ทริปนี้ผมไปกับพ่อนะครับ ไปกัน 2 คน แต่หน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่การจัดทริป การจองโรงแรม การซื้อพาส เตรียมของ ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของผมคนเดียวเท่านั้น หึหึหึหึ สนุกแล้วสิทีนี้ ผมก็เลยอยากจะอธิบายรายละเอียดการเตรียมตัวก่อนไปยันเที่ยวทุกๆอย่างตามชื่อ "ฉบับสากกะเบือยันเรือรบ" ครับ
มา! เริ่ม
การจองตั๋วเครื่องบิน
ก็ตามที่บอกในตอนแรกเลยครับ เที่ยวครั้งนี้ผมบินกับ AirAsia X โดยจองตอนมีโปร Big Sale รู้สึกว่าจะเห็นจากเพจ Ar-pae นะครับ ถ้าจำไม่ผิด ใครสนใจโปรตั๋วเครื่องบินถูกๆ ดูจากเพจนี้ได้เลย ผมจองแบบข้ามปีกันเลย จองไปน่าจะช่วงเดือนพฤศจิกาปี 58
แต่ดันบินช่วงมิถุนาปี 59 (ทิ้งช่วงนานมาก) ที่ผมจองไปช่วงนี้ มันเป็น Low Season ด้วยซ้ำก็เพราะว่า มันเป็นช่วงที่ผมปิดเทอม และแน่นอนเรื่องเวลาว่างมากที่สุด ช่วง High Season กลัวว่าจะไปชนกับช่วงเรียนเลยยอมไปช่วง Low ครับ
จองวันไป 10 และกลับ 16
**อยากจะเน้นยำว่าดูเวลาบินดีๆ** อย่าสติกระเจิงเวลาเห็นโปรถูกแบบผม เพราะตอนแรกตั้งใจว่าจะไป 7 วัน ก็เลยนับ 10-16 ก็ 7 วัน สุดท้ายมาดู คือเวลาไฟล์ทมันไม่สวย กินเวลาไปตั้ง 2 วัน ผมเลยดันเหลือเวลาเที่ยวแค่ 5 วันเองครับ มารู้ทีหลังโคตรเซ็ง
ค่าเสียหายกับ AirAsia ครั้งนี้ก็โดนไป 7510 บาท โหลดกระเป๋าแค่ขากลับ 20 กิโล (800บาท) ครับ ส่วนของพ่อผม โหลดขาไป ก็แชร์ๆน้ำหนักกระเป๋ากัน
การจัดทริป
ผมใช้วิธีการซื้อหนังสือ Guidebook มาจากร้านหนังสือครับ แล้วก็หาดูจากตามกระทู้รีวิวในพันทิปเนี่ยแหละว่า มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ใครที่เคยเขียนกระทู้เที่ยวคันไซ บอกเลย มีประโยชน์กับผมโคตรๆ ผมดู อ่าน เยอะมาก55555555 แล้วก็ดูคลิปใน Youtube ของพี่ๆทีม Pinkuno Hana หรือ iLovetogo ครับ คลิปยาวมาก 12 ชม.ได้ แต่ก็มีประโยชน์มากเช่นกัน เพราะละเอียดสุดๆ
อันนี้ Guidebook ที่ผมใช้ครับ
แล้วก็รวมๆข้อมูลที่ทำการบ้านมา มาจัดเป็นตารางแพลน ส่วนตัวใช้ Excel ทำ ใส่รายละเอียดเช่น เวลา สถานีรถไฟ สถานที่ พาสที่ใช้ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่ต้องเสีย ลงไปให้หมดครับ มันจะทำให้เราสะดวกเวลาเดินทาง แล้วก็คำนวณค่าใช้จ่ายมากๆ วันไปผมก็เซฟลงไอโฟนกับไอแพดไว้ จะได้ดูง่ายๆครับ
อาจจะดูละเอียดเรื่องเวลาไปนิดนึง แต่ถึงหน้างานก็ไม่ตรงหรอกครับ555555555 ทั้งเรื่องเวลากับสถานที่แต่ ผมเอาให้เป๊ะไว้ก่อนดีกว่า
