
เปิดปีมางานก็ยุ่งเลยค่ะ แต่ทำไงได้อากาศมันดี เลยขอหนีเที่ยวซะหน่อย (นี่แหละคือที่มาขอกระทู้นี้)
ทริปนี้เกิดขึ้นมาอย่างกระทันหันมากจริงๆ เนื่องจากอากาศอยู่ดีๆก็หนาววววซะยังงั้น ที่กทม.ยัง 16-18 องศา
แล้วที่เชียงใหม่จะขนาดไหนนนนน คนที่ตกหลุมรักเชียงใหม่อย่างเราจะพลาดได้ไง
พอเริ่มคิดจะไป ก็จองที่พักเลยค่ะ รออะไร....เราหาที่พักโดยมีคอนเซ็ปท์ว่า "ใกล้นิมมานในราคาไม่แพง"
ซึ่งโดยปกติเรามีที่พักประจำอยู่ แต่ช่วงนี้ก็ดันเต็มซะงั้น สงสัยคนจะแห่กันไปรับลมหนาวเหมือนกันแฮะ
หาที่พักอยู่หลายนาที....เราก็เจอที่ที่น่าสนใจชื่อ Vanilla Residence ตรงใจเลยค่ะ ราคาไม่แพง (ประมาณพันกว่าบาท)
ที่พักใหม่ ใกล้นิมมาน เรากดจองปุ๊บ เก็บของปั๊บเลยคร่าาาา ออกเดินทางเช้าวันรุ่งขึ้นเลย (บอกแล้ว ทริปนี้กระทันหัน)
ต้องออกตัวก่อนนะคะว่าการรีวิวนี้ใช้กล้องแค่ 2 ชนิดคือกล้องมือถือ และ Go Pro ซึ่งภาพอาจจะไม่ค่อยสวยเหมือนรีวิวคนอื่นโน๊ะ
แต่การรีวิวนี้มาด้วยใจล้วนๆค่ะ เพราะได้สาระความรู้มาจากพันทิปมาเยอะ
ก็เลยอยากทำรีวิวให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นเค้าต่อบ้าง
เรามาเริ่มกันเลยนะคะ
เราเริ่มออกเดินทางเช้ามืดของวันที่ 28 มกราคม 2559 เวลา 04:30 น. ด้วยการขับรถคู่ใจกับคนรู้ใจ ฮิ้วววว
ขับๆแวะๆมาตลอดทาง ขับรถมา 8 ชม.เต็ม ระหว่างทางขอบอกว่าหนาวมาก ขับรถไม่เปิดแอร์เลยค่ะ
ประหยัดน้ำมันไปได้เยอะ ดูอุณหภูมิจากหน้ารถ อ๊ะ 16 องศาตลอดทาง กรี๊ดๆๆๆ
เวลา 12:40 เราก็ถึงวัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน แวะไหว้พระธาตุประจำปีเกิดซะหน่อย (เราเกิดปีระกาค่ะ)

สักการะพระธาตุเสร็จเราก็เริ่มหิวละ เลยเดินข้ามถนนจากหน้าวัดมาฝั่งตรงข้ามก็จะมีแหล่งขายของที่ระลึก
ซึ่งจะอยู่บนสะพานไม้ข้ามคลอง (สะพานขัวมุง) ให้เดินทะลุเข้าไปให้สุดเลยค่ะ
ตรงไปเรื่อยๆจะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวซ้ายมือ ชื่อร้าน "ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย (เวียงยอง)"
เราไม่รีรอ รีบจ้ำอ้าวๆไปเลยจ้าาาาา ทีเด็ดของก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ก็คือการใช้ลำไยในการต้มน้ำซุป ราคาไม่แพงค่ะ 35 บาท
ส่วนตัวเราชอบแบบแห้งมากกว่า แล้วขอน้ำซุปมาซดร้อนๆ ได้ใจกว่า
ป้ายหน้าร้านมีเคลมไว้ว่า "ไม่ได้กิน ก๋วยเตี๋ยวหมูลำไย มาไม่ถึงลำพูน"
สำหรับเราร้านนี้ถือว่าโอเคค่ะ ไม่ติดใจมาก แต่ก็ถือว่าดีใช้ได้เลย เร็วๆ ง่ายๆ ราคาไม่แพง

