ตอนที่ 1 ตามล่าฝูงกวาง เคว้งคว้าง ณ ทุ่งกะมัง ฉบับเว่อร์วัง UNSEEN !!
http://pantip.com/topic/35052280
ตอนที่ 2 ตะลุยเชียงคาน เรียนรู้วันวาน ณ หมู่บ้านฯไทดำ
http://pantip.com/topic/35052392
วันที่สามของการเดินทาง
เราเดินทางเข้าตัวเมือง จ.เลย จากเชียงคานโดยรถสองแถว เช่ารถจากสนามบินเลยเพื่อขับไปเที่ยว อ.นาแห้ว และด่านซ้าย เหตุผลที่ต้องเช่ารถขับ เพราะการเดินทางด้วยรถสาธารณะเข้าไปทั้งสองอำเภอค่อนข้างลำบาก
ก่อนออกเดินทางก็แวะเติมพลังกันที่ร้าน ภูเรือไก่ย่าง ร้านหาง่าย อาหารอร่อย
รถพร้อม คนพร้อม ลุย!!
ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีรถสาธารณะเข้ามาที่นี่ แต่พอเห็นเส้นทางเท่านั้นแหละ ตามภาพเลยจ้า นึกว่าทางแข่งโกคาร์ท!
ก่อนถึงนาแห้ว จะเจอวัดโพธิ์ชัยซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ มีจิตรกรรมฝาผนังอายุ 400 ปี ภายในวัดสภาพโทรมมาก ภาพจิตรกรรมบางภาพสีจืดจางจนแทบมองไม่เห็น
เรามุ่งหน้าไปที่พักของเราก่อน เรามาพักกันที่ “บ้านสวนสุทธินันท์” เป็น homestay เล็กๆ ที่เพิ่งเปิดให้พักเมื่อปลายปีที่แล้ว ถือว่าเราเป็นแขกคนแรกๆ ที่มาพักเลยนะเนี่ย
คุณลุงคุณป้าเจ้าของ homestay ต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี พวกเราอายุเท่าลูกสาวของลุงกับป้า เค้าเลยดูแลเราดีมาก เหมือนเป็นลูกอีก 3 คน
บรรยากาศรอบๆ homestay
หลังจากเก็บของและนั่งพูดคุยกับลุงป้าซักพัก เราก็ขับรถไปดูพระอาทิตย์ตกที่ภูผาหนอง เราไม่ได้เดินเข้าไปถึงจุดชมวิว เพราะบรรยากาศทางเข้าเต็มไปด้วยต้นไผ่ร้างๆ กับใบไผ่แห้งๆ เดินเข้าไปกลัวจะเจอมากกว่าพระอาทิตย์
พอถ่ายรูปเสร็จก็ขับรถอย่างต่อเนื่องไปที่หมู่บ้านแสงภา เพื่อไปวัดศรีโพธิ์ชัย
ช่วงที่ไปเค้ากำลังเตรียมงานแห่ต้นดอกไม้ เป็นงานใหญ่ประจำปีของหมู่บ้าน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 14 เมษายนของทุกปี
ต้นดอกไม้ จะประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สด เสร็จแล้วหน้าตาจะเป็นแบบนี้
เราได้ต้นดอกไม้ไซส์มินิกลับมาเป็นของที่ระลึกด้วย
จบทริปของวันนี้ด้วยการทานข้าวที่ร้านสแตมป์ ซึ่งเป็นร้านอาหารเดียวในละแวกนั้น
เช้าวันใหม่เราขับรถขึ้นเขาไปดูวิวพระอาทิตย์ที่ภูหัวฮ่อม แต่ก็คุ้ม ขนาดหน้าร้อนยังเห็นหมอกจางๆ เกาหลีฟีเวอร์สุดๆ แล้วหน้าหนาวจะขนาดไหน
ขับต่อไปผ่านบ้านบ่อเหมืองน้อย ไร่เเมคคาเดเมียและไร่สตรอว์เบอรี่ แต่คือพวกเราพลาดมากที่ไม่ได้แวะเข้าไป เพราะไม่รู้ว่าที่เพิ่งขับผ่านไปเป็นไร่แมคคาเดเมีย เลยเก็บภาพบรรยากาศสองข้างทางยามเช้าๆมาฝากแทน
พอจะขับย้อนกลับไปก็เกิดความพีคขึ้น เพื่อนของเราโดนข้าศึกโจมตีระดับ 9.5 เต็ม 10 ปวดในระดับพีคที่สุด! ที่พีคกว่าคือแถวนั้นไม่มีบ้านคนอยู่เลย! สุดท้ายเลยได้ทิ้งของที่ระลึกไว้ข้างทางภูเขาที่นาแห้ว 55555555555
ขับไปเรื่อยๆ ก็มาแวะชมน้ำตกตาดเหือง นี่น้ำตกหรือสระชานม สีส้มเชียวววว
ออกจากน้ำตกก็ขับรถต่อไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยยยย เรื่อยยยย ย ย . . .ขับไปเกือบ 2 ชม. ไม่เจอมนุษย์สักคน เริ่มสงสัยกันว่า ที่นี่ไหนเนี่ยยย!!