เวลาจัดก็ต้องพยายามให้สถานที่ที่ใช้ Pass เดียวกันอยู่ในวันเดียวกัน หรือให้วันติดๆกันจะได้คุ้มที่สุด คำนวณค่าเดินทาง ค่าเข้าสถานที่ทั้งหมดให้เรียบร้อย จะได้รู้ว่า เราจะต้องใช้ Pass ไหนบ้างกับที่ไหน วันไหน ประมาณนี้ครับ ทั้งหมดก็เป็นวิธีที่ผมใช้ครับ เพื่อนๆพี่ๆคนไหนมีวิธีจัดทริปดีๆมาแชร์ผมบ้างก็ได้เน้อ
การซื้อ Pass ต่างๆ
หลังจากจัดทริป แล้วเราก็จะรู้ว่าต้องใช้ Pass อะไรบ้าง ทริปนี้ Pass ที่ผมใช้ก็จะมี
- JR West Rail Pass 1 Day 1 ใบ
- JR West Rail Pass 2 Days 1 ใบ
- Osaka Amazing Pass 2 Days 1 ใบ
ปล. หลายๆคนอาจจะใช้ Kansai Thru Pass แต่ผมจัดทริปดูแล้วรู้สึกว่าไม่คุ้ม ก็เลยไม่ซื้อครับ
ปล.2 Pass ทั้ง 2 แบบไม่สามารถใช้แยกวันได้นะครับ ต้องใช้ติดกันเท่านั้น
Pass ทั้งหมดนี้ ผมสั่งซื้อกับ ทาง Japan All Pass ครับ ตอนนั้นเช็คราคาดูแล้วรู้สึกว่าจะถูกกว่าที่อื่นก็เลยเลือกที่นี่ครับ
สามารถ Message ไปสั่งกับทางเพจได้เลย โอนเงิน แล้วที่นี้ก็ รอๆๆได้เบย จะมี Messenger มาส่งให้ถึงหน้าบ้านเลยครับ ผมอยู่ปริมณฑล ประมาณ 2 วันก็ส่งถึงบ้านแล้วครับ
JR Pass ต้องนำใบ Exchange ไปรับที่ Office JR ที่สนามบินครับ ส่วน Osaka Amazing Pass จะได้มาเลย
การจองที่พัก
ส่วนผมจองผ่าน Agoda ครับ อาจจะลองเช็คเว็บจองที่พักหลายๆเว็บก่อนก็ได้ แต่เหมือนตอนผมเช็ค Agoda จะให้ราคาที่ดีที่สุด แล้วผมก็ใช้ส่วนลดจาก Dtac และ SCB ลดได้อีกประมาณ 5% ครับ ประมาณว่าวิธีไหน/เว็บไหนถูกสุดก็ใช้อันนั้นแหละครับ55555555
การใช้เว็บอย่าง Agoda จองมันสะดวกตรงที่เรากำหนดราคาที่อยากได้ ในบริเวณที่เราอยากพักได้เลย มีรัวิวกับรูปให้ดู/อ่าน ด้วยครับ
แต่ส่วนตัวจะดูจาก TripAdvisor เพิ่มด้วย เพราะว่าจะมีรูปที่โพสต์โดยนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งมันจะ Real กว่าที่โรงแรมโพสต์ไว้ครับ ไปถึงจะได้ไม่ผิดหวังมากนัก ทำแบบนี้ไม่ใช่อะไร เคยอ่านคนจองโรงแรมถูกๆ แล้วพอไปดันเจอโรงแรมกากๆ บริการห่วยๆ ทำแบบนี้ก็ช่วยสกรีนได้ระดับนึงครับ
หลักๆผมก็จะเลือกที่พักที่ใกล้สถานีรถไฟเป็นหลัก จะได้เดินทางสะดวก ราคาต้องเหมาะสม ไม่แพง แล้วก็อาจจะมีเรื่องอื่นๆอย่าง มี WiFi ฟรีไหม
การใช้อินเตอร์เน็ต
ผมเลือกใช้ Pocket WiFi ครับ เพราะว่าผมจะใช้แชร์กับมือถือแล้วก็ไอแพดด้วย กลัวว่าใช้ซิมใส่มือถือแล้วแชร์เอา มันจะทำให้แบตมือถือหมดไว ผมก็ลองหาๆดู แต่พอดีเพื่อนผมแนะนำของ Samurai มาว่าโอเค ผมก็ลองโทรไปถามดูครับ
ค่าใช้จ่ายวันละ 200 บาท นับแค่วันใช้ ไม่นับวันเดินทาง มีค่าประกันเครื่องอีก 200 บาท สามารถรับได้ที่สนามบินดอนเมืองเลยครับ ผมว่าก็สะดวกดี