(ด้วยความหิวค่ะ มาถึงก็คลุกเลยค่ะ ลืมถ่ายตอนมาใหม่ๆ)
13:30น. เราเริ่มออกเดินทางสู่เชียงใหม่กันดีกว่าค่ะ
เดินทางประมาณ 1 ชม. เราก็ถึงที่พัก Vanilla Residence
ทางเข้าจะเป็นซอยเล็กๆซ้ายมือ เกือบถึงแยก Maya หรือแยกรินคำ (ถ้าถึงแยกตรงไปก็นิมมานละค่า)
ที่พักก็ดูใหม่มาก ตกแต่งน่ารักค่ะ เท่าที่ดูจะเหมาะกันคนที่ขี่จักรยานนะคะ เพราะเห็นมีตกแต่งเอาใจคนรักจักรยานมากกกก

(บริเวณด้านหน้าก่อนเข้า Lobby ค่ะ)

(ตรงนี้บริเวณ Lobby ค่ะ)
ที่นี่มีที่จอดรถให้ ดูปลอดภัยดีค่ะ ส่วนด้านในห้องพักก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบค่ะ
เราพักห้อง Superior Room ซึ่งก็มี Wifi, ทีวี, ตู้เย็น ตู้ใหญ่, ไมโครเวฟ ที่สำคัญสะอาดสะอ้านดีค่ะ

(รูปภายในห้องขอยืมมาจากเว็บของ Vanilla Residence นะคะ แต่ที่เราไปพักไม่มีเก้าอี้นั่งสีน้ำตาลเหมือนในรูปนะคะ)
พอถึงที่พักก็จัดการอาบน้ำและนอนเอาแรงก่อนค่ะ หลังจากผลัดกันขับ ผลัดกันหลับอยู่ 8 ชม. ของีบก่อนน๊า
Zzzzz Zzzzzzz
หลับเต็มอิ่มละ.....ตื่นมาก็หิวเลยค่ะ 555
17:00 น. เราออกเดินทางจากที่พักไปร้านที่คิดมาตั้งแต่ กทม.ว่ายังไงต้องทานให้ได้
นั่นก็คือ....ร้านนาซิ จำปู๋ ร้านอาหารที่ทั้งวิวสวย บรรยากาศดี อาหารอร่อย

(ภาพด้านใน และนอกร้าน)
เราเลือกนั่งนอกร้านนะคะ เพราะอากาศดีม๊าก ตอนนั้นประมาณ 17-18 องศา (ขอให้มาก่อนมืดนะคะ วิวดีจริงไรจริง)
เราสั่งอาหารไม่ดูทรงตัวเองเลยค่ะ คือแต่ละอย่างนี่คือพลาดไม่ได้จริง

และนี่คือโฉมหน้าโฉมงามทั้งหลาย อาหารที่นี่เค้าเอาดอกไม้และผลไม้มาประกอบอาหารนะคะ
การจัดจานนี่คือ อัจฉริยะอ่ะ สวยมากกกกก พอเข้าปากปุ๊บ....โอโห้ คือดีอ่ะแกรรรรร
อาหารที่สั่งมาก็มี กรอบเสวยเป็นออเดิร์ฟ, แฮมรมควันคลุกยำสตรอเบอร์รี่, โรตีฮังเลหมู
สันนอกเมี่ยงกระท้อน และพล่าปลาสลิด อย่าลืมสั่งน้ำกระเจี๊ยบรูทเบียร์ปั่นนะคะ หอมหวานอร่อยค่ะ
ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่แล้ว........
ระหว่างทานอาหารด้วยความชุ่มชื่นหัวใจ อยู่ๆก็มีทัวร์เกาหลีมาลงค่ะ
โอปป้ามากันประมาณ 20 คน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนชรา.....
อีเด็กก็วิ่งซน พื้นที่เป็นไม้ก็สั่นไหวราวกับแผ่นดินไหว เสียงผู้ใหญ่ตะโกนคุยกันลั่น และผู้ชายที่มาพร้อมควันบุหรี่ขโมงใหญ่
สันนิษฐานว่านางคงนั่งรถทัวร์เป็นเวลานาน ทำให้อยากบุหรี่ถึงขีดสุด
จบเลยค่ะ บรรยากาศดีที่ว่ามาทั้งหมด
โชคดีที่เราและคุณแฟนกำลังจะทานอาหารเสร็จพอดี เลยรีบเรียกพนักงานคิดเงิน
แต่โชคร้ายของคุณพี่โต๊ะข้างๆค่ะ เธอน่าจะมาสวีทกับคุณสามี เราแอบเห็นเปิดไวน์จิบกันอย่างโรแมนติค
ก่อนกลับเราแอบได้ยินเธอพูดกับพนักงานเรื่องขอย้ายโต๊ะ (เข้าไปด้านใน)
พนักงานบอกเธอว่าจะไปกล่าวเตือนพวกพี่โอปป้าให้ แต่เธอก็สงสารทางร้าน กลัวโอปป้าไม่พอใจ
เธอเลยเป็นฝ่ายหนีเข้าไปในร้านซะเอง.....
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....หากทางร้านจะรับกลุ่มทัวร์ ควรดูแลจัดการให้ดีกว่านี้นะคะ ไม่งั้นลูกค้าไทยหายเรียบ

เราทานอาหารเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าไปต่อค่ะ เวลาประมาณ 19:00น. เราก็เดินทางถึง....
.....เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี..... เย้เย้เย้
ยอมรับเลยค่ะว่าเคยมาเป็นครั้งแรก คนเยอะมว๊าก ทัวร์โอปป้า ทัวร์จีนมาเพียบ!
อุณหภูมิตอนนี้ราวๆ 12-14 องศา แล้วแต่จุดค่ะ
เราก็นั่งรถตะลุยชมสัตว์หายาก สนุกดีค่ะ

อุ้ย..เจอเพื่อนด้วยค่ะ (แรดตัวซ้ายมือไง อิอิ)
การมาครั้งนี้ทำให้ได้ความรู้อยู่ข้อนึงค่ะ คือ.....
เคยสงสัยกันไม๊คะว่า "ม้าลาย" เป็นสีขาวลายดำ หรือดำลายขาว
เค้าว่ากันว่าสีผิวที่แท้จริงให้ดูที่ อวัยวะเพศค่ะ !!! และคืนนั้นเป็นคืนที่อากาศหนาวเย็นทำให้เจ้าม้าลายนางก็คงอยากหากิจกรรมทำแก้หนาว
ดังนั้นนางจึงเผยสีผิวที่แท้จริงออกมาโชว์ค่ะ อยากบอกว่า ดำปื๊ดเลยค่ะคู๊ณณณณ เสียดายที่ถ่ายรูปไม่ทัน แฮ่!
เสร็จจากการนั่งรถชมก็ลงต่อมาดูโชว์สัตว์นักล่าค่ะ สนุกดีนะคะ ใช้เวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ชม.ครึ่งค่ะ
จบหนึ่งวันที่คุ้มค่าแล้วค่ะ ไว้จะมาเล่าต่อนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบค่ะ



