ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
บทนำ - เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง
ไม่มีใครในหมู่บ้านเดนวาสเหนือไม่รู้จักบ้านเวสตัน ไม่ใช่เพราะชื่อเสียงด้านความสวยงาม บ้านเวสตันตั้งอยู่บนเนินเขาขนาดเล็ก แต่ก็สูงพอจะมองเห็นทั้งหมู่บ้านและอีกสามเมืองที่อยู่ติดกัน ด้านข้างของเนินเขาเป็นหน้าผาสูงชัน เบื้องล่างคือทะเลที่มีคลื่นลมแรงพัดตลอดเวลา โขดหินแหลมคมยื่นล้ำสู่ท้องทะเล เป็นที่ตั้งของประภาคารหินอ่อน ตระกูลเวสตันเป็นเจ้าของพื้นที่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ แต่ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับความร่ำรวยหรือความงดงามของทิวทัศน์โดยรอบบ้านเวสตันที่ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จัก หรือก็น้อยกว่าการที่พวกเขามักจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันอย่างสนุกปากเสมอ หากใครก็ตามในร้านเหล้าพูดขึ้นมาขณะใบหน้าแดงก่ำและดวงตาปรืออย่างควบคุมไม่อยู่ว่า เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง
“เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง!” คนงานก่อสร้างคนหนึ่งพูดด้วยเสียงอันดัง กระแทกเหยือกเบียร์ลงบนบาร์ไม้ หนวดหนาดกเฟิ้มสั่นกระเพื่อมเมื่อเขาเรอออกมาอย่างน่าเกลียด แต่บรรดาเพื่อนของเขากลับหัวเราะชอบใจและพากันล้อมวงเข้ามา
“ใครบอกกันล่ะว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง คุณกรีน” เจ้าของบาร์ซึ่งเป็นชายหนุ่มท่าทางสุขุมพูดขึ้นพลางส่ายหน้า เขาสวมเสื้อกั๊กแบบบางสีน้ำตาลรับกับดวงไฟสีส้มอ่อนที่ส่องสว่างทั่วร้าน เช็ดฝุ่นจากแก้วที่วางอยู่ใต้บาร์ไปพลาง นัยน์ตาเบื้องหลังกรอบแว่นนั้นเป็นประกายขณะมองไปทั่วร้านของเขา ความฝันที่จะมีร้านเหล้าเป็นของตัวเองเป็นจริงแล้วในวันนี้ “ฉันทำงานเก็บเงินมาหลายปี ในที่สุดก็ซื้อร้านต่อจากคุณแคนเธีย เจ้าของร้านคนเดิมได้ ปีหน้าฉันก็มีเงินมากพอจะซื้อรถคันใหม่เป็นของขวัญวันเกิดให้กับเฮเลนได้แล้วนะ” แก้มของเขาเป็นสีแดงเมื่อพูดถึงประโยคนี้ จ้องมองหญิงสาวในกรอบรูปซึ่งวางซ่อนอยู่ใต้ชั้นวางแก้วอีกที
คุณกรีนซึ่งเป็นชายร่างใหญ่ส่ายหน้าปฏิเสธ ยกมือและกล้ามเนื้อท่อนแขนที่อยู่เหนือการควบคุมไปแล้วขึ้นโบกไปมา “แกยังใหม่อยู่ล่ะสิ ลูอิส” คุณกรีนพูด จากนั้นก็สะอึก ลูอิสยิ้มพลางคิดว่าตอนนี้เขาคงเห็นดาวเคราะห์น้อยนับพันลอยอยู่รอบศีรษะแล้วเป็นแน่ “แกเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ”
“ผมอยู่ที่นี่มาเก้าเดือนแล้วครับ” ลูอิสตอบอย่างสุภาพ วางแก้วใบเดิมลงแล้วหยิบใบใหม่ขึ้นมาเช็ดอีก “คุณมาที่นี่ทุกวันน่าจะจำได้นะ”
