เพื่อนมาปรึกษาครับ สรุปได้ประมาณนี้
เพื่อนกำลังจะเปิดตัวธุรกิจ ซึ่งเป็น ธุรกิจที่เป็นงานขายฝีมือ ขายความสามารถ เป็นงานเฉพาะทาง
แต่เพื่อนผมก็ลังเลกับการตั้งราคาครับ
เนื่องจากเป็นงานเฉพาะทาง คู่แข่งของเพื่อนมีเพียงรายเดียว ลูกค้าก็เช่นกันครับมีกลุ่มนึง กลุ่มไม่ใหญ่มาก แต่ก็มากพอให้มีรายได้มากพอแบบอยู่แบบสบายๆ ได้เลย
ข้อเด่น คือ เพื่อนคุณภาพดีกว่าคู่แข่ง (เพื่อนสืบมาจนแน่ใจแล้วครับ ว่าคู่แข่งคุณภาพทำได้แค่นี้ ไม่สามารถทำได้ในระดับคุณภาพที่เพื่อนทำได้)
ข้อด้อยของเพื่อนคือ เพื่อนพูดไม่เก่งครับ เรื่องการเจรจา ศิลปะการพูด สู้คู่แข่งไม่ได้ครับ
ผมก็บอกเพื่อนไปว่าก็ตั้งราคาสูงกว่าสิ
แต่เพื่อนก็แย้งว่า เท่าที่สืบมา กลุ่มลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่ กำลังจ่ายไม่สูง ถ้าตั้งราคาสูงไป ลูกค้าที่จะมาจ้างเพื่อนอาจจะมีน้อย
แต่ถ้าเพื่อนตั้งราคาเท่ากันกับคู่แข่ง ก็กลัวว่าคู่แข่งจะลดราคา แล้วลูกค้าที่ไม่ต้องการคุณภาพก็จะไปจ้างคู่แข่ง แล้วถ้าเป็นแบบนี้เพื่อนก็ต้องลดราคาลง ก็จะกลายเป็นตัดราคากัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขออภัยที่ ต้องขออนุญาตไม่บอกประเภทงานนะครับ เนื่องจากเป็นงานเฉพาะทาง เดี๋ยวผมโดนเพื่อนด่า
ถ้ายกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ขอยกตัวอย่างเป็นพวกงานฝีมือก็ได้ครับ เช่น
ช่างไม้ (เฟอร์นิเจอร์)
คู่แข่งทำเก้าอี้ได้ แต่งานไม่เนี๊ยบ ไม่สวย แต่ก็เป็นเก้าอี้นั่งได้
กราฟฟิกดีไซน์ (ออกแบบใบปลิว)
คู่แข่งทำใบปลิวออกมาได้ ไม่สวย อ่านยากนิดนึง แต่คนรับใบปลิวไปอ่าน ก็อ่านรู้เรื่อง
ขายอาหาร
คู่แข่งทำไม่ค่อยอร่อย แต่ลูกค้าก็กินอิ่ม
ก็เลยอยากปรึกษาว่า ควรทำแบบไหนครับ
A) ทำงานให้คุณภาพดีกว่าคู่แข่ง + ตั้งราคาสูงกว่าคู่แข่ง ... ถ้าแบบนี้ เพื่อนก็กังวลว่า ลูกค้าที่มีกำลังจ่ายสูง มีจำนวนน้อย ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังคงจ้างคู่แข่งอยู่ดี
B) ทำงานให้คุณภาพดีกว่าคู่แข่ง + ตั้งราคาเท่ากับคู่แข่ง ... ถ้าแบบนี้ เพื่อนก็บอกว่า คู่แข่งน่าจะลดราคาลง เพื่อนก็กลัวอีก ว่า ลูกค้าที่ไม่ต้องการเน้นคุณภาพ อยากจ่ายถูกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็จะไปจ้างคู่แข่ง ราคาตลาดก็จะเสีย
C) ทำงานให้คุณภาพเท่ากับคู่แข่ง + ตั้งราคาเท่ากับคู่แข่ง ... ถ้าแบบนี้ เพื่อนบอกผมว่า มันพูดไม่เก่ง หว่านล้อมก็ไม่เก่ง คู่แข่งชนะขาด
D) อื่นๆ (รบกวนช่วยแนะนำครับ)
ผมฟังเพื่อนมาแบบนี้ ผมมึนครับ

