บทที่ 6
นันทนาส่ายหน้า เมื่อเห็นสุธีรานอนขดตัวอยู่บนที่นอนทั้งชุดเดิม ผ้าคลุมเตียงยังไม่ได้ดึงออกด้วยซ้ำ เธอเพิ่งแยกทางกับสามี ฝ่ายนั้นกลับไปนอนที่บ้าน ส่วนเธอขอตัวมานอนที่คอนโดด้วยสองสาเหตุคือ ห่วงหลานสาว กับพรุ่งนี้มีนัดลูกค้าตอนเช้า ปรีชาบอกว่าเขาไปค้างด้วยก็ได้ แต่เธอก็อ้างว่าเขาไม่มีเสื้อผ้าพรุ่งนี้ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านอีกทำไมให้ยุ่งยาก สู้ไปนอนที่บ้านเลยทีเดียวดีกว่า และอีกข้อหนึ่ง เธอไม่เคยบอกเขาว่าสุธีรามาทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่บริษัท และตอนนี้ก็ต้องลี้ภัยจากเพื่อนสาวร่วมห้องมานอนที่คอนโดฯ ด้วย
เธอมองปรีชาไม่ออกว่าเขาชอบหรือไม่ชอบสุธีรา ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอรับเด็กกำพร้าเข้ามาอยู่ร่วมบ้าน สามีของเธอไม่เคยออกความเห็นอะไร นอกจากครั้งเดียวที่สุธีราจะออกไปอยู่ข้างนอก เขาถามว่าเธอคิดดีแล้วหรือถึงได้ปล่อยเด็กสาวหัวอ่อนไปเผชิญโลกเพียงลำพัง แล้วปุณยนนท์จะว่าอย่างไรเมื่อกลับมาไม่พบน้องสาวรออยู่ที่บ้าน
นันทนาบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกตอนนั้นคืออะไร ร้อนใจร้อนตัวที่เหมือนปรีชาจะรู้เรื่องที่เธอพยายามปกปิด หรือว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าปุณยนนท์สนใจเด็กสาวในการปกครองของเธอ เขาอยากให้เลี้ยงสุธีราไว้คอยรับใช้ปุณยนนท์หรือ
เพราะเห็นแก่เพศหญิงเช่นเดียวกัน เธอจะไม่บังคับให้สุธีราทำเช่นนั้น ไม่แม้แต่จะอ้างถึงบุญคุณ นั่นทำให้เธอส่งสุธีราออกไปโตไกลจากใต้ร่มเงาของเธอ
แล้วอะไรนี่ ดูซิ ต่างอะไรกับเด็กน้อยที่วิ่งเล่นมาจนเหนื่อย ไม่มีการระมัดระวังตัวแม้แต่นิดเดียว
“หลิน ยายหลิน”
นันทนา ตบบนที่นอนข้างตัวคนที่นอนเบาๆ มือเล็กๆ ที่ยกป้ายตาอย่างไม่มีมารยาเรียกรอยยิ้มเอ็นดู ก่อนจะรีบตีหน้าเคร่งเมื่อดวงตาหวานกลมโตเหมือนเจ้ากวางตัวน้อยกะพริบลืมขึ้น
สุธีรารีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที เอามือปิดปากกลั้นอาการหาวเอาไว้
“ไปอาบน้ำไปจะได้หลับสบาย นอนลงไปได้ไม่เหนียวตัวหรือไง พรุ่งนี้ไปทำงานพร้อมฉัน”
“ค่ะ”
เพราะคุณป้ายืนมองอยู่ สุธีราเลยจำต้องค้นเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำ นันทนาส่ายหน้าตามหลัง ตาปรือขนาดนั้นถ้าไม่ยืนคุม เจ้าหล่อนก็คงทิ้งตัวลงนอนหลับต่อเท่านั้นเอง รอจนเมื่อได้ยินเสียงน้ำนั่นล่ะ นันทนาถึงได้เดินกลับไปห้องใหญ่ที่เธอยึดมาจากลูกชายแล้วย้ายของของเขาไปไว้ที่ห้องเล็กแทน
