ทริปนี้เป็นทริปที่เราตั้งใจจะไปถ่าย Pre wedding ใน Studio ที่ Seoul ค่ะ ... แต่ไหนๆก็ไปทั้งที
แถมแรงบันดาลใจในการไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่เกาหลีก็มาจากคู่รัก 'ยงซอ' ในรายการ We got married อยู่แล้ว
จุดหมายปลายทางของเราทริปนี้คือ "พูซาน" เมืองที๋สำคัญของประเทศเกาหลีใต้อีกเมืองหนึ่ง
มาเริ่มทริปกันเลยดีกว่าเนอะ ^^

ปล่อยทีเซอร์กันให้ดูเล่นๆไปก่อน ... (ทีเซอร์นี้ไม่ได้ตั้งใจจะมี ... แต่ภาพเหลือเสียดายเลยเอามายำ ^^")
ตอน ๑ แพลนทริปถ่ายพรีเวด Outdoor ที่เกาหลี โดยมี 'หม่ามี๊' เป็นตากล้อง
เนื่องจากเกริ่นนำคือเราตั้งใจไปถ่ายรูปพรีในสตูดิโอที่เกาหลีอยู่แล้ว อ่านไม่ผิดกันเลยค่ะ 'หม่ามี๊ หม่าม๊า' หรือขุ่นมารดาของเรานี่แหละค่ะ
จะเป็นช่างภาพถ่ายรูปพรีเวด Outdoor ให้เราสองคน ^^

หลังจากเราได้คอนเฟิร์มวันที่เราจะได้ถ่ายในสตูดิโอเรียบร้อยแล้ว เราก็จองตั๋วเครื่องบิน แพลนทริป ซึ่งทริปนี้เราไปทั้งหมด 7 วันค่ะ
ที่พัก
Busan 2 Night : เราตั้งใจไม่จองห้องพักไว้ล่วงหน้า เพราะดูจากใน Google map แล้วว่าตรงแหล่งท่องเที่ยวที่พักเยอะมาก ทั้งหาดแฮอุนแด หรือแถวนัมโพดง เอง รวมถึงเราหาข้อมูลแบบ inside ค้นหาแบบเป็นภาษาเกาหลีก็เจอที่พักเปิดใหม่หลายที่ ที่ไม่มีใน Agoda / Booking เลยทำ Map ไว้คร่าวๆ (ที่มีๆรีวิวไว้เราว่ามันเก่า เลยลองวิธีนี้ แถมข้อมูล inside บอกว่าราคาพันกว่าบาท)
Gapyeong 1 Night : กาพยอง (กา-พยอง) เป็นเมืองเล็กๆที่ถัดไปจากเกาะนามิ เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านวัฒนธรรมฝรั่งเศส Petite France (쁘띠프랑스) ที่เราอยากหนีทัวร์มาที่นี่ทุกครั้งเพราะนั่ง Taxi มาใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง จริงๆแล้วเรากะจะนอนที่เกาะนามิ เป็นสไตล์ฮันนก Traditional Korean แต่เต็มค่ะ เราเลยดูที่พักสำรองเผื่อไว้เป็น egg house ไม่ไกลจากเกาะนามิ แถมจะได้เดินเล่นในเมืองชุนชอน ที่ถ่ายทำฉากซีรี่ย์ winter love song แต่สุดท้ายมาจบลงที่ Petite France (쁘띠프랑스) ที่เคยรู้ว่าเป็นแต่ที่ท่องเที่ยว ไม่ยักกะรู้ว่ามาที่พัก เพราะความขี้เกียจตีรถไปมา เสียเวลา
วิธีการจอง www.pfcamp.com เข้าไปเลือกดูประเภทห้องที่เราต้องการ แล้วเราก็โทรตรงไปจองเลยเพราะเราอื่นเงื่อนไขดูมันมีเรื่องโอนเงินจองอะไรด้วย +8231-584-8200 คอนเฟิร์มวัน ราคาอยู่ประมาณ 3,300 บาท
SEOUL 2 Night : สำหรับที่พักในโซล ซึ่งการเข้าโซลจุดประสงค์หลักเราคือการมาถ่ายพรีเวด เราก็ต้องการที่พักใกล้สตูที่สุด เลยให้สตูดิโอแนะนำเลย จบ! เค้าก็เลยแนะนำเป็น Ellui Hotel เข้าไปอ่านรีวิวก็ใช้ได้ เน้นแค่คอมเมนท์ตอนจองไว้ว่า “ช่วยทำความสะอาดและดับกลิ่นบุหรี่ให้ด้วย แพ้กลิ่นบุหรี่อย่างแรงค่ะ” ซึ่งโรงแรมนี้ก็ตั้งอยู่ย่านคังนัม เชื่อมต่อกับชองดัมดง ซึ่งเป็นดงสำหรับงานติ่ง ทั้ง SM JYP CUBE เพียบอ่ะ!
