10ปีในตลาดหุ้นกับความเปลี่ยนไปทางความคิดและสายตาคนรอบข้าง

วันนี้ไปยื่นเงินกู้แบงค์กับแฟนและแบงค์ถามว่าทำอาชีพอะไรและมีรายได้ต่อเดือนเท่าไรหากจะขอกู้คงต้องเอาพอร์ทและรายการเดินบัญชีมาแสดง  เลยทำให้กลับมาฉุกคิดได้ว่านี่เราอยู่ในตลาดหุ้นมา10ปีแล้วหรือนี่   ผมเริ่มเล่นหุ้นครั้งแรกก่อนวันหม่อมอุ๋ย108จุด1วันตอนนั้นยังอยู่ที่ประเทศอังกฤษเรียนภาษาไปด้วยทำงานล้างจานและอื่นๆไปด้วยเลี้ยงลูกด้วย    ก็ทำให้พอมีเงินเก็บก็เลยเอาเงินไปเปิดบัญชีกับโบรคและเปิดสมัครกองทุนกับแบงค์ด้วย   หลังจากเปิดแล้วก็ซื้อมาขายไปบ้างตามประสาแต่ก็ไม่ค่อยได้ซื้อขายเท่าไร    เพราะว่าเวลาต่างกัน6ชั่วโมงตื่นมาตลาดหุ้นเมืองไทยก็จะปิดแล้วก็ดูหุ้นไปเลี้ยงลูกไปผ่านไป2ปีก็ขาดทุนไปหลายแสน    แล้วก็ได้เวลากลับมาเมืองไทยปี07ก็ทำงานกินเงินเดือนด้วยเล่นหุ้นไปด้วยแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรดูผ่านๆไปซื้อขายตามมาร์บอกไปเรื่อยได้บ้างเสียบ้างแต่ยังไงเราก็ยังมีงานประจำทำและมีเงินจากjobเล็กๆน้อยๆอีก    การงานที่มั่นคงและ๋การที่ได้ติดต่องานราชการการได้ดูมีหน้ามีตาในสายตาคนรอบข้างเวลาไปรับส่งลูกเขาถามว่าทำงานอะไรก็บอกไปเขาก็ดูดี   แต่หลังจากทำงานประจำไปเรื่อยผ่านไปหลายปีก็เล่นบ้างเสียบ้างได้เป็นแสนเสียเป็นหมื่นซื้อรถและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเปลี่ยนบ่อยมากจวบจนวันนึงน้ำท่วมบ้านปี11     ผมได้ย้ายที่อยู่ชั่วคราวไปอยู่บ้านแฟนต่างจังหวัดไปอยู่เป็นเดือนได้เห็นชีวิตผู้คนและได้เห็นพ่อตาแม่ยายที่แก่แล้วแต่ก็ยังมานั่งทำงานแต่เช้าเลิกดึก    เราจึงมีความคิดได้ว่าเราต้องทำไรสักอย่างและผมก้ได้ไปซื้อที่ดินอยู่แปลงนึงตั้งใจว่าจะปลูกบ้านให้พ่อแม่ได้ใช้ชีวิตบั้นปลายที่อากาศดีๆและแฟนก้ได้ย้ายกลับมาอยู่ดูแลพ่อแม่แฟนได้  หลังจากเมื่อกลับมากทมก็มาทำงานแต่ใจคิดว่าทำยังไงจะย้ายไปอยู่ตจวได้เพราะว่าเรายังมีงานประจำที่ต้องทำ    ผมเลยใส่เงินลงไปในหุ้นมากขึ้นและศึกษามากขึ้นและดูสิวา่เราจะมีเงินจากหุ้นและอื่นๆนอกจากเงินเดือนพอใช้จ่ายได้ไหมเวลาผ่านไปครึ่งปี  ผลปรากฎว่าพอเราสามารถทำเงินจากตลาดหุ้นได้พอเลี้ยงพ่อแม่และครอบครัว   ผมเลยตัดสินใจกู้เงินสร้างบ้านและผมได้ลาออกจากงานเพื่อที่จะมาเลุ่นหุ้นอย่างเดียวผมสามารถเล่นหุ้นและก็สามารถดูแลครอบครัวได้    