สัมภาษณ์พิเศษ: 'ศุภชัย' ชูคลื่น 900 ขึ้นแท่นผู้นำโทรคม
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559
มหกรรมชิงคลื่น 4 จี ผ่านไปไม่นาน "ศุภชัย เจียรวนนท์" เปิดวิชั่น ดัน "ทรู" ขึ้นผู้นำอุตสาหกรรมโทรคมไทย ชูความได้เปรียบ "คลื่นมากที่สุด ความเร็วสูงสุด" เขย่าบัลลังก์คู่แข่ง ตั้งเป้า 3 ปี ชิงมาร์เก็ตแชร์ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น บริษัทแม่ของบริษัททรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ให้สัมภาษณ์พิเศษสื่อในเครือเนชั่น ว่า ทรูพร้อมเต็มที่ในสมรภูมิการแข่งขันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย หลังเป็น ผู้ชนะประมูลเทคโนโลยี 4จี คลื่นความถี่ 1800 และ 900 โดยจากปริมาณคลื่นความถี่ที่มีมากที่สุด และความเร็วของคลื่นที่แรงที่สุด ทรูตั้งเป้าภายใน 3-5 ปี จะต้องครองส่วนแบ่ง ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของตลาดรวมทั้งหมด
"หากเราทำได้ดี ดึงให้คนมาใช้ทรูได้มากขึ้น ถ้าทุกคนถือซิมทรูเป็นซิมหลักของคนไทยได้เมื่อไร ทรูก็จะเป็นที่ 1 ได้" นายศุภชัย ยืนยันว่า คลื่นความถี่ที่ทรูมี ได้เปรียบเรื่องความเร็วมากกว่าคู่แข่ง เร็วกว่าเอไอเอส 2 เท่า เร็วกว่าดีแทค 3 เท่า
ร่วมแข่ง"คอนเทนท์"เดือด
ขณะที่ มองการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมปีนี้ว่า จะแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะคอนเทนท์ คอมเมิร์ซ แอพพลิเคชั่น โซลูชั่นต่างๆ เช่น ภาคการเกษตร อาจมีสมาร์ทฟาร์มมิ่ง เป็นต้น ไม่ใช่เป็นการแข่งขันด้านสงครามราคาอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์
"ตลาดโทรคมปีนี้จะโอเวอร์รีแอค แม้ตัวเลขการประมูลจะสูง แต่เมื่อดูการใช้งาน 15-18 ปี ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอยู่ที่ปีละ 1.4 หมื่นล้าน เทียบกับรายได้ของทั้งอุตสาหกรรมที่มี รายได้ 2.4 แสนล้านต่อปี และเติบโตปีละ 1 หมื่น ถึง 1.5 หมื่นล้านต่อปี เท่ากับเซ็ตแบคทีเดียว แล้วก็โตต่อ แล้วก็เทียบกับโอกาสว่า 4จี จะให้ความจุมากขึ้นกว่า 10 เท่า ในไทย บรอดแบนด์เข้าถึงแค่ 31%
ขณะที่เทคโนโลยีอย่างเอ็มทูเอ็มยังไม่ คิกออฟ สมาร์ทฟาร์มมิ่ง ไอโอที ต่างๆ รถยนต์อัจฉริยะ โฮมซิเคียวริตี้ ยังไม่เกิด แต่ภายใน 5-10 ปีข้างหน้าจะเห็นตัวเซนเซอร์มากกว่าจำนวนประชากรทั้งโลก มากกว่าจำนวนมือถือ หลายเท่า ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ตอบโจทย์ความต้องการทุกอุตสาหกรรม"
