เราอายุ23ปีแล้วกำลังจะเริ่มทำงาน บ้านเราเป็นร้านขายของบ้านอยู่กัน4คน แต่จะมีป้าแวะเวียนมาทุกวันเพราะบ้านป้าทั้งสามคนอยู่แถวนั้นแบบเดินมาถึงบ้านเราได้เลย แต่ด้วยความที่บ้านเราเป้นร้านขายของ พ่อแม่ตุนของเก็บของเต็มบ้านไปหมด กล่องลังเหล้าลังเบียร์เต็มบ้าน ซึ่งมันมาพร้อมกับฝุ่นคะ เรามีปัญหามือลอกคะ เหมือนแพ้ฝุ่น เพิ่งมาเป็นตอนมัธยมเพราะพ่อแม่ตุนของเยอะขึ้น ที่นอนเราคือพื้นมีหมอนใบ ฟูกที่นอน แล้วก็มีพวกบุหรี่หลายๆลังวางข้างๆ ตอนมัธยมเด็กสาวก็ต้องใส่บราใช่ไหมคะ แล้วเราวางไว้ในห้องน้ำ คนงานชายเอาไปแซวเรื่องบราเรากับน้องชาย ว่าเห็นเสื้อในพี่สาวเมิงด้วยหวะ เราแอบได้ยิน แต่น้องชายไม่กล้าเล่าให้เราฟัง คนงานชายเดินไปได้หมดแม้กระทั่งตรงที่เรานอน ถ้าเรานอนตื่นสายเค้าเดินมาเอาบุหรี่ก็จะเห็นเรานอน เราไม่ชอบเลย เราเคยโดนขโมยเหรียญสิบหายากที่เราสะสมไว้ในกล่อง เราวางไว้ไม่ไกลตัวเรามากตอนเรานอน คนงานชายมาเอาของ แล้วขโมยเหรียญเราไปทั้งกล่อง เราฟ้องพ่อ เราโดนตะคอกด่ากลายเป็นเราผิดที่ไม่เก็บให้มิดชิด เวลาอาบน้ำเราต้องเอาเสื้อผ้าไปแต่งตัวในห้องน้ำไม่ก็เปิดประตูมาส่องแล้วส่องอีกกรณีนุ่งแต่ผ้าเช็ดตัวแล้วรีบวิ่งไปตรงที่นอน เพราะบริเวณนั้นอย่างน้อยก็มีผ้าม่านกั้น เรากลัวคนงานชายเดินมาเห็น ถึงจะอยู่ในผ้าม่านแต่ก็ระแวงคะ เวลามีเสียงคนเดินมาเราจะระแวงทันที เพราะพ่อเราเวลามาเรียกเราเค้าจะเปิดผ้าม่านมาเลย บางทีเราโป๊อยู่ต้องรีบเอาผ้ามาปิด พอมหาลัยเราไปอยู่หอ สภาพการนอนเราการแต่งตัวข้าวของส่วนตัวก็ดีขึ้นเยอะ
นอกจากเรื่องความเป็นอยู่ยังมีเรื่องสุขภาพจิตเข้ามาเกี่ยวข้องอีก เราถูกเลี้ยงมาด้วยความรุนแรง ถูกพ่อตีถูกแม่ตบ ถูกด่าทอด้วยคำหยาบ เวลาพ่อแม่หงุดหงิดเรื่องอะไรก็ตามก็จะมาพาลใส่เป็นมาตั้งแต่เด็กๆยันมอปลาย จนเรากลายเป็นเด็กเก็บกด ซึมเศร้า ตัดขาดสังคม ไม่กล้าคุยกับใคร อาการเราค่อยมาดีตอนที่มาอยู่หอจากการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ความร่าเริงค่อยๆกลับมา จนเพื่อนทุกคนแม้แต่อาจาร์สมัยมัธยมงงมากว่านิสัยเราเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยหรือ ตอนมหาวิทยาลัยเราเป็นเด็กยิ้มแย้ม คุยเก่ง ผิดกับเด็กอมทุกข์สมัยมัธยมเลยก็ว่าได้(เพราะว่าไม่ต้องมารองรับอารมณ์ใคร)
