
ทริปนี้เกิดจาก ความอยากเปลี่ยนบรรยากาศสังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูง โจทย์คือใกล้กรุงเทพ ฯ มีทะเล และที่สำคัญ ราคาต้องไม่แพงมาก
ก็เลยตกลงปลงใจกันที่พัทยา - เกาะล้าน ด้วยความตื่นเต้นของเรา ไปสแตนบายรอเพื่อนๆที่พัทยาตั้งเเต่เย็นวันศุกร์เลย จุดหมายของคืนวันศุกร์หรรษานี้เราแวะกันที่ถนนคนเดินบางแสน พิกัดอยู่บริเวณแหลมแท่น ที่นี่ตลาดจะวายประมาณ 5 ทุ่ม ขับรถชิวๆจากกรุงเทพไงก็มาเดินทันค่ะ
ปกติตลาดนี้จะมีน้องๆมานั่งขายของ handmade เยอะพอสมควร แต่ช่วงที่เราไปน่าจะเป็นช่วงปิดเทอมเลยไม่ค่อยมีร้านของน้องๆเยอะซักเท่าไหร่
หรือใครไม่อยากเดินช๊อปปิ้ง ก็มานั่งดูน้องๆเล่นดนตรีได้
ตลาดกว้างพอควร เดินกันจนตลาดวายเราก็มุ่งหน้าไปพัทยาเพื่อไปหาที่พักสำหรับค่ำคืนนี้กันค่ะ ความต้องการของเราคืออยากหาห้องพักที่ราคาไม่แพงมาก แต่ก็ไม่ได้ถูกจนไม่น่านอน เพราะนอนแป๊ปเดียว เช้าก็ต้องไปเกาะล้านกันแล้ว วนหากันซักพักใหญ่ ก็มาเจอห้องพักรายวันชื่อ “ สุขสันต์รีสอร์ท “ พิกัดอยู่ที่ เส้นพัทยาใต้ที่จะออกมาสุขุมวิทค่ะ ที่พักประทับใจมากค่ะ มีระบบคีการ์ด มีที่พอจอดรถได้ ห้องพักสะอาด แอร์เย็นๆเตียงนุ่มพอใช้ได้ และมี wifi ฟรีในห้องด้วยนะ ราคาอยู่ที่คืนละ 600 บาท

เวลาล่วงเลยมาจะตี 1 แล้ว ท้องร้องโหยหาอาหาร ขัดใจความอยากของร่างกายไม่ได้ ต้องมาสนองร่างกายให้ที่ “ร้านข้าวต้มประจัญบาน” ร้านนี้มาพัทยาในตอนดึกๆทีไรต้องมาทุกครั้งเลยค่ะ ที่ชอบมาเพราะอาหารถูกปาก ราคาถูกใจ รู้จักร้านนี้จากคำแนะนำของคนพื้นที่พัทยานี่แหละ ร้านนี้เปิดถึงเช้า เรียกว่ากินกันยันหว่างไปเลย
เมนูเด็ดที่มาแล้วเราต้องสั่งคือ หมึกผัดไข่เค็ม กับ ทอดมันกุ้ง แต่ที่ร้านก็มีเมนูอีกมากมายหลากหลาย
ค่าอาหารมื้อนี้ 595 บาท ทานกัน 4 คน อิ่มเลยนะจะบอกให้
เช้าวันเสาร์ พร้อมออกเดินทางไปเกาะล้านกันแล้ว ถ้าใครขับรถมา มีบริการจอดรถบนตึก (ตอนไปปิดปรับปรุง) แต่ก็ยังมีลานจอดรถให้จอด
ค่าบริการ 200 บาท ต่อคืน แนะนำให้เอาของและคนมาลงที่ท่าเรือก่อนนะคะ จากนั้นจะมีพี่วินนำเราไปลานจอดรถ
และพาเรากลับมาที่ท่าเรือ ในราคาค่าบริการ 50บาท
แพลนของเราระหว่างอยู่ที่เกาะล้านคือ
9 โมงเช้า พร้อมกันที่ท่าเรือ > เอากระเป๋าเข้าไปเก็บในที่พัก > ขับรถไปเที่ยวหาดต่างๆ + หาข้าวกิน > ถ่ายรูปๆๆๆ > กลับมาเปลี่ยนชุดไปเล่นน้ำที่หาดตาแหวน > ซื้ออาหารทะเล > ล้อมวงกินเหล้า เอ้ยย กินข้าว แบบยาวๆๆๆ
นัดกันที่ท่าเรือ 9 โมง แต่ด้วยความเป็น Professional ของพวกเรา นัด 9 โมง แต่เอาเข้าจริง 10 โมง เพิ่งจะรวมตัวกันได้ เยี่ยมไปเลย !!! แต่ไม่เป็นไร เพราะเรือมาแบบลำต่อลำ ของเรานั่งไปลงที่ ท่าหน้าบ้าน (ถ้าใครจะไปหาดตาแหวน เค้าบอกว่าเรือจะมีตอนหลัง 10 โมงเช้านะคะ ) ค่าเรือคนละ 30 บาท
หลังจากนั่งเรือกันประมาณ 45 นาที ก็มาถึงจุดหมายปลายทางเป็นที่เรียบร้อย สามารถโทรเรียกรถของทางรีสอร์ทให้มารับไปที่พักได้เลย ที่พักของเราคืนนี้ชื่อ ราชาวดีมูลไลท์ รีสอร์ท