You are mine ตอนที่ 6
นันทนาส่ายหน้า เมื่อเห็นสุธีรานอนขดตัวอยู่บนที่นอนทั้งชุดเดิม ผ้าคลุมเตียงยังไม่ได้ดึงออกด้วยซ้ำ เธอเพิ่งแยกทางกับสามี ฝ่ายนั้นกลับไปนอนที่บ้าน ส่วนเธอขอตัวมานอนที่คอนโดด้วยสองสาเหตุคือ ห่วงหลานสาว กับพรุ่งนี้มีนัดลูกค้าตอนเช้า ปรีชาบอกว่าเขาไปค้างด้วยก็ได้ แต่เธอก็อ้างว่าเขาไม่มีเสื้อผ้าพรุ่งนี้ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านอีกทำไมให้ยุ่งยาก สู้ไปนอนที่บ้านเลยทีเดียวดีกว่า และอีกข้อหนึ่ง เธอไม่เคยบอกเขาว่าสุธีรามาทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่บริษัท และตอนนี้ก็ต้องลี้ภัยจากเพื่อนสาวร่วมห้องมานอนที่คอนโดฯ ด้วย
เธอมองปรีชาไม่ออกว่าเขาชอบหรือไม่ชอบสุธีรา ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอรับเด็กกำพร้าเข้ามาอยู่ร่วมบ้าน สามีของเธอไม่เคยออกความเห็นอะไร นอกจากครั้งเดียวที่สุธีราจะออกไปอยู่ข้างนอก เขาถามว่าเธอคิดดีแล้วหรือถึงได้ปล่อยเด็กสาวหัวอ่อนไปเผชิญโลกเพียงลำพัง แล้วปุณยนนท์จะว่าอย่างไรเมื่อกลับมาไม่พบน้องสาวรออยู่ที่บ้าน
นันทนาบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกตอนนั้นคืออะไร ร้อนใจร้อนตัวที่เหมือนปรีชาจะรู้เรื่องที่เธอพยายามปกปิด หรือว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าปุณยนนท์สนใจเด็กสาวในการปกครองของเธอ เขาอยากให้เลี้ยงสุธีราไว้คอยรับใช้ปุณยนนท์หรือ
เพราะเห็นแก่เพศหญิงเช่นเดียวกัน เธอจะไม่บังคับให้สุธีราทำเช่นนั้น ไม่แม้แต่จะอ้างถึงบุญคุณ นั่นทำให้เธอส่งสุธีราออกไปโตไกลจากใต้ร่มเงาของเธอ
แล้วอะไรนี่ ดูซิ ต่างอะไรกับเด็กน้อยที่วิ่งเล่นมาจนเหนื่อย ไม่มีการระมัดระวังตัวแม้แต่นิดเดียว
“หลิน ยายหลิน”
นันทนา ตบบนที่นอนข้างตัวคนที่นอนเบาๆ มือเล็กๆ ที่ยกป้ายตาอย่างไม่มีมารยาเรียกรอยยิ้มเอ็นดู ก่อนจะรีบตีหน้าเคร่งเมื่อดวงตาหวานกลมโตเหมือนเจ้ากวางตัวน้อยกะพริบลืมขึ้น
สุธีรารีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที เอามือปิดปากกลั้นอาการหาวเอาไว้
“ไปอาบน้ำไปจะได้หลับสบาย นอนลงไปได้ไม่เหนียวตัวหรือไง พรุ่งนี้ไปทำงานพร้อมฉัน”
“ค่ะ”
เพราะคุณป้ายืนมองอยู่ สุธีราเลยจำต้องค้นเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำ นันทนาส่ายหน้าตามหลัง ตาปรือขนาดนั้นถ้าไม่ยืนคุม เจ้าหล่อนก็คงทิ้งตัวลงนอนหลับต่อเท่านั้นเอง รอจนเมื่อได้ยินเสียงน้ำนั่นล่ะ นันทนาถึงได้เดินกลับไปห้องใหญ่ที่เธอยึดมาจากลูกชายแล้วย้ายของของเขาไปไว้ที่ห้องเล็กแทน