Morocco - การผจญภัย ครั้งใหม่ในดินแดนอาหรับ ตอนที่ 3 - Casablanca

วันที่ 2 Hassen II  Mosche - Old Medina - Beach of Casablanca

สถานที่แรกที่เราจะเดินทางไปวันนี้ได้แก่  มัสยิส Hassen II เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโมรอคโคและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 13 ของโลก  King Mohammed V มีพระราชประสงค์ให้สร้างมัสยิสแห่งนี้ขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้มาประกอบพิธีละหมาดแต่พระองค์ก็สวรรคตก่อนที่มัสยิสแห่งนี้จะสร้างเสร็จ ดังน้ัน King Hassen II จึงมีพระราชประสงค์ที่จะสืบเจตนารมให้สร้างมัสยิสแห่งนี้ให้เสร็จ ด้วยประสงค์ที่ต้องการจะสร้างสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง Casablanca จากความร่วมมือและแรงศรัทธาแห่งชาวมุสลิมในประเทศ รวมถึงประเทศอาหรับ อีกทั้งชาติตะวันตก ในที่สุดมัสยิสที่มีสถาปัตยกรรมที่ปราณีตแห่งนี้ก่อสร้างสำเร็จในปี คศ 1993 ด้วยเงินทุนโดยประมาณการ 585 ล้านยูโร ในการเยี่ยมชมจะมีรอบการเข้าชม ซึ่งไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเดินชมเอง ต้องไปตามรอบเท่านั้น ซึ่งจะมีทุกๆ ชั่วโมง เสียค่าเข้าชมท่านละ 120 Dirhams (พอดีเราชมแต่เพียงด้านนอก เลยไม่ได้มีภาพให้ชมนะคะ)



**โดยปรกติแล้วมัสยิสจะไม่อนุญาติให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมเข้าไปภายใน แต่ที่โมรอคโคมี 2 มัสยิสที่ยินดีให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมและสัมผัสสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ ได้แก่ Hassen II Mosche (Casablanca) และ Tin Mal Mosche (Marrakech)

ต่อจากนั้น เราก็เดินไปยัง Old Medina (ตอนแรกๆ เราสงสัยเหมือนกันว่าทำไมแต่ละเมืองของโมรอคโคถึงมีสถานที่ที่ชื่อ Medina เหมือนกัน ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า Medina คือส่วนของเมืองเก่า ก่อนที่จะมีการขยายเมือง ดังนั้นอย่าแปลกใจไปนะคะ ว่าทำไมทุกเมืองถึงมีแต่ Medina) เมืองเก่าของ Casablanca แห่งนี้ หากดูรวมๆ ไป ก็คล้ายๆ กับแหล่งตลาดบ้านเรานี่เอง เพราะภายในโซนนี้ จะมีร้านขายของหลากหลาย ซึ่งก็จะมีการจัดแบ่งเป็นโซนเสื้อผ้า อาหาร ของกิน ของสด ไม่ต่างอะไรกับตลาดนัดจตุจักรบ้านเราเลย ซึ่งในตลาดนี้ถ้าไม่มีป้ายราคาอย่างชัดเจนก็อย่าลืมต่อราคากันนะคะ ฝึกฝีมือกันให้ดี

สินค้าที่ถือได้ว่ามีชื่อเสียง และนิยมนำมาเป็นของฝากของที่โมรอคโค ได้แก่ เครื่องเงิน เครื่องปั้นดินเผา เช่น จาน ชาม ซึ่งมีลวดลาย เครื่องเทศ พรม สิ่งทอ ภาพวาดที่ใช้ไฟวาด ผลไม้ ได้แก่ มะกอก ส้ม สตอเบอร์รี่ ฯลฯ




ตลาดสดบ้านเค้า คล้ายบ้านเรามากอะคะ




ที่เราสนใจคือ ไอ้นี่ มีปลาฉลามขายด้วย ซึ่งเจ้าของร้านน่ารักมาก เราไปขอถ่ายรูปปลาเค้าจับมาโชว์เป็นแบบให้ด้วย (ความเห็นส่วนตัวนะคะ นินสังเกตุว่าผู้คนทางฝั่งเหนือของโมรอคโค มีความเป็นมิตรมากซึ่งต่างกับทางตอนใต้ โดยเฉพาะเข้าใกล้ Marrekech ถ่ายรูปจะขอเงินท่าเดียวเลย ดังนั้นระวังให้ดีนะคะ)




หลังจากนั้นเราไปแวะทานอาหาร ที่ร้าน Cafe La Sqala ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นร้านอาหารโมรอคโคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งจะเห็นได้จากหนังสือแนะนำท่องเที่ยวในหลายๆ สำนักพิมพ์ของต่างชาติจะต้องมีร้านนี้ติดอยู่ด้วยเสมอ ด้านหน้าจะมีป้อมกับปืนใหญ่อยู่ ตอนแรกๆ เราก็ไม่รู้ว่าร้านนี้เดินวนหาอยู่ 2 รอบใหญ่ๆ จนต้องถามคนท้องถิ่นถึงถึงบางอ้อว่า เดินเลยมาแล้ว

