ดาวปั่นจักรยานมาที่หน้าหมู่บ้าน ตามที่พ่อของเธอสั่งพร้อมกับดอกไม้ธูปเทียน เพราะพ่อของเธอเคยบวชเรียนมา ก็พอจะรู้ว่าจะทำยังไงกับเหตุการณ์แบบนี้ รถหน่วยกู้ภัยและรถตำรวจมาจอดหน้าบ้านที่เกิดเหตุ มีชาวบ้านมามุงอยู่ซักหกเจ็ดคน ผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้เหมือนจะขาดใจเสียให้ได้ เดาว่าคงเป็นญาติของผู้ตาย บ้านที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ ที่ดัดแปลงเป็นร้านอินเตอร์เนต ซึ่งดาวก็เคยมาใช้บริการเป็นประจำตอนทำรายงานส่งครู
"ดาว มานี่ซิ" พ่อของดาวกวักมือเรียก ก่อนที่จะนำดอกไม้ธูปเทียนหายเข้าบ้านไป ซักพัก กู้ภัยก็หามศพผู้เสียชีวิตออกมา ในห่อผ้าดิบนั้นดูแปลกๆ ร่างนั้นตัวเล็กเหมือนเด็ก ทันใดนั้นดาวก็ได้ยินเสียงร้องที่ทำให้เธอรู้สึกขนลุก
"โหน่ง ลูกแม่ ฮือๆๆๆ" ผู้หญิงที่กำลังร้องไห้ ตะโกนเรียกชื่อลูกของเธออย่างน่าสังเวช แต่ ชื่อๆนั้นมันกระตุ้นทำให้นึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อคืน
(โหน่ง เหรอ) เธอจำได้ว่าเด็กผู้ชายที่เธอให้ซ้อนจักรยานแล้วพาไปส่งบ้านก็ชื่อโหน่งเหมือนกัน เธอคิดปลอบใจตัวเองว่าบางทีอาจจะเป็นคนละคนก้ได้ เพราะที่เธอเจอดูไม่เหมือนผีตามที่เคยได้ยินมาเลย
"แก......." ผู้เป็นแม่เข้าหาเจ้าของบ้านอย่างคุ้มคลั่ง จนชาวบ้านช่วยกันแยก
"ฉันไม่ได้ทำนะ ตื่นขึ้นมา ก็เห็นโหน่งเข้าฟุบอยู่กับเครื่องคอมพ์แล้ว" พี่แก้มผู้เป็นเจ้าของบ้านตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ คงเพราะเธอยังไม่หายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พี่แก้มเป็นเจ้าของบ้านซึ่งดัดแปลงบ้านเป็นร้านอินเตอร์เนต สามีของพี่แก้มเป็นตำรวจ อยู่สน.ใกล้บ้านซึ่งทุกคนเรียกว่าลุงดาบ เพราะแกแก่กว่าพี่แก้มผู้เป็นภรรยาเกือบยี่สิบปี
ซักพัก ตำรวจคนหนึ่งออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุพร้อมกับลุงดาบ สามีของพี่แก้ม ดาวเดาว่าคงเป็นหัวหน้าของลุงดาบแน่ๆ
"เดี๋ยวขอเชิญ เจ้าของบ้านกับญาติผู้เสียชีวิตไปให้ปากคำที่ สน. ด้วยนะครับ เพราะว่าผู้เสียชีวิตถูกแจ้งว่าหายตัวไปจากบ้านเมื่อ 3วันก่อนด้วย"
ตำรวจหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าลุงดาบพูด ส่วนลุงดาบก็ได้แต่คอยปลอบภรรยาของเข้าว่าไม่มีอะไรๆ
"พ่อคะ ที่ว่าหายออกจากบ้านไปเมื่อ สามวันก่อนนี่มันยังไงเหรอคะ" ดาวถามพ่อของเธอ เพราะดาวเพิ่งกลับมาจากค่ายวิชาการของโรงเรียนเมื่อว่า ทำให้ดาวไม่รู้ว่ามีเด็กในหมู่บ้านหายตัวไป
"เด็กชื่อโหน่งน่ะ หายตัวไปเมื่อสามวันก่อน ก็มาเล่นเกมส์ที่ร้านนี้แหละ แต่ก็ไม่กลับบ้านจนมืดค่ำ คนออกตามหากันทั่วหมู่บ้าน แต่ก็ไม่เจอ จนเจ้าของร้านมาเจอศพตอนเช้านี่แหละ" พ่อของดาวบอก
"แต่เมื่อคืนตอน หนูมาส่งข้าวให้พ่อ หนูก็เจอเด็กที่ชื่อโหน่งนะคะ แต่ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกันรึเปล่า หนูเลยพอเค้าไปส่งบ้าน ที่ซอยท้ายหมู่บ้านค่ะ" ดาวบอกกับพ่อของเธอ
แต่พี่แก้มได้ยินที่ดาวพูดกับพ่อเลย เข้ามาหา ด้วยแววตาที่มีหวังขึ้น
"ใช่แล้วล่ะ โหน่งเค้าอยู่บ้านที่ซอยท้ายหมู่บ้านจริงๆ เห็นมั้ยว่าพี่ไม่ได้ทำให้เค้าตาย"
"ถ้าอย่างนั้นก็เชิญหนูไปให้ปากคำด้วยนะ เผื่อจะมีผลต่อรูปคดี" นายตำรวจหนุ่มพูด ดาวพยักหน้า ในใจของเธอคิดแต่เพียงว่าเด็กที่เธอเจอไม่ใช่ผี และคำให้การของเธออาจจะมีประโยชน์บ้าง
........................................................
ที่ สถานีตำรวจในห้องสอบสวน ในห้องมีผู้กอง คนที่ไปตรวจที่เกิดเหตุ ลุงดาบ สามีของพี่แก้ม เป็นคนบันทึก มีพี่แก้ม น้าสาย แม่ของโหน่ง และดาว นั่งอยู่ในห้อง
"จากตรงนี้ผมขอจดบันทึกปากคำไว้ก่อนนะครับ ส่วนศพต้องส่งไปชันสูตร ถ้าไม่มีอะไร พรุ่งนี้น่าจะเอาให้ญาติรับไปทำพิธีทางศาสนาได้ครับ และคำให้การจะมีนำไปอ้างอิงกับผลชันสูตรด้วย ดังนั้น ตั้งใจและค่อยๆเรียบเรียงคำพูดนะครับ"
คนแรกคือน้าสาย แม่ของโหน่ง น้าสายบอกว่า เธอและสามีทำงานกลับดึก ทำให้ตอนเย็นของทุกวันโหน่งจะมาเล่นเกมส์ที่ร้านพี่แก้ม ก่อนจะกลับบ้านก่อนมืดเป็นประจำ แต่วันที่โหน่งหายตัวไป โหน่งไม่กลับบ้าน น้าสายจึงไปตามหาที่ร้าน พี่แก้มบอกว่าโหน่งน่าจะออกไปแล้ว เพราะที่ร้านก็ไม่เห็นโหน่ง คืนนั้นทั้งคืน ทุกคนช่วยกันตามหาทั่วหมู่บ้าน แต่ก็ไม่เจอ วันต่อมาก็ตามหากันอีก จนทุกคนถอดใจ จนกระทั่งพี่แก้มมาเจอโหน่งนอนฝุบกับโต๊ะคอมพ์ที่ร้าน แล้วจึงพบว่าโหน่งนั้นเสียชีวิตแล้ว แต่น้าสายเหมือนแกจะบอกว่าเป็นความผิดของพี่แก้ม ของที่พี่แก้มอาจจะขังโหน่งไว้ เพราะพี่แก้มกับสามีไม่มีลูก และพี่แก้มก็เอ็นดูโหน่งมาก