วันเวลาผ่านไปเวลาไปรับส่งลูกคนรอบข้างเห็นว่าเราไม่ได้แต่งตัวโก้หรูเหมือนก่อนเวลาไปรับส่งลูกเขามองเราด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปโดยเขาน่าจะเข้าใจว่าเราตกงานสายตาและการถามไถ่จากลูกชายทำให้เรารู้ว่าคนรอบข้างมองเราอย่างไร   และเมื่อบ้านเราสร้างเสร็จวันที่เราได้ไปรับลูกที่โรงเรียนเพื่อให้ลูกได้รำ่ลาเพื่อนๆก็มีสายตาและคำถามจากพ่อมแ่คนอื่นถามขึ้นมาว่าเดี๋ยวนี้คุณทำงานอะไรหากมีปัญหาเรื่องเงินก็มาหยิบยืมเขาได้นะเราเลยบอกไปว่าม่เป็นไรขอบคุณครับและก้เข้าใจดีว่าเขามองเราอย่างไร    ผมพาครอบครังผมทั้งหมดย้ายจากกทมมาตจว    เมื่อย้ายมาแล้วสายตาคนแถวนี้ก็ยังมองเราดีอยู่เนื่องจากเข้าใจว่าเรายังทำงานที่กทมแต่วันเวลาผ่านไปเขาไม่เห็นเราอกจากบ้าน เพราะว่าวันๆเราดูจอเฝ้าหุ้นเขาจึงเข้าใจว่าเราตกงานและไม่ทำอะไรเลยวันๆ    ผมอธิบายให้พ่อตาแม่ยายฟังว่าผมเล่นหุ้นอย่างเดียวหาเงินมาได้จากการเล่นหุ้นอธิบายอยู่นานแกก้เข้าใจ   แต่คนรอบข้างก็มองแปลกอีกอยู่ดี ผมสามารถเล่นหุ้นได้บ้างเสียบ้างแต่ก็ผ่านมา4ปีแล้วโดยที่ผมไม่มีรายได้จากทางอื่นเลยผมสามารถเลี้ยงครอบครัวได้โดยสุขสบายจากชีวิตมนุษย์เงินเดือนตื่นเช้ากลับดึกกินเหล้า เลี้ยงผู้หญิง เอนเตอร์เทนลูกค้า    หลังจากที่ผมย้าายมาอยู่ตจวตอนนี้ชีวิตผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงโดยที่ ภรรยาและเพื่อนๆที่กทมก็แปลกใจ เพราะว่าวันๆนึงผมดูหุ้นที่ทุ่งนาบ้างขุดดินปลูกต้นไม้ทำสวนไปบ้างการแต่งตัวและวิธีคิดที่เปลี่ยนไปเศรฐกิจพอเพียงกับชีวิตทำให้เข้าใจได้มากขึ้นทุกวันนี้เล่นหุ้นได้เงินมาก็ใช้จ่ายไม่เท่าไรได้เงินมาก็เอาไปซื้อต้นไม้ ซื้อปุ๋ย ซื้ออุปกรณ์การเกษตร ย้อนเวลากลับไป10ปี   จากวันแรกจนถึงวันนี้ ผมได้อะไรจากในตลาดหุ้นมากไม่ว่าจะเป็นเงิน ความรู้เพื่อน ประสบการณือะไรอีกหลายๆอย่าง ขอโทษที่เล่ามาทั้งหมดอาจจะไม่ได้ตรงประเด็นและความรู้อะไร   แต่เพียงบอกว่าหากใครที่คิดจะเล่นหุ้นเพียงอย่างเดียวคุณต้องพร้อมที่จะรับสภาพและสถานการณ์ต่างๆและการตั้งคำถามจากสังคมให้ได้ด้วยคว่า   "คุณทำอาชีพอะไร"
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 34
ขออนุญาต จขกท ปรับ เวันวรรคเพื่อ ให้ เพื่อนๆ ไดัอ่านง่ายๆ นะคะ  อมยิ้ม17


