ไม่รู้สึกบ้างหรือว่า ละครไทยวนเวียนอยู่กับพล็อตเดิมๆ

ก่อนอื่นผมไม่ได้บอกว่าละครไทยไม่ดีนะครับ มีดีมีสนุกก็หลายเรื่องซึ่งก็สนุกในแบบไทยๆ
เพียงแต่ผมเบื่อพล็อตที่ไม่ต้องเดา คือมันรู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง เพราะแนวเรื่องมันซ้ำๆกัน

ผมตามดูละครไทยมายี่สิบกว่าปีแล้ว เมื่อก่อนดูเยอะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยแล้ว ล่าสุดเปิดเข้าไปดูเรื่องนึง ดูได้สองตอนก็ปิด ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่มันเบื่อ พอมันรู้มุกของเรื่องแล้ว มันก็ไม่อินแล้ว

ไม่รู้จะมีใครรู้สึกเหมือนผมมั้ย ผมมานั่งคิดๆ เลยพอจะไล่เรียงพล็อตประจำๆที่ดูมาตลอดยี่สิบปี ผมไม่ได้ตั้งใจโจมตี ไม่ใช่ว่าละครไทยไม่ดี แต่อยากให้ช่วยกันเสนอแนวคิดพล็อตใหม่ๆ ใครรู้มากกว่าผมก็มาแชร์กันได้

1. ตบตีแย่งผู้ชายเป็นหลัก หรือไม่ก็เน้นรักๆใคร่ๆเป็นเส้นหลักของเรื่อง เรื่องงานเป็นส่วนประกอบ จะหาแรงบันดาลใจจากการทำงานหรือการใช้ชีวิตจากละครไทยค่อนข้างยาก จะเห็นว่าตั้งชื่อก็จะวนเวียนอยู่แต่คำว่า สวาท ริษยา เสน่หา บ่วง ไฟรักอะไรทำนองนี้

2.มีไสยศาสตร์ก็จะนำมาใช้แต่เรื่องกามารมณ์ มีมาตั้งแต่รุ่นคุณหลวง ขุนพระ เมียทาส เมียโจร จนปัจจุบันก็ยังมีไม่จบไม่สิ้น

3.แม้จะตายไปแล้วก็รอผัวข้ามภพข้ามชาติ แนวแบบนี่เยอะจริงๆ ไม่รู้ใครเป็นต้นเรื่อง น่าจะแต่ปางก่อนมั้ง บางเรื่องดูแล้วก็งง คนเลวทำเลวก็ยังมาเกิดเป็นคนเสวยสุขอยู่ได้ ส่วนคนดีที่จมปรักอยู่กับอดีตก็จะไม่ไปผุดไปเกิด สอนให้รู้ว่าทำเลวได้แต่อย่ายึดติด(อันนี้แค่คิดเล่นๆครับอย่าจริงจัง)

4.พระเอกรวย วิเศษมาตั้งแต่เกิดไม่ต้องทำไร คนดูก็เหมือนดูชีวิตคนชั้นสูงเล่นอะไรกัน ฟินกันไป

5.แบ่งคนดีคนร้ายชัดเจน ตัวผู้หญิงร้ายก็ร้ายแบบว่านะ...คือถ้าเป็นผมๆก็ไม่เอา แต่พระเอกมักจะเอามาเป็นแฟนก่อนนางเอกเสมอ ตรงนี้ก็ไม่เข้าใจ

6 ถ้าร้ายระดับชาติก็มักจะมีอยู่สองคดีคือ ยาเสพติดกับตัดไม้เถื่อน วนเวียนแบบนี้มาเป็นสิบๆปีละ ตัวโกงก็มักจะเป็นนักการเมืองพ่อนางเอก อะไรประมาณนี้

ทำไมไม่มีแบบเส้นเรื่องเป็นอาชีพ แล้วความรักเสริมบ้าง เอาแบบทนายความว่าความแซ่บๆ มีฆาตกรรม สืบสวนตื่นเต้นอะไรแบบนี้บ้างเหมือนญี่ปุ่นเกาหลี ไขคดีจากการผ่าศพบ้างก็ได้ แต่ขอเป็นวิทยาศาสตร์นะ ไม่เอาไสยศาสตร์ คือจะดีจะเลวให้พิสูจน์ให้เห็นจากขบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือขบวนการทางยุติธรรม ให้เห็นที่มาที่ไป ขั้นตอนกว่าจะถึงความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ทำกรรมดีได้ดีทำกรรมชั่วได้ชั่วแค่นั้นพอแล้ว

