======================
ผู้มาเยือน.........(คนหายตัว)
======================
Psycho G.
แม้ว่าจะมีอำนาจชื่อเสียงเงินทองมากมายมหาศาล จนหลายครั้งเข้าใจผิดคิดว่าตนเองเป็นเทวดาลงมาเกิด สั่งเป็นสั่งตายใครต่อใครได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหนึ่งบุรุษหนึ่งหญิงสาวหนึ่งผู้เต็มไปด้วยพลังอำนาจเหนือธรรมชาติบางอย่าง ทำให้เขา..ซึ่งเคยคิดว่าตัวเองใหญ่โต ตอนนี้รู้สึกตัวลีบเล็กลงอย่างน่าประหลาด เครื่องปรับอากาศในห้องทำงานขนาด “ใหญ่พิเศษ” และราคา" แพงบรรลัยวายวอดเป็นพิเศษ"วันนี้ก็ดูเยือกเย็นผิดปกติ บรรยากาศหนักอึ้งแตกต่างจากวันอื่นๆ
กระนั้นเขายังรู้สึกเหงื่อเย็นยะเยียบสายหนึ่งไหลออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ ผ่านลงไปตามไขสันหลังราวการคืบคลานของอสรพิษ อันมีลำตัวประกอบมาจากความว่างเปล่าเลื้อยผ่านหลุมฝังศพเก่าแก่หนาวเย็นจากดินแดนแสนไกล
ใครล่ะจะไม่รู้สึกแบบนี้ ในเมื่อจู่ๆ ก็มีคนบุกเข้ามาในห้องทำงาน เสนอในสิ่งที่ตนเองแอบฝันอยู่คนเดียวมานาน ความปรารถนาอันแรงกล้าที่น่าสะพรึงกลัวและน่าขยะแขยงสามานย์
ผู้มาเยือนโดยการเดินออกมาจากผนังห้องได้แบบนั้น ดูอย่างไรก็ไม่ใช่คนธรรมดา ชายหนุ่มผมยาวหน้าตาดีอยู่ในชุดเสื้อคลุมยาวสีดำ ชุดแบบนี้ไม่มีทางใส่เดินเล่นในเมืองโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะในเมืองอากาศร้อนตับแลบ หญิงสาวชุดดำผู้มีใบหน้าคมสวย โดยเฉพาะนัยน์ตาดูคล้ายคมแห่งคันเคียวเสี้ยวจันทร์ ยามยิ้มนัยน์ตาคล้ายกลับกลายเป็นเส้นโค้งเร้นลับคู่หนึ่ง ทั้งน่ามองทั้งน่ากลัว
เจ้าชายแห่งรัตติกาลและธิดาพญายม คู่หูจากนรกนั่นเอง
“ว่าอย่างไรล่ะ จะตกลงหรือไม่ คิดดูให้ดีก่อนก็ได้นะ”
เสียงใสๆของเจ้าหญิงแห่งยมโลกดังขึ้นเหมือนเร่งรัด แต่สีหน้าท่าทางไม่ได้เร่งร้อนแม้แต่น้อย เพราะรู้ว่าขอเสนอพลังอำนาจวิเศษจากโลกมืดกำลังเป็นที่รบกวนและรบเร้าจิตใจฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างมาก
“เพียงลงชื่อในสัญญาปีศาจฉบับนี้ สิ่งที่เจ้าเฝ้าฝันมาตลอดชีวิตจะเป็นจริงทันที”
องค์หญิงแห่งยมโลกว่าต่อไปเรื่อยๆด้วยใบหน้ายิ้มเล็กน้อย
“ลองคิดดู จะเป็นอย่างไรเมื่อความฝันความปรารถนานั้นเป็นจริง เจ้าจะสามารถหายตัวไปได้ในทุกหนทุกแห่ง กระทำเรื่องราวเลวทรามชั่วช้าลามกจกเปรตจัน- ไร อันมาจากสมองชั่วๆอย่างไรก็ได้ เพราะไม่มีใครมองเห็น หายตัวไปอัดหน้าคนที่เจ้าหมั่นไส้ หายตัวไปข้างเตียงสาวงามดารารัดับโลกทำอุบาทว์วิปริตอะไรในยามวิกาลหรือยามกลางวัน ได้ทั้งนั้น”
ชายวัยค่อนอายุผู้ยิ่งใหญ่กลืนน้ำลายหายใจไม่ทั่วท้อง คำโฆษณาเชิญชวนลงนามทำธุรกิจของหญิงสาวผู้ลึกลับฟังดูชอบกล เหมือนหลอกด่าอยู่ในที แต่พลังอำนาจของสัญญานั้นน่าสนใจมากกว่า