เรื่องที่เรายังอึดอัดก็มีอีกคือเรื่องแฟน เนื่องจากเราไม่มีห้องส่วนตัวที่บ้าน อยู่บ้านทีเราแทบไม่ได้คุยโทรศัพท์กับแฟนเลย เพราะพ่อแม่ห้ามเรามีแฟน เราจะแอบคุยตอนกลางคืนก็ไม่ได้เพราะพ่อแม่จะเข้านอน และแม่เราเป็นคนหูไว ตอนกลางวันก็ต้องเสี่ยงดวงเอา เพราะพ่อแม่เราชอบนอนกลางวันจะสลับกันมานอนกลางวัน เราก็คุยไม่ได้อีก พ่อแม่มีเตียงนอนคะ เราชอบไปนอนเล่นตอนกลางวันชดเชยที่เราไม่เคยมีเตียง= ="
แต่ถ้าพ่อแม่มานอนเราจะนอนเล่นดูทีวีไม่ได้ ทำเสียงดังอะไรก็ไม่ได้ ไปเที่ยวห้างบ่อยก็จะโดนบ่น อยู่บ้านเฉยๆเราก็เบื่อมากก กระดิกทำอะไรแทบไม่ได้ ที่จริงพ่อแม่เรามีทาวเฮ้าอยู่หลังนึงสามชั้น เดินทางจากร้านค้าด้วยรถยนต์ส่วนตัวราวๆ15นาทีก็ถึงแล้ว แต่พ่อแม่ห่วงร้านเลยอยู่ที่ร้าน เราเคยขอพ่อแม่ว่าถ้าเราทำงานเราขอไปอยู่นะ เค้าก็ไม่ให้บอกว่าเป็นห่วงเราเป็นผู้หญิงไปอยู่คนเดียว เราเลยบอกว่างั้นให้น้องชายไปอยู่ด้วย เค้าก็ไม่ให้กลัวน้องชายมีเรื่องผู้หญิง น้องชายเราก็อึดอัด อยู่เหมือนกันนอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เราอึดอัดอีกคือ เราเรียนจบแล้วแม่จะให้ผ่อนรถแพงๆแม่จะอวดคน คือที่บ้านก็มีรถอยู่แล้วสองคัน แต่อยากให้เราผ่อนรถแพงๆอวดคนอื่นว่าบ้านนี้ซื้อรถแพงอีกแล้ว ลองคิดดูคะ เงินเดือนเด็กจบใหม่อย่างเราจะเท่าไหร่เชียว แม่จะให้ผ่อนรถเดือนละประมาณ9000บาท ยังไม่รวมค่าบำรุง ค่าน้ำมัน แล้วเราจะไหวไหมเนี้ย เราเคยบอกแม่ว่าเราอยากเก็บเงินซื้อรถไม่แพงมากได้ไหม โดนแม่ด่ากลับมาว่าจะเก็บทำไมเงิน รถเล็กๆแม่ไม่เอานะทุเรศอายเค้า พอผ่อนรถเสร็จมากู้บ้านให้แม่ด้วย(อันนี้แบบว่าทาวเฮ้าสามชั้น อยู่สี่คนเราว่าสบายๆนะ แต่แม่เห็นป้าซื้อบ้านใหม่หลังใหญ่เลยอยากได้บ้าง)