ลองคิดดูว่าอีกสิบปียี่สิบปี ถ้ายังวนเวียนหรือไม่ก็นำมารีเมคอยู่เรื่อยๆ คุณจะดูอยู่หรือเปล่า อยากให้ละครไทยมีบทที่หลากหลายมากกว่านี้ ผมว่ามีหลายคนที่รอดูอยู่ ผมคนนึงล่ะ บางทีผมก็เบื่อที่ต้องฟังภาษาเกาหลี ญี่ปุ่น อยากดูเป็นภาษาไทยบ้าง

ขอโทษที่อาจจะทำให้บางคนไม่พอใจ ถ้าผมพลาดหนังเรื่องไหนไปที่มีตามที่ผมต้องการข้างต้น ก็ช่วยแนะนำมาหน่อยนะครับ

                                                                     .................................

               ***** เข้ามาอีกทีเป็นกระทู้แนะนำไปแล้ว ขอบคุณทุกคอมเม้นนะครับ ไหนๆก็ไหนๆถ้าผู้จัดหรือช่องเข้ามาอ่านอยากให้ช่วยพิจารณาด้วยนะครับ

      ผมเห็นด้วยกับไอเดียจัดแผนผังซีรี่ย์ให้เหมาะกับทุก target  ซีรี่ย์รักน้ำเน่ายังมีอยู่ แต่ก็สร้างพล็อตเจ๋งๆ แหวกแนวให้กับเด็กรุ่นใหม่ แบ่งช่วงเวลาสำหรับแต่ละ target ให้ชัดเจนไปเลย ผมอยากให้มองเผื่อไปอีกสิบปีข้างหน้า ผมไม่อยากเห็นเด็กรุ่นหลังมาพูดดูถูกคนไทยด้วยกันเองอีก
    
      ผมว่าเราขาดละครที่เสริมสร้างจินตนาการใหม่ๆให้ผู้ดู ถ้าเราเขียนบทดี พล็อตสนุก คนส่วนใหญ่ก็พร้อมจะดูอยู่แล้ว เหมือนแดจังกึมของเกาหลีที่คนดูทั่วบ้านทั่วเมือง ดังเลยไปถึงต่างประเทศ ผมไ่ม่เชื่อว่าคนไทยจะสู้เกาหลีไม่ได้ ประเทศเค้าเล็กกว่าเราตั้งหลายเท่า คนห้าสิบกว่าล้านคน เวลาเขาเดินทางไปต่างประเทศก็ใบ้กินเหมือนคนไทย แต่แปลกที่ฝรั่งต้องดิ้นรนหาซับอังกฤษเพื่อที่จะดูซีรี่ย์เกาหลีให้ได้ ตรงนี้บ่งบอกว่าเขากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาให้ทัดเทียมกับต่างประเทศนั่นเอง*****
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 53
ตอนนี้ไม่เป็นไรหรอกเพราะต้องยอมรับว่าละครพวกนี้มันถูกจริตคนไทยส่วนใหญ่ช่องสร้างมาก็ได้เรตติ้ง แต่อนาคตจะแย่แน่ๆถ้าไม่ปรับตัวเรื่องบทและการผลิต ลองสังเกตดูเด็กรุ่นใหม่ๆตอนนี้แทบจะหนีไปดูซีรีย์ตปทกันหมดแล้ว แถมการดูสดผ่านทีวีเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ

ส่วนพวกละครอาชีพทำได้นะ เพียงแต่คนเขียนบทต้องเก่งมากๆ ไม่ใช่แค่เรื่องความถูกต้องในอาชีพแต่ต้องฉลาดในการใส่ฉากอื่นๆมาเบรกอารมณ์ไม่ให้เครียดเกินไปไม่งั้นไม่ถูกจริตคนไทย ใส่ฉากพระนางหรือฉากฮาๆเข้ามาแต่ต้องไม่กลบประเด็นหลัก เพราะถ้าจะบอกว่าคนไทยๆไม่ดูแนวนี้แล้วทำไมซีรีย์เกาหลีที่เกี่ยวกับอาชีพหลายๆเรื่องถึงฮิตในบ้านเราได้ล่ะ อย่างแดจังกึมที่ดังสุดๆก็แทบไม่มีเลิฟไลน์เลยนะทำไมถึงฮิต