“มาที่นี่ทุกวัน มันก็เมาทุกวัน แล้วจะจำได้ยังไงกันล่ะ” เพื่อนของคุณกรีนคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา คนที่เหลือต่างก็หัวเราะ แต่คุณกรีนไม่ได้ฟังแล้ว เขาฟุบลงกับบาร์แล้วกรนเสียงดังจนเพื่อนสองคนต้องเข้ามาลากเขากลับที่นั่งที่โต๊ะ แต่ไม่มีใครบ่นว่าคุณกรีนเป็นภาระเลยสักคน ลูอิสมองชาวเมืองด้วยสายตาประทับใจ แล้วชายคนหนึ่งซึ่งรูปร่างดีกว่าคุณกรีนก็เข้ามานั่งแทนที่ เขาเท้าศอกทั้งสองลงบนบาร์ ท่อนแขนปาดแก้วเบียร์เข้าไปในอ้อมแขนเหมือนเป็นลูกชาย ก่อนจะยกมันขึ้นมาจิบ ฟองเบียร์ติดอยู่เหนือริมฝีปาก เขาพับริมฝีปากล่างขึ้นมาอย่างครุ่นคิด ชายคนนี้ชื่อเอลดอน เอนอช ลูอิสเก่งเรื่องจดจำรายชื่อลูกค้าประจำของร้านตน เพราะมันเป็นหนึ่งในการขยายฐานลูกค้าที่สำคัญ
เอลดอน เอนอชขวดคิ้วอย่างเหม่อลอยระหว่างที่เสียงเพลงดังคลออยู่ข้างหู ราวกับกำลังใช้ความคิดกับเรื่องที่ไม่สลักสำคัญนัก แล้วลูอิสก็ถามเขาเหมือนชวนคุยว่า “คุณกรีนหมายความว่ายังไง” เอลดอนเลิกคิ้วมาทางเขา “เรื่องที่เขาบอกว่าผมยังใหม่น่ะ”
“อ้อ” เอลดอนกลืนเบียร์รสชาติกลมกล่อมลงคอ ยืดหลังตรงกว่าเดิมเล็กน้อย ทำท่าเหมือนเพิ่งหลุดจากภวังค์ก่อนจะอธิบาย “เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเวสตันน่ะ”
แล้วเรื่องเล่าเกี่ยวกับบ้านเวสตันก็จะถูกบอกเล่าแบบปากต่อปาก สู่ผู้มาใหม่ในเมือง สู่ลูกหลาน สู่ใครก็ตามที่บังอาจเถียงชาวเดนวาสเหนือขึ้นมาว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง ซึ่งพวกเขาต่างรู้ดีกว่าใครว่าไม่มีจริงเลย เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง
แม้เรื่องเล่าเกี่ยวกับบ้านเวสตันจะถูกหยิบยกมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้งจนรูปความของเรื่องเล่าเริ่มห่างไกลจากความเป็นจริง เรื่องราวเหนือธรรมชาติถูกเติมเข้ามาเมื่อมันถูกนำมาเล่าเป็นครั้งที่หกร้อยสามสิบเจ็ดโดยหญิงชราคนหนึ่งที่ชื่อเอ็ดน่า เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องของคำสาป แต่ทุกเรื่องเล่าจะเริ่มต้นเหมือนกันคือเมื่อสิบสี่ปีก่อน ตอนที่ลอเรน่า เวสตันเกิดตั้งท้องโดยไม่ที่เธอไม่ได้แต่งงาน เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความเสื่อมเสียให้ตระกูลเวสตันเป็นอย่างมาก
ตระกูลเวสตันเป็นตระกูลเก่าแก่ของเกาะฮันเตอร์คอมป์อย่างที่ทราบกันดี พวกเขาร่ำรวยมาตั้งแต่อดีต โดยที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลราชนิกูลเลยสักนิด พวกเวสตันเป็นพ่อค้าและนักเดินทาง ซึ่งมาตั้งรกรากอยู่บนเกาะแห่งนี้เมื่อหลายร้อยปีก่อน จวบจนถึงเวสตันรุ่นหลังสุด ลอเรน่าและแซคคาเรีย เวสตันสูญเสียพ่อแม่ของพวกเขาไปในอุบัติเหตุรถคว่ำ หลังจากนั้นจึงมีการจัดการดูแลมรดก ลอเรน่าผู้เป็นพี่เป็นเด็กหญิงที่เข้มแข็งและเฉลียวฉลาด เพื่อว่าเมื่ออายุครบจนเธอสามารถจัดการมรดกมหาศาลได้ ก็จะไม่มีใครสามารถกล่าวหาว่าเธอไม่พร้อมจะจัดการเรื่องเหล่านั้น กระทั่งเธอทำมันสำเร็จและกลับมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเวสตันได้อีกครั้ง