ตัวรีสอร์ทน่ารัก สีสันสดใส อยู่ติดทะเลพอดี บรรยากาศดูสบายๆ First Impression .เอาไปเลย 5 ดาว แต่แล้วเรื่องก็บังเกิด เมื่อทางรีสอร์ทบอกว่า ไม่มีbookingของพวกเรา ตึง!!! สะตั๊นไป 10 วิ เราจองไปทั้งหมด 5 ห้อง คนดูแลมาบอกว่าเค้าดึงกลับมาให้ได้ 4 ห้อง
ซึ่งเป็น standard 3 นอนได้ 2 คน , Deluxe 1 ห้อง นอนได้ 3 คน สรุปแล้วคือนอนได้เต็มที่ทั้งหมด 9 คน แต่เราไปกัน 12 คน ทางที่พักบอกว่ามันเป็นกฎห้อง standard ไม่สามารถนอนมากว่า2 และ deluxe ไม่สามารถนอนมากกว่า 3 ได้ เค้าเสนอว่าคนที่เกินให้ไปนอนอีกที่หนึ่ง ซึ่งไกลจากที่นี่มาก แล้วก็ไม่ได้ติดทะเลเลย ใครจะยอมไปล่ะจริงไหม มาด้วยกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ ต่อรองกันอยู่นานมาก สุดท้ายเค้าก็ยอมเสริมเตียงให้ แต่ปัญหายังไม่จบ ทางที่พักคิดราคาเต็ม โอ้วแม่เจ้า จอง 5 ได้ 4 นอนเบียดกัน ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดพวกเรา การเจรจาเกิดขึ้นอีกครั้ง สุดท้ายทางที่พักลดให้ 1000 บาท ตามความเป็นจริงเราควรจะได้คืนเงิน 1 ห้องเต็มๆ แต่ไม่ไหวแล้วค่ะ คุยกันประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่ได้ไปไหนสักที จบปัญหาด้วยการ ช่างมัน เสียอารมณ์ในการมาเที่ยว แต่คงไม่มาพักที่นี่อีกแล้ว คิดซะว่า สปิริตในการแก้ปัญหาเค้าคงได้เท่านี้จริงๆ ครั้งเดียวพอค่ะกับทีนี่ แอบไปเซอเวย์ที่อื่นมาเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องของความสะอาดและบรรยากาศ และบริการของพนักงานก็ยังให้ 5 ดาวอยู่นะคะ
ภายในห้องแบบนอน 2 คน ทุกห้องจะมีระเบียงนั่งด้านนอก และชั้นดาดฟ้า ขึ้นไปนั่งชิวนอนดูดาว รับลมทะเลได้เลย