แต่พี่แก้มก็รีบปฏิเสธว่าเธอไม่รู้เรื่อง เพราะตอนที่เธอนั่งคุมร้านก็ไม่เห็นโหน่งแล้ว เธอคิดว่าโหน่งคงกลับไปแล้ว แต่ตอนหลังที่เธอรู้ว่าโหน่งหายไปก็ออกไปตามหากับทุกคน และเมื่อหาที่ร้านของเธอก็ไม่เจอ จึงเป็นไม่ได้ที่เธอจะขังโหน่งไว้ ลุงดาบสามีเธอก็เป็นตำรวจยิ่งไม่น่าจะทำแบบนั้นได้
แต่คำพูดของพี่แก้มกลับทำให้น้าสายโมโหหาว่าพี่แก้มพยายามแก้ตัว จนเกือบจะมีการลงไม้ลงมือกัน ดีที่ผู้กองแยกทั้งคู่ได้ทัน
แต่คำให้การของดาวยิ่งทำให้ทุกคนสงสัยขึ้นไปอีก เพราะว่าเธอยืนยันว่าเธอเจอโหน่งที่ศาลเจ้าต้นไทรประจำหมู่บ้าน จากนั้นเธอจึงพาโหน่งไปส่งที่บ้าน และจากคำให้การของดาว ทั้งรูปร่างหน้าตา เสื้อผ้า และบ้านของโหน่ง ตรงกับชุดที่โหน่งใส่ตอนที่หายไป และตอนเสียชีวิตทุกอย่าง ซึ่งหมายความว่า พี่แก้มจึงไม่ใช่คนที่ขังโหน่งไว้แน่ และเพื่อเป็นการพิสูจน์เรื่องที่ดาวพูด ผู้กองจึงขอหลักฐานวีดีโอจากกล้องวงจรปิดในร้าน ซึ่งพี่แก้มรับปากว่าจะเอามาให้ วึ่งพี่แก้มค่อนข้างมั่นไปว่าเธอไม่ผิด
แต่ความสงสัยตกอยู่ที่ผู้กอง เขาสงสัยว่าถ้าดาวพาโหน่งไปส่งที่บ้านจริง แล้วทำไมโหน่งต้องกลับมาที่ร้านในเมื่ออยากกลับบ้านขนาดนั้น และทำไมโหน่งถึงตาย
"ถ้ายังไง ผลชันสูตรออกมา พรุ่งนี้ผมจะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่งนะครับ แล้วก็ดาบมิตร ช่วยเอาวีดีโอกล้องวงจรปิดของภรรยามาให้ผมด้วยนะ" ลุงดาบรับคำ และผู้กองก็ยื่นนามบัตรใบหนึ่งมาให้
"สำนักงานกฏหมายและนักสืบเอกชนภูเตศวร เหรอคะ" ดาวถามอย่างสงสัย
"ถ้าคดีนี้มันซับซ้อนกว่าที่เราคิด ผมว่าคนๆนี้ช่วยได้ครับ" ผู้กองบอกทุกคน
ทั้งสามคนแยกย้ายกันกลับหลังจากสอบปากคำเสร็จ ดาวมีเรื่องความฝันที่จะบอกน้าสาย แต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะน้าสายกับสามีที่มารับ กำลังไปติดต่อเพื่อจองศาลา ดาวจึงคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยบอกน้าสายก็แล้วกัน
.............................................................................