การเดินทางภายในประเทศ
ระหว่างจังหวัด
จากโซลไปพูซาน ไปได้ 2 วิธี คือต่อเครื่องในประเทศบินไป ใช้เวลา 50 นาที หรือนั่ง KTX รถไฟความเร็วสูงไปใช้เวลาประมาณ 3.40 ชั่วโมง ทริปนี้เราเลือกนั่ง KTX ไปค่ะ ดูแค่ตารางเวลาว่ามีออกจากสนามบินอินชอนเลยตอนไหนบ้าง และออกจาก Seoul Station ตอนไหนบ้าง (เผื่อไว้กันเหนียว)
www.letskorail.com
ภายในจังหวัด
T-money บัตรเดียวสุดคุ้ม สามารถใช้ได้ทั้งในโซล และพูซานก็เช่นกัน การเดินทางของเราส่วนใหญ่ชอบใช้รถเมล์ค่ะ เพราะมีมะม๊าไปด้วย ไม่ต้องเดินขึ้นลงสถานีต่างๆเยอะ
ไป – กลับสนามบิน
เนื่องจากเราลงที่สนามบินและพุ่งไปพูซานเลย เราจึงได้ใช้บริการรถตรงมาสนามบินแค่ขากลับคือ ลีมูซีนบัส นั่งจากหน้าโรงแรมของเราเลยค่ะ Ellui Hotel
การเดินทางระหว่างประเทศ
Air asia X ขาไปเที่ยวบิน XJ700 01.55 ถึงสนามบินอินชอน 09.10 น
ขากลับ XJ701 เวลา 11.15 น. ถึงสนามบินดอนเมือง 14.50 น.
Pocket Wifi เราใช้ของ Korea easy wifi เป็นประจำค่ะ ใช้วันละ 190 บาท สำหรับใครไม่มีบัตร T-money ส่วนตัว Korea easy wifi ก็มีบริการให้ยืมฟรีค่ะ ใครที่กลัวว่าจะใช้ไม่หมด มีเงินค้างบัตร อย่าลืมโหลดแอพ T-money มาใช้นะคะ แค่ทาบบัตรไว้หลังมือถือก็ขึ้นยอดเงินคงเหลือในบัตรแล้วค่ะ เอาไปใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อให้หมดเกลี้ยงได้เลย ^^”
เรามาเกาหลีครั้งนี้รอบที่ 13 ละ! แผนที่ใน Seoul อยู่ในหัวหมดแล้ว ส่วน Busan ก็เคยอยู่ใน Plan trip 12 วัน (Incheon – DMC – JeonJu – Kyeongju – Daegu – Busan – Seoul) เลยไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เตรียมแค่ตัวอย่างภาพพรีเวดสไตล์ที่ชอบ Acting อะไรอย่างนี้ เซฟๆใส่มือถือไว้ส่วนหนึ่งปริ้นท์ด้วยส่วนหนึ่ง ... ไว้ให้สตูเหรอ? ไม่ใช่ค่ะ ^^? ช่างภาพประจำทริปสั่งมา นั่นก็คือ 'หม่าม๊า' ของเรานี่เองค่ะ!
เพราะมันเป็น Pre wedding ก็คือยังไม่แต่งงาน 'หม่าม๊า' เลยต้องมาเป็นเพื่อนค่ะ แถมเป็นช่างภาพให้ด้วยอีกต่างหาก
Inspiration ในสตูคือ 'ยงซอ' แต่แรงบันดาลใจของการถ่ายพรี Outdoor นี้มาจากคลิปนี้ค่ะ ... ซึ่งเราคิดไว้ว่าจะทำ Slide show แบบนี้คือสลับภาพวีดีโอกับภาพนิ่งไว้เปิดในงานแต่ง ทั้งงาน! ไม่ใช้ดนตรีสด!

ตอน ๒ อันนยอง Busan “แพลน” ดีแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะไม่ “พลาด” !!!
เราออกจากโคราชตอน 16.00 น. ระหว่างทางเรา Line คอนเฟิร์มเวลารับ Pocket กับทาง Koreaeasywifi แต่ปลายทางส่งกลับตอบมาว่าไฟล์ทของเราดีเลย์ เช็คเวลาอีกที ... เราก็รีบเช็คค่ะ ปรากฏว่าดีเลย์จริงๆ จากแพลนที่เราจะไปถึงที่สนามบินอินชอนตอน 9 โมงเช้า ต่อ KTX จากอินชอนไปเที่ยวรถตอนเที่ยง ถึงพูซานตอนเย็นๆ กลับกลายเป็น 05.00 น.ออกจากดอนเมือง เครื่องถึงอินชอนบ่ายโมงกว่า งานเข้าล่ะค่าคราวนี้! ในความโชคร้ายยังมีโชคดี คือ ไม่ได้จองเที่ยวรถไว้ ไม่งั้นก็คงเสียเงินฟรี!