จากที่ผมใช้มาตลอดทริปก็โอเคนะครับ เน็ตแรงดี เป็น LTE ตลอด แบตของ Pocket WiFi ก็อยู่ได้ตั้งแต่เช้ายันดึกอยู่นะครับ ผมเปิดทั้งวันเลย เชื่อมต่อตลอด แต่ถ้ามันหมดก่อนก็สามารถใช้ Powerbank ชาร์จได้
ทั้งหมดนี้คือการเตรียมตัวของผมก่อนที่จะไปเที่ยวครับ อ่านแล้วอาจจะดูไม่ยากเท่าไหร่ แต่ตอนจัดทริปเนี่ย ยากสุดสำหรับผม ปวดหัวมากๆว่าจะจัดยังไงให้ใช้ Pass รถไฟคุ้มๆ ความงกก็ยังตามมาในทุกความคิด5555555 (ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกฮะ)



เตรียมตัวทุกอย่างเรียบร้อย ทีนี้เราก็นับวัน กาปฏิทิน ถอยหลังรอได้เลย (ไอ้นี่ก็เวอร์ปายยยยย) แต่ยิ่งใกล้วันก็ยิ่งตื่นเต้นครับ555555
อ่านข้างบนแล้วก็อย่าเพิ่งเบื่อกระทู้โง่ๆของผมนะครับ ไม่ใช่ผมพิมพ์แบบนี้แล้วหมดศรัทธากดปิดไป555555 เดี๋ยวก่อน "หนูขอโอกาสหน่อยนะคะพี่บี" (อ่าวผิดๆ ไม่ใช่ The Face นิเนอะ)
ส่วนใครมีข้อสงสัยอะไรหรืออยากสอบถามผมเพิ่ม
ส่ง Message หลังไมค์มาได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมตอบให้
Instagram : @thedoggerbank
รูปทั้งหมดที่ถ่ายนี้มาจากกล้อง
- Nikon D5300 ติดเลนส์คิท 18-140mm. / บางรูป(แต่น้อยมากๆ) ใช้ฟิกซ์ 50mm. F1.8 ครับ
- iPhone6
แล้วก็แต่งจาก Lightroom ทั้งหมดครับ
ปะ! ออกเดินทางไปพร้อมกัน สนุกแน่นอน อิอิ



วันนั้นไฟล์ทผมออกประมาณบ่าย 2 ก็ไปถึงก่อนนานอยู่ ผม Check-in ผ่านแอพของ AirAsia มาก่อนแล้วไปถึงก็จะได้ไม่ต้องต่อแถวรออีก แค่โหลดกระเป๋า ตรวจหนังสือเดินทาง แล้วก็ไปเดินเล่นลั้นลาอยู่ข้างในได้เลย เดินดูของ Duty Free กินข้าว ทำนู่นนี่เรื่อยเปื่อย แล้วก็รอเรียกขึ้นเครื่องครับ
ถึงตอนขึ้นเครื่องเขาก็จะให้ที่นั่ง Premium Flat ขึ้นก่อนครับ จากนั้นก็จะเรียก Economy ตามโซนที่นั่ง
บรรยากาศในเครื่องก็ประมาณนี้ครับ เป็นเครื่อง AirBus A330-300 ที่นั่งจริงๆแอบอึดอัดนิดนึงครับ เดินเข้าออกลำบากหน่อย ผมสูง 170 ซม. เหยียดขาได้กระจึ๋งนึง แต่ก็ตามราคา ผมก็โอเคครับ

[CR] What's up! Kansai | Kyoto Kobe Osaka ฉบับสากกระเบือยันเรือรบ [Part1]
Part 2 : Day2-3 >> http://pantip.com/topic/35334874
Part 3 : Day4-5 >> http://pantip.com/topic/35341769
ทักทายแบบไทยดีฝ่าาา สวัสดีครับทุกๆคน ก็แน่นอนว่าครั้งนี้ผมจะมารีวิวทริปเที่ยว แถบคันไซ ที่ญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน
ให้ชมให้อ่านกันนะครับ จะเป็นยังไงก็ต้องลองอ่านกันด้านล่างเลย เย้เย้เย้ เย้วววววว!!
