GHost Detective File 2-5 พิธีกรรมสยองขวัญ

เช้าตรู่เวลาหกโมง ดาวตื่นขึ้นมาอย่างสดใส แต่คนข้างๆเธอกลับนอนสิ้นสภาพ ทั้งๆที่เธอต้องไปทำงาน

"พี่เจี๊ยบค่ะตื่นได้แล้วค่ะ" ไม่มีสัญยาณตอบรับจากหมอที่นอนอุตุ

"พี่เจี๊ยบเช้าแล้วนะคะ เดี๋ยวก็ไปทำงานไม่ทันหรอก" ดาวยังไม่ละความพยายาม แต่จากสภาพที่หมอเจี๊ยบนอนน้ำลายไหลยืด ก็สงสัยจะหนักเอาการ

"พี่เจี๊ยบขอโทษนะคะ" ดาวดึงผ้าห่มและดันหลังหมอเจี๊ยบขึ้นมานั่ง ซึ่งมันก็ได้ผลแต่เธอยังคงสลึมสลือ

"เช้าเหรอ ไม่เหนเช้าเลย"หมอเจี๊ยบพูดเสียงยานๆแบบมึนๆ ก่อนจะหันซ้ายหันขวา จากนั้นก็ล้มตัวนอนต่อ

แต่ดาวดึงหมอนออกอย่างรวดเร็ว เมื่อหัวลงผิดท่า หมอเจี๊ยบก็ตื่นทันที

"แหะๆดาวพี่ขอโทษด้วยนะ"หมอเจี๊ยบที่ได้สติกำลังเกาหัวอย่างเขินอาย

"เร็วๆเถอะค่ะ เดี๋ยวก็ไปทำงานไม่ทันกันพอดี"ดาวเร่ง

"แล้วก็ชุดทำงานพี่เจี๊ยบเมื่อคืนดาวแอบซักไว้ให้แล้วนะคะ  ตอนนี้น่าจะพอใส่ได้อยู่" ดาวลุกไปหยิบชุดมาให้

"ขอบใจน้าาา" หมอเจี๊ยบมองดาวด้วยตาเยิ้มๆ

ดาวอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปโรงเรียน แต่หมอเจี๊ยบกลับเปลี่ยนชุดทั้งๆอย่างงั้นเลย ดาวรู้สึกแปลกๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเกรงใจและส่วนหนึ่งก็พอจะเข้าใจว่าหมอเจี๊ยบเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว

สำหรับอาหารเช้า ดาวต้มโจ๊กสำเร็จรูปให้ เพราะขืนให้เธอหรือพ่อทำ มีหวังหมอเจี๊ยบมัวแต่กินจนไปทำงานสายเป็นแน่ จนเวลาล่วงมาเกือบจะเจ็ดโมงเช้า ดาวก้ได้เวลาไปโรงเรียนส่วนหมอเจี๊ยบก็กำลังจะไปทำงาน วึ่งไม่รู้ว่าจะไปทันหรือเปล่า

"ดาวอยู่ลืมเรื่องที่พี่เล่าให้ฟังนะ ลองเอาไปคิดดูละกัน เผื่อจะเจอเบาะแสอะไร" ดาวรับปากจากนั้นหมอเจี๊ยบก็รีบบึ้งรถเก๋งคันงานไปทำงาน ส่วนดาวก็ขี่จักรยานคันเก่งไปโรงเรียน

(รอยเท้าในน้ำยังงั้นเหรอ)ดาวยังคิดถึงข้อสังเกตที่หมอเจี๊ยบบอกให้เมื่อคืน ขณะปั่นไปโรงเรียน

(แล้วถ้าเค้าว่ายน้ำเป็นมันก็พอจะเป็นไปได้นะ แต่ถ้าไม่ มันก็น่าแปลกอยู่) ขณะกำลังปั่น ดาวเหลือบไปเห็นป้ายศาลเจ้าพ่อไทรเพชร ศาลประจำหมู่บ้านหักลงมา

(สงสัยจะเก่าแล้วมั้ง ไว้ตอนเย็นค่อยไปบอกให้พ่อมาซ่อมดีกว่า) ดาวรีบปั่นไปโรงเรียน

.............................................