บริเวณรอบๆรีสอร์ท

มีตาข่ายให้เราถ่ายรูปเก๋ๆด้วยนะ เพื่อนอีกคนเรียกตะแกรง ฮือออออ เค้าไม่ใช่หมูนะที่ลงไปปิ้งย่าง
จบเรื่องที่พักไปหาข้าวกินกันดีกว่า จากที่พัก เดินออกมาหน้าซอยไปด้านขวา จะมีร้านอาหารค่อนข้างเยอะอยู่ มื้อนี้ขอฝากท้องที่อาหารตามสั่งล่ะกันเนอะ อารมณ์ตอนนั้นแบบหิวมาก อะไรก็กินได้หมดรสชาติโอเค แต่ราคาเมื่อเทียบกับปริมาณเราคิดว่าราคาสูงไปหน่อย สั่งอาหารตามสั่ง 13 จาน กับยำทะเล 1 จาน ราคามื้อนี้อยู่ที่ 1030 บาท
ได้เวลาไปแว๊นซ์มอ’ไซต์ กันแล้ว ค่าเช่าเหมาทั้งวัน 400 บาท เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ แต่เราสามารถติดต่อกับทางรีสอร์ทได้ค่ะ เค้าหามาให้ได้ในราคา 300 บาท สรุปได้จากทางรีสอร์ทมา 3 คัน และไปเช่าเอง 3 คัน หาดแรกที่เราจะไปกันคือหาดนวล

ออกมาจากที่พักให้เลี้ยวซ้าย และขี่มาตามทางเรื่อยๆ ระหว่างทางจะมีป้ายบอกทาง ไม่ต้องกลัวหลงนะ
บรรยากาศแตกต่างจากแถวที่พักมาก ได้สัมผัสธรรมชาติ หาดนี้น้ำค่อนข้างนิ่ง มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ

งานนี้ต้องมี theme มาเที่ยวทะเลก็ไม่พ้นสีคราม indigo

ถ่ายรูปหนำใจล่ะ พร้อมสำหรับหาดถัดไป ชื่อ หาดแสม ไม่ไกลจากหาดเทียนมากเท่าไหร่ค่ะ แต่ทางอาจจะมีชันบ้างโค้งบาง
ต้องขี่แบบระมัดระวังนิดหนึ่ง
หาดนี้น้ำใสมากกกกกกก ทรายก็ละเอียด อยากจะเล่นน้ำเดี๋ยวนี้เลย
ถ่ายรูปเล่นกันสักพัก ก็พร้อมที่จะไปเล่นน้ำที่หาดตาแหวน แต่ด้วยความที่พวกเรามีความเยอะ เลยต้องกลับไปที่พักเพื่อแต่งตัวใหม่ ใส่ชุดว่ายน้ำ
และอีกเยอะแยะมากมาย ทั้งหมดนี่ก็เพื่ออยากจะได้ถ่ายรูปสวยๆ พอไปถึงที่หาด โอ้โห้ คนเยอะมากกกแบบเยอะสุดๆ แม่ค้าแถวนั้นบอกว่านี่ยังเรียกว่าไม่เยอะนะ ถ้าเป็นเทศกาลคนเยอะกว่านี้หลายเท่าไม่อยากจะคิดสภาพ
วิวระหว่างทางไปหาดตาแหวน

มาถึงที่นี่สิ่งต้องทำคือเล่น บานาน่าโบ๊ท ราคาคนล่ะ 100 เล่นได้ 1 รอบ จะล้มกี่ครั้งก็แล้วแต่เราเลย
แถมได้นั่งเก้าอี้ตรงชายหาดฟรีด้วยนะ คุ้มไหมแบบนี้ 555

เล่นไปเล่นมาชักหิวข้าว ได้เวลากลับไปกินข้าวกันแล้วสินะ ทางกลับที่พักจะมีตลาดนัดตอนเย็นอยู่ มีของขายค่อนข้างเยอะพอควร
ทั้งกับข้าว อาหารทะเล แต่มาถึงทะเลทั้งที่ จะกินไก่ทอดก็ไม่ใช่ถูกไหม มุ่งตรงไปหาของทะเลกินกันดีกว่าค่ะ