ส่วนสงครามราคา ประเทศไทยแข่งเรื่องนี้มานาน จนปัจจุบันไทยมีอัตราค่าบริการที่ถูกเป็นอันดับ 2 รองจากอินเดีย เกือบเป็นประเทศที่มีอัตราค่าบริการที่ถูกที่สุดในเอเชีย
"ผมเชื่อว่า ไดนามิกของตลาดจะไม่รุนแรงไปกว่าเดิมมาก การแข่งขันจะไปเน้นเรื่องคัสโตเมอร์ เซ็นทริกซ์ ทั้งภาคเอกชน และผู้บริโภคทั่วไป ที่ต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ซึ่งตามหลัก ลูกค้าบริโภคดาต้ามาก ดาต้าต้องถูกลง ขณะที่ 4จีให้ความจุเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ดาต้าต่อหน่วยถูกลงมากอยู่แล้ว ทำให้คนหันไปบริโภคคอนเทนท์ คอมเมิร์ซ ธุรกรรมต่างๆ ที่สร้างความสะดวกสบายทรูจะเข้าไปแข่งขันตรงนั้น"
ผิดคาด'เอไอเอส'ไม่ชนะ
นายศุภชัย ยังกล่าวถึงการแข่งขันเคาะราคาคลื่น 900 ด้วยว่า ทรูไม่ได้คิดว่าจะไปต่อ ได้อีกมาก อยู่ในช่วงที่จวนเจียน แต่ยังอยู่ในระดับที่บริษัทประเมินไว้ หากประหลาดใจมากกว่าที่เอไอเอสไม่เป็นผู้ชนะ
"เอไอเอสเขาก็สู้ถึง 75,000 ล้าน ดีแทค สู้ถึง 72,000 ล้าน จะเห็นว่าทุกคนประเมินมา ไม่ต่างกันเท่าไร แต่ตัวเลขตอนที่ทรูให้ที่ปรึกษาประเมินได้คำนวณมาหมดว่า เอไอเอสต้องประมูลเท่าไร ดีแทคเท่าไร เราประเมินมาทุกราย ซึ่งค่อนข้างตรงกับที่เราประเมิน ผมเองไม่ได้มองว่า เราแข่งกับจัสมินอยู่ ตอนนั้นมองว่า ล็อต 1 ดีแทคแน่ เพราะติดกับคลื่นดีแทคเดิม
ส่วนล็อต 2 เอไอเอสมาแน่ ก็คิดว่าสู้อยู่กับเอไอเอส ไม่ได้คิดว่าสู้กับแจสเลย และไม่คิดว่าดีแทคจะถอยเร็ว พอมิดไนท์เริ่มที่จะเคาะรอบต่อไป ตอนนั้นเราเตรียมจะเคาะ แต่ระบบเหมือนแฮงก์ ยังคิดว่าสงสัยการประมูลจะโมฆะ แต่สักพักก็ขึ้นข้อความว่า Congratulations, you're the winner ล็อต 2 ที่เราอยู่ก็ยังคิดว่าเราแข่งกับเอไอเอส หรือจัสมิน พอเดินออกมาเอไอเอสไม่ได้ ผมตกใจมาก"
เคาะราคาสูงหวังได้ลูกค้าเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม ที่หลายฝ่ายอาจมองว่าเพดานของทรูสูงกว่าเอไอเอส นายศุภชัย กล่าวว่า สำหรับเอไอเอส กับดีแทค ประมูลเพื่อป้องกันลูกค้าไม่ให้ไหลออก คือ ต้องการรักษาฐานลูกค้า เพราะมาร์เก็ตแชร์ใหญ่ และอยู่ตัว แต่ทรูประมูลเพื่อขยายฐานลูกค้า กวาดลูกค้าเข้ามาเพิ่ม
ต่างจากตอนประมูลคลื่น 1800 ทรูประมูลเพื่อรักษาฐานลูกค้า เพราะทรูยังมีลูกค้าค้างอยู่ในระบบหลายล้านคน ประมาณ 2-3 ล้านคน ยังใช้คลื่น 1800 อยู่ ดังนั้นบนคลื่น 900 ต้นทุนที่ทรูได้มาเพื่อสร้างการเติบโต แต่กับคู่แข่งต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาอาจไม่ได้สร้างการเติบโต อาจเป็นการป้องกันการไหลออกของลูกค้า