วันนี้พ่อของไม่ได้อยู่ยามช่วงดึก ทำให้วันนี้ที่บ้านนอนแต่หัวค่ำ ด้วยความเพลีย เมื่อหัวถึงหมอน ดาวก็หลับไป
"แก๊ก ๆ ๆ"เสียงปาอะไรเล็กๆมากระทบหน้าต่าง ดาวพยายามลุกขึ้นดู นอกบ้าน ดาวเห็นเงาดำๆกำลังปาหินก้อนเล็กๆมาที่หน้าต่าง ฉับพลัน เมื่อดาวรู้สึกตัวอีกที ดาวกำลังยืนอยู่กลางถนนที่มืดมิด เบื้องหน้าของดาวคือโหน่งที่ยืนร้องไห้ เนื้อตัวสั่น เสียงร้องไห้ของโหน่ง กรีดลึกบาดถึงหัวใจ ทำให้ดาวรู้สึกหนาวสะท้านตามไปด้วย
โหน่งค่อยๆเงยหน้า ผิดขาวซีดเหมือนไม่มีเลือด เพราะเหมือนเลือดทั้งร่างนองออกมาจากดวงตา ไหลออกมาอาบหน้าและเนื้อตัวแดงฉาน
"พี่ดาว ทำไมไม่บอกพ่อบอกแม่ผม ผมอยากกลับบ้าน ผมเข้าบ้านไม่ได้ ฮือๆๆๆ" โหน่งค่อยๆเหยียดมือออกมา มือเล็กๆขาวซีด ค่อยๆยืดออก ฝ่ามือของโหน่งนั้นนิ้วทั้ง5กางใหญ่ ปานจะตะครุบดาวได้ทั้งตัว เธอกรีดร้อง และวิ่งโดยทันที แต่ไม่ว่าจะวิ่งหนียังไง ดาวก็ยังคงวิ่งกลางถนนที่มืดมิด พร้อมกับเสียงร้องไห้ที่เย็นเฉียบไล่หลังมา ดาวรู้สึกหวาดกลัว จนเผลอพูดขึ้นมาว่า
"ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที"
ส่วนเสียง ดาวก็มายืนอยู่หน้าบ้านของตัวเอง โดยมีโหน่ง ที่เลือดทั่วร่างร้องไห้อยู่ตรงหน้า โหน่งค่อยๆก้าวทีละก้าว ทีละก้าว มาหาเธอ พร้อมกับแขนทั้งสองที่เหยียดออกเหมือนพยายามจะกอดดาวไว้
"ช่วยด้วย" ดาวถอยมาจะจนตัวติดประตูหน้าบ้านด้วยความกลัว สายตัวของดาวไม่สามารถละจากภาพหน้าสยดสยองตรงหน้าได้ โหน่งอยู่ห่างจากดาวไม่กี่ก้าว
ทันใดนั้น ท่อนแขนเรียวสีขาว ก็ลอดออกมาจากประตูหน้าบ้าน โอบกอดดาวไว้จากด้านหลัง มันเป็นท่อนแขนที่อบอุ่น ดาวไม่รู้สึกถึงความกลัวอีก เธอรู้สึกปลอดภัยภายใต้อ้อมกอดนี้
"ถ้าจะอนุญาต เดี๋ยว...........จะดูแลเด็กคนนี้อีกคืนก็ได้ พักผ่อนเถอะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" เสียงที่ไพเราะของผู้หญิงที่กระซิบข้างหูดาวอย่างแผ่วเบา จนดาวเคลื้อมหลับไปในอ้อมแขนนั้น
...........................................................
"กลางดึกที่ห้องทำงานของผู้กองต้อม นายตำรวจที่ดูแลคดีของโหน่ง กำลังมองภาพจากกล้องวงจรปิดที่ ดาบมิตรส่งมา อย่างเคร่งเครียด
"ก้อกๆๆๆ"
"เชิญ" ชายวัยรุ่นในชุดสูทเรียบร้อยเดินเข้ามาในห้องของผู้กองต้อม
"ว่าไงพี่ มีเรื่องอะไรให้ผมช่วยอีกเหรอ" ชายหนุ่มพูด
"เรื่องแปลกอีกแล้วว่ะ ภู ทั้งคำให้การ หลักฐานผลตรวจนิติเวช คดีนี้พี่ต้องให้แกช่วย"
...........................................................................
