
สวัสดีครับ มาต่อกันในตอนที่ 2 กว่าจะคลอดออกมาได้ ช่วงต้นปีนี้งานยุ่งจริงๆ จัดเตรียมภาพเสร็จไปตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม กว่าจะหาเวลามาโพสให้ชมกันได้ก็เกือบกลางเดือนกุมภาพันธ์เลย
อ้างจากตอนที่แล้ว ตามลิงค์ข้างล่างนี้
http://pantip.com/topic/30075006
ที่ผมกำลังพาเพื่อนๆ เข้าไปชมต้นสักใหญ่ที่สุดในโลก เ็ป็นครั้งแรกของผม ซึ่งผมคิดเอาเองว่า ต้นสักต้นนี้น่าจะอยู่กลางถนนแล้วมีการทำรั้วไว้รอบ คล้ายกับวงเวียนให้รถไปวนเล่น จะหาที่จอดชมได้หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่พอเข้าไปจริงๆ กลับไม่ใช่อย่างที่คิด กลายเป็นต้นสักใหญ่ อยู่ในแมกไม้ ห่างจากลานจอดรถพอสมควร มองหาไม่เห็น เพราะไม่มีป้ายใดๆ บอกทางเข้าไปชมต้นสักใหญ่ เลยต้องสอบถามนักท่องเที่ยวคนอื่นแถวนั้น เลยทราบ ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกเล็กน้อย ซึ่งผมก็ได้บันทึกภาพในมุมต่างๆ มาค่อนข้างเยอะ หลังจากนั้น ก็กลับออกมาทางเื่ขื่อนสิริกิติ์ ประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ ถ้าเป็นฤดูร้อนคงยังไม่มืด แต่นี่เป็นฤดูหนาว เลยมืดแล้ว ตรงทางเข้าเขื่อน ใจหนึ่งก็อยากเข้าไปทบทวนความทรงจำเมื่อ 30 ปีก่อนที่เคยมาพัก ดูงาน โรงไฟฟ้าแม่เมาะ-เขื่อนสิริกิติ์ สมัยที่เรียน มช.
ตัดสินใจตอนนั้น เข้าไปดีกว่า เลยเข้าไปเขื่อนทั้งๆ ที่มืดแล้ว ไม่ได้คาดหวังว่าจะเข้าไปถึงสันเืขื่อน เพราะกลัวเขาจะปิดไม่ให้เข้า แต่ในที่สุดก็ได้เข้าไปเดินบนสันเขื่อน เพราะเขากำััลังจัดงานเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่พอดี (พอดีเป็นคืนวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2555) เลยได้ภาพแปลกๆ ที่ประทับใจในยามค่ำคืน ที่อากาศเย็นสบายเหมือนติดแอร์ เสร็จแล้วถึงกลับมานอน นครสวรรค์ ครับ
เพื่อนๆ สนใจก็ติดตามกันมาได้นะครับ
ทริปปีใหม่ ตอนที่ 2 พาชมต้นสักใหญ่ที่สุดในโลก แวะเขื่อนสิริกิติ์ยามค่ำคืน
สวัสดีครับ มาต่อกันในตอนที่ 2 กว่าจะคลอดออกมาได้ ช่วงต้นปีนี้งานยุ่งจริงๆ จัดเตรียมภาพเสร็จไปตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม กว่าจะหาเวลามาโพสให้ชมกันได้ก็เกือบกลางเดือนกุมภาพันธ์เลย
อ้างจากตอนที่แล้ว ตามลิงค์ข้างล่างนี้
http://pantip.com/topic/30075006
ที่ผมกำลังพาเพื่อนๆ เข้าไปชมต้นสักใหญ่ที่สุดในโลก เ็ป็นครั้งแรกของผม ซึ่งผมคิดเอาเองว่า ต้นสักต้นนี้น่าจะอยู่กลางถนนแล้วมีการทำรั้วไว้รอบ คล้ายกับวงเวียนให้รถไปวนเล่น จะหาที่จอดชมได้หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่พอเข้าไปจริงๆ กลับไม่ใช่อย่างที่คิด กลายเป็นต้นสักใหญ่ อยู่ในแมกไม้ ห่างจากลานจอดรถพอสมควร มองหาไม่เห็น เพราะไม่มีป้ายใดๆ บอกทางเข้าไปชมต้นสักใหญ่ เลยต้องสอบถามนักท่องเที่ยวคนอื่นแถวนั้น เลยทราบ ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกเล็กน้อย ซึ่งผมก็ได้บันทึกภาพในมุมต่างๆ มาค่อนข้างเยอะ หลังจากนั้น ก็กลับออกมาทางเื่ขื่อนสิริกิติ์ ประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ ถ้าเป็นฤดูร้อนคงยังไม่มืด แต่นี่เป็นฤดูหนาว เลยมืดแล้ว ตรงทางเข้าเขื่อน ใจหนึ่งก็อยากเข้าไปทบทวนความทรงจำเมื่อ 30 ปีก่อนที่เคยมาพัก ดูงาน โรงไฟฟ้าแม่เมาะ-เขื่อนสิริกิติ์ สมัยที่เรียน มช.
ตัดสินใจตอนนั้น เข้าไปดีกว่า เลยเข้าไปเขื่อนทั้งๆ ที่มืดแล้ว ไม่ได้คาดหวังว่าจะเข้าไปถึงสันเืขื่อน เพราะกลัวเขาจะปิดไม่ให้เข้า แต่ในที่สุดก็ได้เข้าไปเดินบนสันเขื่อน เพราะเขากำััลังจัดงานเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่พอดี (พอดีเป็นคืนวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2555) เลยได้ภาพแปลกๆ ที่ประทับใจในยามค่ำคืน ที่อากาศเย็นสบายเหมือนติดแอร์ เสร็จแล้วถึงกลับมานอน นครสวรรค์ ครับ
เพื่อนๆ สนใจก็ติดตามกันมาได้นะครับ