ความคิดเราตอนนี้คือ เราอึดอัดมาก เรากำลังจะเริ่มทำงานเราอยากไปเช่าหออยู่เอง ไม่อยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว เราไม่อยากต้องไปมือลอกแพ้ฝุ่น มีตุ่มใสๆขึ้น ไม่อยากเสียสุขภาพจิต อยากมีพื้นที่ส่วนตัวเก็บของส่วนตัว อยากคุยโทรศัพท์กับใครก็ได้ มีเตียงนอนนุ่มๆไม่ต้องนอนพื้นคอยระแวงคนงาน ที่สำคัญเราอยากเก็บเงินสร้างอนาคตของตัวเอง เราไม่อยากไปเป็นหนี้รถ หนี้บ้าน รุงรัง เราอยากก่อร่างสร้างตัวก่อน ส่วนเงินเดือนเรานั้น แม่เค้าเคยเปรยว่าให้เรากับส่งให้เดือนละ5000บาท เราไม่มีปัญหาอยู่แล้วถือเป็นการตอบแทนบุญคุณที่แม่เลี้ยงมา แต่หนี้สินรถ+บ้านเราอึดอัด เราเครียด จะหาว่าเราใจดำก็ช่างเหอะ เราอยากตั้งตัวก่อน เราไม่ปล่อยให้พ่อแม่ลำบากหรอก แต่ขอร้องอย่าเพิ่งมายัดเยียดหนี้ก้อนโตตอนนี้ T^T ไม่รู้เราจะดูอกตัญญูไหมที่เรียนจบไม่อยากกลับไปอยู่บ้าน แต่เราอยากเป็นอิสระ อยากมีชีวิตส่วนตัวเหมือนคนอื่นบ้าง เห้อออ
จะอกตัญญูไหมคะ ถ้าจะออกมาอยู่นอกบ้าน
นอกจากเรื่องความเป็นอยู่ยังมีเรื่องสุขภาพจิตเข้ามาเกี่ยวข้องอีก เราถูกเลี้ยงมาด้วยความรุนแรง ถูกพ่อตีถูกแม่ตบ ถูกด่าทอด้วยคำหยาบ เวลาพ่อแม่หงุดหงิดเรื่องอะไรก็ตามก็จะมาพาลใส่เป็นมาตั้งแต่เด็กๆยันมอปลาย จนเรากลายเป็นเด็กเก็บกด ซึมเศร้า ตัดขาดสังคม ไม่กล้าคุยกับใคร อาการเราค่อยมาดีตอนที่มาอยู่หอจากการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ความร่าเริงค่อยๆกลับมา จนเพื่อนทุกคนแม้แต่อาจาร์สมัยมัธยมงงมากว่านิสัยเราเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยหรือ ตอนมหาวิทยาลัยเราเป็นเด็กยิ้มแย้ม คุยเก่ง ผิดกับเด็กอมทุกข์สมัยมัธยมเลยก็ว่าได้(เพราะว่าไม่ต้องมารองรับอารมณ์ใคร)
เรื่องที่เรายังอึดอัดก็มีอีกคือเรื่องแฟน เนื่องจากเราไม่มีห้องส่วนตัวที่บ้าน อยู่บ้านทีเราแทบไม่ได้คุยโทรศัพท์กับแฟนเลย เพราะพ่อแม่ห้ามเรามีแฟน เราจะแอบคุยตอนกลางคืนก็ไม่ได้เพราะพ่อแม่จะเข้านอน และแม่เราเป็นคนหูไว ตอนกลางวันก็ต้องเสี่ยงดวงเอา เพราะพ่อแม่เราชอบนอนกลางวันจะสลับกันมานอนกลางวัน เราก็คุยไม่ได้อีก พ่อแม่มีเตียงนอนคะ เราชอบไปนอนเล่นตอนกลางวันชดเชยที่เราไม่เคยมีเตียง= ="