มีร้านขายอาหารทะเลเยอะอยู่ประมาณ 3-4 ร้าน ซึ่งขายของเหมือนๆกัน แต่จะเลือกร้านไหนดีต้องมาดูที่ของค่ะว่าสดไหม วิธีดูดังนี้เลย
-ปลาหมึก หนังปลาหมึกต้องขาวๆใสๆ ถ้ามันแดงๆแสดงว่ามันจะเน่าแล้ว ซึ่งเราแอบเห็นร้านหนึ่ง แดงทั้งแผงเลยคร่า น่ากลัวมาก
-ปลา ให้ดูที่ตาและเหงือกค่ะ ตาต้องใส เหงือกต้องแดง แสดงว่าปลาสด แต่ถ้าตาแดงเหงือกคล้ำแสดงว่าไม่สด ผ่านมาการตายมานานมากแล้วจริงๆ
-กุ้ง (ในรูปนี่คือกุ้งแม่น้ำ) ดูตัวที่หัวมันไม่หลุด หรือเวลายกแล้วหัวขาดง่าย นั่นแสดงว่ามันไม่สดแล้วค่ะ
-ปู ต้องจับตัวที่มันแน่นๆ ถ้าบีบแล้วมันจะแน่นๆ หยิบใส่ตะกร้าโลด
-หอย อันนี้ต้องพิสูจน์โดยการดมค่ะ ดมมันไปค่ะ ตัวไหนไม่มีกลิ่นคือใช้ได้ แต่อันนี้เข้าใจว่ามานั่งดมทีละตัวคงไม่ไหว ก็ปนๆกันไปเนอะ
มื้อนี้ค่าเสียหาย 1300 บาท ได้กุ้งแม่น้ำมา 2 โล ปลาหมึก 1 โล หอยแมลงภู่ 1 โล นิดๆ หอยหวาน อีก 1 โล
ราคาถือว่าไม่ถูกไม่แพง บริการปิ้งย่างให้อีกด้วย