ทุกอย่างดูจะเป็นไปด้วยดี เบื้องหลังเงาอันน่าเกรงขามของลอเรน่า แซคคาเรียเองก็เป็นคนเก่งและวางตัวได้อย่างดีเยี่ยมในสังคมเช่นเดียวกัน ทั้งสองจึงเป็นที่ยอมรับของผู้คนโดยทั่วไปได้ไม่ยาก หลายปีผ่านไปลอเรน่าก็จัดการความเรียบร้อยของการค้าขายข้ามน่านน้ำ แซคคาเรียก็ขยายอิทธิพลบนเกาะฮันเตอร์คอมป์ด้วยการก่อตั้งธนาคารฮันเตอร์แบงค์ ทั้งคู่กลายเป็นบุคคลที่ทั้งเกาะจับตามอง หนังสือพิมพ์เริ่มตีพิมพ์เรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของสองพี่น้อง นอกจากนั้นยังมีข่าวของพวกเขาปรากฏบนหน้าจอโทรทัศน์ด้วยการเป็นคนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย บ้านบนเนินเขาจึงเต็มไปด้วยสีสัน แต่ที่หนีไม่พ้นคงจะเป็นนักข่าว ผู้คนต่างจดจำเรื่องเหล่านั้นได้ดี เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ลอเรน่าอายุไม่เกินยี่สิบเจ็ดปี และแซคคาเรียก็อายุน้อยกว่าเธอแค่หนึ่งปีเท่านั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่ทั้งสองจะถูกถามถึงเรื่องคู่รักอยู่เสมอ แต่อย่าหวังว่าจะได้รู้ความลับของลอเรน่า แม่สาวคนนั้นไม่ยอมพูดอะไรเลยนอกจากเรื่องการขยายเส้นทางการเดินเรือสมุทรซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ผู้คนจึงลงความเห็นกันว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นลอเรน่าในชุดแต่งงาน ผิดกับแซคคาเรียที่ตอบคำถามอย่างเป็นกันเอง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะตกร่องปล่องชิ้นกับสาวคนไหนเลย
บ้านเวสตันเต็มไปด้วยความคื้นเครง กระทั่งในปีเดียวกันกับที่คำถามเกี่ยวกับความรักของพวกเขาตกเป็นประเด็นมากที่สุดนั้นเอง ลอเรน่าก็พบว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง แล้วประกายแห่งความสุขทั้งหมดก็เหือดหายจากบ้านเวสตันอย่างฉับพลัน
มันเหมือนกับการจุดพลุขึ้นท้องฟ้ายามราตรี สวยงามเพียงชั่วครู่ แต่ไม่นานก็หายไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบอันน่าวังเวง
บ้านเวสตันมีคนเข้าออกอยู่ตลอดเวลา อย่างน้อยก็พวกพนักงานทำความสะอาด จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ความลับนั้นจะถูกเก็บไว้ได้นาน หญิงรับใช้คนหนึ่งจึงแอบให้ข้อมูลกับสำนักข่าวอย่างกระตือรือร้น ซึ่งข่าวนั้นก็ถูกเผยแพร่ในบทความซุบซิบไม่ต่างจากเรื่องฉาวของพวกดาราที่มีมาให้อ่านพอแก้อาการสอดรู้อยู่ทุกวัน ขณะที่สังคมต่างพยายามหาคำตอบว่าลอเรน่าตั้งท้องได้อย่างไร ข่าวที่ได้รับนั้นถูกต้องมากน้อยแค่ไหน