ใช่ .. เขาฝันว่าอยากหายตัวได้ มันจะได้สนองความอยากและตัณหาวิปริตอย่างเต็มที่ ชื่อเสียงอำนาจเงินทองที่มีอยู่ในปัจจุบันมันมากมาย แต่ไม่มากพอจะสนองความต้องการอุบาทว์ที่เพิ่มมากขึ้นตามชื่อเสียงเงินทอง อันได้มาจากเส้นทางคดโกงนอกรีตตลอดมา
เขาอ่านสัญญาอย่างละเอียดอีกครั้ง มันไม่มีช่องโหว่ช่องว่างใดๆ อันบ่งบอกว่าเป็นกับดัก เขาจะหายตัวได้ตามใจต้องการทันที่เมื่อยอมลงนามในสัญญาปีศาจ สัญญาจะส่งผลระยะยาวจนกว่าเขาจะเสียชีวิต วิญญาณจะตกเป็นของปีศาจ ซึ่งจะเอาไปต้มยำทำแกงทำอะไรก็ช่างมันเถิด ไม่ใช่หน้าที่จะมาคิดตอนนี้
หายตัวได้ เป็นสิ่งเชิญชวนเย้ายวนใจเหลือเกิน แค่คิดก็ทำให้หัวใจเต้นแรง
“การตายของผมจะต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่ตายเพราะอำนาจของพวกปีศาจหรืออะไรทั้งนั้น”
เขาย้ำเพื่อความแน่ใจและมั่นใจ
“แน่นอนเรื่องนี้ ไม่มีปัญหา” องค์หญิงตอบหนักแน่น
“พวกเราไม่มีนโยบายจะเล่นวิชามาร เหมือนที่พวกเจ้าใช้กัน การตายของเจ้าจะตามตามวาระปกติของเจ้าอยู่แล้ว เจ้าควรจะดีใจนะ ว่าความฝันเลวๆ ของเจ้าทำให้พวกเราจับคลื่นความคิดฝันของเจ้าได้พอดี ไม่ใช่คนทุกคนหรอกนะจะมีโอกาสเช่นนี้”
“ทุกอย่างต้องเป็นไปตามสัญญาทุกประการ ร่างกายทั้งหมดของผมต้องไม่มีใครมองเห็น ไม่ใช่แค่ตัวหายอย่างเดียว และสามารถควบคุมการหายตัวได้ทุกเวลาที่ต้องการและอยู่บนโลกมนุษย์นี้ตลอดชีวิต โดยการรับรู้ทุกอย่างยังเป็นปกติ”
องค์หญิงแห่งยมโลกยังคงยิ้มพยักหน้าก่อนพูดให้อีกฝ่ายอุ่นใจว่า
“เจ้าไม่ต้องห่วง ถ้าตัวหายได้อย่างเดียว เห็นหัวและขาเดินไปมาแบบนั้น คงดูอุบาทว์สิ้นดี..มันแน่อยู่แล้ว พวกเราชาวปีศาจรักษาสัญญามากกว่าพวกมนุษย์เสียอีก และพวกเรารักษาภาพพจน์ของธุรกิจให้สวยงามเสมอ ว่าไหม..องค์ชาย”
ประโยคหลังหญิงสาวหันไปถามยิ้มๆกับบุรุษหนุ่มแห่งโลกมืดผู้ยืนกอดองค์ฟังอยู่อย่างเงียบงัน องค์ชายพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้
“นี่ๆ ท่านมาติดต่อลูกค้ายิ้มแย้มแจ่มใสบ้างสิ ดูสิ...ทำหน้าเข้า”
คนถูกว่าทำหน้าดุเข้าใส่แบบคนอารมณ์เสีย แต่คู่กรณีแทนที่จะกลัวกลับหัวเราะจนตาหยี ตากลับกลายเป็นเส้นโค้งวงคมดำเรียวสองเส้น แถมแสยะหน้าล้อเลียนอีกต่างหาก
“รีบๆจบเรื่องไปเถอะน่า”
เจ้าชายแห่งรัตติกาลพูดห้วนสั้นเหมือนรำคาญใจเสียเต็มประดา ธิดาพญายมทำจมูกย่นเข้าใส่ทีหนึ่งแล้วหันไปเจรจากับลูกค้าต่อไป
“เจ้าอย่าคิดนาน รีบตัดสินใจ จะตกลงก็ตกลง จะไม่ตกลงก็ไม่ตกลง รีบบอกมา เดี๋ยวท่านองค์ชายจะโมโหอาละวาดพ่นไฟเผาที่ทำงานของเจ้าพินาศหมด ข้าไม่รู้ด้วยนา”
คนถูกพาดพิงแยกเขี้ยว หนอย..หาว่าเราเป็นมังกรไฟหรืออย่างไร แต่คนยั่วประสาททำท่าไม่สนใจ
“ไม่ต้องลงนามด้วยเลือดใช่ไหม” ลูกค้าคนสำคัญถามอีกครั้ง ท่าทางตกลงใจแล้ว
“นั่นมันสมัยโบราณ แหม... พวกเราต้องมีการพัฒนาระบบธุรกิจของเราบ้างสิ จะใช้วิธีการแบบเดิม ๆ ลูกค้าเราหลายคนยอมรับไม่ได้ เสียลูกค้าโดยไม่จำเป็น”