วันนี้ไปยื่นเงินกู้แบงค์กับแฟนและแบงค์ถามว่าทำอาชีพอะไรและมีรายได้ต่อเดือนเท่าไร   หากจะขอกู้คงต้องเอาพอร์ทและรายการเดินบัญชีมาแสดง  เลยทำให้กลับมาฉุกคิดได้ว่านี่เราอยู่ในตลาดหุ้นมา10ปีแล้วหรือนี่  

ผมเริ่มเล่นหุ้นครั้งแรกก่อนวันหม่อมอุ๋ย108จุด1วัน   ตอนนั้นยังอยู่ที่ประเทศอังกฤษ  เรียนภาษาไปด้วยทำงานล้างจานและอื่นๆไปด้วยเลี้ยงลูกด้วย  
  ก็ทำให้พอมีเงินเก็บ   ก็เลยเอาเงินไปเปิดบัญชีกับโบรคและเปิดสมัครกองทุนกับแบงค์ด้วย  

หลังจากเปิดแล้วก็ซื้อมาขายไปบ้างตามประสาแต่ก็ไม่ค่อยได้ซื้อขายเท่าไร    เพราะว่าเวลาต่างกัน6ชั่วโมงตื่นมาตลาดหุ้นเมืองไทยก็จะปิดแล้วก็ดูหุ้นไปเลี้ยงลูกไปผ่านไป2ปีก็ขาดทุนไปหลายแสน  

แล้วก็ได้เวลากลับมาเมืองไทยปี07ก็ทำงานกินเงินเดือนด้วยเล่นหุ้นไปด้วย   แต่ก็ไม่ได้จริงจัง  อะไรดูผ่านๆไปซื้อขายตามมาร์บอกไปเรื่อยได้บ้างเสียบ้าง  แต่ยังไงเราก็ยังมีงานประจำทำและมีเงินจากjobเล็กๆน้อยๆอีก    

การงานที่มั่นคงและ๋การที่ได้ติดต่องานราชการการ ได้ดูมีหน้ามีตาในสายตาคนรอบข้าง   เวลาไปรับส่งลูกเขาถามว่าทำงานอะไร  ก็บอกไปเขาก็ดูดี   แต่หลังจากทำงานประจำไปเรื่อย ผ่านไปหลายปีก็เล่นบ้างเสียบ้าง

ได้เป็นแสนเสียเป็นหมื่นซื้อรถและอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกเปลี่ยนบ่อยมากจวบจนวันนึงน้ำท่วมบ้านปี11    

ผมได้ย้ายที่อยู่ชั่วคราว  ไปอยู่บ้านแฟนต่างจังหวัดไปอยู่เป็นเดือน  ได้เห็นชีวิตผู้คนและได้เห็นพ่อตาแม่ยายที่แก่แล้ว  
แต่ก็ยังมานั่งทำงานแต่เช้าเลิกดึก    เราจึงมีความคิดได้ว่าเราต้องทำไรสักอย่าง

และผมก้ได้ไปซื้อที่ดินอยู่แปลงนึงตั้งใจว่าจะปลูกบ้าน   ให้พ่อแม่ได้ใช้ชีวิตบั้นปลายที่อากาศดีๆและแฟนก้ได้ย้ายกลับมาอยู่ดูแลพ่อแม่แฟนได้

หลังจากเมื่อกลับมากทมก็มาทำงานแต่ใจคิดว่าทำยังไง   จะย้ายไปอยู่ตจวได้เพราะว่าเรายังมีงานประจำที่ต้องทำ  

ผมเลยใส่เงินลงไปในหุ้นมากขึ้นและศึกษามากขึ้น  และดูสิวา่เราจะมีเงินจากหุ้นและอื่นๆนอกจากเงินเดือนพอใช้จ่ายได้ไหม  

เวลาผ่านไปครึ่งปี  ผลปรากฎว่าพอเราสามารถทำเงินจากตลาดหุ้นได้พอเลี้ยงพ่อแม่และครอบครัว  

ผมเลยตัดสินใจกู้เงินสร้างบ้าน และผมได้ลาออกจากงานเพื่อที่จะมาเลุ่นหุ้นอย่างเดียว  ผมสามารถเล่นหุ้นและก็สามารถดูแลครอบครัวได้  

