ครั้งนี้เป็นครั้งแรกกับการเขียนเรื่องราวที่เดินทางไปต่างประเทศ และเรื่องราวเรื่องแรกคือ การเดินทางมุ่งหน้าสู่ ปักกิ่ง ผิดพลาดประการได อย่าด่าผมเลยนะครับ ผมกลัว และก่อนการเดินทางเราต้องหาข้อมูลซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่ที่ได้ก็มาจากพันทิปนี่เองครับ และแน่นอน เดินทางไปประเทศจีนก็ต้องใช้ วีซ่า การทำวีซ่าของประเทศจีนนั่นง่ายมากครับ ง่ายจนคิดว่านี่ต้องทำวีซ่าอีกหรอเนี่ย แค่เตรียมเอกสารให้ครบ ซึ่งก็มีแค่
passport
แบบฟอร์มการขอวีซ่าจีน
http://www.visaforchina.org/BKK_TH/generalinformation/downloads/index.shtml
รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นหลัง ขาวหรือน้ำเงิน
ใบจองโรงแรม
ใบจองตั๋วเครื่องไปทั้งไปและกลับ
เงิน 1500 บาท
ซึ่งต้องไปยื่นเอกสารที่ตึก ธนภูมิ ถนน เพชรบุรี นั่ง MRT ลง สถานี เพชรบุรี ทางออกที่ 2 พอออกจาสถานี จะเจอพี่วิน ก็บอกพี่ไปตึกธนภูมิ ทำวีซ่าจีน จ่ายเงินค่าวิน 15 บาท แล้วมุ่งหน้าขึ้นไปชั้น 5 กดบัตรคิว ยื่นเอกสาร ใช้เวลาเร็วมาก และก็รอ ประมาณ 5 วัน เพื่อไปรับวีซ่าและจ่ายเงิน 1500 บาท แค่นี้ง่ายนิดเดียว ช่วงที่ผมไปคือต้นกุมภาพันธ์ อากาศจะค่อนข้างหนาวนะครับ ผมเดินทางโดยสายการบิน cathay pacific + dragon air เพราะต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ ฮ่องกง จากฮ่องกงมาปักกิ่งใช้เวลาประมาณ 4 ชม และในที่สุดก็มาถึงซักที ปักกิ่งของฉัน






พอถึงปักกิ่งครั้งแรกที่เห็นคือ สนามบินใหญ่โตมโหราฬ พออกจาก gate ได้ก็มุ่งตรงดิ่งไปที่ immigration ทันที ด้วยความที่ศึกษาการตอบคำถามของ ตม. มาพอสมควรเลยผ่านง่ายๆแบบไม่ต้องกังวลไดๆ ที่ปักกิ่งการเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองง่ายมากครับ มีทั้ง รถทัวร์ (ไม่รู้เรียกถูกเปล่านะ แต่ลักษณะคล้ายๆกัน) ไปตามเส้นทางต่างๆ และมีรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่สะดวกมาก ซื้อบัตรใบเดียวไปได้ทั่วเมือง การมาปักกิ่งครั้งนี้ ผมพักกับครอบครัวของผม เพราะท่านมาทำงานที่นี่ เลยถือโอกาสมาเที่ยวด้วยเลย ปักกิ่ง เที่ยวง่ายครับ เพราะ รถไฟฟ้าใต้ดินเต็มเมืองไปหมด เลยแนบแผนที่มาโหน่ยยย
เช้าวันนี้อากาศหนาวเหมือนทุกวันครับ แต่หนาวกว่าวันแรกๆที่มาถึงปักกิ่ง วันนี้ผมมีแพลนจะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวแบบเราๆต้องไป ถ้าไม่ไปก้คือมาไม่ถึงปักกิ่งเหมือนไปกรุงเทพ ไม่ไปวัดพระแก้ว มันดูขัดๆยังไงไม่รู้เนาะ
เริ่มด้วยการหาโฮสเทลเพราะเที่ยวคนเดียว (พ่อกะแม่ไม่ไปด้วยครับ)
เลยไม่จำเป็นต้องพักห้องเดี่ยวก็ได้เดี๋ยวไม่มีเพื่อนคุย เอ๊ะ !!! หรืออาจจะมีเพื่อนคุยก็ได้มั้ง 555 ผมเลือก ลีโอโฮลเทล เพราะใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน qianmen เดินทางสะดวก แถมอยุ่ใกล้ที่ท่องเที่ยวเยอะมากมาย
พอผมทำการเช็กอินเข้าพักเรียบร้อยแล้ว สถานที่แรกที่ผมจะไปคือ หอระฆัง และ หอกลอง สถานี guloudajie line2
ทางออก g เท่าที่เห็นมีเขียนทางออก H ด้วยแต่หาป้ายไม่เจอ ยังไงก็ตามทางออก G มาละกันนะครับ