หลังจากนิ่งคิดอีกครู่หนึ่ง ชายผู้มากด้วยอำนาจชื่อเสียงเงินทองแต่ความคิดสุดวิปริตก็ยอมลงนาม เพื่อก้าวไปสู้เส้นทางที่ฝันมานานแสนนานด้วยการหายตัว
องค์หญิงยิ้มอย่างพอใจ หยิบสัญญามาตรวจดูความเรียบร้อย ก่อนพูดกับลูกค้าเป็นครั้งสุดท้าย
“เอาล่ะ สัญญาเรียบร้อย ต่อไปนี้เจ้าจะสามารถหายตัวได้ตามใจปรารถนา ขอให้มีความสุขกับการหายตัว”
พูดจบก็คล้องแขนองค์ชายแห่งรัตติกาล พากันหันหลังเดินหายลับไปในผนังราวกับมายากล ทิ้งให้ลูกค้าลามกตื่นเต้นกับความฝันที่กำลังเป็นจริงอันไม่น่าเชื่อ
ใช่แล้ว... มันเป็นเรื่องจริง
ภาพจากกระจก…เขาตื่นเต้นจนแทบจะขาดใจตายเมื่อเห็นร่างกายของเขาค่อยโปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกลับกลายเป็นกระจกใส เห็นแต่เสื้อผ้ายังคงลอยอยู่ในอากาศ ไม่เป็นไร แค่ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด ก็จะไม่มีใครเห็นร่องรอยของเขาอีกต่อไป แต่เขายังรู้สึกถึงความมีตัวตนของตัวเองอยู่เช่นเดิมเพียงแต่มองไม่เห็นเท่านั้น ความปิติยินดีตื่นเต้นทะลักทลายขึ้นมาในความคิดจนแทบจะระเบิดตัวเองให้ขาดใจตาย
ต่อไปนี้ล่ะ เขาจะเดินไปได้อัดไอ้นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ชั่วพอกันและเป็นศัตรูกันมานาน ไปแกล้งใครก็ได้ตามใจต้องการ จะเดินไปสนุกสนานกับสาวคนไหนได้ไม่เลือกหน้า ทำอะไรได้ดังใจโดยไม่มีใครมองเห็น คงเป็นข่าวใหญ่โตดังไปทั้งประเทศถึงเรื่องที่ไม่มีคนเข้าใจ
เขาเดินแก้ผ้าโทงๆ ออกมาจากห้อง รู้สึกเย็นวาบแปลกๆดี แรกก็รู้สึกเขินอายชอบกล เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังไม่หน้าด้านพอจะเดินเดินแก้ผ้าในที่ทำงานหรือตามถนน แต่เมื่อนึกว่าไม่มีใครมองเห็นก็ไม่เห็นเป็นไร โลกเป็นของเราแล้ว
ออกไปแกล้งเลขาหน้าห้องดีกว่า แม่คนนี้จีบก็แล้ว เอาเงินมาล่อก็แล้ว ไม่ยอมเอออห่อหมกสักที หล่อนมีสามีซึ่งมีตำแหน่งกระจอกๆในบริษัทแห่งหนึ่งที่เขายังเอาเงินฟาดหัวหล่อนให้ยอมมาทานข้าวมื้อเที่ยงคืนด้วยกันยังไม่ได้ คราวนี้ล่ะเขาจะจัดการเธอให้อยู่หมัด
อ้าว..ไม่อยู่แฮะ ไม่รู้หายหัวไปไหน เดี๋ยวค่อยว่ากัน เขารอคอยได้ ยังมีเรื่องสนุกมากมายรออยู่
ลองลงไปข้างล่างก็แล้วกันเขาคิดในใจอย่างเบิกบานใจการกับหายตัว
เดินไปยังลิฟต์ กดปุ่มเลือกลงสู่ชั้นล่าง แต่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ โต้ตอบจากลิฟต์เหมือนกับว่าไฟฟ้าดับ แต่ไฟหน้าลิฟต์ยังสว่างอยู่
อะไรกันวะ… เขาเริ่มมีอารมณ์ขุ่นมัว ทำไมต้องมาเสียตอนนี้ด้วย ต้องเดินลงไปชั้นล่าง คนหายตัวก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะโว้ย แต่เอาล่ะ เดินก็เดิน
