PART I :
http://pantip.com/topic/35250049
PART II :
http://pantip.com/topic/35255660
PART III :
http://pantip.com/topic/35260739
วันที่ ๒๘/๐๕/๕๙
Jogging - Check-out - Golden Mile Tower - Alexsandra Arch and Henderson Waves Bridge - Tiong Bahru (erred) - Chinatown - Home
การได้ล่องเรือ Singapore River Cruise แล้วต่อด้วย Singapore Flyer โดยที่ได้นั่งอยู่คนเดียว
เป็นอะไรที่มีความสุขมากครับ ได้นั่งเงียบๆ คิดอะไรเพลินๆไปเรื่อยๆ
เสริมด้วยการนั่งจิบเบียร์ชิลๆที่ Clarke Quay มองดูบรรยากาศยามค่ำของสิงคโปร์
และทานปูที่ก้ามของมันก็เกือบเท่าแขนของเราที่ Jumbo Seafood
เป็นประสบการณ์ที่คงต้องเอามาเล่าต่อจริงๆครับว่าคุ้มค่าเกินราคา
"อ้วน . . .อ้วน . . .ตื่นได้แล้ว" "ตีห้าแล้ว ไปวิ่ง"
ใช่ครับ...ที่เล่าไปในย่อหน้าแรกผมฝันทั้งหมดเลย แค่เงินจะซื้อของฝากก็แทบจะไม่เหลือแล้ว
จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าตั๋ว Singapore River Cruise , Singapore Flyer และ Jumbo Seafood
ไม่ต้องพูดถึง Jumbo Seafood หรอกครับ ขนาดอยู่สงขลายังไม่กล้าทานเลยครับ๕๕
วันนี้ผมต้องขึ้นรถกลับหาดใหญ่เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. ก็ค่อนข้างมีเวลาให้เที่ยวอีกวันนึง
ผมอยากจะใช้เวลาในสิงคโปร์ให้ช้าที่สุด เพราะไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอีกครั้งตอนไหน
ก่อนนอนผมตั้งใจแล้วว่าพรุ่งนี้จะเก็บภาพสิงคโปร์ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นให้ได้
แต่ผมก็ไม่ได้พากล้องไปออกกำลังกายด้วย ผมพาแค่มือถือไปครับ Let's Go!
เส้นทางวิ่ง : พวกเราวิ่งมาทางถนน Geylang เลี้ยวซ้ายเข้า Ole Terminal Ln
วิ่งไปนิดนึงเจอทางเลียบแม่น้ำก็เปลี่ยนไปวิ่งเลียบแม่น้ำแทนครับ วิ่งไปเรื่อยๆครับ
จะเจอสะพาน Merdeka ก็ข้ามไปครับ วิ่งตรงไปยาวๆจนถึง Esplanade ก็ข้ามสะพาน Jubilee
เราก็จะถึงที่หมายคือ Merlion ครับ แต่วันนั้นเป็นวันที่โชคร้ายวันนึง เพราะฟ้ามืด ฝนกำลังจะตก
และฝนตกครับ
ผมวิ่งผ่าน The Shoppes เลยเก็บภาพไว้ซักนิดนึงครับ
ผ่านมาแล้วรู้สึกคิดถึงครั้งที่มากับโรงเรียน ทำให้นึกถึงเวลาดีๆที่เคยมีด้วยกันครับ
Helix Bridge สะพานเกลียวที่สร้างจำลองสาย DNA ครับ คราวหน้าต้องลองมาถ่ายกลางคืนดูบ้าง
เดินผ่านสวน Youth Olympic ชอบภาพนี้เป็นส่วนตัวเลยเก็บมาฝากครับ
ขากลับก็ย้อนกลับทางเดิมครับ ขอตัวไปอาบน้ำ ทานข้าวก่อนนะครับ