รู้ตัวอีกทีพวกเราขับข้ามเขามาหลายลูก โดยที่ไม่รู้จุดหมายปลายทางกันเลย
ขับแบบงงๆ กันมาจนถึงเขตอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย รู้สึกอุ่นใจที่ได้เจอบ้านคน 5555
ที่นี่ยังมีบริการบ้านพัก ลานกางเต๊นท์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
เราแค่แวะเดินเล่นรอบๆ อุทยาน เพราะเราคีบแตะกันทุกคน เค้าไม่อนุญาตให้เดินเข้าป่า ใครอยากเดินศึกษาธรรมชาติที่นี่ เตรียมรองเท้าผ้าใบมาด้วยนะจ๊ะ
สถานที่สุดท้ายที่ไปคือ พระธาตุดินแทน ที่สักการะโดยการตักดินขึ้นไปเทที่ยอดพระธาตุ ประเด็นคือต้องถอดรองเท้าขึ้นไปด้วย เท้านี่แทบไหม้จ้า
เรากลับที่พักไปกินข้าวเช้า ป้าเตรียมน้ำเสาวรสที่ทำเองมาให้ อร่อยมากกก หอมมากกกก ปกติเราไม่กินเสาวรส แต่ที่ป้าทำมาให้คืออร่อยจริง สับปะรดก็อร่อย หวานฉ่ำ อยากจะอมไว้จนถึงกรุงเทพ 5555
ก่อนกลับได้ชิมสตรอว์เบอร์รีสดๆ จากต้นด้วย แต่ผลไม้ที่สวนของลุงป้าจะมีตามฤดูกาลนะจ๊ะ ถ้าจะไปก็ถามลุงป้าก่อนว่ามีอะไรให้กินบ้าง อย่างสตรอว์เบอร์รีเราก็ได้เป็นลอตสุดท้ายของสวนเลยจ้า
ร่ำลาลุงกับป้าแบบเศร้าๆ อยากอยู่ต่ออีกซักคืน ถ้ามีโอกาสจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอน ใครจะไปพักบ้านสวนสุทธินันท์ ติดต่อลุงประชน ตามเบอร์นี้ได้เลยค่ะ 089-5764961
[SR] [CUCT][กลมกลิ้ง หลงรักเลย] ตอนที่ 3 นาเเห้ว - ด่านซ้าย สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรม
http://pantip.com/topic/35052280
ตอนที่ 2 ตะลุยเชียงคาน เรียนรู้วันวาน ณ หมู่บ้านฯไทดำ
http://pantip.com/topic/35052392
วันที่สามของการเดินทาง
เราเดินทางเข้าตัวเมือง จ.เลย จากเชียงคานโดยรถสองแถว เช่ารถจากสนามบินเลยเพื่อขับไปเที่ยว อ.นาแห้ว และด่านซ้าย เหตุผลที่ต้องเช่ารถขับ เพราะการเดินทางด้วยรถสาธารณะเข้าไปทั้งสองอำเภอค่อนข้างลำบาก
ก่อนออกเดินทางก็แวะเติมพลังกันที่ร้าน ภูเรือไก่ย่าง ร้านหาง่าย อาหารอร่อย
รถพร้อม คนพร้อม ลุย!!
ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีรถสาธารณะเข้ามาที่นี่ แต่พอเห็นเส้นทางเท่านั้นแหละ ตามภาพเลยจ้า นึกว่าทางแข่งโกคาร์ท!
