ก็อย่าไปถือสาเลยครับ
เป็นอาการ  เป็นวิธีการตามสำนวนไทยที่ว่า "หมาจนตรอก" เท่านั้นเอง
ดู ๆ แล้วก็ขำและน่าสมเพชดีครับ
อมยิ้ม01


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่