มื้อเช้านี้ก็ฝากท้องกับ Old Chang Kee เหมือนเดิมครับ
ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้อง Check-out ออก Coziee Lodge แล้วครับ
ก็จัดแจงเก็บกระเป๋า คืนผ้าเช็ดตัวที่ยืมมา แล้วก็เอาบิลไปโชว์เพื่อรับเงินค่าประกันคืน
พร้อมเอ่ยคำร่ำลากับครอบครัวคนไทยที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่คืนแรก
แต่เค้าคิดว่าพวกผมเป็นชาวฟิลิปปินส์ และผมก็คิดว่าเค้าเป็นชาวสิงคโปร์ด้วยครับ๕๕
สำหรับ Coziee Lodge เป็นอีกที่ที่แนะนำให้ Backpacker มาพักกันนะครับ เพราะใกล้รถไฟฟ้ามาก
ร้านอาหารบริเวณนั้นก็เปิด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งพนักงานบริการดีมากๆ
ถ้าครั้งหน้ามีจริงก็จะกลับมาพักที่ Coziee Lodge อีกครั้งครับ
พวกเราได้อ่านเจอกระทู้ที่แนะนำสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยไปกัน
หนึ่งในนั้นคือ Alexsandra Arch and Henderson Waves Bridge ครับ
แต่ก่อนอื่น นำกระเป๋าไปฝากไว้ที่ออฟฟิศของ Konsortium ก่อน จะได้ไม่ต้องสะพานหนักเกินไปครับ
ตีกสีเหลืองๆเลยครับ ออฟฟิศจะอยู่หน้าๆตึกเลย สังเกตง่าย
หลังจากฝากของไว้แล้ว แต่ยังไม่เช็คอินนะครับ ค่อยมาเช็คอินใกล้เวลาเดินทาง
มุ่งหน้าสู่ Alexsandra Arch and Henderson Waves Bridge กันครับ
มื้อเที่ยงของเราวันนี้ที่ KFC ครับ
ด้วยความที่ผมเคยมีความทรงจำที่ไม่ดีกับซอสมะเขือเทศ (Ketchup) ที่ Genting Highland
เลยอยากจะลอง KFC ที่สิงคโปร์ดูครับ ผลคือเหมือนกัน แต่ก็ทานได้นะ อันนี้รสนิยมส่วนตัวครับ๕๕
มื้อเที่ยงเรียบร้อยแล้วก็เดินต่อไปที่ Alexsandra Arch ก่อนครับ
แต่พอไปถึงความโชคร้ายก็มาเยือนเพราะผมดันเอากล้องไปทาน KFC ด้วย
พอจะถ่ายรูปเท่านั้นแหละครับ กล้องฝ้าเลย เสียใจมาก มาชมภาพจากมือถือนะครับ
ระหว่างนี้ก็จะมีทางเดินไปสู่ Henderson Waves Bridge ครับ
สะพานจะทอดตัวไปในป่าเลย และผมก็พลาดที่ใส่รองเท้าแตะมาเดิน๕๕
ถึงแล้วครับหลังจากเดินกันมานาน ผมรู้สึกพลาดมากที่ใส่ยีนส์กับรองเท้าแตะ
ขอตั้งชื่อว่า 'แมวเจ้าที่' ครับ
ทีนี้ก็ถึงเวลาเดินกลับไปขึ้น mrt เพื่อ Tiong Bahru ต่อ
ผมรู้จัก Tiong Bahru ได้จาก รีวิวของพี่ท่านนี้
http://pantip.com/topic/33252421
เลยคิดอยากจะลองไปทานกาแฟแถวนั้นซักแก้ว แต่...failed ครับ
เป็นเพราะผมอ่านผ่านๆ ศึกษามาไม่ดี เลยไปไม่ถูกครับ
แต่ก็มีภาพมาให้ชมกันเล็กน้อย ครั้งหน้าจะขอแก้มือใหม่นะครับ