ความสนุกอันคาดฝันเอาไว้เริ่มหายไปบ้างแล้ว ทุกชั้นที่เขาเดินผ่านลงมาเงียบกริบปราศจากผู้คน แสงไฟยังคงเปิดทิ้งเอาไว้ จอคอมพิวเตอร์หลายเครื่องยังคงเปิดสว่างโร่ แก้วกาแฟยังคงวางตามโต๊ะทำงาน ลองจับดูมันยังคงอุ่นอยู่ แล้วคนมันหายหัวไปไหนหมด คล้ายกับว่าพวกเขาหายไปโดยกะทันหัน
เขาสั่นหัวให้กับความมึนงงของตัวเอง หรือคนพวกนี้รวมหัวกันแกล้ง แต่มันก็ไม่มีเหตุผลกับจะทำอย่างนั้น เพราะในอาคารแห่งนี้เขาใหญ่โตที่สุด ใครๆต้องน้อมน้อมคารวะ แม้แต่หมาเดินผ่านยังต้องหมอบต้องคลานผ่าน
จับแก้วกาแฟที่ใครบางคนทิ้งเอาไว้ จะปาระบายอารมณ์สักหน่อย แต่แล้วก็ชะงักค้าง
แก้วกาแฟแก้วนั้นถูกตรึงอยู่กับพื้นราวกับเป็นส่วนหนึ่งของโต๊ะ เขาไม่มีปัญญาขยับมันได้เลยแม้แต่น้อย! มันเกิดอะไรขึ้น!
เขาเริ่มจับต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆไปทั่วห้อง พบว่าเขาสามารถจับต้องมันได้ แต่เคลื่อนย้ายพวกมันไม่ได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว แม้แต่สมุดปากกาขนาดเล็กๆยังไม่สามารถเคลื่อนย้าย ความสนุกสนานเริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว อะไรบางอย่างดูไม่ชอบมาพากลกำลังเกิดขึ้นแบบหาคำอธิบายไม่ได้ แต่มันไม่ถูกต้องแน่นอน โลกแห่งการหายตัวได้มันต้องสนุกสนานเร้าใจวิปริตให้สาสม
วิ่งออกมาจากตึก ตรงมายังถนน แต่แล้วเขาก็ต้องยืนชะงักอยู่ข้างถนนนั่นเอง
ยวดยานรถรายังคงเต็มถนนเหมือนเช่นเคย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่กับที่เหมือนกลับกลายเป็นภาพถ่ายไปแล้ว รถเมล์ รถบรรทุก รถจักรยานยนต์ ต่างอยู่ในสภาพพร้อมขับเคลื่อนทำงานเต็มที่แต่ไม่มีผู้คนบนรถเหล่านั้นแม้แต่คนเดียว
มันเกิดบ้าอะไรกัน
เขารู้สึกใจหายวาบ หรือโดนเล่ห์เหลี่ยมจากสองปีศาจแห่งโลกมืดเข้าให้แล้ว
หันไปมองตามทางเท้า ยังเห็นร้านรวงต่างๆเปิดทิ้งเอาไว้ อย่างไม่กลัวใครจะขโมย แน่ล่ะ จะกลัวอย่างไร ในเมื่อไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกเลย นี่มันเป็นโลกที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง นอกจากตัวของเขาเท่านั้น
เหงื่อเริ่มแตก เขารีบกำหนดจิตให้คืนสู่สภาพเดิมทันที หายตัวในโลกอันชะงักค้างมันจะมีความหมายอะไร
พริบตานั้น เขาก็พลันพบว่าตัวเองยืนแก้ผ้าอยู่ริมถนนอย่างน่าเกลียดอุบาทว์ที่สุด ความอับอายทำให้เขาหลบวูบเข้าหลังเสาไฟฟ้ามองซ้ายมองขวากลัวว่าใครจะมองเห็น แต่ความรู้สึกสิ้นหวังและความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็วิ่งมาเกาะกุมหัวใจอีกครั้ง โลกยังเวิ้งว้างว่างเปล่าปราศจากผู้คน นาฬิกาบนผนังร้านค้าต่างๆพากันหยุดนิ่ง กาลเวลาถูกตอกตรึงไม่ไห้เลื่อนไหล
“พวกแกโกงฉัน……”
คนหายตัวร้องโหยหวนด้วยน้ำเสียงแห่งความผิดหวัง สิ้นหวังหวาดกลัวเจียนคลั่ง วิ่งโซซัดโซเซไปตามถนนเหมือนคนเสียสติ เข้าบ้านโน้นออกบ้านนี้อย่างบ้าคลั่ง ไม่สาวงาม ไม่มีผู้คน หมาแมวตัวเดียวก็ไม่มี...
.............