คำผิดทักมาได้ครับจะแก้เรื่อยๆตอน3ถ้ามีคนอ่านจะมาต่อให้
ตอน1-1
http://pantip.com/topic/34830541
ตอนต่อไปครับ
http://pantip.com/topic/34847169
GHost Detective File 1-2 (ลองแต่งครั้งแรกครับ ติชมได้นะครับ)
"ดาว มานี่ซิ" พ่อของดาวกวักมือเรียก ก่อนที่จะนำดอกไม้ธูปเทียนหายเข้าบ้านไป ซักพัก กู้ภัยก็หามศพผู้เสียชีวิตออกมา ในห่อผ้าดิบนั้นดูแปลกๆ ร่างนั้นตัวเล็กเหมือนเด็ก ทันใดนั้นดาวก็ได้ยินเสียงร้องที่ทำให้เธอรู้สึกขนลุก
"โหน่ง ลูกแม่ ฮือๆๆๆ" ผู้หญิงที่กำลังร้องไห้ ตะโกนเรียกชื่อลูกของเธออย่างน่าสังเวช แต่ ชื่อๆนั้นมันกระตุ้นทำให้นึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อคืน
(โหน่ง เหรอ) เธอจำได้ว่าเด็กผู้ชายที่เธอให้ซ้อนจักรยานแล้วพาไปส่งบ้านก็ชื่อโหน่งเหมือนกัน เธอคิดปลอบใจตัวเองว่าบางทีอาจจะเป็นคนละคนก้ได้ เพราะที่เธอเจอดูไม่เหมือนผีตามที่เคยได้ยินมาเลย
"แก......." ผู้เป็นแม่เข้าหาเจ้าของบ้านอย่างคุ้มคลั่ง จนชาวบ้านช่วยกันแยก
"ฉันไม่ได้ทำนะ ตื่นขึ้นมา ก็เห็นโหน่งเข้าฟุบอยู่กับเครื่องคอมพ์แล้ว" พี่แก้มผู้เป็นเจ้าของบ้านตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ คงเพราะเธอยังไม่หายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พี่แก้มเป็นเจ้าของบ้านซึ่งดัดแปลงบ้านเป็นร้านอินเตอร์เนต สามีของพี่แก้มเป็นตำรวจ อยู่สน.ใกล้บ้านซึ่งทุกคนเรียกว่าลุงดาบ เพราะแกแก่กว่าพี่แก้มผู้เป็นภรรยาเกือบยี่สิบปี
ซักพัก ตำรวจคนหนึ่งออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุพร้อมกับลุงดาบ สามีของพี่แก้ม ดาวเดาว่าคงเป็นหัวหน้าของลุงดาบแน่ๆ
"เดี๋ยวขอเชิญ เจ้าของบ้านกับญาติผู้เสียชีวิตไปให้ปากคำที่ สน. ด้วยนะครับ เพราะว่าผู้เสียชีวิตถูกแจ้งว่าหายตัวไปจากบ้านเมื่อ 3วันก่อนด้วย"
ตำรวจหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าลุงดาบพูด ส่วนลุงดาบก็ได้แต่คอยปลอบภรรยาของเข้าว่าไม่มีอะไรๆ
"พ่อคะ ที่ว่าหายออกจากบ้านไปเมื่อ สามวันก่อนนี่มันยังไงเหรอคะ" ดาวถามพ่อของเธอ เพราะดาวเพิ่งกลับมาจากค่ายวิชาการของโรงเรียนเมื่อว่า ทำให้ดาวไม่รู้ว่ามีเด็กในหมู่บ้านหายตัวไป