[CR] "หนีเที่ยว เชียงใหม่" ขับรถไป 4 วัน 3 คืน
เปิดปีมางานก็ยุ่งเลยค่ะ แต่ทำไงได้อากาศมันดี เลยขอหนีเที่ยวซะหน่อย (นี่แหละคือที่มาขอกระทู้นี้)
ทริปนี้เกิดขึ้นมาอย่างกระทันหันมากจริงๆ เนื่องจากอากาศอยู่ดีๆก็หนาววววซะยังงั้น ที่กทม.ยัง 16-18 องศา
แล้วที่เชียงใหม่จะขนาดไหนนนนน คนที่ตกหลุมรักเชียงใหม่อย่างเราจะพลาดได้ไง
พอเริ่มคิดจะไป ก็จองที่พักเลยค่ะ รออะไร....เราหาที่พักโดยมีคอนเซ็ปท์ว่า "ใกล้นิมมานในราคาไม่แพง"
ซึ่งโดยปกติเรามีที่พักประจำอยู่ แต่ช่วงนี้ก็ดันเต็มซะงั้น สงสัยคนจะแห่กันไปรับลมหนาวเหมือนกันแฮะ
หาที่พักอยู่หลายนาที....เราก็เจอที่ที่น่าสนใจชื่อ Vanilla Residence ตรงใจเลยค่ะ ราคาไม่แพง (ประมาณพันกว่าบาท)
ที่พักใหม่ ใกล้นิมมาน เรากดจองปุ๊บ เก็บของปั๊บเลยคร่าาาา ออกเดินทางเช้าวันรุ่งขึ้นเลย (บอกแล้ว ทริปนี้กระทันหัน)
ต้องออกตัวก่อนนะคะว่าการรีวิวนี้ใช้กล้องแค่ 2 ชนิดคือกล้องมือถือ และ Go Pro ซึ่งภาพอาจจะไม่ค่อยสวยเหมือนรีวิวคนอื่นโน๊ะ
แต่การรีวิวนี้มาด้วยใจล้วนๆค่ะ เพราะได้สาระความรู้มาจากพันทิปมาเยอะ
ก็เลยอยากทำรีวิวให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นเค้าต่อบ้าง
เรามาเริ่มกันเลยนะคะ
เราเริ่มออกเดินทางเช้ามืดของวันที่ 28 มกราคม 2559 เวลา 04:30 น. ด้วยการขับรถคู่ใจกับคนรู้ใจ ฮิ้วววว
ขับๆแวะๆมาตลอดทาง ขับรถมา 8 ชม.เต็ม ระหว่างทางขอบอกว่าหนาวมาก ขับรถไม่เปิดแอร์เลยค่ะ
ประหยัดน้ำมันไปได้เยอะ ดูอุณหภูมิจากหน้ารถ อ๊ะ 16 องศาตลอดทาง กรี๊ดๆๆๆ
เวลา 12:40 เราก็ถึงวัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน แวะไหว้พระธาตุประจำปีเกิดซะหน่อย (เราเกิดปีระกาค่ะ)
สักการะพระธาตุเสร็จเราก็เริ่มหิวละ เลยเดินข้ามถนนจากหน้าวัดมาฝั่งตรงข้ามก็จะมีแหล่งขายของที่ระลึก
ซึ่งจะอยู่บนสะพานไม้ข้ามคลอง (สะพานขัวมุง) ให้เดินทะลุเข้าไปให้สุดเลยค่ะ
ตรงไปเรื่อยๆจะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวซ้ายมือ ชื่อร้าน "ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย (เวียงยอง)"
เราไม่รีรอ รีบจ้ำอ้าวๆไปเลยจ้าาาาา ทีเด็ดของก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ก็คือการใช้ลำไยในการต้มน้ำซุป ราคาไม่แพงค่ะ 35 บาท
ส่วนตัวเราชอบแบบแห้งมากกว่า แล้วขอน้ำซุปมาซดร้อนๆ ได้ใจกว่า
ป้ายหน้าร้านมีเคลมไว้ว่า "ไม่ได้กิน ก๋วยเตี๋ยวหมูลำไย มาไม่ถึงลำพูน"
สำหรับเราร้านนี้ถือว่าโอเคค่ะ ไม่ติดใจมาก แต่ก็ถือว่าดีใช้ได้เลย เร็วๆ ง่ายๆ ราคาไม่แพง
(ด้วยความหิวค่ะ มาถึงก็คลุกเลยค่ะ ลืมถ่ายตอนมาใหม่ๆ)
13:30น. เราเริ่มออกเดินทางสู่เชียงใหม่กันดีกว่าค่ะ
เดินทางประมาณ 1 ชม. เราก็ถึงที่พัก Vanilla Residence
ทางเข้าจะเป็นซอยเล็กๆซ้ายมือ เกือบถึงแยก Maya หรือแยกรินคำ (ถ้าถึงแยกตรงไปก็นิมมานละค่า)
ที่พักก็ดูใหม่มาก ตกแต่งน่ารักค่ะ เท่าที่ดูจะเหมาะกันคนที่ขี่จักรยานนะคะ เพราะเห็นมีตกแต่งเอาใจคนรักจักรยานมากกกก
(บริเวณด้านหน้าก่อนเข้า Lobby ค่ะ)
(ตรงนี้บริเวณ Lobby ค่ะ)
ที่นี่มีที่จอดรถให้ ดูปลอดภัยดีค่ะ ส่วนด้านในห้องพักก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบค่ะ
เราพักห้อง Superior Room ซึ่งก็มี Wifi, ทีวี, ตู้เย็น ตู้ใหญ่, ไมโครเวฟ ที่สำคัญสะอาดสะอ้านดีค่ะ
(รูปภายในห้องขอยืมมาจากเว็บของ Vanilla Residence นะคะ แต่ที่เราไปพักไม่มีเก้าอี้นั่งสีน้ำตาลเหมือนในรูปนะคะ)