ระหว่างนั่งรออาหารก็มานั่งชมวิว ริมทะเล อากาศเย็นสบาย

และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง กินค่ะ

อ่อลืมบอกที่พักอยู่ใกล้กับ ร้านมาหารัก เลยได้นั่งฟังดนตรีจากร้านเค้าฟรีๆ
ต่อในคอมเม้นท์นะคะ
เข้าไปสอบถามพูดคุยกับพวกเราได้ที่
https://www.facebook.com/getalongwell.net/ นะคะ
[CR] เผลอใจไปเกาะล้าน
ทริปนี้เกิดจาก ความอยากเปลี่ยนบรรยากาศสังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูง โจทย์คือใกล้กรุงเทพ ฯ มีทะเล และที่สำคัญ ราคาต้องไม่แพงมาก
ก็เลยตกลงปลงใจกันที่พัทยา - เกาะล้าน ด้วยความตื่นเต้นของเรา ไปสแตนบายรอเพื่อนๆที่พัทยาตั้งเเต่เย็นวันศุกร์เลย จุดหมายของคืนวันศุกร์หรรษานี้เราแวะกันที่ถนนคนเดินบางแสน พิกัดอยู่บริเวณแหลมแท่น ที่นี่ตลาดจะวายประมาณ 5 ทุ่ม ขับรถชิวๆจากกรุงเทพไงก็มาเดินทันค่ะ
ปกติตลาดนี้จะมีน้องๆมานั่งขายของ handmade เยอะพอสมควร แต่ช่วงที่เราไปน่าจะเป็นช่วงปิดเทอมเลยไม่ค่อยมีร้านของน้องๆเยอะซักเท่าไหร่
หรือใครไม่อยากเดินช๊อปปิ้ง ก็มานั่งดูน้องๆเล่นดนตรีได้
ตลาดกว้างพอควร เดินกันจนตลาดวายเราก็มุ่งหน้าไปพัทยาเพื่อไปหาที่พักสำหรับค่ำคืนนี้กันค่ะ ความต้องการของเราคืออยากหาห้องพักที่ราคาไม่แพงมาก แต่ก็ไม่ได้ถูกจนไม่น่านอน เพราะนอนแป๊ปเดียว เช้าก็ต้องไปเกาะล้านกันแล้ว วนหากันซักพักใหญ่ ก็มาเจอห้องพักรายวันชื่อ “ สุขสันต์รีสอร์ท “ พิกัดอยู่ที่ เส้นพัทยาใต้ที่จะออกมาสุขุมวิทค่ะ ที่พักประทับใจมากค่ะ มีระบบคีการ์ด มีที่พอจอดรถได้ ห้องพักสะอาด แอร์เย็นๆเตียงนุ่มพอใช้ได้ และมี wifi ฟรีในห้องด้วยนะ ราคาอยู่ที่คืนละ 600 บาท
เวลาล่วงเลยมาจะตี 1 แล้ว ท้องร้องโหยหาอาหาร ขัดใจความอยากของร่างกายไม่ได้ ต้องมาสนองร่างกายให้ที่ “ร้านข้าวต้มประจัญบาน” ร้านนี้มาพัทยาในตอนดึกๆทีไรต้องมาทุกครั้งเลยค่ะ ที่ชอบมาเพราะอาหารถูกปาก ราคาถูกใจ รู้จักร้านนี้จากคำแนะนำของคนพื้นที่พัทยานี่แหละ ร้านนี้เปิดถึงเช้า เรียกว่ากินกันยันหว่างไปเลย
เมนูเด็ดที่มาแล้วเราต้องสั่งคือ หมึกผัดไข่เค็ม กับ ทอดมันกุ้ง แต่ที่ร้านก็มีเมนูอีกมากมายหลากหลาย
ค่าอาหารมื้อนี้ 595 บาท ทานกัน 4 คน อิ่มเลยนะจะบอกให้
เช้าวันเสาร์ พร้อมออกเดินทางไปเกาะล้านกันแล้ว ถ้าใครขับรถมา มีบริการจอดรถบนตึก (ตอนไปปิดปรับปรุง) แต่ก็ยังมีลานจอดรถให้จอด
ค่าบริการ 200 บาท ต่อคืน แนะนำให้เอาของและคนมาลงที่ท่าเรือก่อนนะคะ จากนั้นจะมีพี่วินนำเราไปลานจอดรถ
และพาเรากลับมาที่ท่าเรือ ในราคาค่าบริการ 50บาท
แพลนของเราระหว่างอยู่ที่เกาะล้านคือ
9 โมงเช้า พร้อมกันที่ท่าเรือ > เอากระเป๋าเข้าไปเก็บในที่พัก > ขับรถไปเที่ยวหาดต่างๆ + หาข้าวกิน > ถ่ายรูปๆๆๆ > กลับมาเปลี่ยนชุดไปเล่นน้ำที่หาดตาแหวน > ซื้ออาหารทะเล > ล้อมวงกินเหล้า เอ้ยย กินข้าว แบบยาวๆๆๆ