ผู้มาเยือน.........(คนหายตัว)
ผู้มาเยือน.........(คนหายตัว)
======================
Psycho G.
แม้ว่าจะมีอำนาจชื่อเสียงเงินทองมากมายมหาศาล จนหลายครั้งเข้าใจผิดคิดว่าตนเองเป็นเทวดาลงมาเกิด สั่งเป็นสั่งตายใครต่อใครได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหนึ่งบุรุษหนึ่งหญิงสาวหนึ่งผู้เต็มไปด้วยพลังอำนาจเหนือธรรมชาติบางอย่าง ทำให้เขา..ซึ่งเคยคิดว่าตัวเองใหญ่โต ตอนนี้รู้สึกตัวลีบเล็กลงอย่างน่าประหลาด เครื่องปรับอากาศในห้องทำงานขนาด “ใหญ่พิเศษ” และราคา" แพงบรรลัยวายวอดเป็นพิเศษ"วันนี้ก็ดูเยือกเย็นผิดปกติ บรรยากาศหนักอึ้งแตกต่างจากวันอื่นๆ
กระนั้นเขายังรู้สึกเหงื่อเย็นยะเยียบสายหนึ่งไหลออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ ผ่านลงไปตามไขสันหลังราวการคืบคลานของอสรพิษ อันมีลำตัวประกอบมาจากความว่างเปล่าเลื้อยผ่านหลุมฝังศพเก่าแก่หนาวเย็นจากดินแดนแสนไกล
ใครล่ะจะไม่รู้สึกแบบนี้ ในเมื่อจู่ๆ ก็มีคนบุกเข้ามาในห้องทำงาน เสนอในสิ่งที่ตนเองแอบฝันอยู่คนเดียวมานาน ความปรารถนาอันแรงกล้าที่น่าสะพรึงกลัวและน่าขยะแขยงสามานย์
ผู้มาเยือนโดยการเดินออกมาจากผนังห้องได้แบบนั้น ดูอย่างไรก็ไม่ใช่คนธรรมดา ชายหนุ่มผมยาวหน้าตาดีอยู่ในชุดเสื้อคลุมยาวสีดำ ชุดแบบนี้ไม่มีทางใส่เดินเล่นในเมืองโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะในเมืองอากาศร้อนตับแลบ หญิงสาวชุดดำผู้มีใบหน้าคมสวย โดยเฉพาะนัยน์ตาดูคล้ายคมแห่งคันเคียวเสี้ยวจันทร์ ยามยิ้มนัยน์ตาคล้ายกลับกลายเป็นเส้นโค้งเร้นลับคู่หนึ่ง ทั้งน่ามองทั้งน่ากลัว
เจ้าชายแห่งรัตติกาลและธิดาพญายม คู่หูจากนรกนั่นเอง
“ว่าอย่างไรล่ะ จะตกลงหรือไม่ คิดดูให้ดีก่อนก็ได้นะ”
เสียงใสๆของเจ้าหญิงแห่งยมโลกดังขึ้นเหมือนเร่งรัด แต่สีหน้าท่าทางไม่ได้เร่งร้อนแม้แต่น้อย เพราะรู้ว่าขอเสนอพลังอำนาจวิเศษจากโลกมืดกำลังเป็นที่รบกวนและรบเร้าจิตใจฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างมาก
“เพียงลงชื่อในสัญญาปีศาจฉบับนี้ สิ่งที่เจ้าเฝ้าฝันมาตลอดชีวิตจะเป็นจริงทันที”
องค์หญิงแห่งยมโลกว่าต่อไปเรื่อยๆด้วยใบหน้ายิ้มเล็กน้อย
“ลองคิดดู จะเป็นอย่างไรเมื่อความฝันความปรารถนานั้นเป็นจริง เจ้าจะสามารถหายตัวไปได้ในทุกหนทุกแห่ง กระทำเรื่องราวเลวทรามชั่วช้าลามกจกเปรตจัน- ไร อันมาจากสมองชั่วๆอย่างไรก็ได้ เพราะไม่มีใครมองเห็น หายตัวไปอัดหน้าคนที่เจ้าหมั่นไส้ หายตัวไปข้างเตียงสาวงามดารารัดับโลกทำอุบาทว์วิปริตอะไรในยามวิกาลหรือยามกลางวัน ได้ทั้งนั้น”
ชายวัยค่อนอายุผู้ยิ่งใหญ่กลืนน้ำลายหายใจไม่ทั่วท้อง คำโฆษณาเชิญชวนลงนามทำธุรกิจของหญิงสาวผู้ลึกลับฟังดูชอบกล เหมือนหลอกด่าอยู่ในที แต่พลังอำนาจของสัญญานั้นน่าสนใจมากกว่า
