ครั้งแรกที่วังเวียงแบบ backpack กับงบที่จำกัด ตอนที่ ๒

ความเดิมตอนที่แล้ว http://pantip.com/topic/35452563

Part 2 ออกทะเล

ใกล้เที่ยงแล้วก็เลยกลับไปที่พักหาซื้อส้มตำ ข้าวเหนียว (อีกแล้ว) มากินและพักเอาแรง ก่อนจะไปเที่ยวน้ำตกตาดแก่งยุ้ย ที่ลุงบอกว่าสวย และไม่ค่อยได้เห็นใครลงรีวิวรูปกะข้อมูล

พักนานไปนิ้ดดด บ่าย ๔ เลยออกแว้นไปน้ำตก ตามแผนที่ ไปไม่ยากเพราะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ แต่ก็เข้าไปลึกเหมือนกัน ประมาณ ๖ กิโลได้มั้ง ทางจะเป็นหินและมีเนินเขาเตี้ยๆ บ้าง ถ้าเริ่มไม่ชัวร์ ก็ถามชาวบ้านได้ จะเสียค่าเข้าน้ำตก พอถึงก็เริ่มเห็นแววความสวย ข้างล่างจะเป็นทางน้ำไหลผ่าน และมีที่ให้นั่งเป็นแบบศาลาไม้ ไว้สั่งอาหารมาทาน และเล่นน้ำข้างล่างได้ น้ำไม่ลึกมาก แต่ถ้าจะไปถึงตัวน้ำตกจริงๆ ก็เดินขึ้นเขาไปอีก ไม่เหนื่อยมาก ทางไม่โหด จะมีสายน้ำตกให้เห็นความสวยงามเป็นระยะ



ลงเยอะหน่อยนะคะ เพราะชอบมาก


น้ำใสมากจริงๆ




ทางขึ้นก็ไม่ลำบากมากสบายๆ


พอขึ้นไปถึงตัวน้ำตกจริงๆ ขอบอกว่าประทับใจนะ ถึงจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็คือน้ำตกที่ไหลตกมาจริงๆ มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก
ไม่ได้ลงเล่นน้ำอีกเหมือนเดิม แต่มีแหม่ม ที่มาถึงก็ถอดชุดออกเหลือบิกินี่ข้างใน ลงแช่น้ำแบบสบายใจมาก เพราะน้ำใส และไหลลงมาแบบไม่ผ่านใครเลย เรื่องความสะอาดหายห่วง เลยติดไว้ก่อน คราวหน้าจะต้องไปเล่นน้ำที่น้ำตกนี้ให้ได้ ฟิน


ขากลับฝนตกลงมา เลยรีบแว้นไปหาอะไรกิน เพราะเย็นแล้ว วันนี้มีมอไซด์เลยไปวนๆ ดูในเมือง เจอร้านบะหมี่ ชายสี่ เลยจัดซะเลย ราคาก็ถือว่ารับได้ ๑๕๐๐๐ กีบ ประมาณ ๖๕ บาท แต่ชามใหญ่และเครื่องเยอะ ฝนตกหนักมาก ไฟก็ดับ ต้องจุดเทียน ได้บรรยากาศเหมือนดินเนอร์ใต้เสียงเทียน แต่ไม่นานไฟมา ฝนซาก็กลับที่พัก รีบนอน เพราะต้องตื่นเช้า เพื่อเตรียมตัวกลับแล้วจ้า

จริงๆ คืนนี้ตั้งใจว่าจะไปโฉบที่ ซากุระบาร์ เคยอ่านรีวิว ว่าไว้ใครมาก็ต้องไป แต่ฝนตก เลยอด ร้านนี้จะมี ชม.ฟรีเหล้า ๑ ชม. ประมาณช่วง ๒-๓ ทุ่ม จะติดป้ายไว้หน้าร้าน แนวผับเล็กๆ ไว้สังสรรค์กันได้ คราวหน้าว่าจะแวะไปลอง