"ดาว ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ" มลเดินมาหาดาวในชั่วโมงโฮมรูม มลมีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ จนเช้านี้มิ้นทักเธอมาหลายครั้งแล้วแต่เธอก็บอกว่าไม่มีอะไร

"มีอะไรเหรอมล สีหน้าไม่ค่อยดีเลย" แม้แต่ดาวก็สังเกตได้เช่นกัน

"ดาว ถ้าฉันเล่าให้แกฟัง แกอย่าหาว่าฉันเพี้ยนนะ" เมื่อดูจากสีหน้า ดาวก้เออออตาม ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากให้มลสบายใจขึ้นมาบ้าง

"เมื่อคืนฉันฝันล่ะแก ในฝันฉันเห็นกุ๋กกู๋" มลเล่าด้วยน้ำเสียงหวั่นๆว่าดาวจะไม่เชื่อ แต่ดาวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหลุดขำมลแต่อย่างใด

"กุ๋กกู๋ไหนแก" ดาวงง จนมลต้องอธิบายว่ากุ๋กกู๋คือ ตุ๊กตาที่ มลต้องเอากลับบ้านด้วยเมื่อคืน

"มลแกฝันเห็นตุ๊กตาเหลือ" ดาวถาม จนมลต้องบอกให้เบาเสียงลง

"ไม่ใช่ตุ๊กตาแก เห็นเป็นคนแบบเรานี่แหละ"มลยืนยัน จนดาวเชื่อว่ามันคือเรื่องจริงเมื่อสังเกตจากท่าทางเพื่อนของเธอ

"แล้วแกจำหน้ากุ๋กกู๋ได้รึเปล่า" ดาวถาม แต่มลก้ได้แต่ส่ายหน้า เธอบอกว่าในฝันได้เห็นหน้ากุ๋กกู๋แต่ก็จำหน้าตาไม่ได้

"เอาเถอะๆแล้ว กุ๋กกู๋ทำอะไรแกรึเปล่า"ดาวถามมลด้วยความเป็นห่วงเพราะคิดว่าเมื่อคืนมลน่าจะโดนหนัก แต่เปล่าเลย มลได้แต่ส่ายหน้า เธอเอามือสองข้างจับที่ไหล่ของดาว

"กุ๋กกู๋มาบอกฉัน ให้เตือนเธอ ว่าเธอกำลังมีอันตราย ให้เธอระวังตัวด้วย"คำพูดของมลทำให้ดาวอึ้งและสงสัยว่า ถ้าในฝันเป็นกุ๋กกู๋จริงๆ ทำไมถึงไม่มาบอกเธอเองทำไมถึงต้องบอกผ่านมลด้วย และที่สำคัญ เธอกำลังคิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรึเปล่า

"ไม่ต้องห่วงหรอกมล ฉันจะระวังตัวนะ แล้วก็....ขอบคุณนะกุ๋กกู๋ที่ฝากมาบอก"ดาวกล่าวขอบคุณขึ้นมาลอยๆเพราะตอนนี้กุ๋กกู๋ต้องไปอยู่กับห้องอื่น ดาวพยายามยิ้มให้มลสบายใจ แต่ในใจเธอก็ยังคงคิด

......................................................

ช่วงสายๆนักเรียนทุกคนกำลังเรียนหนังสืออยู่ ภูก็มาที่โรงเรียน ดูเหมือนว่าเขานัดเจอกับครูพิลาวรรณ

"สวัสดีค่ะ คุณภู" ครูพิลาวรรณทักทาย แต่ภูดูท่าทางรีบๆ

"สวัสดีครับครูพิลาวรรณไม่ทราบว่าตอนนี้ครูพอจะสะดวกมั้ยครับ" ภูถาม และครูพิลาวรรณก็ตอบรับว่าไม่มีปัญหาอะไร