"เด็กชื่อโหน่งน่ะ หายตัวไปเมื่อสามวันก่อน ก็มาเล่นเกมส์ที่ร้านนี้แหละ แต่ก็ไม่กลับบ้านจนมืดค่ำ คนออกตามหากันทั่วหมู่บ้าน แต่ก็ไม่เจอ จนเจ้าของร้านมาเจอศพตอนเช้านี่แหละ" พ่อของดาวบอก
"แต่เมื่อคืนตอน หนูมาส่งข้าวให้พ่อ หนูก็เจอเด็กที่ชื่อโหน่งนะคะ แต่ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกันรึเปล่า หนูเลยพอเค้าไปส่งบ้าน ที่ซอยท้ายหมู่บ้านค่ะ" ดาวบอกกับพ่อของเธอ
แต่พี่แก้มได้ยินที่ดาวพูดกับพ่อเลย เข้ามาหา ด้วยแววตาที่มีหวังขึ้น
"ใช่แล้วล่ะ โหน่งเค้าอยู่บ้านที่ซอยท้ายหมู่บ้านจริงๆ เห็นมั้ยว่าพี่ไม่ได้ทำให้เค้าตาย"
"ถ้าอย่างนั้นก็เชิญหนูไปให้ปากคำด้วยนะ เผื่อจะมีผลต่อรูปคดี" นายตำรวจหนุ่มพูด ดาวพยักหน้า ในใจของเธอคิดแต่เพียงว่าเด็กที่เธอเจอไม่ใช่ผี และคำให้การของเธออาจจะมีประโยชน์บ้าง
........................................................
ที่ สถานีตำรวจในห้องสอบสวน ในห้องมีผู้กอง คนที่ไปตรวจที่เกิดเหตุ ลุงดาบ สามีของพี่แก้ม เป็นคนบันทึก มีพี่แก้ม น้าสาย แม่ของโหน่ง และดาว นั่งอยู่ในห้อง
"จากตรงนี้ผมขอจดบันทึกปากคำไว้ก่อนนะครับ ส่วนศพต้องส่งไปชันสูตร ถ้าไม่มีอะไร พรุ่งนี้น่าจะเอาให้ญาติรับไปทำพิธีทางศาสนาได้ครับ และคำให้การจะมีนำไปอ้างอิงกับผลชันสูตรด้วย ดังนั้น ตั้งใจและค่อยๆเรียบเรียงคำพูดนะครับ"
คนแรกคือน้าสาย แม่ของโหน่ง น้าสายบอกว่า เธอและสามีทำงานกลับดึก ทำให้ตอนเย็นของทุกวันโหน่งจะมาเล่นเกมส์ที่ร้านพี่แก้ม ก่อนจะกลับบ้านก่อนมืดเป็นประจำ แต่วันที่โหน่งหายตัวไป โหน่งไม่กลับบ้าน น้าสายจึงไปตามหาที่ร้าน พี่แก้มบอกว่าโหน่งน่าจะออกไปแล้ว เพราะที่ร้านก็ไม่เห็นโหน่ง คืนนั้นทั้งคืน ทุกคนช่วยกันตามหาทั่วหมู่บ้าน แต่ก็ไม่เจอ วันต่อมาก็ตามหากันอีก จนทุกคนถอดใจ จนกระทั่งพี่แก้มมาเจอโหน่งนอนฝุบกับโต๊ะคอมพ์ที่ร้าน แล้วจึงพบว่าโหน่งนั้นเสียชีวิตแล้ว แต่น้าสายเหมือนแกจะบอกว่าเป็นความผิดของพี่แก้ม ของที่พี่แก้มอาจจะขังโหน่งไว้ เพราะพี่แก้มกับสามีไม่มีลูก และพี่แก้มก็เอ็นดูโหน่งมาก