แต่ในเมื่อระยะหลังมานี้ลอเรน่าออกงานสังคมและปรากฏตัวบนหน้าหนังสือพิมพ์น้อยลง ผู้คนก็ลงความเห็นกันว่าข่าวนั้นเป็นเรื่องจริง ที่ลอเรน่าตั้งท้องเป็นเรื่องจริง แต่ใครกันล่ะที่เป็นพ่อของเด็กในท้องของเธอ ทั้งที่ผ่านมาเธอปฏิเสธข่าวการนัดพบกับชายหนุ่มคนไหนมาตลอด ที่เธอควงออกงานอยู่บ่อยครั้งก็คงจะเป็นแซคคาเรีย แล้วข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับความสัมพันธ์วิปริตภายในครอบครัวก็ตกเป็นประเด็นใหญ่ เรื่องหม่นหมองของตระกูลเวสตันจึงเริ่มต้นขึ้น
การประโคมข่าวเรื่องลอเรน่าตั้งท้องโดยไม่ได้แต่งงานก็มากเกินพอแล้ว แต่การดึงแซคคาเรียเข้าไปเกี่ยวข้องจึงเป็นเรื่องที่ชายหนุ่มเกินจะรับไหว จึงสบถต่อหน้ารายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ทำให้ความนิยมในตัวเขาตกลงเช่นเดียวกัน กระนั้นบางส่วนก็ยังแสดงความเห็นใจและไม่ติดใจต่อว่าอะไรแก่เขา เรื่องราวของสองพี่น้องบนกระจกสะท้อนสังคมจึงจางหายไป เหลือเพียงข้อคิดเห็นที่ต่างฝ่ายต่างก็ออกมาตีความโน่นนี่ จะอย่างไรมันก็แค่ความเห็นเท่านั้น
เรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านเวสตันเท็จจริงเป็นเช่นไรไม่มีใครรู้อีกต่อไป พวกเขาปิดบ้านไม่ต้อนรับใครและอยู่กันอย่างเงียบเชียบ ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น กระนั้นก็ยังมีคนลอบนำความเคลื่อนไหวภายในบ้านออกสู่ท้องทุ่งแห่งการนินทาได้ในที่สุด อาจจะเริ่มจากแม่บ้านของบริษัททำความสะอาดอีกก็เป็นได้ เรื่องที่แซคคาเรียเองก็จนปัญญาจะตามหาคำตอบว่าใครเป็นพ่อของเด็ก ที่ร้ายยิ่งกว่านั้น (ผู้คนต่างมีสีหน้าแบบเดียวกันเมื่อได้ยินท่อนนี้) คือลอเรน่าเองก็ไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยหลังจากที่เธอบอกกับน้องชายแล้วว่าเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครมาก่อน เรื่องจึงถูกชักจูงไปในทิศทางเหนือธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็อยากรู้เรื่องนั้นน้อยลง ความตึงเครียดภายในบ้านเวสตันก็ลดลง เช่นเดียวกับจุดอื่นของสังคมที่แม้ว่าบุตรสาวจะถูกประณามว่าท้องก่อนแต่งหรือท้องไม่มีพ่อ แต่เมื่อเด็กทารกคลอดออกมาแล้วนั้น ความสุขบางอย่างก็เข้ามาแทนที่
บุตรสาวของลอเรน่า เวสตันน่ารักน่าชังทีเดียว เธอถูกตั้งชื่อว่าเวนโอนาห์ เวสตัน และถูกเลี้ยงดูด้วยความรักใคร่เป็นอย่างดี แซคคาเรียก็รักเด็กคนนี้ราวกับเป็นบุตรของเขาเลยทีเดียว ทว่าความสุขที่คลับคล้ายคลับคลากับความสุขของครอบครัวอื่นก็คงอยู่กับบ้านเวสตันไม่นาน ความทุกข์ครั้งใหญ่ก็เข้ามาแทนที่ โดยไม่ปล่อยให้แซคคาเรียได้ทันตั้งตัวเลย
ไม่กี่วันหลังจากคลอดบุตรสาว ลอเรน่า เวสตันก็เสียชีวิตลงอย่างสงบ
(มีต่อครับ)