เดินไปเซ็งไปเลยครับ ถ้าความผิดพลาดจะมี ผมก็คงโทษที่มา Tiong Bahru แบบไม่เต็มที่๕๕
ทีนี้ก็ถึงจุดสุดท้ายของสิงคโปร์แล้ว นั่นก็คือ Chinatown ครับ เราไปกันเลย
เป้าหมายคือซื้อของฝากและวัดพระธาตุเขี้ยวแก้วครับ
วัดพระธาตุเขี้ยวแก้วจะมี ๔ ชั้นครับ ชั้นแรกจะเป็นที่ประกอบพิธีกรรม สวดมนต์อะไรงี้ครับ
ชั้น ๒-๓ จะเป็นพิพิธภัณฑ์ของวัดที่ห้ามถ่ายภาพครับ ส่วนชั้นที่ ๔ จะเป็นสวนเชน
หลังจากเดินไหว้พระในวัดเสร็จ ก็เดินไปซื้อของฝากต่ออีกซักพักนึง
แล้วก็เดินทางไปรอขึ้นรถกลับบ้านที่ตึก Golden Mile ครับ
รถมาจอดรอเวลา ๒๐.๐๐ น. พวกเราเช็คสัมภาระว่ายังหลงลืมอะไรอยู่อีกบ้าง
พอครบแล้วก็ขึ้นรถไปรอเวลาที่จะออกเดินทางครับ มื้อค่ำของเราได้ซื้อ KFC เก็บไว้ทานบนรถครับ
ถ้าหากจะกลับถึงบ้านโดยไม่มีอะไรเป็นอุปสรรค ก็คงจะไม่ใช่พวกเรา ที่ตอนมาก็โดนกักแล้ว
ปกติบนรถจะแจกผ้าห่มให้ผู้โดยสารทุกคนเวลาประมาณ ๕ ทุ่ม
แต่ตอนนั้นมันยังไม่หนาวเท่าไหร่ครับ หลังจากออกจากด่านขาออกสิงคโปร์และขาเข้ามาเลเซีย
ผมก็หลับไปครับ ตื่นมาอีกทีก็เริ่มหนาวแล้ว แปลกใจว่า "ทำไมguไม่ได้ผ้าห่มวะ"
แต่ผมก็ไม่แปลกใจ เห็นคนข้างๆก็ไม่ได้ห่ม ผมก็เลยทนนอนต่อไปเรื่อยๆ จนตอนเช้าครับ
มีพี่พนักงานมาเดินเก็บผ้าห่ม ผมนี่มองหน้าเพื่อนเลยครับ นอนหนาวมาทั้งคืน ผ้าห่มซักผืนก็ไม่มีให้
สรุปคือผ้าห่มไม่พอครับ และผู้โชคร้ายคือพวกผมนั่นเอง
พวกเราผ่านด่านสะเดาและถึงหาดใหญ่โดยสวัสดิภาพครับ
"สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามมาจนถึง part สุดท้าย
ขอบคุณพี่ชายที่เคารพรักที่คอยแนะนำให้เกี่ยวกับสิงคโปร์
ขอบคุณกระทู้รีวิวของพี่ๆทุกท่านเกี่ยวกับสิงคโปร์ อยากบอกว่าเป็นประโยชน์มาก
ขอบคุณเพื่อนผู้ร่วมเดินทางของผม ที่ทำให้ระหว่างทางตลกตลอดเวลา
ผมคาดหวังว่ากระทู้นี้จะสร้างแรงบรรดาลใจให้ผู้อ่าน มีความกล้าที่จะออกไปผจญภัยนอกประเทศ
ให้ความลำบากและความสุขได้เป็นคนสอนเราแทนคุณครู ให้โลกของเรากว้างกว่าห้องสี่เหลี่ยมที่เคยอยู่มา"
Don’t just sit and dig into your books Look at the big wide world and see what it has to offer
- Anonymous
สรุปค่าใช้จ่าย
1.ค่ารถบัส ไป-กลับ 1890 บาท
2.ค่าที่พัก 49SGD x 25.5B = 1250 บาท
3.ค่า mrt 24SGD x 25.5B = 610 บาท
4.ค่าอาหารทุกมื้อ (รวมกินจุบจิบ) 2000 บาท
5.ค่าของฝาก 250 บาท
รวมประมาณ ๗๐๐๐ บาท
[CR] 'Singapore and I' by bus (๔ วัน ๓ คืน) part IV