ยังไงก็ ก่อนอ่านก่อนชม ฝากให้กำลังใจผม กดโหวตกระทู้ให้ผมหน่อยน้าาาา (ถ้าอ่านจบแล้วชอบ แชร์ให้ผมด้วย
จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยขอรับ อิอิ) ขอบคุณทุกๆคนล่วงหน้ามากๆเลยครับ
ผมขอแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า ครั้งแรกเลยชื่อใส่ชื่อตัวเองลงกระทู้ หลังจากอำพราง แอบซ่อนมานาน5555555
ก็....ชื่อปายนะครับ ตอนนี้เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่จะขึ้นปี 2 ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต แสนแดดแรงและร้อนม๊ากกกก ร้อนจริงๆ
ประเด็นหลักๆของการไปเที่ยวครั้งนี้มันก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็แค่ ผมดันเห็นเพจบน Facebook ลงว่า กำลังจะมีโปร Big Sale ของ AirAsia ทีนี้แหละกิเลสผมเกิดทันที ไอ้เราก็เออ อยากไปต่างประเทศแบบไปเอง ไม่พึ่งทัวร์ดูจังเลย ก็เลยโอเค จะจอง
บวกกับด้วยความที่เห็นเพื่อนๆใน Social Network ไปญี่ปุ่นกันเยอะมาก ก็เลยตัดสินใจว่า เราจะไปญี่ปุ่น! แล้วก็สาเหตุที่เลือกไปแถบคันไซ เพราะว่ามันได้เที่ยวหลายเมืองดี มีสถานที่ธรรมชาติ เก่าแก่ค่อนข้างเยอะ แหล่งที่เป็นเมือง หรือแหล่งช้อปปิ้งดังๆก็มีเยอะเหมือนกัน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่สวยหรูครับ เอาจริงๆป่าวหรอก แต่ตอนนั้นตั๋วลงคันไซมันถูกกว่าไปโตเกียวต่างหาก ถึงแม้ว่าจะไม่กี่ตังค์ก็ตาม55555555 (งกไปอี้กกกก) ซึ่งถามว่าประหยัดมั้ย หึ! ไม่เลย เพราะสุดท้ายก็ไปลงกับค่าอย่างอื่นอยู่ดี
การจองตั๋วเครื่องบิน
ก็ตามที่บอกในตอนแรกเลยครับ เที่ยวครั้งนี้ผมบินกับ AirAsia X โดยจองตอนมีโปร Big Sale รู้สึกว่าจะเห็นจากเพจ Ar-pae นะครับ ถ้าจำไม่ผิด ใครสนใจโปรตั๋วเครื่องบินถูกๆ ดูจากเพจนี้ได้เลย ผมจองแบบข้ามปีกันเลย จองไปน่าจะช่วงเดือนพฤศจิกาปี 58
แต่ดันบินช่วงมิถุนาปี 59 (ทิ้งช่วงนานมาก) ที่ผมจองไปช่วงนี้ มันเป็น Low Season ด้วยซ้ำก็เพราะว่า มันเป็นช่วงที่ผมปิดเทอม และแน่นอนเรื่องเวลาว่างมากที่สุด ช่วง High Season กลัวว่าจะไปชนกับช่วงเรียนเลยยอมไปช่วง Low ครับ
จองวันไป 10 และกลับ 16 **อยากจะเน้นยำว่าดูเวลาบินดีๆ** อย่าสติกระเจิงเวลาเห็นโปรถูกแบบผม เพราะตอนแรกตั้งใจว่าจะไป 7 วัน ก็เลยนับ 10-16 ก็ 7 วัน สุดท้ายมาดู คือเวลาไฟล์ทมันไม่สวย กินเวลาไปตั้ง 2 วัน ผมเลยดันเหลือเวลาเที่ยวแค่ 5 วันเองครับ มารู้ทีหลังโคตรเซ็ง
ค่าเสียหายกับ AirAsia ครั้งนี้ก็โดนไป 7510 บาท โหลดกระเป๋าแค่ขากลับ 20 กิโล (800บาท) ครับ ส่วนของพ่อผม โหลดขาไป ก็แชร์ๆน้ำหนักกระเป๋ากัน