เราถึงอินชอนปุ๊ป ก็ดิ่งตรงไปชั้นใต้ดิน หาของกินกันก่อนเลยค่ะ เพราะเราดูกันแล้วว่าเที่ยวรถเราจะออกจากอินชอนได้อีกทีก็สี่โมงเย็น ชั้นใต้ดินเป็น Food curd นานาชาติ ชื่อว่า Food on air แอบเห็นผัดไทยด้วยแหละ คนเกาหลีสั่งกันเยอะอยู่ แต่เราคนไทย! กินผัดไทยกินที่บ้านก็ได้นะคะ ฟาดอาหารเกาหลีมื้อแรกกันโซ้ยเรียบ เสร็จเรียบร้อยก็เสริมหล่อ เสริมสวยกันหน่อยเพราะทริปนี้เรากะเก็บภาพไว้ไป Slide show ในงานแต่งงาน
มาถึงเคาท์เตอร์ KTX ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางก่อนเดินไปถึงทางเข้าสถานี ยื่นตั๋วที่จองมาในเน็ตอย่างมั่นใจ คนออกตั๋วถามว่า ”ออกตั๋วใบเดียวเหรอคะ?” หืมมมมมมม o.O? เค้าคงเห็นเรามาสองคน!!! เราบอกเค้าว่า 3 คนค่ะ เราจองมาแบบ Group saver เค้าบอกว่า ที่จองมาแบบ Group saver แต่จองมาชื่อแค่คนเดียว! เราก็งงคิดว่าเป็นอารมณ์ตั๋วใบเดียว ใช้ 3 คน ก็เห็นเขียนว่า Group saver เค้าเลยทำการ cancle บัตรเครดิต ออกตั๋วใหม่ 3 ใบเรียบร้อย
จริงๆก่อนหน้านี้เราวิเคราะห์กันว่าที่ Seoul Station มีรถออกไป Busan ทุกๆชั่วโมง แต่รอบที่สนามบินอินชอนมีน้อยกว่า ซึ่งถ้าเรานั่งรถไฟไป Seoul Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จะทำให้เราไปถึง Busan เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง แต่... ผู้โดยสารอีก 2 ท่านลงความเห็นว่ารออยู่ที่นี่แหละ เพื่อความชัวร์! เอา! ชัวร์ก็ชัวร์! เลยนั่งเล่นเดินถ่ายรูป เก็บภาพ ถ่ายวีดีโอรอ ได้ขึ้น KTX ปุ๊บ มโนฟีล “ยงซอ WGM (Wegotmarried) มาเต็ม #งานติ่งต้องมา อินมาก! อินอยู่คนเดียว! ฮ่าฮ่า

ชอบ Location ตรงนี้ คล้ายๆ MV Super Junior mv นึง ... ขอแวะเก็บภาพเผื่อเอาไปใช้ทำอะไรได้ อิอิ #งานติ่งต้องมา

Location นี้ฟีลซีรี่ย์สุดฮิตสมัย 10 กว่าปีก่อน ... สวนกันไปสวนกันมาไม่เจอกันสักที ^^
เรามาถึง Busan เกือบ 2 ทุ่ม มุดใต้ดินตรงไปสถานี “นัมโพ” ย่างนัมโพดง ซึ่งเป็นจุดที่เราแพลนไว้ในการหาที่พัก ออกมาจากสถานี เนื่องจากเรามีกระเป๋าใบใหญ่เราสามารถติ๊ดบัตรตรงช่องคนพิการในการนะตัวและกระเป๋าเราออกมาพร้อมกันค่ะ (คนเกาหลีให้ทำแบบนี้)
ออกมาจากสถานีนัมโพดง Exit 7 มองไปทางซ้าย “เมียงดง” เลยตรงนี้ แค่ในสถานีก็มีสิ่งเย้ายวนใจ อยากนำเงินในกระเป๋าเราออกไปตลอดเวลา แฟชั่น Seoul แต่ราคา Busan แต่! ณ เวลานี้ หาที่พักกันก่อน เราใช้เส้นทางที่จะเดินไป