PART I : http://pantip.com/topic/35250049
PART II : http://pantip.com/topic/35255660
PART III : http://pantip.com/topic/35260739
วันที่ ๒๘/๐๕/๕๙
Jogging - Check-out - Golden Mile Tower - Alexsandra Arch and Henderson Waves Bridge - Tiong Bahru (erred) - Chinatown - Home
การได้ล่องเรือ Singapore River Cruise แล้วต่อด้วย Singapore Flyer โดยที่ได้นั่งอยู่คนเดียว
เป็นอะไรที่มีความสุขมากครับ ได้นั่งเงียบๆ คิดอะไรเพลินๆไปเรื่อยๆ
เสริมด้วยการนั่งจิบเบียร์ชิลๆที่ Clarke Quay มองดูบรรยากาศยามค่ำของสิงคโปร์
และทานปูที่ก้ามของมันก็เกือบเท่าแขนของเราที่ Jumbo Seafood
เป็นประสบการณ์ที่คงต้องเอามาเล่าต่อจริงๆครับว่าคุ้มค่าเกินราคา
"อ้วน . . .อ้วน . . .ตื่นได้แล้ว" "ตีห้าแล้ว ไปวิ่ง"
ใช่ครับ...ที่เล่าไปในย่อหน้าแรกผมฝันทั้งหมดเลย แค่เงินจะซื้อของฝากก็แทบจะไม่เหลือแล้ว
จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าตั๋ว Singapore River Cruise , Singapore Flyer และ Jumbo Seafood
ไม่ต้องพูดถึง Jumbo Seafood หรอกครับ ขนาดอยู่สงขลายังไม่กล้าทานเลยครับ๕๕
วันนี้ผมต้องขึ้นรถกลับหาดใหญ่เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. ก็ค่อนข้างมีเวลาให้เที่ยวอีกวันนึง
ผมอยากจะใช้เวลาในสิงคโปร์ให้ช้าที่สุด เพราะไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอีกครั้งตอนไหน
ก่อนนอนผมตั้งใจแล้วว่าพรุ่งนี้จะเก็บภาพสิงคโปร์ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นให้ได้
แต่ผมก็ไม่ได้พากล้องไปออกกำลังกายด้วย ผมพาแค่มือถือไปครับ Let's Go!
เส้นทางวิ่ง : พวกเราวิ่งมาทางถนน Geylang เลี้ยวซ้ายเข้า Ole Terminal Ln
วิ่งไปนิดนึงเจอทางเลียบแม่น้ำก็เปลี่ยนไปวิ่งเลียบแม่น้ำแทนครับ วิ่งไปเรื่อยๆครับ
จะเจอสะพาน Merdeka ก็ข้ามไปครับ วิ่งตรงไปยาวๆจนถึง Esplanade ก็ข้ามสะพาน Jubilee
เราก็จะถึงที่หมายคือ Merlion ครับ แต่วันนั้นเป็นวันที่โชคร้ายวันนึง เพราะฟ้ามืด ฝนกำลังจะตก
และฝนตกครับ
ผมวิ่งผ่าน The Shoppes เลยเก็บภาพไว้ซักนิดนึงครับ
ผ่านมาแล้วรู้สึกคิดถึงครั้งที่มากับโรงเรียน ทำให้นึกถึงเวลาดีๆที่เคยมีด้วยกันครับ
Helix Bridge สะพานเกลียวที่สร้างจำลองสาย DNA ครับ คราวหน้าต้องลองมาถ่ายกลางคืนดูบ้าง
เดินผ่านสวน Youth Olympic ชอบภาพนี้เป็นส่วนตัวเลยเก็บมาฝากครับ
ขากลับก็ย้อนกลับทางเดิมครับ ขอตัวไปอาบน้ำ ทานข้าวก่อนนะครับ