ส่วนกิจกรรมอื่นเช่น ล่องห่วงยางน้ำซอง หรือแอดเวนเจอร์อื่น เราไม่ค่อยถนัดเลยไม่ได้ใช้บริการ แต่มีทริปให้เลือกเยอะ ใครสนใจติดต่อจากที่พักได้ทุกที่
เช้าฝนยังตกอยู่ รอรถมารับ เกือบตกรถ (อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรก) รถออกเลทนิดหน่อย ๐๙.๓๐ น. ระหว่างทางได้มองวิว จะเจอทะเลหมอกเกือบตลอดทาง เพราะฝนตกและภูเขาจะมีตลอดแนว สดชื่นมาก แต่ต้องรีบข่มตาหลับแล้ว เพราะเริ่มมีอาการเวียนหัว 555

วิวข้างทาง ก็ยังสวยอีก



ระหว่างทางรถแวะพักร้านอาหาร ให้ทานข้าว เข้าห้องน้ำ จุดนี้มีรถหลายเจ้ามาจอด ร้านดูดี มีของให้เลือกซื้อเยอะ และราคาไม่แพง ดีกว่าร้านขามามาก และจะได้พบนักท่องเที่ยวเยอะ เกาหลี ฝรั่ง เค้าจะมารถตู้เล็กกัน แต่ละคนก็แซ่บๆ นะ อิ อิ เสร็จธุระเดินทางต่อ ไปผ่านด่านเหมือนเดิม แต่รถเค้าไม่แวะให้ตรงจุดผ่านแดนเลย กะว่าจะลองไปเข้าดิวตี้ฟรีซะหน่อยก็เลยอด อย่าลืมแลกเงินคืนด้วยนะ ขาดทุนไม่มาก

มาถึงอุดรเกือบบ่ายสี่ ก็ไปพำนักที่เซ็นทรัล ใกล้มาก ประมาณ ๑๐๐ เมตร ไปหาอะไรทาน เราจองตั๋วกลับไว้ช้ามาก ๒๐.๕๕ น. เลยต้องรอนาน จริงๆ กะว่าจะไปแวะเวียงจันทร์ก่อน กลัวมาไม่ทัน ถ้าใครไม่แวะ จองตั๋วรถกลับ กทม.เที่ยว ๖ โมงเย็นก็สบายๆ แต่ถ้าไม่ใช่เทศกาลมาหาซื้อตั๋วเอาเลยก็ได้ มีหลาย บ.อยู่

ส่วนของฝาก มีร้านขายอยู่ตรงถนน ข้างหน้า บขส. ร้านไม่ใหญ่มาก แต่มีแหนมเนืองของ VT ก็ใช้ได้แหละ แต่ร้านแหนมเนืองจริงๆ น่าจะไกลหน่อย มีสัมภาระเลยไม่สะดวก
ก็เป็นอันว่าจบทริปนี้ แบบประทับใจ และอยากจะไปอีกถ้ามีโอกาส ผู้คน สถานที่ คือดี มีผิดพลาดบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นประสบการณ์

ข้อแนะนำ
ถ้านั่งเครื่องไปลงเวียงจันทร์ คือจะดีกว่านี้เพราะประหยัดเวลาไปได้มาก ไม่เหนื่อย และมีเวลาเที่ยวได้เยอะขึ้น สำหรับคนมีเวลาไม่มาก แต่ถ้าไปลงอุดร ก็ยังต้องนั่งรถนานเหมือนกัน (จากอุดรไปวังเวียงประมาณ ๗ ชม.) แต่ประหยัดเวลาจาก กทม.ไปได้เยอะ (กทม.ไปอุดรประมาณ ๗ ชม.)