แต่พี่แก้มก็รีบปฏิเสธว่าเธอไม่รู้เรื่อง เพราะตอนที่เธอนั่งคุมร้านก็ไม่เห็นโหน่งแล้ว เธอคิดว่าโหน่งคงกลับไปแล้ว แต่ตอนหลังที่เธอรู้ว่าโหน่งหายไปก็ออกไปตามหากับทุกคน และเมื่อหาที่ร้านของเธอก็ไม่เจอ จึงเป็นไม่ได้ที่เธอจะขังโหน่งไว้ ลุงดาบสามีเธอก็เป็นตำรวจยิ่งไม่น่าจะทำแบบนั้นได้
แต่คำพูดของพี่แก้มกลับทำให้น้าสายโมโหหาว่าพี่แก้มพยายามแก้ตัว จนเกือบจะมีการลงไม้ลงมือกัน ดีที่ผู้กองแยกทั้งคู่ได้ทัน
แต่คำให้การของดาวยิ่งทำให้ทุกคนสงสัยขึ้นไปอีก เพราะว่าเธอยืนยันว่าเธอเจอโหน่งที่ศาลเจ้าต้นไทรประจำหมู่บ้าน จากนั้นเธอจึงพาโหน่งไปส่งที่บ้าน และจากคำให้การของดาว ทั้งรูปร่างหน้าตา เสื้อผ้า และบ้านของโหน่ง ตรงกับชุดที่โหน่งใส่ตอนที่หายไป และตอนเสียชีวิตทุกอย่าง ซึ่งหมายความว่า พี่แก้มจึงไม่ใช่คนที่ขังโหน่งไว้แน่ และเพื่อเป็นการพิสูจน์เรื่องที่ดาวพูด ผู้กองจึงขอหลักฐานวีดีโอจากกล้องวงจรปิดในร้าน ซึ่งพี่แก้มรับปากว่าจะเอามาให้ วึ่งพี่แก้มค่อนข้างมั่นไปว่าเธอไม่ผิด
แต่ความสงสัยตกอยู่ที่ผู้กอง เขาสงสัยว่าถ้าดาวพาโหน่งไปส่งที่บ้านจริง แล้วทำไมโหน่งต้องกลับมาที่ร้านในเมื่ออยากกลับบ้านขนาดนั้น และทำไมโหน่งถึงตาย
"ถ้ายังไง ผลชันสูตรออกมา พรุ่งนี้ผมจะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่งนะครับ แล้วก็ดาบมิตร ช่วยเอาวีดีโอกล้องวงจรปิดของภรรยามาให้ผมด้วยนะ" ลุงดาบรับคำ และผู้กองก็ยื่นนามบัตรใบหนึ่งมาให้
"สำนักงานกฏหมายและนักสืบเอกชนภูเตศวร เหรอคะ" ดาวถามอย่างสงสัย
"ถ้าคดีนี้มันซับซ้อนกว่าที่เราคิด ผมว่าคนๆนี้ช่วยได้ครับ" ผู้กองบอกทุกคน
ทั้งสามคนแยกย้ายกันกลับหลังจากสอบปากคำเสร็จ ดาวมีเรื่องความฝันที่จะบอกน้าสาย แต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะน้าสายกับสามีที่มารับ กำลังไปติดต่อเพื่อจองศาลา ดาวจึงคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยบอกน้าสายก็แล้วกัน
.............................................................................