(Fantasy) :: Melancholy Wings อนธการนิรันดร :: บทนำ - เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง
บทนำ - เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง
ไม่มีใครในหมู่บ้านเดนวาสเหนือไม่รู้จักบ้านเวสตัน ไม่ใช่เพราะชื่อเสียงด้านความสวยงาม บ้านเวสตันตั้งอยู่บนเนินเขาขนาดเล็ก แต่ก็สูงพอจะมองเห็นทั้งหมู่บ้านและอีกสามเมืองที่อยู่ติดกัน ด้านข้างของเนินเขาเป็นหน้าผาสูงชัน เบื้องล่างคือทะเลที่มีคลื่นลมแรงพัดตลอดเวลา โขดหินแหลมคมยื่นล้ำสู่ท้องทะเล เป็นที่ตั้งของประภาคารหินอ่อน ตระกูลเวสตันเป็นเจ้าของพื้นที่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ แต่ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับความร่ำรวยหรือความงดงามของทิวทัศน์โดยรอบบ้านเวสตันที่ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จัก หรือก็น้อยกว่าการที่พวกเขามักจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันอย่างสนุกปากเสมอ หากใครก็ตามในร้านเหล้าพูดขึ้นมาขณะใบหน้าแดงก่ำและดวงตาปรืออย่างควบคุมไม่อยู่ว่า เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง
“เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง!” คนงานก่อสร้างคนหนึ่งพูดด้วยเสียงอันดัง กระแทกเหยือกเบียร์ลงบนบาร์ไม้ หนวดหนาดกเฟิ้มสั่นกระเพื่อมเมื่อเขาเรอออกมาอย่างน่าเกลียด แต่บรรดาเพื่อนของเขากลับหัวเราะชอบใจและพากันล้อมวงเข้ามา
“ใครบอกกันล่ะว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง คุณกรีน” เจ้าของบาร์ซึ่งเป็นชายหนุ่มท่าทางสุขุมพูดขึ้นพลางส่ายหน้า เขาสวมเสื้อกั๊กแบบบางสีน้ำตาลรับกับดวงไฟสีส้มอ่อนที่ส่องสว่างทั่วร้าน เช็ดฝุ่นจากแก้วที่วางอยู่ใต้บาร์ไปพลาง นัยน์ตาเบื้องหลังกรอบแว่นนั้นเป็นประกายขณะมองไปทั่วร้านของเขา ความฝันที่จะมีร้านเหล้าเป็นของตัวเองเป็นจริงแล้วในวันนี้ “ฉันทำงานเก็บเงินมาหลายปี ในที่สุดก็ซื้อร้านต่อจากคุณแคนเธีย เจ้าของร้านคนเดิมได้ ปีหน้าฉันก็มีเงินมากพอจะซื้อรถคันใหม่เป็นของขวัญวันเกิดให้กับเฮเลนได้แล้วนะ” แก้มของเขาเป็นสีแดงเมื่อพูดถึงประโยคนี้ จ้องมองหญิงสาวในกรอบรูปซึ่งวางซ่อนอยู่ใต้ชั้นวางแก้วอีกที
คุณกรีนซึ่งเป็นชายร่างใหญ่ส่ายหน้าปฏิเสธ ยกมือและกล้ามเนื้อท่อนแขนที่อยู่เหนือการควบคุมไปแล้วขึ้นโบกไปมา “แกยังใหม่อยู่ล่ะสิ ลูอิส” คุณกรีนพูด จากนั้นก็สะอึก ลูอิสยิ้มพลางคิดว่าตอนนี้เขาคงเห็นดาวเคราะห์น้อยนับพันลอยอยู่รอบศีรษะแล้วเป็นแน่ “แกเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ”
“ผมอยู่ที่นี่มาเก้าเดือนแล้วครับ” ลูอิสตอบอย่างสุภาพ วางแก้วใบเดิมลงแล้วหยิบใบใหม่ขึ้นมาเช็ดอีก “คุณมาที่นี่ทุกวันน่าจะจำได้นะ”