Elysee Hotel busan ซึ่งจะผ่าน Nampo wa Hotel ที่เราไม่เจอใน Agoda แต่มันใหม่มาก! ไม่เสียเวลาเดินหา เพราะท้องเรียกหาอะไรลงท้อง เลยถาม “อาจูม่า” คุณป้าแถวนั้น ... โชคดีที่ป้ารู้จักค่ะ และบอกทางให้เราเดินไป จริงๆคือจากในแผนที่ของเราที่เป็นเส้นประสีแดง จุดกลมๆสีน้ำเงินนั้นเป็นลานจอดรถค่ะ และตึกสูงๆนั่นเลยคือโรงแรม เรามองไม่เห็นป้ายชื่อโรงแรมจึงเดินเลยไป ใกล้มากๆ
เข้าไปถึงก็ถามเลยมีที่พักว่างมั้ย? เรามาในคืนวันพฤหัส และจะพักที่นี่วันพฤหัส กับ ศุกร์ ซึ่งปกติแล้วถ้ามาสองคน ค่าห้องจะอยู่ที่ 1,800 บาท แต่เรามากัน 3 คน จึงคิดเป็นราคา 2,200 บาท เปิดประตูห้องเข้าไป ห้องกว้าง สะอาด ใหม่ Modern เตียงใหญ่ แต่ติดตรงห้องน้ำเป็นกระจก แต่ก็ยังดีที่เป็นกระจกฝ้า ซึ่งตอนอาบน้ำ มะม๊าเราอยู่กะแฟนเรา เราให้มะม๊าเอาผ้าคลุมแฟนเราไว้ เพื่อความสบายใจของเรา ฮ่าฮ่า (แม้ว่ามันจะมองไม่เห็นอ่านะ)
วางสัมภาระเรียบร้อย เวลาเหลือน้อยจากที่แพลนไว้ T T รีบจ้ำเท้าตรงไปที่ตลาดปลาจากัลชิ คืออยากเดินเลือก Seafood ทานสดๆในตึกนั้น แต่!!! เครื่องบินดีเลย์ทำให้เรามาสาย!!! และตึกปิดแล้วจ้า!!! (โกรธนะบอกเลย) เลย Drop ตัวเองไว้ที่ร้านฝั่งตรงข้ามหลังจากที่เราเดินเลือกๆดูระแวกนั้น พบว่าเจ้านี้ดูใส่ใจบริการ แมว่าตอนนี้จะเป็นเวลา 3 ทุ่มครึ่ง เราเลยถามคุณป้าว่าร้านปิดกี่โมง คุณป้าบอกว่าเปิดตลอด 24 ชั่วโมงจ้า ~ สุดยอดจริงๆ! เราสั่งแฮมุลทัง ชาบู Seafood และแฟนเราสั่งปลาดิบ หลังจากสั่งเสร็จเราก็เดินไปเพื่อถ่ายรูปสัตว์ทะเลที่เวียนว่าย(ตายเกิด) เชฟพืออออ~ ผู้ชายก็เอามือล้วงลงไปในตู้กระจกที่เลี้ยงปลา จับหัวปลาขึ้นมาวางบนเขียง แล่เนื้อ ชั๊วะ!!! สดพอมั้ย??? คนสั่งเมนูนี้ไม่ได้เห็น คนเห็นไม่ได้กิน โชคดีไป! เรากินอาหารทะเลไม่ค่อยได้ กินแล้วจากซีฟู๊ด จะกลายเป็น ซีจู๊ดๆ ตลอดเลย ยกเว้น! ต้องสดมากๆ และสุกๆด้วยค่ะ ซึ่งในหม้อแฮมุลทัง มันท่าทานเกินห้ามใจ แอบบอกหม่าม๊าว่า เราเอายาแก้ท้องเสียมา มื้อนี้ขอละนะ! จบด้วย “โซจู” ล้างท้องฆ่าเชื้อ ไม่น่าจะท้องเสีย (ปกติเราสามคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ แต่แฟนมาเกาหลีครั้งแรก อยากลอง! เลยจัดไป!)