ก่อนถึงนาแห้ว จะเจอวัดโพธิ์ชัยซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ มีจิตรกรรมฝาผนังอายุ 400 ปี ภายในวัดสภาพโทรมมาก ภาพจิตรกรรมบางภาพสีจืดจางจนแทบมองไม่เห็น
เรามุ่งหน้าไปที่พักของเราก่อน เรามาพักกันที่ “บ้านสวนสุทธินันท์” เป็น homestay เล็กๆ ที่เพิ่งเปิดให้พักเมื่อปลายปีที่แล้ว ถือว่าเราเป็นแขกคนแรกๆ ที่มาพักเลยนะเนี่ย
คุณลุงคุณป้าเจ้าของ homestay ต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี พวกเราอายุเท่าลูกสาวของลุงกับป้า เค้าเลยดูแลเราดีมาก เหมือนเป็นลูกอีก 3 คน
บรรยากาศรอบๆ homestay
หลังจากเก็บของและนั่งพูดคุยกับลุงป้าซักพัก เราก็ขับรถไปดูพระอาทิตย์ตกที่ภูผาหนอง เราไม่ได้เดินเข้าไปถึงจุดชมวิว เพราะบรรยากาศทางเข้าเต็มไปด้วยต้นไผ่ร้างๆ กับใบไผ่แห้งๆ เดินเข้าไปกลัวจะเจอมากกว่าพระอาทิตย์
พอถ่ายรูปเสร็จก็ขับรถอย่างต่อเนื่องไปที่หมู่บ้านแสงภา เพื่อไปวัดศรีโพธิ์ชัย
ช่วงที่ไปเค้ากำลังเตรียมงานแห่ต้นดอกไม้ เป็นงานใหญ่ประจำปีของหมู่บ้าน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 14 เมษายนของทุกปี
ต้นดอกไม้ จะประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สด เสร็จแล้วหน้าตาจะเป็นแบบนี้
เราได้ต้นดอกไม้ไซส์มินิกลับมาเป็นของที่ระลึกด้วย
จบทริปของวันนี้ด้วยการทานข้าวที่ร้านสแตมป์ ซึ่งเป็นร้านอาหารเดียวในละแวกนั้น
เช้าวันใหม่เราขับรถขึ้นเขาไปดูวิวพระอาทิตย์ที่ภูหัวฮ่อม แต่ก็คุ้ม ขนาดหน้าร้อนยังเห็นหมอกจางๆ เกาหลีฟีเวอร์สุดๆ แล้วหน้าหนาวจะขนาดไหน
ขับต่อไปผ่านบ้านบ่อเหมืองน้อย ไร่เเมคคาเดเมียและไร่สตรอว์เบอรี่ แต่คือพวกเราพลาดมากที่ไม่ได้แวะเข้าไป เพราะไม่รู้ว่าที่เพิ่งขับผ่านไปเป็นไร่แมคคาเดเมีย เลยเก็บภาพบรรยากาศสองข้างทางยามเช้าๆมาฝากแทน
พอจะขับย้อนกลับไปก็เกิดความพีคขึ้น เพื่อนของเราโดนข้าศึกโจมตีระดับ 9.5 เต็ม 10 ปวดในระดับพีคที่สุด! ที่พีคกว่าคือแถวนั้นไม่มีบ้านคนอยู่เลย! สุดท้ายเลยได้ทิ้งของที่ระลึกไว้ข้างทางภูเขาที่นาแห้ว 55555555555
ขับไปเรื่อยๆ ก็มาแวะชมน้ำตกตาดเหือง นี่น้ำตกหรือสระชานม สีส้มเชียวววว
ออกจากน้ำตกก็ขับรถต่อไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยยยย เรื่อยยยย ย ย . . .ขับไปเกือบ 2 ชม. ไม่เจอมนุษย์สักคน เริ่มสงสัยกันว่า ที่นี่ไหนเนี่ยยย!!
รู้ตัวอีกทีพวกเราขับข้ามเขามาหลายลูก โดยที่ไม่รู้จุดหมายปลายทางกันเลย
ขับแบบงงๆ กันมาจนถึงเขตอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย รู้สึกอุ่นใจที่ได้เจอบ้านคน 5555
ที่นี่ยังมีบริการบ้านพัก ลานกางเต๊นท์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
เราแค่แวะเดินเล่นรอบๆ อุทยาน เพราะเราคีบแตะกันทุกคน เค้าไม่อนุญาตให้เดินเข้าป่า ใครอยากเดินศึกษาธรรมชาติที่นี่ เตรียมรองเท้าผ้าใบมาด้วยนะจ๊ะ
สถานที่สุดท้ายที่ไปคือ พระธาตุดินแทน ที่สักการะโดยการตักดินขึ้นไปเทที่ยอดพระธาตุ ประเด็นคือต้องถอดรองเท้าขึ้นไปด้วย เท้านี่แทบไหม้จ้า
เรากลับที่พักไปกินข้าวเช้า ป้าเตรียมน้ำเสาวรสที่ทำเองมาให้ อร่อยมากกก หอมมากกกก ปกติเราไม่กินเสาวรส แต่ที่ป้าทำมาให้คืออร่อยจริง สับปะรดก็อร่อย หวานฉ่ำ อยากจะอมไว้จนถึงกรุงเทพ 5555
ก่อนกลับได้ชิมสตรอว์เบอร์รีสดๆ จากต้นด้วย แต่ผลไม้ที่สวนของลุงป้าจะมีตามฤดูกาลนะจ๊ะ ถ้าจะไปก็ถามลุงป้าก่อนว่ามีอะไรให้กินบ้าง อย่างสตรอว์เบอร์รีเราก็ได้เป็นลอตสุดท้ายของสวนเลยจ้า
ร่ำลาลุงกับป้าแบบเศร้าๆ อยากอยู่ต่ออีกซักคืน ถ้ามีโอกาสจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอน ใครจะไปพักบ้านสวนสุทธินันท์ ติดต่อลุงประชน ตามเบอร์นี้ได้เลยค่ะ 089-5764961