นัดกันที่ท่าเรือ 9 โมง แต่ด้วยความเป็น Professional ของพวกเรา นัด 9 โมง แต่เอาเข้าจริง 10 โมง เพิ่งจะรวมตัวกันได้ เยี่ยมไปเลย !!! แต่ไม่เป็นไร เพราะเรือมาแบบลำต่อลำ ของเรานั่งไปลงที่ ท่าหน้าบ้าน (ถ้าใครจะไปหาดตาแหวน เค้าบอกว่าเรือจะมีตอนหลัง 10 โมงเช้านะคะ ) ค่าเรือคนละ 30 บาท
หลังจากนั่งเรือกันประมาณ 45 นาที ก็มาถึงจุดหมายปลายทางเป็นที่เรียบร้อย สามารถโทรเรียกรถของทางรีสอร์ทให้มารับไปที่พักได้เลย ที่พักของเราคืนนี้ชื่อ ราชาวดีมูลไลท์ รีสอร์ท
ตัวรีสอร์ทน่ารัก สีสันสดใส อยู่ติดทะเลพอดี บรรยากาศดูสบายๆ First Impression .เอาไปเลย 5 ดาว แต่แล้วเรื่องก็บังเกิด เมื่อทางรีสอร์ทบอกว่า ไม่มีbookingของพวกเรา ตึง!!! สะตั๊นไป 10 วิ เราจองไปทั้งหมด 5 ห้อง คนดูแลมาบอกว่าเค้าดึงกลับมาให้ได้ 4 ห้อง
ซึ่งเป็น standard 3 นอนได้ 2 คน , Deluxe 1 ห้อง นอนได้ 3 คน สรุปแล้วคือนอนได้เต็มที่ทั้งหมด 9 คน แต่เราไปกัน 12 คน ทางที่พักบอกว่ามันเป็นกฎห้อง standard ไม่สามารถนอนมากว่า2 และ deluxe ไม่สามารถนอนมากกว่า 3 ได้ เค้าเสนอว่าคนที่เกินให้ไปนอนอีกที่หนึ่ง ซึ่งไกลจากที่นี่มาก แล้วก็ไม่ได้ติดทะเลเลย ใครจะยอมไปล่ะจริงไหม มาด้วยกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ ต่อรองกันอยู่นานมาก สุดท้ายเค้าก็ยอมเสริมเตียงให้ แต่ปัญหายังไม่จบ ทางที่พักคิดราคาเต็ม โอ้วแม่เจ้า จอง 5 ได้ 4 นอนเบียดกัน ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดพวกเรา การเจรจาเกิดขึ้นอีกครั้ง สุดท้ายทางที่พักลดให้ 1000 บาท ตามความเป็นจริงเราควรจะได้คืนเงิน 1 ห้องเต็มๆ แต่ไม่ไหวแล้วค่ะ คุยกันประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่ได้ไปไหนสักที จบปัญหาด้วยการ ช่างมัน เสียอารมณ์ในการมาเที่ยว แต่คงไม่มาพักที่นี่อีกแล้ว คิดซะว่า สปิริตในการแก้ปัญหาเค้าคงได้เท่านี้จริงๆ ครั้งเดียวพอค่ะกับทีนี่ แอบไปเซอเวย์ที่อื่นมาเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องของความสะอาดและบรรยากาศ และบริการของพนักงานก็ยังให้ 5 ดาวอยู่นะคะ
ภายในห้องแบบนอน 2 คน ทุกห้องจะมีระเบียงนั่งด้านนอก และชั้นดาดฟ้า ขึ้นไปนั่งชิวนอนดูดาว รับลมทะเลได้เลย
บริเวณรอบๆรีสอร์ท
มีตาข่ายให้เราถ่ายรูปเก๋ๆด้วยนะ เพื่อนอีกคนเรียกตะแกรง ฮือออออ เค้าไม่ใช่หมูนะที่ลงไปปิ้งย่าง
จบเรื่องที่พักไปหาข้าวกินกันดีกว่า จากที่พัก เดินออกมาหน้าซอยไปด้านขวา จะมีร้านอาหารค่อนข้างเยอะอยู่ มื้อนี้ขอฝากท้องที่อาหารตามสั่งล่ะกันเนอะ อารมณ์ตอนนั้นแบบหิวมาก อะไรก็กินได้หมดรสชาติโอเค แต่ราคาเมื่อเทียบกับปริมาณเราคิดว่าราคาสูงไปหน่อย สั่งอาหารตามสั่ง 13 จาน กับยำทะเล 1 จาน ราคามื้อนี้อยู่ที่ 1030 บาท
ได้เวลาไปแว๊นซ์มอ’ไซต์ กันแล้ว ค่าเช่าเหมาทั้งวัน 400 บาท เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ แต่เราสามารถติดต่อกับทางรีสอร์ทได้ค่ะ เค้าหามาให้ได้ในราคา 300 บาท สรุปได้จากทางรีสอร์ทมา 3 คัน และไปเช่าเอง 3 คัน หาดแรกที่เราจะไปกันคือหาดนวล