มื้อเช้านี้ก็ฝากท้องกับ Old Chang Kee เหมือนเดิมครับ
ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้อง Check-out ออก Coziee Lodge แล้วครับ
ก็จัดแจงเก็บกระเป๋า คืนผ้าเช็ดตัวที่ยืมมา แล้วก็เอาบิลไปโชว์เพื่อรับเงินค่าประกันคืน
พร้อมเอ่ยคำร่ำลากับครอบครัวคนไทยที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่คืนแรก
แต่เค้าคิดว่าพวกผมเป็นชาวฟิลิปปินส์ และผมก็คิดว่าเค้าเป็นชาวสิงคโปร์ด้วยครับ๕๕
สำหรับ Coziee Lodge เป็นอีกที่ที่แนะนำให้ Backpacker มาพักกันนะครับ เพราะใกล้รถไฟฟ้ามาก
ร้านอาหารบริเวณนั้นก็เปิด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งพนักงานบริการดีมากๆ
ถ้าครั้งหน้ามีจริงก็จะกลับมาพักที่ Coziee Lodge อีกครั้งครับ
พวกเราได้อ่านเจอกระทู้ที่แนะนำสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยไปกัน
หนึ่งในนั้นคือ Alexsandra Arch and Henderson Waves Bridge ครับ
แต่ก่อนอื่น นำกระเป๋าไปฝากไว้ที่ออฟฟิศของ Konsortium ก่อน จะได้ไม่ต้องสะพานหนักเกินไปครับ
ตีกสีเหลืองๆเลยครับ ออฟฟิศจะอยู่หน้าๆตึกเลย สังเกตง่าย
หลังจากฝากของไว้แล้ว แต่ยังไม่เช็คอินนะครับ ค่อยมาเช็คอินใกล้เวลาเดินทาง
มุ่งหน้าสู่ Alexsandra Arch and Henderson Waves Bridge กันครับ
มื้อเที่ยงของเราวันนี้ที่ KFC ครับ
ด้วยความที่ผมเคยมีความทรงจำที่ไม่ดีกับซอสมะเขือเทศ (Ketchup) ที่ Genting Highland
เลยอยากจะลอง KFC ที่สิงคโปร์ดูครับ ผลคือเหมือนกัน แต่ก็ทานได้นะ อันนี้รสนิยมส่วนตัวครับ๕๕
มื้อเที่ยงเรียบร้อยแล้วก็เดินต่อไปที่ Alexsandra Arch ก่อนครับ
แต่พอไปถึงความโชคร้ายก็มาเยือนเพราะผมดันเอากล้องไปทาน KFC ด้วย
พอจะถ่ายรูปเท่านั้นแหละครับ กล้องฝ้าเลย เสียใจมาก มาชมภาพจากมือถือนะครับ
ระหว่างนี้ก็จะมีทางเดินไปสู่ Henderson Waves Bridge ครับ
สะพานจะทอดตัวไปในป่าเลย และผมก็พลาดที่ใส่รองเท้าแตะมาเดิน๕๕
ถึงแล้วครับหลังจากเดินกันมานาน ผมรู้สึกพลาดมากที่ใส่ยีนส์กับรองเท้าแตะ
ขอตั้งชื่อว่า 'แมวเจ้าที่' ครับ
ทีนี้ก็ถึงเวลาเดินกลับไปขึ้น mrt เพื่อ Tiong Bahru ต่อ
ผมรู้จัก Tiong Bahru ได้จาก รีวิวของพี่ท่านนี้ http://pantip.com/topic/33252421
เลยคิดอยากจะลองไปทานกาแฟแถวนั้นซักแก้ว แต่...failed ครับ
เป็นเพราะผมอ่านผ่านๆ ศึกษามาไม่ดี เลยไปไม่ถูกครับ
แต่ก็มีภาพมาให้ชมกันเล็กน้อย ครั้งหน้าจะขอแก้มือใหม่นะครับ