อย่างวัยแสบนี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีแต่เรตติ้งจะน้อยไม่แปลก เพราะมันก็มีจุดด้อยบางอย่างที่ไม่เข้าถึงคนส่วนใหญ่ เหมือนผู้จัดทำดีแล้วแต่ต้องทำต่อไปหาจุดบาลานซ์ให้ได้ระหว่างเรตติ้งกับคุณภาพที่นำเสนอ ผู้ผลิตต้องเดินนำคนดูแล้วสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆให้ถูกจริตไม่ใช่เดินตามรสนิยมคนดูอย่างเดียว

อีกเรื่องคือคนเขียนบทอันนี้ต้องยอมรับเลยว่าเป็นปัญหาของละครบ้านเราชัดเจน ซีรีย์เกาหลี ญี่ปุ่น หน้าที่นี้ทำกันเป็นทีมมีการค้นคว้าข้อมูล ตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าเรื่องไหนต้องการชี้นำสังคมยังไง แต่บ้านเราคนเขียนบททำงานคนเดียวแถมมีงารเร่งงานเผาค่าจ้างก็น้อย ทั้งๆที่บทละครคือหัวใจสำคัญกว่านักแสดงอีก แค่กลับโดนลดคุณค่า
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 62
เห็นด้วยมากๆค่ะ....

ฮือออออออ อยากหากระทู้ระบายมานานแล้ว... (ยาวหน่อยนะ แต่ขอพูดหน่อยเถอะค่ะะะ)
คือไงล่ะ เราว่าเหตุผลหลักๆของการที่ประเทศเราไม่มีพลอตแหวกๆ คงเป็นเพราะ "คนดู" ล่ะค่ะ ที่สำคัญ.... คือมั่นใจว่านักเขียนไทยเก่งๆเยอะ แต่ผู้จัด โปรดิว อะไร คงไม่กล้าเสี่ยงกับการเอาพลอตพวกนี้ไปทำละคร ให้คนtarget เดิมๆที่เป็นตัวส่งผลต่อเรตติงหลักๆ ดูหรอก.... targetที่ว่าก็คงหนีไม่พ้น แฟนละครที่กรี้ดกร้าดกันทั่วไปกับพลอตเดิมๆ กรี้ดกร้าดความฟิน ความสะใจ คำพูดแรงๆ ไม่งั้นพวกละครที่ด่ากันมันส์ๆจะดังเอาดังเอาหรอ ....

เอาง่ายๆเลย ... ทุกวันนี้เจอแต่กระทู้กรี้ดกร้าด ละคร แค่วันนี้ก็ปาไปกี่กระทู้แล้วล่ะ.... นับเอาละกันนะ..

ส่วนนี่ ละครไทย นอกจาก ตระกูล ซีรี่ย์ฮอร์โมน วัยแสบสาแหรกขาด ... ก็ลาจากจากการดู TV มานานมากๆๆๆๆๆละ

ปกติดูซีรี่ย์แทบทุกชนชาตินะ อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน หนังก็ดู หนังอินเดียเด๋วนี้พลอตเค้าก็มาไกลเกินกว่าวิ่งไล่จับข้ามเขา มาไกลเกินกว่าจะมามัวโฟกัสศาสนาหรือความรักน้ำเน่าแบบอินตะระเดียละ พลอตระดับออสการ์ CG เทพๆ เค้ากล้าลงทุน กล้าชนกับวงการฮอลลีวูด

เกาหลี ถึงแม้ว่ากลุ่มแม่บ้านยังคงok กับพลอตน้ำเน่าดรามา แต่เค้าก็มีจัดแผนผังซีรี่ย์ให้เหมาะกับ ทุก target ซีรี่ย์รักน้ำเน่ายังมีอยู่ แต่เค้ามีหลายทางเลือก ตัวละครโฟกัสไปที่คุณค่าของสายอาชีพ จรรยาบรรณ อาจเสียดสีระบบทุนนิยม ชนชั้น แต่ก็ทำได้แนบเนียนและมีแง่คิดเจ๋งๆ พลอตสุดๆ แบบเรื่อง W เอาจริง ใครจะไปรู้ว่ามีพลอตแบบนี้ในโลกด้วย...