เรามาสรุปค่าใช้จ่ายของทริปนี้กันดีกว่า เป็นราคาของ ๒ คน
-ของกิน                              ๒๑๗,๐๐๐    กีบ
(กินแบบธรรมดามาก ไม่ได้นั่งร้านใหญ่ๆ ซื้อมากินที่ที่พัก)
-ที่พักเพิ่มเติม (เปลี่ยนเป็นห้องแอร์)        ๑๔๐,๐๐๐    กีบ
-ตั๋วรถกลับอุดร                    ๑๘๐,๐๐๐    กีบ
-เช่ารถมอไซด์                    ๔๐,๐๐๐    กีบ
-น้ำมัน                        ๒๐,๐๐๐     กีบ
-ข้ามสะพานส้ม (๒,๐๐๐)            ๔,๐๐๐     กีบ
-จอดรถมอไซด์                    ๓,๐๐๐    กีบ
-เข้าถ้ำจัง (๑๕,๐๐๐)                ๓๐,๐๐๐    กีบ
-ผ่านสะพานไปบลูลากูน             ๑๐,๐๐๐    กีบ
-เข้าบลูลากูน (๑๐,๐๐๐)                ๒๐,๐๐๐    กีบ
-ฝากมอไซด์                    ๓,๐๐๐    กีบ
-เข้าน้ำตกตาดแก่งยุ้ย (๑๐,๐๐๐)        ๒๐,๐๐๐    กีบ
รวมใช้เงินกีบ                    ๖๘๗,๐๐๐    กีบ เป็นเงินไทยประมาณ ๒,๙๗๕ บาท
(เรามีซื้อผ้าถุงกะผ้าพันคอด้วย ไม่ได้คิดรวม อีก ๑๐๕,๐๐๐ กีบ ประมาณ ๔๕๕ บาท)    
-ค่ารถ กทม.-อุดร (ไปกลับ)            ๑,๘๒๖    บาท
-ค่าที่พัก ๒ คืน                     ๑,๐๖๑    บาท
-รถอุดร-วังเวียง                    ๖๔๐        บาท รวม ๓,๕๒๗ บาท
-ของกิน,รถตู้จากบ้านไปหมอชิต,แท๊กซี่    ๘๐๐        บาท (ไม่คิดรวม)

รวมเบ็ดเสร็จ ๖,๕๐๒ บาท คิดต่อ ๑ คน  ๓,๒๕๑ บาท ตีว่างบ ๓,๕๐๐ น่าจะอยู่สำหรับการใช้จ่ายอย่างประหยัด แต่ถ้าจะเอาว่ากินสบายใช้จ่ายคล่องๆ ก็จัดไป ๔๕๐๐ บาท แฮปปี้แน่นอน อีกอย่างถ้าเตรียมของกินจากไทยไปได้ พวกขนมปัง ขนมกินเล่น นมกล่อง มาม่าคัพ ก็ตุนไปให้พอกิน ก็จะดี เพราะที่นั่นแพงมาก จะซื้ออะไรทีหน้ามืดเลย

แล้วถ้าใครชอบสายบุญ ก็เตรียมของแห้งพวกมาม่า ขนมแห้งแบบซอง ไปใส่บาตรก็ได้นะ เพราะมีพระบิณฑบาตร หรือจะไปที่วัดก็ได้ อยู่ในวังเวียงเลย

แต่ถ้าใครที่จะคุมงบให้น้อยกว่านี้ ก็จองตั๋วเครื่องบินที่มีโปร ๐ บาท หรือโปรถูก หรือนั่งรถไฟฟรีไปลงหนองคาย ก็จะประหยัดไปอีกเกือบ ๒ พันบาท (ค่ารถทัวร์) ที่เค้ารีวิวกันว่าไปวังเวียงกับงบ ๒๕๐๐ อะไรแบบนี้ ก็มีความเป็นไปได้ค่ะ

ข้อมูลนี้คงจะเป็นประโยชน์กะเพื่อนๆ ที่คิดจะไปวังเวียงบ้างนะคะ ไว้เจอกันโอกาสหน้า โปรแกรมมีเพียบค่ะ ขอเวลาปั๊มเงินก่อน อมยิ้ม04
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่