ใช่ .. เขาฝันว่าอยากหายตัวได้ มันจะได้สนองความอยากและตัณหาวิปริตอย่างเต็มที่ ชื่อเสียงอำนาจเงินทองที่มีอยู่ในปัจจุบันมันมากมาย แต่ไม่มากพอจะสนองความต้องการอุบาทว์ที่เพิ่มมากขึ้นตามชื่อเสียงเงินทอง อันได้มาจากเส้นทางคดโกงนอกรีตตลอดมา
เขาอ่านสัญญาอย่างละเอียดอีกครั้ง มันไม่มีช่องโหว่ช่องว่างใดๆ อันบ่งบอกว่าเป็นกับดัก เขาจะหายตัวได้ตามใจต้องการทันที่เมื่อยอมลงนามในสัญญาปีศาจ สัญญาจะส่งผลระยะยาวจนกว่าเขาจะเสียชีวิต วิญญาณจะตกเป็นของปีศาจ ซึ่งจะเอาไปต้มยำทำแกงทำอะไรก็ช่างมันเถิด ไม่ใช่หน้าที่จะมาคิดตอนนี้
หายตัวได้ เป็นสิ่งเชิญชวนเย้ายวนใจเหลือเกิน แค่คิดก็ทำให้หัวใจเต้นแรง
“การตายของผมจะต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่ตายเพราะอำนาจของพวกปีศาจหรืออะไรทั้งนั้น”
เขาย้ำเพื่อความแน่ใจและมั่นใจ
“แน่นอนเรื่องนี้ ไม่มีปัญหา” องค์หญิงตอบหนักแน่น
“พวกเราไม่มีนโยบายจะเล่นวิชามาร เหมือนที่พวกเจ้าใช้กัน การตายของเจ้าจะตามตามวาระปกติของเจ้าอยู่แล้ว เจ้าควรจะดีใจนะ ว่าความฝันเลวๆ ของเจ้าทำให้พวกเราจับคลื่นความคิดฝันของเจ้าได้พอดี ไม่ใช่คนทุกคนหรอกนะจะมีโอกาสเช่นนี้”
“ทุกอย่างต้องเป็นไปตามสัญญาทุกประการ ร่างกายทั้งหมดของผมต้องไม่มีใครมองเห็น ไม่ใช่แค่ตัวหายอย่างเดียว และสามารถควบคุมการหายตัวได้ทุกเวลาที่ต้องการและอยู่บนโลกมนุษย์นี้ตลอดชีวิต โดยการรับรู้ทุกอย่างยังเป็นปกติ”
องค์หญิงแห่งยมโลกยังคงยิ้มพยักหน้าก่อนพูดให้อีกฝ่ายอุ่นใจว่า
“เจ้าไม่ต้องห่วง ถ้าตัวหายได้อย่างเดียว เห็นหัวและขาเดินไปมาแบบนั้น คงดูอุบาทว์สิ้นดี..มันแน่อยู่แล้ว พวกเราชาวปีศาจรักษาสัญญามากกว่าพวกมนุษย์เสียอีก และพวกเรารักษาภาพพจน์ของธุรกิจให้สวยงามเสมอ ว่าไหม..องค์ชาย”
ประโยคหลังหญิงสาวหันไปถามยิ้มๆกับบุรุษหนุ่มแห่งโลกมืดผู้ยืนกอดองค์ฟังอยู่อย่างเงียบงัน องค์ชายพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้
“นี่ๆ ท่านมาติดต่อลูกค้ายิ้มแย้มแจ่มใสบ้างสิ ดูสิ...ทำหน้าเข้า”
คนถูกว่าทำหน้าดุเข้าใส่แบบคนอารมณ์เสีย แต่คู่กรณีแทนที่จะกลัวกลับหัวเราะจนตาหยี ตากลับกลายเป็นเส้นโค้งวงคมดำเรียวสองเส้น แถมแสยะหน้าล้อเลียนอีกต่างหาก
“รีบๆจบเรื่องไปเถอะน่า”
เจ้าชายแห่งรัตติกาลพูดห้วนสั้นเหมือนรำคาญใจเสียเต็มประดา ธิดาพญายมทำจมูกย่นเข้าใส่ทีหนึ่งแล้วหันไปเจรจากับลูกค้าต่อไป
“เจ้าอย่าคิดนาน รีบตัดสินใจ จะตกลงก็ตกลง จะไม่ตกลงก็ไม่ตกลง รีบบอกมา เดี๋ยวท่านองค์ชายจะโมโหอาละวาดพ่นไฟเผาที่ทำงานของเจ้าพินาศหมด ข้าไม่รู้ด้วยนา”
คนถูกพาดพิงแยกเขี้ยว หนอย..หาว่าเราเป็นมังกรไฟหรืออย่างไร แต่คนยั่วประสาททำท่าไม่สนใจ
“ไม่ต้องลงนามด้วยเลือดใช่ไหม” ลูกค้าคนสำคัญถามอีกครั้ง ท่าทางตกลงใจแล้ว
“นั่นมันสมัยโบราณ แหม... พวกเราต้องมีการพัฒนาระบบธุรกิจของเราบ้างสิ จะใช้วิธีการแบบเดิม ๆ ลูกค้าเราหลายคนยอมรับไม่ได้ เสียลูกค้าโดยไม่จำเป็น”