หรือเรื่องดังอย่าง train to busan ที่พีคและเป็นซอมบี้เกาหลีที่กลายเป็นเอกลักษณ์ระดับโลก ทั้งๆที่ก็แค่หนังซอมบี้ธรรมดา แต่ความกล้าทำกล้าสร้างของเขา ทำให้กลายเป็นที่ยอมรับ พีคจนไปถึงออสการ์ มันเหมือนการค้นพบเลยนะ พลอตเทพๆ ซึ่งมั่นใจว่านักเขียนไทยเก่งๆหลายคนก็คิดได้  แต่สุดท้ายละไงล่ะ นอกจาก กลายเป็นแค่หนังสือ ฟิค พลอตที่จบแค่ best sellerในร้านหนังสือเท่านั้น ไม่มีการนำไปทำอะไรต่อเลย ไม่มีใครกล้าจะเปลี่ยนเลย ... ของ ตปท ทั้งเกา ญี่ แม้แต่เมกาตอนนี้ ก้มีเอาพลอตพีคๆจาก manga comic มาทำเป็นหนังละครจนดังเปรี้ยงปร้าง

แล้วแต่ละพลอตคือเขากล้าหลุดจากกรอบ...และที่ต้องน่ากราบคือ ผู้จัดหรือ ค่ายของเขากล้าเอาพลอตหลุดกรอบเหล่านี้ไปสร้างให้เป็นจริงต่อได้


ไม่เหมือนไทย ที่เน่าซ้ำซาก หมกมุ่นแต่ไสยศาสตร์ ตบตี คำพูดแรงๆ จนซึมซับเข้าสมองไปหมดละ (แล้วถ้าใครบอกว่า"แล้วไงล่ะ ก็แค่ละคร จะเอาอะไรกะมันมาก"....อยากจะบอกว่า ก็"ละคร"เนี่ยแหละค่ะ ที่ส่งผลต่อรากฐานของระบบความคิด ของคนดู ของเยาวชน มันกลายเป็นโมเดลในใจเด็กไปอย่างช้าๆ ซึมซับไปทีละน้อยๆ นี่ตัวอย่างของเด็กดาวน์ซินโดรมที่ซึมซับวัฒนธรรมละครไทยจนทำให้กลายเป็นปัญหาสังคมแล้วค่ะ >> http://pantip.com/topic/35517895)


และแม้แต่การวางบทบาทตัวละคร ตัวที่เลว ก็อาจมีมุมดีๆ อาจกลายเป็นคนดี ตัวดีๆ ที่เหมือนจะเป็นพระเอกนางเอก ก็มีมุมเลวๆ หรือมีเหตุผลให้กลายเป็นตัวร้ายได้. อย่างGOT ...

ละครหนังซีรี่ย์พวกเค้าสอนให้คนดู คิด วิเคราะห์ค่ะ ไม่ใช่ยัดบท พระเอก นางเอก นางอิจฉา ผู้ร้าย ใส่ปากคนดูกันขนาดนั้น....
.
เพราะมนุษย์เราคือสีเทา ไม่ใช่ขาวกับดำที่กำหนดมาตั้งแต่ต้นเรื่อง นางคนนี้เป็นนางเอก นายคนนี้เป็นพระเอก อินี่ตัวอิจฉาแน่นอน.... แล้วบทสรุป ตัวร้ายๆแรงๆ ไม่บ้า โดนปล้ำ ก็ไปหมอบกราบพระบวชเข้าทางโลก หรือตายหร่าไป  ซ้ำๆลูปๆแล้วจะอ้วกว่ะ ตอนกำกับไม่เบื่อหรือเอียนกันบ้างหรออ
ทำไมไม่คิดว่า ไอลูกกระจ็อกสมุนกำนันตัวร้ายที่ค้าไม้เถื่อน จะกลายมาเป็นตัวเอกได้บ้าง
ทำไมไม่คิดว่า อิแย้ม อิช้อย นังแจ๋ว คนใช้ที่แอบฟังอยู่ข้างห้องมาตลอดจะกลายเป็นตัวละครลับหักมุมตอนจบบ้าง
ทำไมไม่คิดว่า นางอิจฉาจะแก่งแย่งการงานแทนที่จะเป็นผู้ชายกับนางเอก ฟันฝ่าอุปสรรคจนกลายเป็นเพื่อนกัน แล้วบทสรุปว่าพระเอกคือตัวบงการที่ร้ายที่สุด อะไรแบบนี้บ้าง