อันที่จริงตอนเช้าภูได้โทรไปนัดครูพิลาวรรณไว้ว่า เค้าจะขอมาสำรวจโรงเรียนโดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับ7เรื่องลึกลับ ซึ่งครูพิลาวรรณก็เห็นด้วยและให้ความร่วมมือ เพราะเธอก็อยากให้ปัญหานี้ยุติเหมือนกัน

"แล้วเราจะไปจุดไหนก่อนดีคะ"ครูพิลาวรรณถาม ภูก็หยิบสมุดจดเล่มเล็กๆออกมาเพื่อดูข้อมูลที่จดไว้

"ผมว่าไปดูต้นไทรหลังโรงเรียนก่อนดีกว่าครับ ส่วนที่อื่นผมว่าไม่น่าจะสะดวกเท่าไหร่ เพราะว่าเด็กๆน่าจะยังเรียนกันอยู่น่ะครับ" ซึ่งครูพิลาวรรณก็เห็นด้วย จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปหลังโรงเรียน

ต้นไทรใหญ่หลังโรงเรียน อยู่เลยโซนเกษตรของโรงเรียนไป บรรยากาศรอบๆค่อนข้างเงียบทำให้แม้เป็นตอนกลางวัน นักเรียนยังกลัวจนไม่กล้าเข้ามา บางคนบอกว่า ถ้ามาเรียนเกษตรช่วงเย็นๆบางวันที่มืดเร็ว รากอากาศของต้นไทรมันเหมือนเป็นเชือกที่ห้อยร่างไร้วิญญาณของคนหลายคนเอาไว้ มันอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือภาพหลอนจากแสงและเงา ประกอบกับความกลัวของนักเรียนก็ได้

รอบๆต้นไทย เศษกิ่งไม้ ใบไม้ตกอยู่ทั่วไป เหมือนขาดการเอาใจใส่ บางทีอาจจะเพราะว่ากลัว จนแม้แต่นักการก็เลยไม่เข้ามาจัดการ จนหญ้าขึ้นรก ซึ่ง อาจจะมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอ หรือแมลงมีพิษอื่นๆอยู่ก็ได้

"หญ้ารกจังเลยนะครับ"ภูพูดกับครูพิลาวรรณถึงสภาพแวดล้อมรอบๆ

"ทุกคนในโรงเรียนนี้กลัวหมดแหละค่ะ แต่ตรต้นไทรนี้หนักหน่อยที่ว่ามันค่อนข้างแยกจากส่วนอื่นๆแล้วนักเรียนก็ไม่กล้าเข้ามา ก็เลยขาดการดูแลอย่างที่เห็น"แม้จะรู้สึกอายอยู่บ้างที่ให้คนนอกมาเห็นโรงเรียนในสภาพนี้แต่เธอก็คิดว่าภูเข้าใจ

"ขอผมเข้าไปดูใกล้ๆได้มั้ยครับ" ภูขออนุญาต ซึ่งครูพิลาวรรณก็ไม่ได้ว่าอะไร

"ค่ะ ยังไงก็ระวังด้วยนะคะ"ครูพิลาวรรณยืนดูอยู่ห่างๆ

ภูเดินเข้าไปดูใกล้ๆอย่างระวัดระวัง แม้เค้าไม่จำเป็นต้องระวังเรื่องสิ่งเร้นลับ แต่เรื่องงูและสัตว์มีพิษเป็นอะไรที่เค้าไม่สามารถป้องกันได้ ทำให้ภูค่อนข้างระวังตัวพอสมควร

ต้นไทรมีขนาดใหญ่น่าจะหลายคนโอบอายุคงไม่ต่ำกว่าร้อยปี แผ่กิ่งก้านไปอย่างขาดคนดูแล และรากอากาศที่ห้อยลงมาเต็มต้น คไม่แปลกที่จะทำให้คนกลัว แต่ภูก็สะดุดตากับสิ่งๆหนึ่ เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ภูพบว่ามันคือตะปู ตะปูหัวบานๆแบบตะปูโบราณถูกตอกกับลำต้นเกือบสิบเล่ม จะภูต้องเรียกครูพิลาวรรณเข้ามาดูและถ่ายรูปเก็บเอาไว้