หลังจากนิ่งคิดอีกครู่หนึ่ง ชายผู้มากด้วยอำนาจชื่อเสียงเงินทองแต่ความคิดสุดวิปริตก็ยอมลงนาม เพื่อก้าวไปสู้เส้นทางที่ฝันมานานแสนนานด้วยการหายตัว
องค์หญิงยิ้มอย่างพอใจ หยิบสัญญามาตรวจดูความเรียบร้อย ก่อนพูดกับลูกค้าเป็นครั้งสุดท้าย
“เอาล่ะ สัญญาเรียบร้อย ต่อไปนี้เจ้าจะสามารถหายตัวได้ตามใจปรารถนา ขอให้มีความสุขกับการหายตัว”
พูดจบก็คล้องแขนองค์ชายแห่งรัตติกาล พากันหันหลังเดินหายลับไปในผนังราวกับมายากล ทิ้งให้ลูกค้าลามกตื่นเต้นกับความฝันที่กำลังเป็นจริงอันไม่น่าเชื่อ
ใช่แล้ว... มันเป็นเรื่องจริง
ภาพจากกระจก…เขาตื่นเต้นจนแทบจะขาดใจตายเมื่อเห็นร่างกายของเขาค่อยโปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกลับกลายเป็นกระจกใส เห็นแต่เสื้อผ้ายังคงลอยอยู่ในอากาศ ไม่เป็นไร แค่ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด ก็จะไม่มีใครเห็นร่องรอยของเขาอีกต่อไป แต่เขายังรู้สึกถึงความมีตัวตนของตัวเองอยู่เช่นเดิมเพียงแต่มองไม่เห็นเท่านั้น ความปิติยินดีตื่นเต้นทะลักทลายขึ้นมาในความคิดจนแทบจะระเบิดตัวเองให้ขาดใจตาย
ต่อไปนี้ล่ะ เขาจะเดินไปได้อัดไอ้นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ชั่วพอกันและเป็นศัตรูกันมานาน ไปแกล้งใครก็ได้ตามใจต้องการ จะเดินไปสนุกสนานกับสาวคนไหนได้ไม่เลือกหน้า ทำอะไรได้ดังใจโดยไม่มีใครมองเห็น คงเป็นข่าวใหญ่โตดังไปทั้งประเทศถึงเรื่องที่ไม่มีคนเข้าใจ
เขาเดินแก้ผ้าโทงๆ ออกมาจากห้อง รู้สึกเย็นวาบแปลกๆดี แรกก็รู้สึกเขินอายชอบกล เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังไม่หน้าด้านพอจะเดินเดินแก้ผ้าในที่ทำงานหรือตามถนน แต่เมื่อนึกว่าไม่มีใครมองเห็นก็ไม่เห็นเป็นไร โลกเป็นของเราแล้ว
ออกไปแกล้งเลขาหน้าห้องดีกว่า แม่คนนี้จีบก็แล้ว เอาเงินมาล่อก็แล้ว ไม่ยอมเอออห่อหมกสักที หล่อนมีสามีซึ่งมีตำแหน่งกระจอกๆในบริษัทแห่งหนึ่งที่เขายังเอาเงินฟาดหัวหล่อนให้ยอมมาทานข้าวมื้อเที่ยงคืนด้วยกันยังไม่ได้ คราวนี้ล่ะเขาจะจัดการเธอให้อยู่หมัด
อ้าว..ไม่อยู่แฮะ ไม่รู้หายหัวไปไหน เดี๋ยวค่อยว่ากัน เขารอคอยได้ ยังมีเรื่องสนุกมากมายรออยู่
ลองลงไปข้างล่างก็แล้วกันเขาคิดในใจอย่างเบิกบานใจการกับหายตัว
เดินไปยังลิฟต์ กดปุ่มเลือกลงสู่ชั้นล่าง แต่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ โต้ตอบจากลิฟต์เหมือนกับว่าไฟฟ้าดับ แต่ไฟหน้าลิฟต์ยังสว่างอยู่
อะไรกันวะ… เขาเริ่มมีอารมณ์ขุ่นมัว ทำไมต้องมาเสียตอนนี้ด้วย ต้องเดินลงไปชั้นล่าง คนหายตัวก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะโว้ย แต่เอาล่ะ เดินก็เดิน