ในขณะที่เด็กต่างประเทศ  อยากโตขึ้นเป็น hero เหมือนไอร่อนแมน เหมือนbatman อยากปกป้องโลก ปกป้องผู้อ่อนแอ  อยากเป็นศัลยแพทย์ที่เก่งแบบหมออาซาดะ..อยากช่วยเหลือคนได้
อยากเป็น CSI CIA สายสืบราชการลับที่เท่ๆ  อยากเป็นทนายเจ๋งๆเหมือนพระเอกในซีรี่ย์ ที่สืบคดี แก้ต่างให้ผู้บริสุทธิ์ แก้ต่างให้คนที่ได้รับความอยุติธรรมในสังคม  
กระทั่งหนังสายอาชีพ ธรรมดาๆ อย่างพนักงานร้านสะดวกซื้อ มนุษย์เงินเดือน สัตวแพทย์ ทีมกู้ภัย ดับเพลิง เขาก็เจาะลึกและสอนให้เห็นทุกแง่มุม ทุกเกียรติของสายอาชีพ ว่าทุกอาชีพน่ะ มันยิ่งใหญ่นะ... มันเจ๋งนะ ....

เด็กไทยต้องเจอตัวอย่างแบบไหน...จากละครไทย....?

- เค้าจะอยากเป็นเมียหลวงที่เก่ง ที่ตบ สาดน้ำกรดและไล่เมียน้อยได้?  
- เค้าจะอยากเป็นพระเอกหล่อเทพเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่มีโปรไฟล์ดีแต่เกิด? (แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าชีวิตเค้ามันโหลยโท่ยเมื่อเทียบกับพระเอก ครั้นจะลองดำเนินชีวิต ตามพระเอกก็จะพบว่า อ้าว มันไม่ทำงานหร่าเหวไรเลยนี่หว่านอกจากไล่ตามหึงตามตบจูบนางเอกต้อยๆ) แล้วกุจะเก่งเท่าเค้าได้ยังไง... ในเมื่องานการก็แทบไม่เห็นว่าทำเลย .... อาชีพอะไรก็ไม่รู้ เกิดมาแม่มก็หล่อเลย

- เค้าจะอยากเป็น ผู้หญิงร้ายๆ ที่แย่งแฟน? แย่งผัวแบบแบ๊วๆ หรือเป็นนางเอกหน้าใสที่มาทีหลังแต่มาแย่งคู่หมั้นนางร้ายได้แบบสวยๆ ทุกคนอยู่ทีมเดียวกับนาง

เป็นคนสวยๆ เนตไอดอลหน้าใสๆ ที่อยู่นิ่งๆก็มีผัวรวยมาหา

ในสื่อ ละครกลวงๆ เหล่านี้จะมีอะไรให้เด็กไทยเอาไปเป้นโมเดล เป็นฮีโรของเขาได้บ้างคะ ?

หยุดสร้างหยุดเสพ ละครป่าเถื่อนแนวๆนี้ทีเถอะ...
อยากเห็นสังคมเราเป็นพวกไร้อารยะไปมากกว่านี้กันนักหรอ .....

ความคิดเห็นที่ 1
รู้สึกค่ะ แต่ จะให้ทำไงเหรอคะ  ยิ้ม
ความคิดเห็นที่ 4
เอาจริงๆเราก็เคยบ่นนะ
แต่พอมีละครดีๆ บทดีๆ สร้างสรรค์อย่าง วัยแสบสาแหรกขาด ก็ไม่มีคนดูกัน
แล้วมาบลัฟกันว่าเรตติ้งห่วย บลาๆ แล้วจะให้ผู้จัดเค้าทำยังไงหรอคะ
เราว่าคนดูก็มีส่วนแหละ คือถ้าคนดูแมสๆไม่ชอบดูอะไรใหม่ๆแบบนี้ ก็คงทำอะไรไม่ได้มาก