นายศุภชัย ปฏิเสธว่า การเคาะอย่างต่อเนื่องของทรู ไม่ได้เกี่ยวกับการที่เป็นเจ้าของบริษัทไปนั่งเคาะเอง ทรูเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีพาร์ทเนอร์ระดับโลก มีนักลงทุน ที่สำคัญดึงที่ปรึกษาระดับโลกเข้ามาช่วยดู ยืนยันว่าทรูใช้หลักวิชาการเรื่องตัวเลขเข้ามา ไม่ได้คิดว่าจะเคาะเท่าไรก็ได้
"บริษัทไทย"ขึ้นเป็นผู้นำโทรคม
"อีกประเด็น คือ ทรูเป็นบริษัทไทย เรามองทุกอย่างในประเทศนี้เป็นระยะยาว ไม่ได้คิดว่าจะเอาปันผลคืนอย่างเดียว แต่มองว่าเป็นส่วนสำคัญของประเทศ ถ้าเราผ่านพ้นจุดนี้ไปเราก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้ เราต้องเป็นรีจินัล เพลย์ เราประมูลครั้งนี้เพื่อต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในระดับประเทศ ขยายไปยังต่างประเทศ"
เร่งสรุปทีโอทีชิงเปิดคลื่น900
นายศุภชัย ยืนยันว่า การชำระเงินคลื่น 900 งวดแรกเกิดขึ้นแน่ และไม่มีปัญหาเรื่องแบงก์ การันตี โดยยังรอการเจรจากับทีโอที เพื่อใช้เสาทีโอที ติดตั้งแอนเทนน่าให้บริการคลื่น 900 หากเจรจาแล้วเสร็จ ทรูติดตั้งอุปกรณ์ บนเสาได้เร็วเท่าไร ทุกอย่างจะพร้อมให้บริการ ลูกค้าได้ทันทีหลังจากทรูชำระเงินงวดแรก จะนำคลื่น 900 ให้บริการทั้ง 2จี และ 4จี ซึ่งการเจรจาใกล้สรุปแล้ว
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะ ผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า ทรูไม่มีปัญหาด้านการเงิน โดยขณะนี้ได้เจรจากับธนาคารทั้งไทย และ ต่างประเทศ 10 แห่ง ซึ่งทุกแห่งพร้อมปล่อยกู้ และออกแบงก์ การันตี ในจำนวนนี้ มีเพียง 1 แห่งที่ต้องขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะปล่อยวงเงินกู้เต็มจำนวนแล้ว และธปท.อนุมัติแล้ว
"ที่ยังไม่นำเงินงวดแรกไปชำระ พร้อมแบงก์ การันตี เพราะเราคำนวณดูแล้วว่า หากเรานำเงินไปจ่ายเลยต้องรับภาระดอกเบี้ย ทันทีวันละ 5 ล้านบาท ถ้า 90 วันก็ประหยัดไปได้ 450 ล้านบาท"
ส่วนประเด็น ไชน่า โมบาย นายศุภชัย กล่าวว่า ด้วยความที่ไชน่า โมบายเป็นผู้นำด้านโทรคมระดับโลก โดยเฉพาะเป็นผู้นำมาตรฐาน 4จี ทรูก็ได้รับการถ่ายทอดมาแบบไม่แพ้ใคร และได้ต้นทุนโครงข่าย เข้าถึงได้ว่าข้อมูลโครงข่าย จะประหยัดไปได้เท่าไร และการโรมมิ่ง โดยเฉพาะโรมมิ่งจากจีนเข้ามา ไชน่า โมบายมีแชร์ในตลาดจีนไม่ต่ำกว่า 70-80% ไชน่าโมบายก็ศึกษาเรื่องคอนเวอร์เจนซ์ด้วย และทรูมีโอกาสนำคอนเทนท์ไปขายจีนเช่นกัน
แจงนักลงทุนสร้างความมั่นใจ
