ก่อนอื่นผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งคนอื่นๆอาจจะเคยได้ยินมาบ้างนะครับ หรืออาจจะลองเปิดดูจาก Web Pantip ที่เรียกว่า Europe Series & The Story of Heart [Part I & II] ยุโรปท้าชนกับคนหลายใจ ภาคปฐมบท (
แต่วันนี้ผมอยากจะเล่าเรื่องของตัวผมเองที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2558 ซึ่งผมป่วยหนักที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองในครั้งนั้น
8 เดือนก่อน
ผมชื่อนาย Nobitee อายุ 29 ปี ทำงานบริษัทเอกชนเป็นเภสัชกรขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ เป็นคนชอบท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่วนเรื่องการเรียนนั้นผมจบคณะเภสัชศาสตร์ ปริญญาตรีและปริญญาโท (ขอไม่บอกมหาวิทยาลัยนะครับ) ปกติแล้วผมไม่ได้ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ สุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ความดันเบาหวานและไขมันเป็นปกติ แต่อาจจะอ้วนนิดนึงครับ น้ำหนักตอนนั้นประมาณ 75 กิโลกรัม และส่วนสูง 171 เซนติเมตร (แต่ตอนนี้น้ำหนักของผม 68 กิโลกรัม) ส่วนเรื่องยาผมจะปวดศีรษะไมเกรน (ยา Cafergot บ้าง, ยา Tofago บ้างสลับๆกันไป) ตลอดประมาณทุกๆ 1 เดือน กินยาแค่ 1 เม็ดก็หายครับ
วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2558
ผมก็ทำงาน Part time ที่ร้านยาแห่งหนึ่งใกล้ๆกับ Apartment ของผมเพื่อที่จะได้ไม่ลืมเรื่องการใช้ยาต่างๆ ผมเลยต้องไปที่ร้านยาชุมชนแห่งนี้เป็นประจำ
วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม 2558
ซึ่งปกติแล้วผมต้องไปทำงานประจำทุกๆวันจันทร์ถึงวันศุกร์ แต่วันนี้ทำไมรู้สึกว่าผมปวดศีรษะอีกแล้ว คงเป็นเพราะไมเกรนเหมือนเดิม สุดท้ายวันนี้วันจันทร์ผมก็ต้องลางานและนอนทั้งวันตั้งแต่เช้า-เย็น ยิ่งปวดหัวมากขึ้นๆอีกครับ
ผมปิดโทรศัพท์มือถือให้หมด โดยปกติผมกับน้องสาวผมก็ไปทำงานเหมือนกัน แต่วันนี้น้องสาวลางานเพราะไปเที่ยวเชียงใหม่ กลับมาก็ประมาณเที่ยงคืนเห็นจะได้ น้องของผมก็เปิดประตูและผมก็งงเหมือนไม่ได้สติแล้ว
น้องบอกว่าไปโรงพยาบาลก่อนจะดีกว่า เป็นโรงพยาบาลเอกชนแถวสีลม ตอนนี้ตอนเที่ยงคืนนี่แหละ
น้องเล่าว่าเท้าข้างขวาผมเหมือนชาๆดูงง แทบไม่ได้สติแล้วจริงๆ คุณหมอถามว่าเป็นอะไรมารึ น้องบอกว่า “คิดว่าน่าจะเป็น ไมเกรนค่ะ” ส่วนผมนั้นมองตาแต่พูดอะไรไม่ได้ แล้วก็หลับไป
วันอังคารที่ 22 ธันวาคม 2558
คุณหมอบอกว่าผมต้องผ่าตัดด่วน ซึ่งตอนนั้นผมต้องผ่าตัดด้วยหรือนี่ คุณพ่อคุณแม่ขับรถจากจันทบุรีประมาณตี 01.20 เพื่อไปกรุงเทพให้เร็วที่สุด
คุณแม่เล่าว่าแม่เตรียมเงินผ่าตัดไว้แล้วและคิดว่าน่าจะต้องใช้เงินเยอะมากแน่นอน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะใช้เงินขนาดไหน
ไม่นานคุณพยาบาลก็เดินมาบอกว่า “ขอค่ามัดจำสำหรับการผ่าตัด 200,000 บาทค่ะ”
คุณหมอบอกว่าผมเป็นโรคสมองหลอดเลือดดำ ซึ่งดูจาก Scan สมองของผมนั้น หมอบอกว่า “เส้นเลือดดำแตก” และ “สมองบวม”
คุณพ่อคุณแม่น้องสาวของผมตกใจมาก มีแต่ผมคนเดียวที่ไม่รู้เลยว่าตอนนั้นผมเป็นอะไร
น้องของผมบอกว่า ขอหมอที่เก่งที่สุด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเก่งหรือไม่เก่งกันแน่
วันนี้บ่ายๆผมย้ายโรงพยาบาลเป็นโรงพยาบาลเอกชนเหมือนเดิม (ขอไม่บอกโรงพยาบาลนะครับ)
วันอังคารที่ 22 ธันวาคม 2558 เวลา 20.00 น. ผมต้องผ่าตัดหัวกะโหลกข้างซ้าย ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้นะว่าจะโดนผ่าตัดสมอง
[CR] *สมองของผมมันตายไปแล้ว*
(คำเตือน: ถ้าผู้อ่านดูแล้วมันมีตัวสะกดผิดๆถูกๆเยอะมาก ก็ขออภัยด้วยนะครับ เพราะผมทำเองทั้งหมด)
ก่อนอื่นผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งคนอื่นๆอาจจะเคยได้ยินมาบ้างนะครับ หรืออาจจะลองเปิดดูจาก Web Pantip ที่เรียกว่า Europe Series & The Story of Heart [Part I & II] ยุโรปท้าชนกับคนหลายใจ ภาคปฐมบท (http://pantip.com/topic/33722026) และภาคปัจฉิมบท (http://pantip.com/topic/33754737) ประมาณเดือนมิถุนายน 2558
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น