พอดีลืมถ่ายภาพบรรยากาศภายในมา เลยเอาลิ่งค์มาใส่ให้ดูบรรยากาศนะคะ ช่วงที่ไปคนแน่นมากเพราะเป็นช่วงอาหารกลางวันพอดี ร้านอาหารสะอาดน่านั่งคะ http://restopro.ma/sqala/#_=_


นินจำชื่อไม่ได้ แต่มันคล้ายกับ Samosa ซึ่งมีหลายใส้

ด้านหน้านิน อันที่เป็นเนื้อเสียบไม้ เรียกว่า Kebab ส่วนอันที่อยู่ตรงข้าม คือ Chicken Tagine ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นของโมรอคโค

อาหารร้านนี้ถือว่า ราคาไม่ได้แพงมาก พอๆ กับร้านอาหารบ้านเราในร้านอาหารนะคะ หากใครมาก็แวะมาลองทานดูนะคะ

เดินต่อไปไม่ไกลจากร้านอาหารก็จะเป็น สถานีรถไฟบ้านเค้าก็ค่อนข้างทันสมัยกว่าบ้านเรามากเลย ที่นี่มีสถานีรถไฟ 2 สถานี ได้แก่ Casa Voyageurs Station ซึ่งเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟหลักๆ ในโมรอกโก (สถานีนี้เป็นสถานีที่ทัวร์นี้ใช้เพื่อเดินทางไปยังเมืองต่อไป) กับ Casa Port Station จะใช้สำหรับการเดินทางไป Kenitra หรือไปยัง Casa Voyageurs Station





หลังจากนั้น เราก็นั่งรถไฟฟ้าสุดสายแวะไปเยี่ยมเยืยนชายทะเลบ้านเค้า เนื่องจากโมรอคโคเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากยุโรปมาก ดังนั้นคนยุโรปนิยมที่จะเดินทางมาที่โมรอคโคเพื่อพักผ่อน สัมผัสบรรยากาศตามชายหาด ด้วยความที่อากาศหน้าร้อนร้อนได้ใจ คนยุโรปเลยบินมาเปลี่ยนสีผิวกันที่นี่ อีกทั้งค่าครองชีพที่นี่ถูกเมืองเทียบกับยุโรปเลยทำให้โมรอคโคได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก (แต่น้ำไม่ต้องพูดถึง เย็นยะเยือก ดังนั้นเวลาคนยุโรปไปทางแถบเอเชีย เค้าจะชอบมากกว่าที่จะมาทะเลทางเอเชีย เพราะน้ำทะเลจะอุ่นกว่ามาก)





วันนี้ถือว่าเป็นวันที่อากาศดีมาก ดังนั้นคนโมรอคโคเองก็มาเล่นน้ำทะเลกันอย่างครึกครื้นทีเดียว (ไม่อยากบอกเลยว่า ทะเลบ้านเราสวยกว่ามาก แถมบางสถานที่มีทรายที่ละเอียด ไม่แปลกใจเลยทำไมคนตะวันตกชอบมาทะเลบ้านเรา เพราะหาทะเลที่ดีและสวยเทียบบ้านเราไม่ได้จริงๆ)

จากนั้นเราก็กลับมาที่โรงแรมเพื่อเตรียมตัว พบกับกรุ๊ป ณ เวลา 6.00 น.
ซึ่งกรุ๊ปนี้แหมๆ ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวชายบ้านเราคงชอบ เพราะเต็มกรุ๊ป 15 คน มีผู้ชาย 1 เดียว ทีเหลือผู้หญิงทั้งหมดเลย



วันนี้จบเพียงแค่นี้ก่อนนะคะ จะมาเล่าวันต่อๆ ไปอีกทีคร่า

Morocco - การผจญภัย ครั้งใหม่ในดินแดนอาหรับ ตอนที่ 1  - http://pantip.com/topic/35172520
Morocco - การผจญภัย ครั้งใหม่ในดินแดนอาหรับ ตอนที่ 2 - Casablanca - http://pantip.com/topic/35179820

หากเพื่อน ๆ สนใจเรื่องเกี่ยวกับท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ หรือประเทศอื่นๆ ที่นินเคยไปก็ยินดีที่จะแชร์ข้อมูลให้นะคะ เขียนมาคุยหรือติดตามเราทางเฟสบุ๊คตามลิ้งค์ข้างล่างได้นะ
https://www.facebook.com/Just-Travel-Nilvadee-Egger-1525046174401198/?ref=aymt_homepage_panel
ปล. เราจะเปิดทัวร์โฮมสเตย์ที่สวิตเซอร์แลนด์ปี 2017 ซึ่งหากเพื่อนๆสนใจก็เขียนเข้ามาข้อดูรายละเอียดโปรแกรมหรือปรึกษาเส้นทางท่องเที่ยวได้นะคะ ยินดีให้คำปรึกษาคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่