“มาที่นี่ทุกวัน มันก็เมาทุกวัน แล้วจะจำได้ยังไงกันล่ะ” เพื่อนของคุณกรีนคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา คนที่เหลือต่างก็หัวเราะ แต่คุณกรีนไม่ได้ฟังแล้ว เขาฟุบลงกับบาร์แล้วกรนเสียงดังจนเพื่อนสองคนต้องเข้ามาลากเขากลับที่นั่งที่โต๊ะ แต่ไม่มีใครบ่นว่าคุณกรีนเป็นภาระเลยสักคน ลูอิสมองชาวเมืองด้วยสายตาประทับใจ แล้วชายคนหนึ่งซึ่งรูปร่างดีกว่าคุณกรีนก็เข้ามานั่งแทนที่ เขาเท้าศอกทั้งสองลงบนบาร์ ท่อนแขนปาดแก้วเบียร์เข้าไปในอ้อมแขนเหมือนเป็นลูกชาย ก่อนจะยกมันขึ้นมาจิบ ฟองเบียร์ติดอยู่เหนือริมฝีปาก เขาพับริมฝีปากล่างขึ้นมาอย่างครุ่นคิด ชายคนนี้ชื่อเอลดอน เอนอช ลูอิสเก่งเรื่องจดจำรายชื่อลูกค้าประจำของร้านตน เพราะมันเป็นหนึ่งในการขยายฐานลูกค้าที่สำคัญ
เอลดอน เอนอชขวดคิ้วอย่างเหม่อลอยระหว่างที่เสียงเพลงดังคลออยู่ข้างหู ราวกับกำลังใช้ความคิดกับเรื่องที่ไม่สลักสำคัญนัก แล้วลูอิสก็ถามเขาเหมือนชวนคุยว่า “คุณกรีนหมายความว่ายังไง” เอลดอนเลิกคิ้วมาทางเขา “เรื่องที่เขาบอกว่าผมยังใหม่น่ะ”
“อ้อ” เอลดอนกลืนเบียร์รสชาติกลมกล่อมลงคอ ยืดหลังตรงกว่าเดิมเล็กน้อย ทำท่าเหมือนเพิ่งหลุดจากภวังค์ก่อนจะอธิบาย “เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเวสตันน่ะ”
แล้วเรื่องเล่าเกี่ยวกับบ้านเวสตันก็จะถูกบอกเล่าแบบปากต่อปาก สู่ผู้มาใหม่ในเมือง สู่ลูกหลาน สู่ใครก็ตามที่บังอาจเถียงชาวเดนวาสเหนือขึ้นมาว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง ซึ่งพวกเขาต่างรู้ดีกว่าใครว่าไม่มีจริงเลย เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง
แม้เรื่องเล่าเกี่ยวกับบ้านเวสตันจะถูกหยิบยกมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้งจนรูปความของเรื่องเล่าเริ่มห่างไกลจากความเป็นจริง เรื่องราวเหนือธรรมชาติถูกเติมเข้ามาเมื่อมันถูกนำมาเล่าเป็นครั้งที่หกร้อยสามสิบเจ็ดโดยหญิงชราคนหนึ่งที่ชื่อเอ็ดน่า เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องของคำสาป แต่ทุกเรื่องเล่าจะเริ่มต้นเหมือนกันคือเมื่อสิบสี่ปีก่อน ตอนที่ลอเรน่า เวสตันเกิดตั้งท้องโดยไม่ที่เธอไม่ได้แต่งงาน เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความเสื่อมเสียให้ตระกูลเวสตันเป็นอย่างมาก
ตระกูลเวสตันเป็นตระกูลเก่าแก่ของเกาะฮันเตอร์คอมป์อย่างที่ทราบกันดี พวกเขาร่ำรวยมาตั้งแต่อดีต โดยที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลราชนิกูลเลยสักนิด พวกเวสตันเป็นพ่อค้าและนักเดินทาง ซึ่งมาตั้งรกรากอยู่บนเกาะแห่งนี้เมื่อหลายร้อยปีก่อน จวบจนถึงเวสตันรุ่นหลังสุด ลอเรน่าและแซคคาเรีย เวสตันสูญเสียพ่อแม่ของพวกเขาไปในอุบัติเหตุรถคว่ำ หลังจากนั้นจึงมีการจัดการดูแลมรดก ลอเรน่าผู้เป็นพี่เป็นเด็กหญิงที่เข้มแข็งและเฉลียวฉลาด เพื่อว่าเมื่ออายุครบจนเธอสามารถจัดการมรดกมหาศาลได้ ก็จะไม่มีใครสามารถกล่าวหาว่าเธอไม่พร้อมจะจัดการเรื่องเหล่านั้น กระทั่งเธอทำมันสำเร็จและกลับมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเวสตันได้อีกครั้ง