อิ่มแปล้ตอนเวลา 5 ทุ่ม ยังคงรันโปรแกรมต่อ ... เดินไปที่ Biff square ความคึกครื้นบนถนนสายบันเทิงหายไปหมดแล้ว โชคดีที่ยังเจอ “ ซี อัจ โฮ ต๊อก” ขนมท้องถิ่นที่มีเฉพาะที่พูซานเท่านั้น … แม้ว่าจะอิ่ม! แม้ว่าตอนนี้จะห้าทุ่มกว่า! อย่าไปแคร์ ร้าน“ ซี อัจ โฮ ต๊อก” เป็นร้านรถเข็นเข้ามาตรง main gate Biff square ที่ๆมีลายปั๊มมือดาราเยอะๆ หาไม่ยากค่ะ!!! ถ้าไม่ติดว่าอิ่มพุงจะระเบิด รับรองว่าได้เบิ้ลหลายชิ้นแน่ๆนอน ชอบมากๆ ^^
[img]http://f.ptcdn.info/536/043/000/o8r930287l3M1C01
[CR] Prewedding Outdoor @ Korea สุดติ่ง เน้นอิงซีรี่ย์ และ มี 'หม่ามี๊' เป็นตากล้อง
แถมแรงบันดาลใจในการไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่เกาหลีก็มาจากคู่รัก 'ยงซอ' ในรายการ We got married อยู่แล้ว
จุดหมายปลายทางของเราทริปนี้คือ "พูซาน" เมืองที๋สำคัญของประเทศเกาหลีใต้อีกเมืองหนึ่ง
มาเริ่มทริปกันเลยดีกว่าเนอะ ^^
ตอน ๑ แพลนทริปถ่ายพรีเวด Outdoor ที่เกาหลี โดยมี 'หม่ามี๊' เป็นตากล้อง
เนื่องจากเกริ่นนำคือเราตั้งใจไปถ่ายรูปพรีในสตูดิโอที่เกาหลีอยู่แล้ว อ่านไม่ผิดกันเลยค่ะ 'หม่ามี๊ หม่าม๊า' หรือขุ่นมารดาของเรานี่แหละค่ะ
จะเป็นช่างภาพถ่ายรูปพรีเวด Outdoor ให้เราสองคน ^^
หลังจากเราได้คอนเฟิร์มวันที่เราจะได้ถ่ายในสตูดิโอเรียบร้อยแล้ว เราก็จองตั๋วเครื่องบิน แพลนทริป ซึ่งทริปนี้เราไปทั้งหมด 7 วันค่ะ
ที่พัก
Busan 2 Night : เราตั้งใจไม่จองห้องพักไว้ล่วงหน้า เพราะดูจากใน Google map แล้วว่าตรงแหล่งท่องเที่ยวที่พักเยอะมาก ทั้งหาดแฮอุนแด หรือแถวนัมโพดง เอง รวมถึงเราหาข้อมูลแบบ inside ค้นหาแบบเป็นภาษาเกาหลีก็เจอที่พักเปิดใหม่หลายที่ ที่ไม่มีใน Agoda / Booking เลยทำ Map ไว้คร่าวๆ (ที่มีๆรีวิวไว้เราว่ามันเก่า เลยลองวิธีนี้ แถมข้อมูล inside บอกว่าราคาพันกว่าบาท)
Gapyeong 1 Night : กาพยอง (กา-พยอง) เป็นเมืองเล็กๆที่ถัดไปจากเกาะนามิ เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านวัฒนธรรมฝรั่งเศส Petite France (쁘띠프랑스) ที่เราอยากหนีทัวร์มาที่นี่ทุกครั้งเพราะนั่ง Taxi มาใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง จริงๆแล้วเรากะจะนอนที่เกาะนามิ เป็นสไตล์ฮันนก Traditional Korean แต่เต็มค่ะ เราเลยดูที่พักสำรองเผื่อไว้เป็น egg house ไม่ไกลจากเกาะนามิ แถมจะได้เดินเล่นในเมืองชุนชอน ที่ถ่ายทำฉากซีรี่ย์ winter love song แต่สุดท้ายมาจบลงที่ Petite France (쁘띠프랑스) ที่เคยรู้ว่าเป็นแต่ที่ท่องเที่ยว ไม่ยักกะรู้ว่ามาที่พัก เพราะความขี้เกียจตีรถไปมา เสียเวลา
วิธีการจอง www.pfcamp.com เข้าไปเลือกดูประเภทห้องที่เราต้องการ แล้วเราก็โทรตรงไปจองเลยเพราะเราอื่นเงื่อนไขดูมันมีเรื่องโอนเงินจองอะไรด้วย +8231-584-8200 คอนเฟิร์มวัน ราคาอยู่ประมาณ 3,300 บาท
SEOUL 2 Night : สำหรับที่พักในโซล ซึ่งการเข้าโซลจุดประสงค์หลักเราคือการมาถ่ายพรีเวด เราก็ต้องการที่พักใกล้สตูที่สุด เลยให้สตูดิโอแนะนำเลย จบ! เค้าก็เลยแนะนำเป็น Ellui Hotel เข้าไปอ่านรีวิวก็ใช้ได้ เน้นแค่คอมเมนท์ตอนจองไว้ว่า “ช่วยทำความสะอาดและดับกลิ่นบุหรี่ให้ด้วย แพ้กลิ่นบุหรี่อย่างแรงค่ะ” ซึ่งโรงแรมนี้ก็ตั้งอยู่ย่านคังนัม เชื่อมต่อกับชองดัมดง ซึ่งเป็นดงสำหรับงานติ่ง ทั้ง SM JYP CUBE เพียบอ่ะ!