พอถึงที่พักก็จัดการอาบน้ำและนอนเอาแรงก่อนค่ะ หลังจากผลัดกันขับ ผลัดกันหลับอยู่ 8 ชม. ของีบก่อนน๊า
Zzzzz Zzzzzzz
หลับเต็มอิ่มละ.....ตื่นมาก็หิวเลยค่ะ 555
17:00 น. เราออกเดินทางจากที่พักไปร้านที่คิดมาตั้งแต่ กทม.ว่ายังไงต้องทานให้ได้
นั่นก็คือ....ร้านนาซิ จำปู๋ ร้านอาหารที่ทั้งวิวสวย บรรยากาศดี อาหารอร่อย
(ภาพด้านใน และนอกร้าน)
เราเลือกนั่งนอกร้านนะคะ เพราะอากาศดีม๊าก ตอนนั้นประมาณ 17-18 องศา (ขอให้มาก่อนมืดนะคะ วิวดีจริงไรจริง)
เราสั่งอาหารไม่ดูทรงตัวเองเลยค่ะ คือแต่ละอย่างนี่คือพลาดไม่ได้จริง
และนี่คือโฉมหน้าโฉมงามทั้งหลาย อาหารที่นี่เค้าเอาดอกไม้และผลไม้มาประกอบอาหารนะคะ
การจัดจานนี่คือ อัจฉริยะอ่ะ สวยมากกกกก พอเข้าปากปุ๊บ....โอโห้ คือดีอ่ะแกรรรรร
อาหารที่สั่งมาก็มี กรอบเสวยเป็นออเดิร์ฟ, แฮมรมควันคลุกยำสตรอเบอร์รี่, โรตีฮังเลหมู
สันนอกเมี่ยงกระท้อน และพล่าปลาสลิด อย่าลืมสั่งน้ำกระเจี๊ยบรูทเบียร์ปั่นนะคะ หอมหวานอร่อยค่ะ
ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่แล้ว........
ระหว่างทานอาหารด้วยความชุ่มชื่นหัวใจ อยู่ๆก็มีทัวร์เกาหลีมาลงค่ะ
โอปป้ามากันประมาณ 20 คน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนชรา.....
อีเด็กก็วิ่งซน พื้นที่เป็นไม้ก็สั่นไหวราวกับแผ่นดินไหว เสียงผู้ใหญ่ตะโกนคุยกันลั่น และผู้ชายที่มาพร้อมควันบุหรี่ขโมงใหญ่
สันนิษฐานว่านางคงนั่งรถทัวร์เป็นเวลานาน ทำให้อยากบุหรี่ถึงขีดสุด
จบเลยค่ะ บรรยากาศดีที่ว่ามาทั้งหมด
โชคดีที่เราและคุณแฟนกำลังจะทานอาหารเสร็จพอดี เลยรีบเรียกพนักงานคิดเงิน
แต่โชคร้ายของคุณพี่โต๊ะข้างๆค่ะ เธอน่าจะมาสวีทกับคุณสามี เราแอบเห็นเปิดไวน์จิบกันอย่างโรแมนติค
ก่อนกลับเราแอบได้ยินเธอพูดกับพนักงานเรื่องขอย้ายโต๊ะ (เข้าไปด้านใน)
พนักงานบอกเธอว่าจะไปกล่าวเตือนพวกพี่โอปป้าให้ แต่เธอก็สงสารทางร้าน กลัวโอปป้าไม่พอใจ
เธอเลยเป็นฝ่ายหนีเข้าไปในร้านซะเอง.....
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....หากทางร้านจะรับกลุ่มทัวร์ ควรดูแลจัดการให้ดีกว่านี้นะคะ ไม่งั้นลูกค้าไทยหายเรียบ
เราทานอาหารเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าไปต่อค่ะ เวลาประมาณ 19:00น. เราก็เดินทางถึง....
.....เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี..... เย้เย้เย้
ยอมรับเลยค่ะว่าเคยมาเป็นครั้งแรก คนเยอะมว๊าก ทัวร์โอปป้า ทัวร์จีนมาเพียบ!
อุณหภูมิตอนนี้ราวๆ 12-14 องศา แล้วแต่จุดค่ะ
เราก็นั่งรถตะลุยชมสัตว์หายาก สนุกดีค่ะ
อุ้ย..เจอเพื่อนด้วยค่ะ (แรดตัวซ้ายมือไง อิอิ)
การมาครั้งนี้ทำให้ได้ความรู้อยู่ข้อนึงค่ะ คือ.....
เคยสงสัยกันไม๊คะว่า "ม้าลาย" เป็นสีขาวลายดำ หรือดำลายขาว
เค้าว่ากันว่าสีผิวที่แท้จริงให้ดูที่ อวัยวะเพศค่ะ !!! และคืนนั้นเป็นคืนที่อากาศหนาวเย็นทำให้เจ้าม้าลายนางก็คงอยากหากิจกรรมทำแก้หนาว
ดังนั้นนางจึงเผยสีผิวที่แท้จริงออกมาโชว์ค่ะ อยากบอกว่า ดำปื๊ดเลยค่ะคู๊ณณณณ เสียดายที่ถ่ายรูปไม่ทัน แฮ่!
เสร็จจากการนั่งรถชมก็ลงต่อมาดูโชว์สัตว์นักล่าค่ะ สนุกดีนะคะ ใช้เวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ชม.ครึ่งค่ะ
จบหนึ่งวันที่คุ้มค่าแล้วค่ะ ไว้จะมาเล่าต่อนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบค่ะ