การจัดทริป
ผมใช้วิธีการซื้อหนังสือ Guidebook มาจากร้านหนังสือครับ แล้วก็หาดูจากตามกระทู้รีวิวในพันทิปเนี่ยแหละว่า มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ใครที่เคยเขียนกระทู้เที่ยวคันไซ บอกเลย มีประโยชน์กับผมโคตรๆ ผมดู อ่าน เยอะมาก55555555 แล้วก็ดูคลิปใน Youtube ของพี่ๆทีม Pinkuno Hana หรือ iLovetogo ครับ คลิปยาวมาก 12 ชม.ได้ แต่ก็มีประโยชน์มากเช่นกัน เพราะละเอียดสุดๆ
อันนี้ Guidebook ที่ผมใช้ครับ
แล้วก็รวมๆข้อมูลที่ทำการบ้านมา มาจัดเป็นตารางแพลน ส่วนตัวใช้ Excel ทำ ใส่รายละเอียดเช่น เวลา สถานีรถไฟ สถานที่ พาสที่ใช้ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่ต้องเสีย ลงไปให้หมดครับ มันจะทำให้เราสะดวกเวลาเดินทาง แล้วก็คำนวณค่าใช้จ่ายมากๆ วันไปผมก็เซฟลงไอโฟนกับไอแพดไว้ จะได้ดูง่ายๆครับ
อาจจะดูละเอียดเรื่องเวลาไปนิดนึง แต่ถึงหน้างานก็ไม่ตรงหรอกครับ555555555 ทั้งเรื่องเวลากับสถานที่แต่ ผมเอาให้เป๊ะไว้ก่อนดีกว่า
เวลาจัดก็ต้องพยายามให้สถานที่ที่ใช้ Pass เดียวกันอยู่ในวันเดียวกัน หรือให้วันติดๆกันจะได้คุ้มที่สุด คำนวณค่าเดินทาง ค่าเข้าสถานที่ทั้งหมดให้เรียบร้อย จะได้รู้ว่า เราจะต้องใช้ Pass ไหนบ้างกับที่ไหน วันไหน ประมาณนี้ครับ ทั้งหมดก็เป็นวิธีที่ผมใช้ครับ เพื่อนๆพี่ๆคนไหนมีวิธีจัดทริปดีๆมาแชร์ผมบ้างก็ได้เน้อ
การซื้อ Pass ต่างๆ
หลังจากจัดทริป แล้วเราก็จะรู้ว่าต้องใช้ Pass อะไรบ้าง ทริปนี้ Pass ที่ผมใช้ก็จะมี
- JR West Rail Pass 1 Day 1 ใบ
- JR West Rail Pass 2 Days 1 ใบ
- Osaka Amazing Pass 2 Days 1 ใบ
ปล. หลายๆคนอาจจะใช้ Kansai Thru Pass แต่ผมจัดทริปดูแล้วรู้สึกว่าไม่คุ้ม ก็เลยไม่ซื้อครับ
ปล.2 Pass ทั้ง 2 แบบไม่สามารถใช้แยกวันได้นะครับ ต้องใช้ติดกันเท่านั้น
Pass ทั้งหมดนี้ ผมสั่งซื้อกับ ทาง Japan All Pass ครับ ตอนนั้นเช็คราคาดูแล้วรู้สึกว่าจะถูกกว่าที่อื่นก็เลยเลือกที่นี่ครับ
สามารถ Message ไปสั่งกับทางเพจได้เลย โอนเงิน แล้วที่นี้ก็ รอๆๆได้เบย จะมี Messenger มาส่งให้ถึงหน้าบ้านเลยครับ ผมอยู่ปริมณฑล ประมาณ 2 วันก็ส่งถึงบ้านแล้วครับ
JR Pass ต้องนำใบ Exchange ไปรับที่ Office JR ที่สนามบินครับ ส่วน Osaka Amazing Pass จะได้มาเลย
การจองที่พัก
ส่วนผมจองผ่าน Agoda ครับ อาจจะลองเช็คเว็บจองที่พักหลายๆเว็บก่อนก็ได้ แต่เหมือนตอนผมเช็ค Agoda จะให้ราคาที่ดีที่สุด แล้วผมก็ใช้ส่วนลดจาก Dtac และ SCB ลดได้อีกประมาณ 5% ครับ ประมาณว่าวิธีไหน/เว็บไหนถูกสุดก็ใช้อันนั้นแหละครับ55555555