พอหัวพ้นหลังคาสถานีจะเจอเลยจร้าาา อยู่ไกลลิปลับ 555 เดินตรงไปเรื่อยๆแหละ ไม่รู้กี่ร้อยเมตรเพราะมันหนาวเดินไม่เหนื่อยเลย และก็จะเจอป้าย hutong คาดว่าน่าจะเป็นชื่อเรียกภาษาจีนมั้งนะเดาเอาเอง พอเลี้ยวเท่านั้นแหละ ขุ่นพระ ต้องเดินเข้าซอยอีก ประมาน 100 เมตร แต่ทำไมวันนี้เงียบจัง คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่เลย แต่ก็ดีแล้วแหละแกร๋ ถ่ายรูปมันเลยสิเนี่ย จ่ายค่าเข้าชม 15 หยวน ถ้าจะขึ้นไปดูหอกลองก็ 15 หยวนเหมือนกัน
สถานที่ต่อไปของวันนี้คือ วัดลามะ สถานี lama temple line2 ทางออก C บรรยายด้วยภาพเอาละกันนะครับ มันหนาวมากกกกจริงๆๆๆ
พนักงานบอกว่า สถานที่นี้เธอต้องไปให้ได้นะ และแล้วก็คือ temple of heaven สถานี tiantandongmen ทางออก A คือมันใหญ่มากจริงๆ มันกึ่งสวนสนกึ่งวัด ไม่รู้จะอธิบายยังไง อยากรู้ต้องมาลองดูนะจ๊ะ
หลังจากที่เดินวนอยู่นาน เดินวนไปวนมา ดูเวลา ห๊ะนี่เราอยู่ที่นี่สาม ชม เลยหรอเนี่ย คือเริ่มเมื่อยละ กลับดีกว่า ยังไม่ทันจะถึงที่พัก ก็เริ่มมืดละเลยเดินหาไรกินแถวที่พักและสำรวจแถวนี้ก่อน ดูสิว่าจะมีอะไร
เดินเข้ามาในถนนธุรกิจ ก็เดินดูร้านโน่นร้านนี่ เอ้าเห้ย ทะลุมาอีกมิตินึงเลยหรอเนี่ย นี่มันถนนคนเดิน qianmen นี่นา อะไรจะคนละฟีลแบบนี้เนี่ย สไตล์จีนผสมกับฝรั่งมังค่า มันออกมาลงตัว แต่ยังมีหลายร้านที่ยังไม่เปิดและยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เดินอยู่นานลมพัดตึ้งแรงมากกกก หนาวเหน็บไปถึงใจเพราะมาคนเดียว ไม่ไหวเลยต้องถอยทับเดินกลับที่พักหลับลึกมากจริงๆ
EP.1 จบลงด้วยรูปสวยๆ (มั้ง) จาก ถนนคนเดิน qianmen ละกันนะครับ เพราะมีความว่าเจ้านายมาแล้ววววววว
ปล.ทุกรูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ สวยบ้าง บ้งบ้าง (ซึ่งส่วนใหญ่บ้ง) อย่าว่ากันนะครับผม
EP.2 มาแล้วนะครับ
http://pantip.com/topic/34912499
[CR] เที่ยวปักกิ่งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไปเที่ยวโดยไม่อ่านกระทู้นี้ไม่ได้ !!!!! [รูปเยอะมาก] EP.1
passport
แบบฟอร์มการขอวีซ่าจีน http://www.visaforchina.org/BKK_TH/generalinformation/downloads/index.shtml
รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นหลัง ขาวหรือน้ำเงิน
ใบจองโรงแรม
ใบจองตั๋วเครื่องไปทั้งไปและกลับ
เงิน 1500 บาท
ซึ่งต้องไปยื่นเอกสารที่ตึก ธนภูมิ ถนน เพชรบุรี นั่ง MRT ลง สถานี เพชรบุรี ทางออกที่ 2 พอออกจาสถานี จะเจอพี่วิน ก็บอกพี่ไปตึกธนภูมิ ทำวีซ่าจีน จ่ายเงินค่าวิน 15 บาท แล้วมุ่งหน้าขึ้นไปชั้น 5 กดบัตรคิว ยื่นเอกสาร ใช้เวลาเร็วมาก และก็รอ ประมาณ 5 วัน เพื่อไปรับวีซ่าและจ่ายเงิน 1500 บาท แค่นี้ง่ายนิดเดียว ช่วงที่ผมไปคือต้นกุมภาพันธ์ อากาศจะค่อนข้างหนาวนะครับ ผมเดินทางโดยสายการบิน cathay pacific + dragon air เพราะต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ ฮ่องกง จากฮ่องกงมาปักกิ่งใช้เวลาประมาณ 4 ชม และในที่สุดก็มาถึงซักที ปักกิ่งของฉัน