-- เพิ่ม -- ละครเกาหลีที่ว่าหลากหลายๆกัน เอาจริงๆพล๊อตมันก็ซ้ำๆกันเยอะนะ แต่เป็นอีกแนวละครบ้านเค้าไง คือถ้าดูไปเรื่อยๆ มันก็วนไปวนมาบทเน่าบ้างอะไรบ้างเยอะแยะ
นานๆที จะมีเรื่องสนุกๆ บทดีเวอร์มาบ้าง อย่าง miseang signal nine reply
เราก็ติด w บทล้ำขนาดนั้น พอไม่เป็นไปตามที่คนเดา ยังมีคนด่าว่าออกทะเลบ้าง วนๆบ้าง
ก็นะ
ความคิดเห็นที่ 114
ในที่สุดก็เจอคนที่คิดเหมือนกัน ไม่ได้ดูละครไทยมานานมากแล้ว แต่ที่บ้านชอบเปิดทิ้งไว้ พอว่างจากโทรศัพท์ก็เลยหันไปดูนิดๆ
แล้วมันดันแจคพอตพอดีที่ว่า ละครที่โด่งดังที่มีเจม มาร์ และคิมเบอร์ลี่เล่น เป็นเพราะนาง เห็นใครๆก็ติดและฟินกันทั่วบ้านทั่วเมือง
ฉากที่พระเอกกำลังออกจากบ้านเพื่อไปหานางเอก และแต่งงานกัน ตามข้อตกลงอะไรสักอย่างไม่แน่ใจ แต่ระหว่างทาง เจอพ่อตัวร้ายจับตัว
โดนคนร้ายซ้อมสะบักสะบอม เลือดไหล และช้ำไปหมด แต่ยังมีแรงขี้บิ๊กไบค์เพื่อไปแต่งงานกับนางเอก แต่พอมาถึง นางเอกก็ด่าสาดเสียเทเสีย
ว่าไม่อยากแต่งด้วยแล้วทำไมต้องมาทำแบบนี้ตั้งใจใช่มั้ย บลาๆ โกรธมาก ไล่ออกจากบ้าน ตีกันนน นี่เป็นแค่ช่วงเดียวที่เงยหน้าขึ้นมาดู
ความรู้สึกคือ เดิมๆเนอะ ตัวละครไทยไม่เคยมีเหตุผล หน้าพระเอกยับขนาดนั้น ยังด่าไปแบบสุดอารมณ์ เหตุการณ์ที่ทำให้เข้าใจผิดในละครก็เยอะไป
คือเน้นความเข้าใจผิดเป็นหลักเลยจริงๆ ผ่านมาจนถึงตอนสุดท้าย ถึงจะเข้าใจกัน รักกันมากกกกกก แล้วเวลาที่เสียไปวะ ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย

เรื่องทำนอง แย่งผัว แย่งเมีย คือเราว่า ตัวละครไทยควรมีความฉลาดทางอารมณ์มากกว่านี้ ไม่ใช่กากกาแบบนี้ มันน่าเบื่อ
นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เลิกดูละครไทยไปนาน พอได้กลับมาเห็นหรือได้ยินบ้าง ก็เลยแต่คิดว่าไม่พัฒนาไปเลยจริง ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่
ความคิดเห็นที่ 11
อีกเรื่องที่เราชอบ ทั้งพล็อดและบทต่างจากละครไทยหลายๆเรื่องก็คือ
'วัยแสบสาแหรกขาด'

เราชอบพล็อดแบบนี้นะ คือใช้อาชีพเป็นเส้นเรื่อง ไม่มีตัวร้าย พระนางมีงานมีการทำ ทุกตัวละครมีมิติ มีเหตผลในการกระทำ และ เราคิดว่ามีคนอีกหลายคนในสังคมเป็นเหมือนตัวละครอีกหลายๆตัวในเรื่องนี้

ในเรื่อง นางเอกเป็นนักจิตวิทยา

ชึ่งบทจะเน้นไปทางกานแก้ปัญหาต่างๆของนักจิตกับเด็กที่มีปัญหาครอบครัว (ชึ่งเราได้ความรู้จากเรื่องนี้เยอะมาก)

ตัวเรื่องไม่ได้เน้นความรักพระนางเป็นหลัก ความรักก่อตัวเพราะการคอยช่วยเหลือกันของพระนาง แต่เราจะคอยลุ้นและใจช่วยให้พระนางผ่านอุปสรรคต่างๆในการช่วยเด็กมีปัญหามากกว่า

ส่วนมากไม่มีละครไทยแนวแบบนี้
แนะนำให้ จขกท ลองหาดูนะคะ ^^
'วัยแสบสาแหรกขาด'

ป.ล แก้ไขคำผิดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่