แต่ถ้าพ่อแม่มานอนเราจะนอนเล่นดูทีวีไม่ได้ ทำเสียงดังอะไรก็ไม่ได้ ไปเที่ยวห้างบ่อยก็จะโดนบ่น อยู่บ้านเฉยๆเราก็เบื่อมากก กระดิกทำอะไรแทบไม่ได้ ที่จริงพ่อแม่เรามีทาวเฮ้าอยู่หลังนึงสามชั้น เดินทางจากร้านค้าด้วยรถยนต์ส่วนตัวราวๆ15นาทีก็ถึงแล้ว แต่พ่อแม่ห่วงร้านเลยอยู่ที่ร้าน เราเคยขอพ่อแม่ว่าถ้าเราทำงานเราขอไปอยู่นะ เค้าก็ไม่ให้บอกว่าเป็นห่วงเราเป็นผู้หญิงไปอยู่คนเดียว เราเลยบอกว่างั้นให้น้องชายไปอยู่ด้วย เค้าก็ไม่ให้กลัวน้องชายมีเรื่องผู้หญิง น้องชายเราก็อึดอัด อยู่เหมือนกันนอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เราอึดอัดอีกคือ เราเรียนจบแล้วแม่จะให้ผ่อนรถแพงๆแม่จะอวดคน คือที่บ้านก็มีรถอยู่แล้วสองคัน แต่อยากให้เราผ่อนรถแพงๆอวดคนอื่นว่าบ้านนี้ซื้อรถแพงอีกแล้ว ลองคิดดูคะ เงินเดือนเด็กจบใหม่อย่างเราจะเท่าไหร่เชียว แม่จะให้ผ่อนรถเดือนละประมาณ9000บาท ยังไม่รวมค่าบำรุง ค่าน้ำมัน แล้วเราจะไหวไหมเนี้ย เราเคยบอกแม่ว่าเราอยากเก็บเงินซื้อรถไม่แพงมากได้ไหม โดนแม่ด่ากลับมาว่าจะเก็บทำไมเงิน รถเล็กๆแม่ไม่เอานะทุเรศอายเค้า พอผ่อนรถเสร็จมากู้บ้านให้แม่ด้วย(อันนี้แบบว่าทาวเฮ้าสามชั้น อยู่สี่คนเราว่าสบายๆนะ แต่แม่เห็นป้าซื้อบ้านใหม่หลังใหญ่เลยอยากได้บ้าง)
ความคิดเราตอนนี้คือ เราอึดอัดมาก เรากำลังจะเริ่มทำงานเราอยากไปเช่าหออยู่เอง ไม่อยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว เราไม่อยากต้องไปมือลอกแพ้ฝุ่น มีตุ่มใสๆขึ้น ไม่อยากเสียสุขภาพจิต อยากมีพื้นที่ส่วนตัวเก็บของส่วนตัว อยากคุยโทรศัพท์กับใครก็ได้ มีเตียงนอนนุ่มๆไม่ต้องนอนพื้นคอยระแวงคนงาน ที่สำคัญเราอยากเก็บเงินสร้างอนาคตของตัวเอง เราไม่อยากไปเป็นหนี้รถ หนี้บ้าน รุงรัง เราอยากก่อร่างสร้างตัวก่อน ส่วนเงินเดือนเรานั้น แม่เค้าเคยเปรยว่าให้เรากับส่งให้เดือนละ5000บาท เราไม่มีปัญหาอยู่แล้วถือเป็นการตอบแทนบุญคุณที่แม่เลี้ยงมา แต่หนี้สินรถ+บ้านเราอึดอัด เราเครียด จะหาว่าเราใจดำก็ช่างเหอะ เราอยากตั้งตัวก่อน เราไม่ปล่อยให้พ่อแม่ลำบากหรอก แต่ขอร้องอย่าเพิ่งมายัดเยียดหนี้ก้อนโตตอนนี้ T^T ไม่รู้เราจะดูอกตัญญูไหมที่เรียนจบไม่อยากกลับไปอยู่บ้าน แต่เราอยากเป็นอิสระ อยากมีชีวิตส่วนตัวเหมือนคนอื่นบ้าง เห้อออ