การเดินทางภายในประเทศ
ระหว่างจังหวัด
จากโซลไปพูซาน ไปได้ 2 วิธี คือต่อเครื่องในประเทศบินไป ใช้เวลา 50 นาที หรือนั่ง KTX รถไฟความเร็วสูงไปใช้เวลาประมาณ 3.40 ชั่วโมง ทริปนี้เราเลือกนั่ง KTX ไปค่ะ ดูแค่ตารางเวลาว่ามีออกจากสนามบินอินชอนเลยตอนไหนบ้าง และออกจาก Seoul Station ตอนไหนบ้าง (เผื่อไว้กันเหนียว)
www.letskorail.com
ภายในจังหวัด
T-money บัตรเดียวสุดคุ้ม สามารถใช้ได้ทั้งในโซล และพูซานก็เช่นกัน การเดินทางของเราส่วนใหญ่ชอบใช้รถเมล์ค่ะ เพราะมีมะม๊าไปด้วย ไม่ต้องเดินขึ้นลงสถานีต่างๆเยอะ
ไป – กลับสนามบิน
เนื่องจากเราลงที่สนามบินและพุ่งไปพูซานเลย เราจึงได้ใช้บริการรถตรงมาสนามบินแค่ขากลับคือ ลีมูซีนบัส นั่งจากหน้าโรงแรมของเราเลยค่ะ Ellui Hotel
การเดินทางระหว่างประเทศ
Air asia X ขาไปเที่ยวบิน XJ700 01.55 ถึงสนามบินอินชอน 09.10 น
ขากลับ XJ701 เวลา 11.15 น. ถึงสนามบินดอนเมือง 14.50 น.
Pocket Wifi เราใช้ของ Korea easy wifi เป็นประจำค่ะ ใช้วันละ 190 บาท สำหรับใครไม่มีบัตร T-money ส่วนตัว Korea easy wifi ก็มีบริการให้ยืมฟรีค่ะ ใครที่กลัวว่าจะใช้ไม่หมด มีเงินค้างบัตร อย่าลืมโหลดแอพ T-money มาใช้นะคะ แค่ทาบบัตรไว้หลังมือถือก็ขึ้นยอดเงินคงเหลือในบัตรแล้วค่ะ เอาไปใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อให้หมดเกลี้ยงได้เลย ^^”
เรามาเกาหลีครั้งนี้รอบที่ 13 ละ! แผนที่ใน Seoul อยู่ในหัวหมดแล้ว ส่วน Busan ก็เคยอยู่ใน Plan trip 12 วัน (Incheon – DMC – JeonJu – Kyeongju – Daegu – Busan – Seoul) เลยไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เตรียมแค่ตัวอย่างภาพพรีเวดสไตล์ที่ชอบ Acting อะไรอย่างนี้ เซฟๆใส่มือถือไว้ส่วนหนึ่งปริ้นท์ด้วยส่วนหนึ่ง ... ไว้ให้สตูเหรอ? ไม่ใช่ค่ะ ^^? ช่างภาพประจำทริปสั่งมา นั่นก็คือ 'หม่าม๊า' ของเรานี่เองค่ะ!
เพราะมันเป็น Pre wedding ก็คือยังไม่แต่งงาน 'หม่าม๊า' เลยต้องมาเป็นเพื่อนค่ะ แถมเป็นช่างภาพให้ด้วยอีกต่างหาก
Inspiration ในสตูคือ 'ยงซอ' แต่แรงบันดาลใจของการถ่ายพรี Outdoor นี้มาจากคลิปนี้ค่ะ ... ซึ่งเราคิดไว้ว่าจะทำ Slide show แบบนี้คือสลับภาพวีดีโอกับภาพนิ่งไว้เปิดในงานแต่ง ทั้งงาน! ไม่ใช้ดนตรีสด!
ตอน ๒ อันนยอง Busan “แพลน” ดีแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะไม่ “พลาด” !!!
เราออกจากโคราชตอน 16.00 น. ระหว่างทางเรา Line คอนเฟิร์มเวลารับ Pocket กับทาง Koreaeasywifi แต่ปลายทางส่งกลับตอบมาว่าไฟล์ทของเราดีเลย์ เช็คเวลาอีกที ... เราก็รีบเช็คค่ะ ปรากฏว่าดีเลย์จริงๆ จากแพลนที่เราจะไปถึงที่สนามบินอินชอนตอน 9 โมงเช้า ต่อ KTX จากอินชอนไปเที่ยวรถตอนเที่ยง ถึงพูซานตอนเย็นๆ กลับกลายเป็น 05.00 น.ออกจากดอนเมือง เครื่องถึงอินชอนบ่ายโมงกว่า งานเข้าล่ะค่าคราวนี้! ในความโชคร้ายยังมีโชคดี คือ ไม่ได้จองเที่ยวรถไว้ ไม่งั้นก็คงเสียเงินฟรี!