"นี่มันอะไรกันคะคุณภู"ครูพิลาวรรณมองด้วยความประหลาดใจ เมื่อพบว่าต้นไทรใหญ่ถูกตอกตะปุหลายเล่ม

"น่าจะเป็นการสะกดวิญญาณครับ" ภูตอบ ซึ่งมันทำให้ครูพิลาวรรณจู่ๆก็รู้สึกขนลุก

"สะกดวิญญาณ ไม่คิดว่าเรื่องเล่าจะเป็นเรื่องจริง"ครูพิลาวรรณรู้สึกกลัว จนค่อยๆก้าวขาออกห่างจากต้นไทรโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่ภูยังถ่ายรูปอยู่

"มันก็ไม่แน่หรอกครับ ส่วนหนึ่งมันคือความเชื่อ จะจริงรึเปล่ามันก็ยากจะพิสูจย์ครับ แต่ในหลายประเทศหลายวัฒนธรรม ความหมายของตะปูจะถูกตีความคล้ายๆกัน นั่นคือตะปูใช้สำหรับการตรึง หรือการสะกดครับ" ภูพูดในขณะที่ถ่ายรูปไปด้วย ครูพิลาวรรณก็ได้แต่พยักหน้าอยู่ห่างๆ

พอถ่ายรูปเร็วครูพิลาวรรณก็ชวนภูกลับ ภูจึงกลับแต่โดยดี เพราะว่าช่วงเที่ยงเค้ากับดาวจะต้องไปคุยกับ ผอ.เรื่องการเอาปลามาปล่อยนั่นเอง

"คุณภูว่ามันแปลกๆรึเปล่าคะ"จู่ๆครูพิลาวรรณก็ถามขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินกลับซึ่งห่างจากบริเวณต้นไทรพอสมควร

"อะไรเหรอครับ" ภูถาม เขาสังเกตสีหน้าของครูสาวว่ายังคงกลัว เขาเลยต้องระวังคำพูดเป็นพิเศษ

"ดิฉันไม่ได้ยินเสียงนก หรือเสียงแมลงเลย ทั้งๆที่เมื่อกี้ที่ต้นไทรมันรกขนาดนั้นแท้ๆ คุรภูว่ามันแปลกๆรึเปล่าคะ"คำถามของครูพิลาวรรณทำให้ภูฉุกคิด แต่เขาก้ได้ตอบเธอไปว่าเธอคงคิดมากไปเอง ทั้งสองคนเดินห่างจากต้นไทรเรื่อยๆ แม้ภูจะไม่รู้สึก แต่ครูพิลาวรรณก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครมองเธออยู่จากที่ไกลๆ จนเธอกลัวที่จะหันกลับไปมอง.....ยังต้นไทร

........................................................

"ประกาศ....ประกาศ ของเชิญ นางสาวอิงดาว อินทดำรงค์ ที่ห้องผู้อำนวยการโรงเรียนตอนนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ" เสียงประกาศตอนพักเที่ยงตามตัวดาวให้ไปหา ผอ.ที่ห้อง ดังมาจากลำโพงบนตึก จากจึงขอตัวแยกจาก มลและมิ้น และระหว่างที่ทั้งสามคนก้าวลงบันได

ดาวสะดุดล้มจนตกบันได ทำให้มลและมิ้นร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ โดยเฉพาะมล เพราะก่อนหน้านี้.....

กุ๋กกู๋มาเตือนเธอ ให้บอกดาวให้ระวังตัว

....................................

ติชมกันได้ครับ บางคำที่พิมพ์ผิด เพราะแป้นผิมไม่ค่อยดี กดชิพไม่ลง ยังไงก็ขออภัยด้วยครับ

file 1 เหงา ตั้งแต่ตอนแรก http://pantip.com/topic/34830541

file 2-1 http://pantip.com/topic/34973254

file 2-2 http://pantip.com/topic/34986577

file 2-3 http://pantip.com/topic/34998149

file 2-4 http://pantip.com/topic/35006186

ตอนต่อไป http://pantip.com/topic/35027231
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่