ออกมาจากที่พักให้เลี้ยวซ้าย และขี่มาตามทางเรื่อยๆ ระหว่างทางจะมีป้ายบอกทาง ไม่ต้องกลัวหลงนะ
บรรยากาศแตกต่างจากแถวที่พักมาก ได้สัมผัสธรรมชาติ หาดนี้น้ำค่อนข้างนิ่ง มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ
งานนี้ต้องมี theme มาเที่ยวทะเลก็ไม่พ้นสีคราม indigo
ถ่ายรูปหนำใจล่ะ พร้อมสำหรับหาดถัดไป ชื่อ หาดแสม ไม่ไกลจากหาดเทียนมากเท่าไหร่ค่ะ แต่ทางอาจจะมีชันบ้างโค้งบาง
ต้องขี่แบบระมัดระวังนิดหนึ่ง
หาดนี้น้ำใสมากกกกกกก ทรายก็ละเอียด อยากจะเล่นน้ำเดี๋ยวนี้เลย
ถ่ายรูปเล่นกันสักพัก ก็พร้อมที่จะไปเล่นน้ำที่หาดตาแหวน แต่ด้วยความที่พวกเรามีความเยอะ เลยต้องกลับไปที่พักเพื่อแต่งตัวใหม่ ใส่ชุดว่ายน้ำ
และอีกเยอะแยะมากมาย ทั้งหมดนี่ก็เพื่ออยากจะได้ถ่ายรูปสวยๆ พอไปถึงที่หาด โอ้โห้ คนเยอะมากกกแบบเยอะสุดๆ แม่ค้าแถวนั้นบอกว่านี่ยังเรียกว่าไม่เยอะนะ ถ้าเป็นเทศกาลคนเยอะกว่านี้หลายเท่าไม่อยากจะคิดสภาพ
วิวระหว่างทางไปหาดตาแหวน
มาถึงที่นี่สิ่งต้องทำคือเล่น บานาน่าโบ๊ท ราคาคนล่ะ 100 เล่นได้ 1 รอบ จะล้มกี่ครั้งก็แล้วแต่เราเลย
แถมได้นั่งเก้าอี้ตรงชายหาดฟรีด้วยนะ คุ้มไหมแบบนี้ 555
เล่นไปเล่นมาชักหิวข้าว ได้เวลากลับไปกินข้าวกันแล้วสินะ ทางกลับที่พักจะมีตลาดนัดตอนเย็นอยู่ มีของขายค่อนข้างเยอะพอควร
ทั้งกับข้าว อาหารทะเล แต่มาถึงทะเลทั้งที่ จะกินไก่ทอดก็ไม่ใช่ถูกไหม มุ่งตรงไปหาของทะเลกินกันดีกว่าค่ะ
มีร้านขายอาหารทะเลเยอะอยู่ประมาณ 3-4 ร้าน ซึ่งขายของเหมือนๆกัน แต่จะเลือกร้านไหนดีต้องมาดูที่ของค่ะว่าสดไหม วิธีดูดังนี้เลย
-ปลาหมึก หนังปลาหมึกต้องขาวๆใสๆ ถ้ามันแดงๆแสดงว่ามันจะเน่าแล้ว ซึ่งเราแอบเห็นร้านหนึ่ง แดงทั้งแผงเลยคร่า น่ากลัวมาก
-ปลา ให้ดูที่ตาและเหงือกค่ะ ตาต้องใส เหงือกต้องแดง แสดงว่าปลาสด แต่ถ้าตาแดงเหงือกคล้ำแสดงว่าไม่สด ผ่านมาการตายมานานมากแล้วจริงๆ
-กุ้ง (ในรูปนี่คือกุ้งแม่น้ำ) ดูตัวที่หัวมันไม่หลุด หรือเวลายกแล้วหัวขาดง่าย นั่นแสดงว่ามันไม่สดแล้วค่ะ
-ปู ต้องจับตัวที่มันแน่นๆ ถ้าบีบแล้วมันจะแน่นๆ หยิบใส่ตะกร้าโลด
-หอย อันนี้ต้องพิสูจน์โดยการดมค่ะ ดมมันไปค่ะ ตัวไหนไม่มีกลิ่นคือใช้ได้ แต่อันนี้เข้าใจว่ามานั่งดมทีละตัวคงไม่ไหว ก็ปนๆกันไปเนอะ
มื้อนี้ค่าเสียหาย 1300 บาท ได้กุ้งแม่น้ำมา 2 โล ปลาหมึก 1 โล หอยแมลงภู่ 1 โล นิดๆ หอยหวาน อีก 1 โล
ราคาถือว่าไม่ถูกไม่แพง บริการปิ้งย่างให้อีกด้วย
ระหว่างนั่งรออาหารก็มานั่งชมวิว ริมทะเล อากาศเย็นสบาย
และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง กินค่ะ
อ่อลืมบอกที่พักอยู่ใกล้กับ ร้านมาหารัก เลยได้นั่งฟังดนตรีจากร้านเค้าฟรีๆ
ต่อในคอมเม้นท์นะคะ
เข้าไปสอบถามพูดคุยกับพวกเราได้ที่ https://www.facebook.com/getalongwell.net/ นะคะ