ทุกอย่างดูจะเป็นไปด้วยดี เบื้องหลังเงาอันน่าเกรงขามของลอเรน่า แซคคาเรียเองก็เป็นคนเก่งและวางตัวได้อย่างดีเยี่ยมในสังคมเช่นเดียวกัน ทั้งสองจึงเป็นที่ยอมรับของผู้คนโดยทั่วไปได้ไม่ยาก หลายปีผ่านไปลอเรน่าก็จัดการความเรียบร้อยของการค้าขายข้ามน่านน้ำ แซคคาเรียก็ขยายอิทธิพลบนเกาะฮันเตอร์คอมป์ด้วยการก่อตั้งธนาคารฮันเตอร์แบงค์ ทั้งคู่กลายเป็นบุคคลที่ทั้งเกาะจับตามอง หนังสือพิมพ์เริ่มตีพิมพ์เรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของสองพี่น้อง นอกจากนั้นยังมีข่าวของพวกเขาปรากฏบนหน้าจอโทรทัศน์ด้วยการเป็นคนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย บ้านบนเนินเขาจึงเต็มไปด้วยสีสัน แต่ที่หนีไม่พ้นคงจะเป็นนักข่าว ผู้คนต่างจดจำเรื่องเหล่านั้นได้ดี เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ลอเรน่าอายุไม่เกินยี่สิบเจ็ดปี และแซคคาเรียก็อายุน้อยกว่าเธอแค่หนึ่งปีเท่านั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่ทั้งสองจะถูกถามถึงเรื่องคู่รักอยู่เสมอ แต่อย่าหวังว่าจะได้รู้ความลับของลอเรน่า แม่สาวคนนั้นไม่ยอมพูดอะไรเลยนอกจากเรื่องการขยายเส้นทางการเดินเรือสมุทรซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ผู้คนจึงลงความเห็นกันว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นลอเรน่าในชุดแต่งงาน ผิดกับแซคคาเรียที่ตอบคำถามอย่างเป็นกันเอง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะตกร่องปล่องชิ้นกับสาวคนไหนเลย
บ้านเวสตันเต็มไปด้วยความคื้นเครง กระทั่งในปีเดียวกันกับที่คำถามเกี่ยวกับความรักของพวกเขาตกเป็นประเด็นมากที่สุดนั้นเอง ลอเรน่าก็พบว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง แล้วประกายแห่งความสุขทั้งหมดก็เหือดหายจากบ้านเวสตันอย่างฉับพลัน
มันเหมือนกับการจุดพลุขึ้นท้องฟ้ายามราตรี สวยงามเพียงชั่วครู่ แต่ไม่นานก็หายไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบอันน่าวังเวง
บ้านเวสตันมีคนเข้าออกอยู่ตลอดเวลา อย่างน้อยก็พวกพนักงานทำความสะอาด จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ความลับนั้นจะถูกเก็บไว้ได้นาน หญิงรับใช้คนหนึ่งจึงแอบให้ข้อมูลกับสำนักข่าวอย่างกระตือรือร้น ซึ่งข่าวนั้นก็ถูกเผยแพร่ในบทความซุบซิบไม่ต่างจากเรื่องฉาวของพวกดาราที่มีมาให้อ่านพอแก้อาการสอดรู้อยู่ทุกวัน ขณะที่สังคมต่างพยายามหาคำตอบว่าลอเรน่าตั้งท้องได้อย่างไร