ความสนุกอันคาดฝันเอาไว้เริ่มหายไปบ้างแล้ว ทุกชั้นที่เขาเดินผ่านลงมาเงียบกริบปราศจากผู้คน แสงไฟยังคงเปิดทิ้งเอาไว้ จอคอมพิวเตอร์หลายเครื่องยังคงเปิดสว่างโร่ แก้วกาแฟยังคงวางตามโต๊ะทำงาน ลองจับดูมันยังคงอุ่นอยู่ แล้วคนมันหายหัวไปไหนหมด คล้ายกับว่าพวกเขาหายไปโดยกะทันหัน
เขาสั่นหัวให้กับความมึนงงของตัวเอง หรือคนพวกนี้รวมหัวกันแกล้ง แต่มันก็ไม่มีเหตุผลกับจะทำอย่างนั้น เพราะในอาคารแห่งนี้เขาใหญ่โตที่สุด ใครๆต้องน้อมน้อมคารวะ แม้แต่หมาเดินผ่านยังต้องหมอบต้องคลานผ่าน
จับแก้วกาแฟที่ใครบางคนทิ้งเอาไว้ จะปาระบายอารมณ์สักหน่อย แต่แล้วก็ชะงักค้าง
แก้วกาแฟแก้วนั้นถูกตรึงอยู่กับพื้นราวกับเป็นส่วนหนึ่งของโต๊ะ เขาไม่มีปัญญาขยับมันได้เลยแม้แต่น้อย! มันเกิดอะไรขึ้น!
เขาเริ่มจับต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆไปทั่วห้อง พบว่าเขาสามารถจับต้องมันได้ แต่เคลื่อนย้ายพวกมันไม่ได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว แม้แต่สมุดปากกาขนาดเล็กๆยังไม่สามารถเคลื่อนย้าย ความสนุกสนานเริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว อะไรบางอย่างดูไม่ชอบมาพากลกำลังเกิดขึ้นแบบหาคำอธิบายไม่ได้ แต่มันไม่ถูกต้องแน่นอน โลกแห่งการหายตัวได้มันต้องสนุกสนานเร้าใจวิปริตให้สาสม
วิ่งออกมาจากตึก ตรงมายังถนน แต่แล้วเขาก็ต้องยืนชะงักอยู่ข้างถนนนั่นเอง
ยวดยานรถรายังคงเต็มถนนเหมือนเช่นเคย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่กับที่เหมือนกลับกลายเป็นภาพถ่ายไปแล้ว รถเมล์ รถบรรทุก รถจักรยานยนต์ ต่างอยู่ในสภาพพร้อมขับเคลื่อนทำงานเต็มที่แต่ไม่มีผู้คนบนรถเหล่านั้นแม้แต่คนเดียว
มันเกิดบ้าอะไรกัน
เขารู้สึกใจหายวาบ หรือโดนเล่ห์เหลี่ยมจากสองปีศาจแห่งโลกมืดเข้าให้แล้ว
หันไปมองตามทางเท้า ยังเห็นร้านรวงต่างๆเปิดทิ้งเอาไว้ อย่างไม่กลัวใครจะขโมย แน่ล่ะ จะกลัวอย่างไร ในเมื่อไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกเลย นี่มันเป็นโลกที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง นอกจากตัวของเขาเท่านั้น
เหงื่อเริ่มแตก เขารีบกำหนดจิตให้คืนสู่สภาพเดิมทันที หายตัวในโลกอันชะงักค้างมันจะมีความหมายอะไร
พริบตานั้น เขาก็พลันพบว่าตัวเองยืนแก้ผ้าอยู่ริมถนนอย่างน่าเกลียดอุบาทว์ที่สุด ความอับอายทำให้เขาหลบวูบเข้าหลังเสาไฟฟ้ามองซ้ายมองขวากลัวว่าใครจะมองเห็น แต่ความรู้สึกสิ้นหวังและความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็วิ่งมาเกาะกุมหัวใจอีกครั้ง โลกยังเวิ้งว้างว่างเปล่าปราศจากผู้คน นาฬิกาบนผนังร้านค้าต่างๆพากันหยุดนิ่ง กาลเวลาถูกตอกตรึงไม่ไห้เลื่อนไหล
“พวกแกโกงฉัน……”
คนหายตัวร้องโหยหวนด้วยน้ำเสียงแห่งความผิดหวัง สิ้นหวังหวาดกลัวเจียนคลั่ง วิ่งโซซัดโซเซไปตามถนนเหมือนคนเสียสติ เข้าบ้านโน้นออกบ้านนี้อย่างบ้าคลั่ง ไม่สาวงาม ไม่มีผู้คน หมาแมวตัวเดียวก็ไม่มี...
.............