วันเวลาผ่านไปเวลาไปรับส่งลูกคนรอบข้างเห็นว่า เราไม่ได้แต่งตัวโก้หรูเหมือนก่อน  เวลาไปรับส่งลูกเขามองเราด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

โดยเขาน่าจะเข้าใจว่าเราตกงานสายตา  และการถามไถ่จากลูกชายทำให้เรารู้ว่าคนรอบข้างมองเราอย่างไร  

และเมื่อบ้านเราสร้างเสร็จวันที่เราได้ไปรับลูกที่โรงเรียน  เพื่อให้ลูกได้รำ่ลาเพื่อนๆก็มีสายตาและคำถามจากพ่อมแ่คนอื่น  

ถามขึ้นมาว่าเดี๋ยวนี้คุณทำงานอะไรหากมีปัญหาเรื่องเงินก็มาหยิบยืมเขาได้นะ  

เราเลยบอกไปว่าม่เป็นไรขอบคุณครับและก้เข้าใจดีว่าเขามองเราอย่างไร    ผมพาครอบครังผมทั้งหมดย้ายจากกทมมาตจว  

เมื่อย้ายมาแล้ว  สายตาคนแถวนี้ก็ยังมองเราดีอยู่เนื่องจากเข้าใจว่าเรายังทำงานที่กทม   แต่วันเวลาผ่านไปเขาไม่เห็นเราอกจากบ้าน
เพราะว่าวันๆเราดูจอเฝ้าหุ้น  เขาจึงเข้าใจว่าเราตกงานและไม่ทำอะไรเลยวันๆ    ผมอธิบายให้พ่อตาแม่ยายฟังว่า   ผมเล่นหุ้นอย่างเดียวหาเงินมาได้จากการเล่นหุ้นอธิบายอยู่นานแกก้เข้าใจ

แต่คน รอบข้างก็มองแปลกอีกอยู่ดี ผมสามารถเล่นหุ้นได้บ้างเสียบ้าง  แต่ก็ผ่านมา4ปีแล้วโดยที่ผมไม่มีรายได้จากทางอื่นเลย

ผมสามารถเลี้ยงครอบครัวได้โดยสุขสบายจากชีวิตมนุษย์เงินเดือนตื่นเช้ากลับดึกกินเหล้า เลี้ยงผู้หญิง เอนเตอร์เทนลูกค้า  

หลังจากที่ผมย้าายมาอยู่ตจวตอนนี้ชีวิตผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงโดยที่ ภรรยาและเพื่อนๆที่กทมก็แปลกใจ
เพราะว่าวันๆนึงผมดูหุ้นที่ทุ่งนาบ้าง  ขุดดินปลูกต้นไม้ทำสวนไปบ้าง   การแต่งตัวและวิธีคิดที่เปลี่ยนไปเศรฐกิจพอเพียงกับชีวิตทำให้เข้าใจ
ได้มากขึ้นทุกวันนี้เล่นหุ้นได้เงินมาก็ใช้จ่ายไม่เท่าไร   ได้เงินมาก็เอาไปซื้อต้นไม้   ซื้อปุ๋ย   ซื้ออุปกรณ์การเกษตร

ย้อนเวลากลับไป10ปี   จากวันแรกจนถึงวันนี้ ผมได้อะไรจากในตลาดหุ้นมากไม่ว่าจะเป็นเงิน  ความรู้เพื่อน
ประสบการณือะไรอีกหลายๆอย่าง   ขอโทษที่เล่ามาทั้งหมดอาจจะไม่ได้ตรงประเด็นและความรู้อะไร

  แต่เพียงบอกว่า  หากใครที่คิดจะเล่นหุ้นเพียงอย่างเดียว  

คุณต้องพร้อมที่จะรับสภาพและสถานการณ์ต่างๆและการตั้งคำถามจากสังคมให้ได้ด้วยคว่า   "คุณทำอาชีพอะไร"
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่ได้อ่านครับ..
เขียนอ่านยาก..
เลยขาดความน่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่