พอถึงปักกิ่งครั้งแรกที่เห็นคือ สนามบินใหญ่โตมโหราฬ พออกจาก gate ได้ก็มุ่งตรงดิ่งไปที่ immigration ทันที ด้วยความที่ศึกษาการตอบคำถามของ ตม. มาพอสมควรเลยผ่านง่ายๆแบบไม่ต้องกังวลไดๆ ที่ปักกิ่งการเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองง่ายมากครับ มีทั้ง รถทัวร์ (ไม่รู้เรียกถูกเปล่านะ แต่ลักษณะคล้ายๆกัน) ไปตามเส้นทางต่างๆ และมีรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่สะดวกมาก ซื้อบัตรใบเดียวไปได้ทั่วเมือง การมาปักกิ่งครั้งนี้ ผมพักกับครอบครัวของผม เพราะท่านมาทำงานที่นี่ เลยถือโอกาสมาเที่ยวด้วยเลย ปักกิ่ง เที่ยวง่ายครับ เพราะ รถไฟฟ้าใต้ดินเต็มเมืองไปหมด เลยแนบแผนที่มาโหน่ยยย
เช้าวันนี้อากาศหนาวเหมือนทุกวันครับ แต่หนาวกว่าวันแรกๆที่มาถึงปักกิ่ง วันนี้ผมมีแพลนจะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวแบบเราๆต้องไป ถ้าไม่ไปก้คือมาไม่ถึงปักกิ่งเหมือนไปกรุงเทพ ไม่ไปวัดพระแก้ว มันดูขัดๆยังไงไม่รู้เนาะ
เริ่มด้วยการหาโฮสเทลเพราะเที่ยวคนเดียว (พ่อกะแม่ไม่ไปด้วยครับ)
เลยไม่จำเป็นต้องพักห้องเดี่ยวก็ได้เดี๋ยวไม่มีเพื่อนคุย เอ๊ะ !!! หรืออาจจะมีเพื่อนคุยก็ได้มั้ง 555 ผมเลือก ลีโอโฮลเทล เพราะใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน qianmen เดินทางสะดวก แถมอยุ่ใกล้ที่ท่องเที่ยวเยอะมากมาย
พอผมทำการเช็กอินเข้าพักเรียบร้อยแล้ว สถานที่แรกที่ผมจะไปคือ หอระฆัง และ หอกลอง สถานี guloudajie line2
ทางออก g เท่าที่เห็นมีเขียนทางออก H ด้วยแต่หาป้ายไม่เจอ ยังไงก็ตามทางออก G มาละกันนะครับ
พอหัวพ้นหลังคาสถานีจะเจอเลยจร้าาา อยู่ไกลลิปลับ 555 เดินตรงไปเรื่อยๆแหละ ไม่รู้กี่ร้อยเมตรเพราะมันหนาวเดินไม่เหนื่อยเลย และก็จะเจอป้าย hutong คาดว่าน่าจะเป็นชื่อเรียกภาษาจีนมั้งนะเดาเอาเอง พอเลี้ยวเท่านั้นแหละ ขุ่นพระ ต้องเดินเข้าซอยอีก ประมาน 100 เมตร แต่ทำไมวันนี้เงียบจัง คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่เลย แต่ก็ดีแล้วแหละแกร๋ ถ่ายรูปมันเลยสิเนี่ย จ่ายค่าเข้าชม 15 หยวน ถ้าจะขึ้นไปดูหอกลองก็ 15 หยวนเหมือนกัน
สถานที่ต่อไปของวันนี้คือ วัดลามะ สถานี lama temple line2 ทางออก C บรรยายด้วยภาพเอาละกันนะครับ มันหนาวมากกกกจริงๆๆๆ
พนักงานบอกว่า สถานที่นี้เธอต้องไปให้ได้นะ และแล้วก็คือ temple of heaven สถานี tiantandongmen ทางออก A คือมันใหญ่มากจริงๆ มันกึ่งสวนสนกึ่งวัด ไม่รู้จะอธิบายยังไง อยากรู้ต้องมาลองดูนะจ๊ะ
หลังจากที่เดินวนอยู่นาน เดินวนไปวนมา ดูเวลา ห๊ะนี่เราอยู่ที่นี่สาม ชม เลยหรอเนี่ย คือเริ่มเมื่อยละ กลับดีกว่า ยังไม่ทันจะถึงที่พัก ก็เริ่มมืดละเลยเดินหาไรกินแถวที่พักและสำรวจแถวนี้ก่อน ดูสิว่าจะมีอะไร
เดินเข้ามาในถนนธุรกิจ ก็เดินดูร้านโน่นร้านนี่ เอ้าเห้ย ทะลุมาอีกมิตินึงเลยหรอเนี่ย นี่มันถนนคนเดิน qianmen นี่นา อะไรจะคนละฟีลแบบนี้เนี่ย สไตล์จีนผสมกับฝรั่งมังค่า มันออกมาลงตัว แต่ยังมีหลายร้านที่ยังไม่เปิดและยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เดินอยู่นานลมพัดตึ้งแรงมากกกก หนาวเหน็บไปถึงใจเพราะมาคนเดียว ไม่ไหวเลยต้องถอยทับเดินกลับที่พักหลับลึกมากจริงๆ
EP.1 จบลงด้วยรูปสวยๆ (มั้ง) จาก ถนนคนเดิน qianmen ละกันนะครับ เพราะมีความว่าเจ้านายมาแล้ววววววว
ปล.ทุกรูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ สวยบ้าง บ้งบ้าง (ซึ่งส่วนใหญ่บ้ง) อย่าว่ากันนะครับผม
EP.2 มาแล้วนะครับ http://pantip.com/topic/34912499
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น