ข่าวที่ได้รับนั้นถูกต้องมากน้อยแค่ไหน แต่ในเมื่อระยะหลังมานี้ลอเรน่าออกงานสังคมและปรากฏตัวบนหน้าหนังสือพิมพ์น้อยลง ผู้คนก็ลงความเห็นกันว่าข่าวนั้นเป็นเรื่องจริง ที่ลอเรน่าตั้งท้องเป็นเรื่องจริง แต่ใครกันล่ะที่เป็นพ่อของเด็กในท้องของเธอ ทั้งที่ผ่านมาเธอปฏิเสธข่าวการนัดพบกับชายหนุ่มคนไหนมาตลอด ที่เธอควงออกงานอยู่บ่อยครั้งก็คงจะเป็นแซคคาเรีย แล้วข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับความสัมพันธ์วิปริตภายในครอบครัวก็ตกเป็นประเด็นใหญ่ เรื่องหม่นหมองของตระกูลเวสตันจึงเริ่มต้นขึ้น
การประโคมข่าวเรื่องลอเรน่าตั้งท้องโดยไม่ได้แต่งงานก็มากเกินพอแล้ว แต่การดึงแซคคาเรียเข้าไปเกี่ยวข้องจึงเป็นเรื่องที่ชายหนุ่มเกินจะรับไหว จึงสบถต่อหน้ารายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ทำให้ความนิยมในตัวเขาตกลงเช่นเดียวกัน กระนั้นบางส่วนก็ยังแสดงความเห็นใจและไม่ติดใจต่อว่าอะไรแก่เขา เรื่องราวของสองพี่น้องบนกระจกสะท้อนสังคมจึงจางหายไป เหลือเพียงข้อคิดเห็นที่ต่างฝ่ายต่างก็ออกมาตีความโน่นนี่ จะอย่างไรมันก็แค่ความเห็นเท่านั้น
เรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านเวสตันเท็จจริงเป็นเช่นไรไม่มีใครรู้อีกต่อไป พวกเขาปิดบ้านไม่ต้อนรับใครและอยู่กันอย่างเงียบเชียบ ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น กระนั้นก็ยังมีคนลอบนำความเคลื่อนไหวภายในบ้านออกสู่ท้องทุ่งแห่งการนินทาได้ในที่สุด อาจจะเริ่มจากแม่บ้านของบริษัททำความสะอาดอีกก็เป็นได้ เรื่องที่แซคคาเรียเองก็จนปัญญาจะตามหาคำตอบว่าใครเป็นพ่อของเด็ก ที่ร้ายยิ่งกว่านั้น (ผู้คนต่างมีสีหน้าแบบเดียวกันเมื่อได้ยินท่อนนี้) คือลอเรน่าเองก็ไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยหลังจากที่เธอบอกกับน้องชายแล้วว่าเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครมาก่อน เรื่องจึงถูกชักจูงไปในทิศทางเหนือธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็อยากรู้เรื่องนั้นน้อยลง ความตึงเครียดภายในบ้านเวสตันก็ลดลง เช่นเดียวกับจุดอื่นของสังคมที่แม้ว่าบุตรสาวจะถูกประณามว่าท้องก่อนแต่งหรือท้องไม่มีพ่อ แต่เมื่อเด็กทารกคลอดออกมาแล้วนั้น ความสุขบางอย่างก็เข้ามาแทนที่
บุตรสาวของลอเรน่า เวสตันน่ารักน่าชังทีเดียว เธอถูกตั้งชื่อว่าเวนโอนาห์ เวสตัน และถูกเลี้ยงดูด้วยความรักใคร่เป็นอย่างดี แซคคาเรียก็รักเด็กคนนี้ราวกับเป็นบุตรของเขาเลยทีเดียว ทว่าความสุขที่คลับคล้ายคลับคลากับความสุขของครอบครัวอื่นก็คงอยู่กับบ้านเวสตันไม่นาน ความทุกข์ครั้งใหญ่ก็เข้ามาแทนที่ โดยไม่ปล่อยให้แซคคาเรียได้ทันตั้งตัวเลย
ไม่กี่วันหลังจากคลอดบุตรสาว ลอเรน่า เวสตันก็เสียชีวิตลงอย่างสงบ
(มีต่อครับ)