วันนี้พ่อของไม่ได้อยู่ยามช่วงดึก ทำให้วันนี้ที่บ้านนอนแต่หัวค่ำ ด้วยความเพลีย เมื่อหัวถึงหมอน ดาวก็หลับไป
"แก๊ก ๆ ๆ"เสียงปาอะไรเล็กๆมากระทบหน้าต่าง ดาวพยายามลุกขึ้นดู นอกบ้าน ดาวเห็นเงาดำๆกำลังปาหินก้อนเล็กๆมาที่หน้าต่าง ฉับพลัน เมื่อดาวรู้สึกตัวอีกที ดาวกำลังยืนอยู่กลางถนนที่มืดมิด เบื้องหน้าของดาวคือโหน่งที่ยืนร้องไห้ เนื้อตัวสั่น เสียงร้องไห้ของโหน่ง กรีดลึกบาดถึงหัวใจ ทำให้ดาวรู้สึกหนาวสะท้านตามไปด้วย
โหน่งค่อยๆเงยหน้า ผิดขาวซีดเหมือนไม่มีเลือด เพราะเหมือนเลือดทั้งร่างนองออกมาจากดวงตา ไหลออกมาอาบหน้าและเนื้อตัวแดงฉาน
"พี่ดาว ทำไมไม่บอกพ่อบอกแม่ผม ผมอยากกลับบ้าน ผมเข้าบ้านไม่ได้ ฮือๆๆๆ" โหน่งค่อยๆเหยียดมือออกมา มือเล็กๆขาวซีด ค่อยๆยืดออก ฝ่ามือของโหน่งนั้นนิ้วทั้ง5กางใหญ่ ปานจะตะครุบดาวได้ทั้งตัว เธอกรีดร้อง และวิ่งโดยทันที แต่ไม่ว่าจะวิ่งหนียังไง ดาวก็ยังคงวิ่งกลางถนนที่มืดมิด พร้อมกับเสียงร้องไห้ที่เย็นเฉียบไล่หลังมา ดาวรู้สึกหวาดกลัว จนเผลอพูดขึ้นมาว่า
"ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที"
ส่วนเสียง ดาวก็มายืนอยู่หน้าบ้านของตัวเอง โดยมีโหน่ง ที่เลือดทั่วร่างร้องไห้อยู่ตรงหน้า โหน่งค่อยๆก้าวทีละก้าว ทีละก้าว มาหาเธอ พร้อมกับแขนทั้งสองที่เหยียดออกเหมือนพยายามจะกอดดาวไว้
"ช่วยด้วย" ดาวถอยมาจะจนตัวติดประตูหน้าบ้านด้วยความกลัว สายตัวของดาวไม่สามารถละจากภาพหน้าสยดสยองตรงหน้าได้ โหน่งอยู่ห่างจากดาวไม่กี่ก้าว
ทันใดนั้น ท่อนแขนเรียวสีขาว ก็ลอดออกมาจากประตูหน้าบ้าน โอบกอดดาวไว้จากด้านหลัง มันเป็นท่อนแขนที่อบอุ่น ดาวไม่รู้สึกถึงความกลัวอีก เธอรู้สึกปลอดภัยภายใต้อ้อมกอดนี้
"ถ้าจะอนุญาต เดี๋ยว...........จะดูแลเด็กคนนี้อีกคืนก็ได้ พักผ่อนเถอะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" เสียงที่ไพเราะของผู้หญิงที่กระซิบข้างหูดาวอย่างแผ่วเบา จนดาวเคลื้อมหลับไปในอ้อมแขนนั้น
...........................................................
"กลางดึกที่ห้องทำงานของผู้กองต้อม นายตำรวจที่ดูแลคดีของโหน่ง กำลังมองภาพจากกล้องวงจรปิดที่ ดาบมิตรส่งมา อย่างเคร่งเครียด
"ก้อกๆๆๆ"
"เชิญ" ชายวัยรุ่นในชุดสูทเรียบร้อยเดินเข้ามาในห้องของผู้กองต้อม
"ว่าไงพี่ มีเรื่องอะไรให้ผมช่วยอีกเหรอ" ชายหนุ่มพูด
"เรื่องแปลกอีกแล้วว่ะ ภู ทั้งคำให้การ หลักฐานผลตรวจนิติเวช คดีนี้พี่ต้องให้แกช่วย"
...........................................................................
คำผิดทักมาได้ครับจะแก้เรื่อยๆตอน3ถ้ามีคนอ่านจะมาต่อให้
ตอน1-1 http://pantip.com/topic/34830541
ตอนต่อไปครับ http://pantip.com/topic/34847169