เดินไปเซ็งไปเลยครับ ถ้าความผิดพลาดจะมี ผมก็คงโทษที่มา Tiong Bahru แบบไม่เต็มที่๕๕
ทีนี้ก็ถึงจุดสุดท้ายของสิงคโปร์แล้ว นั่นก็คือ Chinatown ครับ เราไปกันเลย
เป้าหมายคือซื้อของฝากและวัดพระธาตุเขี้ยวแก้วครับ
วัดพระธาตุเขี้ยวแก้วจะมี ๔ ชั้นครับ ชั้นแรกจะเป็นที่ประกอบพิธีกรรม สวดมนต์อะไรงี้ครับ
ชั้น ๒-๓ จะเป็นพิพิธภัณฑ์ของวัดที่ห้ามถ่ายภาพครับ ส่วนชั้นที่ ๔ จะเป็นสวนเชน
หลังจากเดินไหว้พระในวัดเสร็จ ก็เดินไปซื้อของฝากต่ออีกซักพักนึง
แล้วก็เดินทางไปรอขึ้นรถกลับบ้านที่ตึก Golden Mile ครับ
รถมาจอดรอเวลา ๒๐.๐๐ น. พวกเราเช็คสัมภาระว่ายังหลงลืมอะไรอยู่อีกบ้าง
พอครบแล้วก็ขึ้นรถไปรอเวลาที่จะออกเดินทางครับ มื้อค่ำของเราได้ซื้อ KFC เก็บไว้ทานบนรถครับ
ถ้าหากจะกลับถึงบ้านโดยไม่มีอะไรเป็นอุปสรรค ก็คงจะไม่ใช่พวกเรา ที่ตอนมาก็โดนกักแล้ว
ปกติบนรถจะแจกผ้าห่มให้ผู้โดยสารทุกคนเวลาประมาณ ๕ ทุ่ม
แต่ตอนนั้นมันยังไม่หนาวเท่าไหร่ครับ หลังจากออกจากด่านขาออกสิงคโปร์และขาเข้ามาเลเซีย
ผมก็หลับไปครับ ตื่นมาอีกทีก็เริ่มหนาวแล้ว แปลกใจว่า "ทำไมguไม่ได้ผ้าห่มวะ"
แต่ผมก็ไม่แปลกใจ เห็นคนข้างๆก็ไม่ได้ห่ม ผมก็เลยทนนอนต่อไปเรื่อยๆ จนตอนเช้าครับ
มีพี่พนักงานมาเดินเก็บผ้าห่ม ผมนี่มองหน้าเพื่อนเลยครับ นอนหนาวมาทั้งคืน ผ้าห่มซักผืนก็ไม่มีให้
สรุปคือผ้าห่มไม่พอครับ และผู้โชคร้ายคือพวกผมนั่นเอง
พวกเราผ่านด่านสะเดาและถึงหาดใหญ่โดยสวัสดิภาพครับ
"สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามมาจนถึง part สุดท้าย
ขอบคุณพี่ชายที่เคารพรักที่คอยแนะนำให้เกี่ยวกับสิงคโปร์
ขอบคุณกระทู้รีวิวของพี่ๆทุกท่านเกี่ยวกับสิงคโปร์ อยากบอกว่าเป็นประโยชน์มาก
ขอบคุณเพื่อนผู้ร่วมเดินทางของผม ที่ทำให้ระหว่างทางตลกตลอดเวลา
ผมคาดหวังว่ากระทู้นี้จะสร้างแรงบรรดาลใจให้ผู้อ่าน มีความกล้าที่จะออกไปผจญภัยนอกประเทศ
ให้ความลำบากและความสุขได้เป็นคนสอนเราแทนคุณครู ให้โลกของเรากว้างกว่าห้องสี่เหลี่ยมที่เคยอยู่มา"
Don’t just sit and dig into your books Look at the big wide world and see what it has to offer
- Anonymous
สรุปค่าใช้จ่าย
1.ค่ารถบัส ไป-กลับ 1890 บาท
2.ค่าที่พัก 49SGD x 25.5B = 1250 บาท
3.ค่า mrt 24SGD x 25.5B = 610 บาท
4.ค่าอาหารทุกมื้อ (รวมกินจุบจิบ) 2000 บาท
5.ค่าของฝาก 250 บาท
รวมประมาณ ๗๐๐๐ บาท
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น