การใช้เว็บอย่าง Agoda จองมันสะดวกตรงที่เรากำหนดราคาที่อยากได้ ในบริเวณที่เราอยากพักได้เลย มีรัวิวกับรูปให้ดู/อ่าน ด้วยครับ
แต่ส่วนตัวจะดูจาก TripAdvisor เพิ่มด้วย เพราะว่าจะมีรูปที่โพสต์โดยนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งมันจะ Real กว่าที่โรงแรมโพสต์ไว้ครับ ไปถึงจะได้ไม่ผิดหวังมากนัก ทำแบบนี้ไม่ใช่อะไร เคยอ่านคนจองโรงแรมถูกๆ แล้วพอไปดันเจอโรงแรมกากๆ บริการห่วยๆ ทำแบบนี้ก็ช่วยสกรีนได้ระดับนึงครับ
หลักๆผมก็จะเลือกที่พักที่ใกล้สถานีรถไฟเป็นหลัก จะได้เดินทางสะดวก ราคาต้องเหมาะสม ไม่แพง แล้วก็อาจจะมีเรื่องอื่นๆอย่าง มี WiFi ฟรีไหม
การใช้อินเตอร์เน็ต
ผมเลือกใช้ Pocket WiFi ครับ เพราะว่าผมจะใช้แชร์กับมือถือแล้วก็ไอแพดด้วย กลัวว่าใช้ซิมใส่มือถือแล้วแชร์เอา มันจะทำให้แบตมือถือหมดไว ผมก็ลองหาๆดู แต่พอดีเพื่อนผมแนะนำของ Samurai มาว่าโอเค ผมก็ลองโทรไปถามดูครับ
ค่าใช้จ่ายวันละ 200 บาท นับแค่วันใช้ ไม่นับวันเดินทาง มีค่าประกันเครื่องอีก 200 บาท สามารถรับได้ที่สนามบินดอนเมืองเลยครับ ผมว่าก็สะดวกดี
จากที่ผมใช้มาตลอดทริปก็โอเคนะครับ เน็ตแรงดี เป็น LTE ตลอด แบตของ Pocket WiFi ก็อยู่ได้ตั้งแต่เช้ายันดึกอยู่นะครับ ผมเปิดทั้งวันเลย เชื่อมต่อตลอด แต่ถ้ามันหมดก่อนก็สามารถใช้ Powerbank ชาร์จได้
ส่ง Message หลังไมค์มาได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมตอบให้
Instagram : @thedoggerbank
รูปทั้งหมดที่ถ่ายนี้มาจากกล้อง
- Nikon D5300 ติดเลนส์คิท 18-140mm. / บางรูป(แต่น้อยมากๆ) ใช้ฟิกซ์ 50mm. F1.8 ครับ
- iPhone6
แล้วก็แต่งจาก Lightroom ทั้งหมดครับ
ปะ! ออกเดินทางไปพร้อมกัน สนุกแน่นอน อิอิ
วันนั้นไฟล์ทผมออกประมาณบ่าย 2 ก็ไปถึงก่อนนานอยู่ ผม Check-in ผ่านแอพของ AirAsia มาก่อนแล้วไปถึงก็จะได้ไม่ต้องต่อแถวรออีก แค่โหลดกระเป๋า ตรวจหนังสือเดินทาง แล้วก็ไปเดินเล่นลั้นลาอยู่ข้างในได้เลย เดินดูของ Duty Free กินข้าว ทำนู่นนี่เรื่อยเปื่อย แล้วก็รอเรียกขึ้นเครื่องครับ
ถึงตอนขึ้นเครื่องเขาก็จะให้ที่นั่ง Premium Flat ขึ้นก่อนครับ จากนั้นก็จะเรียก Economy ตามโซนที่นั่ง
บรรยากาศในเครื่องก็ประมาณนี้ครับ เป็นเครื่อง AirBus A330-300 ที่นั่งจริงๆแอบอึดอัดนิดนึงครับ เดินเข้าออกลำบากหน่อย ผมสูง 170 ซม. เหยียดขาได้กระจึ๋งนึง แต่ก็ตามราคา ผมก็โอเคครับ