เราถึงอินชอนปุ๊ป ก็ดิ่งตรงไปชั้นใต้ดิน หาของกินกันก่อนเลยค่ะ เพราะเราดูกันแล้วว่าเที่ยวรถเราจะออกจากอินชอนได้อีกทีก็สี่โมงเย็น ชั้นใต้ดินเป็น Food curd นานาชาติ ชื่อว่า Food on air แอบเห็นผัดไทยด้วยแหละ คนเกาหลีสั่งกันเยอะอยู่ แต่เราคนไทย! กินผัดไทยกินที่บ้านก็ได้นะคะ ฟาดอาหารเกาหลีมื้อแรกกันโซ้ยเรียบ เสร็จเรียบร้อยก็เสริมหล่อ เสริมสวยกันหน่อยเพราะทริปนี้เรากะเก็บภาพไว้ไป Slide show ในงานแต่งงาน
มาถึงเคาท์เตอร์ KTX ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางก่อนเดินไปถึงทางเข้าสถานี ยื่นตั๋วที่จองมาในเน็ตอย่างมั่นใจ คนออกตั๋วถามว่า ”ออกตั๋วใบเดียวเหรอคะ?” หืมมมมมมม o.O? เค้าคงเห็นเรามาสองคน!!! เราบอกเค้าว่า 3 คนค่ะ เราจองมาแบบ Group saver เค้าบอกว่า ที่จองมาแบบ Group saver แต่จองมาชื่อแค่คนเดียว! เราก็งงคิดว่าเป็นอารมณ์ตั๋วใบเดียว ใช้ 3 คน ก็เห็นเขียนว่า Group saver เค้าเลยทำการ cancle บัตรเครดิต ออกตั๋วใหม่ 3 ใบเรียบร้อย
จริงๆก่อนหน้านี้เราวิเคราะห์กันว่าที่ Seoul Station มีรถออกไป Busan ทุกๆชั่วโมง แต่รอบที่สนามบินอินชอนมีน้อยกว่า ซึ่งถ้าเรานั่งรถไฟไป Seoul Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จะทำให้เราไปถึง Busan เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง แต่... ผู้โดยสารอีก 2 ท่านลงความเห็นว่ารออยู่ที่นี่แหละ เพื่อความชัวร์! เอา! ชัวร์ก็ชัวร์! เลยนั่งเล่นเดินถ่ายรูป เก็บภาพ ถ่ายวีดีโอรอ ได้ขึ้น KTX ปุ๊บ มโนฟีล “ยงซอ WGM (Wegotmarried) มาเต็ม #งานติ่งต้องมา อินมาก! อินอยู่คนเดียว! ฮ่าฮ่า
ชอบ Location ตรงนี้ คล้ายๆ MV Super Junior mv นึง ... ขอแวะเก็บภาพเผื่อเอาไปใช้ทำอะไรได้ อิอิ #งานติ่งต้องมา
Location นี้ฟีลซีรี่ย์สุดฮิตสมัย 10 กว่าปีก่อน ... สวนกันไปสวนกันมาไม่เจอกันสักที ^^
เรามาถึง Busan เกือบ 2 ทุ่ม มุดใต้ดินตรงไปสถานี “นัมโพ” ย่างนัมโพดง ซึ่งเป็นจุดที่เราแพลนไว้ในการหาที่พัก ออกมาจากสถานี เนื่องจากเรามีกระเป๋าใบใหญ่เราสามารถติ๊ดบัตรตรงช่องคนพิการในการนะตัวและกระเป๋าเราออกมาพร้อมกันค่ะ (คนเกาหลีให้ทำแบบนี้)
ออกมาจากสถานีนัมโพดง Exit 7 มองไปทางซ้าย “เมียงดง” เลยตรงนี้ แค่ในสถานีก็มีสิ่งเย้ายวนใจ อยากนำเงินในกระเป๋าเราออกไปตลอดเวลา แฟชั่น Seoul แต่ราคา Busan แต่! ณ เวลานี้ หาที่พักกันก่อน เราใช้เส้นทางที่จะเดินไป