สรุป เลือกแบบไหนดี
หรือว่า ทำแบบ ข้อ A ไปก่อนครับ ถ้าลูกค้าจ้างเยอะ ก็ทำแบบข้อ A ต่อไป แต่ถ้าไม่ได้ (หมายถึง ไม่มีลูกค้า) ค่อยให้เพื่อนปรับเป็นแบบข้อ B
ขอบคุณครับ
คุณภาพดีกว่าคู่แข่ง แต่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่ กำลังจ่ายไม่สูง ควรตั้งราคาเท่ากัน หรือ สูงกว่าคู่แข่ง หรือลดคุณภาพลง
เพื่อนกำลังจะเปิดตัวธุรกิจ ซึ่งเป็น ธุรกิจที่เป็นงานขายฝีมือ ขายความสามารถ เป็นงานเฉพาะทาง
แต่เพื่อนผมก็ลังเลกับการตั้งราคาครับ
เนื่องจากเป็นงานเฉพาะทาง คู่แข่งของเพื่อนมีเพียงรายเดียว ลูกค้าก็เช่นกันครับมีกลุ่มนึง กลุ่มไม่ใหญ่มาก แต่ก็มากพอให้มีรายได้มากพอแบบอยู่แบบสบายๆ ได้เลย
ข้อเด่น คือ เพื่อนคุณภาพดีกว่าคู่แข่ง (เพื่อนสืบมาจนแน่ใจแล้วครับ ว่าคู่แข่งคุณภาพทำได้แค่นี้ ไม่สามารถทำได้ในระดับคุณภาพที่เพื่อนทำได้)
ข้อด้อยของเพื่อนคือ เพื่อนพูดไม่เก่งครับ เรื่องการเจรจา ศิลปะการพูด สู้คู่แข่งไม่ได้ครับ
ผมก็บอกเพื่อนไปว่าก็ตั้งราคาสูงกว่าสิ
แต่เพื่อนก็แย้งว่า เท่าที่สืบมา กลุ่มลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่ กำลังจ่ายไม่สูง ถ้าตั้งราคาสูงไป ลูกค้าที่จะมาจ้างเพื่อนอาจจะมีน้อย
แต่ถ้าเพื่อนตั้งราคาเท่ากันกับคู่แข่ง ก็กลัวว่าคู่แข่งจะลดราคา แล้วลูกค้าที่ไม่ต้องการคุณภาพก็จะไปจ้างคู่แข่ง แล้วถ้าเป็นแบบนี้เพื่อนก็ต้องลดราคาลง ก็จะกลายเป็นตัดราคากัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็เลยอยากปรึกษาว่า ควรทำแบบไหนครับ
A) ทำงานให้คุณภาพดีกว่าคู่แข่ง + ตั้งราคาสูงกว่าคู่แข่ง ... ถ้าแบบนี้ เพื่อนก็กังวลว่า ลูกค้าที่มีกำลังจ่ายสูง มีจำนวนน้อย ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังคงจ้างคู่แข่งอยู่ดี
B) ทำงานให้คุณภาพดีกว่าคู่แข่ง + ตั้งราคาเท่ากับคู่แข่ง ... ถ้าแบบนี้ เพื่อนก็บอกว่า คู่แข่งน่าจะลดราคาลง เพื่อนก็กลัวอีก ว่า ลูกค้าที่ไม่ต้องการเน้นคุณภาพ อยากจ่ายถูกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็จะไปจ้างคู่แข่ง ราคาตลาดก็จะเสีย
C) ทำงานให้คุณภาพเท่ากับคู่แข่ง + ตั้งราคาเท่ากับคู่แข่ง ... ถ้าแบบนี้ เพื่อนบอกผมว่า มันพูดไม่เก่ง หว่านล้อมก็ไม่เก่ง คู่แข่งชนะขาด
D) อื่นๆ (รบกวนช่วยแนะนำครับ)
ผมฟังเพื่อนมาแบบนี้ ผมมึนครับ
หรือว่า ทำแบบ ข้อ A ไปก่อนครับ ถ้าลูกค้าจ้างเยอะ ก็ทำแบบข้อ A ต่อไป แต่ถ้าไม่ได้ (หมายถึง ไม่มีลูกค้า) ค่อยให้เพื่อนปรับเป็นแบบข้อ B
ขอบคุณครับ