Elysee Hotel busan ซึ่งจะผ่าน Nampo wa Hotel ที่เราไม่เจอใน Agoda แต่มันใหม่มาก! ไม่เสียเวลาเดินหา เพราะท้องเรียกหาอะไรลงท้อง เลยถาม “อาจูม่า” คุณป้าแถวนั้น ... โชคดีที่ป้ารู้จักค่ะ และบอกทางให้เราเดินไป จริงๆคือจากในแผนที่ของเราที่เป็นเส้นประสีแดง จุดกลมๆสีน้ำเงินนั้นเป็นลานจอดรถค่ะ และตึกสูงๆนั่นเลยคือโรงแรม เรามองไม่เห็นป้ายชื่อโรงแรมจึงเดินเลยไป ใกล้มากๆ
เข้าไปถึงก็ถามเลยมีที่พักว่างมั้ย? เรามาในคืนวันพฤหัส และจะพักที่นี่วันพฤหัส กับ ศุกร์ ซึ่งปกติแล้วถ้ามาสองคน ค่าห้องจะอยู่ที่ 1,800 บาท แต่เรามากัน 3 คน จึงคิดเป็นราคา 2,200 บาท เปิดประตูห้องเข้าไป ห้องกว้าง สะอาด ใหม่ Modern เตียงใหญ่ แต่ติดตรงห้องน้ำเป็นกระจก แต่ก็ยังดีที่เป็นกระจกฝ้า ซึ่งตอนอาบน้ำ มะม๊าเราอยู่กะแฟนเรา เราให้มะม๊าเอาผ้าคลุมแฟนเราไว้ เพื่อความสบายใจของเรา ฮ่าฮ่า (แม้ว่ามันจะมองไม่เห็นอ่านะ)
วางสัมภาระเรียบร้อย เวลาเหลือน้อยจากที่แพลนไว้ T T รีบจ้ำเท้าตรงไปที่ตลาดปลาจากัลชิ คืออยากเดินเลือก Seafood ทานสดๆในตึกนั้น แต่!!! เครื่องบินดีเลย์ทำให้เรามาสาย!!! และตึกปิดแล้วจ้า!!! (โกรธนะบอกเลย) เลย Drop ตัวเองไว้ที่ร้านฝั่งตรงข้ามหลังจากที่เราเดินเลือกๆดูระแวกนั้น พบว่าเจ้านี้ดูใส่ใจบริการ แมว่าตอนนี้จะเป็นเวลา 3 ทุ่มครึ่ง เราเลยถามคุณป้าว่าร้านปิดกี่โมง คุณป้าบอกว่าเปิดตลอด 24 ชั่วโมงจ้า ~ สุดยอดจริงๆ! เราสั่งแฮมุลทัง ชาบู Seafood และแฟนเราสั่งปลาดิบ หลังจากสั่งเสร็จเราก็เดินไปเพื่อถ่ายรูปสัตว์ทะเลที่เวียนว่าย(ตายเกิด) เชฟพืออออ~ ผู้ชายก็เอามือล้วงลงไปในตู้กระจกที่เลี้ยงปลา จับหัวปลาขึ้นมาวางบนเขียง แล่เนื้อ ชั๊วะ!!! สดพอมั้ย??? คนสั่งเมนูนี้ไม่ได้เห็น คนเห็นไม่ได้กิน โชคดีไป! เรากินอาหารทะเลไม่ค่อยได้ กินแล้วจากซีฟู๊ด จะกลายเป็น ซีจู๊ดๆ ตลอดเลย ยกเว้น! ต้องสดมากๆ และสุกๆด้วยค่ะ ซึ่งในหม้อแฮมุลทัง มันท่าทานเกินห้ามใจ แอบบอกหม่าม๊าว่า เราเอายาแก้ท้องเสียมา มื้อนี้ขอละนะ! จบด้วย “โซจู” ล้างท้องฆ่าเชื้อ ไม่น่าจะท้องเสีย (ปกติเราสามคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ แต่แฟนมาเกาหลีครั้งแรก อยากลอง! เลยจัดไป!)
อิ่มแปล้ตอนเวลา 5 ทุ่ม ยังคงรันโปรแกรมต่อ ... เดินไปที่ Biff square ความคึกครื้นบนถนนสายบันเทิงหายไปหมดแล้ว โชคดีที่ยังเจอ “ ซี อัจ โฮ ต๊อก” ขนมท้องถิ่นที่มีเฉพาะที่พูซานเท่านั้น … แม้ว่าจะอิ่ม! แม้ว่าตอนนี้จะห้าทุ่มกว่า! อย่าไปแคร์ ร้าน“ ซี อัจ โฮ ต๊อก” เป็นร้านรถเข็นเข้ามาตรง main gate Biff square ที่ๆมีลายปั๊มมือดาราเยอะๆ หาไม่ยากค่ะ!!! ถ้าไม่ติดว่าอิ่มพุงจะระเบิด รับรองว่าได้เบิ้ลหลายชิ้นแน่ๆนอน ชอบมากๆ ^^
[img]http://f.ptcdn.info/536/043/000/o8r930287l3M1C01