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ราคาหุ้นเริ่ม stabilize แต่ต้องเดินหน้าชี้แจง ทำความเข้าใจนักลงทุน ซึ่งยืนยันว่าราคาหุ้นขณะนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ยังไม่จ่ายเงินงวดแรก 4จี คลื่น 900 แต่สิ่งที่อุตสาหกรรม หรือนักลงทุนมองคือ สิ่งที่พูดจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ จะสร้างการเติบโตได้จริงหรือไม่
โยนผู้ถือหุ้นตัดสินใจเพิ่มทุนทำ4G
ส่วนประเด็นที่จะมีการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาชำระค่าใบอนุญาตหรือไม่นั้น ขณะนี้ฝ่ายบริหารได้เสนอแนวทางมา 2 แนวทาง คือ เพิ่มทุน และไม่เพิ่มทุน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นในการตัดสินใจ
การแข่งขันปีนี้จะสูง โดยเฉพาะคอนเทนท์ ไม่ใช่สงครามราคา
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559 (หน้า 4)
ข่าวเพิ่มเติม (ทรูฯ โยนผู้ถือหุ้นตัดสินใจเพิ่มทุนทำ 4G)
หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559 (หน้า 10)
สัมภาษณ์พิเศษ: 'ศุภชัย' ชูคลื่น 900 ขึ้นแท่นผู้นำโทรคม โยนผู้ถือหุ้นตัดสินใจเพิ่มทุนทำ 4G
สัมภาษณ์พิเศษ: 'ศุภชัย' ชูคลื่น 900 ขึ้นแท่นผู้นำโทรคม
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559
มหกรรมชิงคลื่น 4 จี ผ่านไปไม่นาน "ศุภชัย เจียรวนนท์" เปิดวิชั่น ดัน "ทรู" ขึ้นผู้นำอุตสาหกรรมโทรคมไทย ชูความได้เปรียบ "คลื่นมากที่สุด ความเร็วสูงสุด" เขย่าบัลลังก์คู่แข่ง ตั้งเป้า 3 ปี ชิงมาร์เก็ตแชร์ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น บริษัทแม่ของบริษัททรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ให้สัมภาษณ์พิเศษสื่อในเครือเนชั่น ว่า ทรูพร้อมเต็มที่ในสมรภูมิการแข่งขันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย หลังเป็น ผู้ชนะประมูลเทคโนโลยี 4จี คลื่นความถี่ 1800 และ 900 โดยจากปริมาณคลื่นความถี่ที่มีมากที่สุด และความเร็วของคลื่นที่แรงที่สุด ทรูตั้งเป้าภายใน 3-5 ปี จะต้องครองส่วนแบ่ง ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของตลาดรวมทั้งหมด
"หากเราทำได้ดี ดึงให้คนมาใช้ทรูได้มากขึ้น ถ้าทุกคนถือซิมทรูเป็นซิมหลักของคนไทยได้เมื่อไร ทรูก็จะเป็นที่ 1 ได้" นายศุภชัย ยืนยันว่า คลื่นความถี่ที่ทรูมี ได้เปรียบเรื่องความเร็วมากกว่าคู่แข่ง เร็วกว่าเอไอเอส 2 เท่า เร็วกว่าดีแทค 3 เท่า
ร่วมแข่ง"คอนเทนท์"เดือด
ขณะที่ มองการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมปีนี้ว่า จะแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะคอนเทนท์ คอมเมิร์ซ แอพพลิเคชั่น โซลูชั่นต่างๆ เช่น ภาคการเกษตร อาจมีสมาร์ทฟาร์มมิ่ง เป็นต้น ไม่ใช่เป็นการแข่งขันด้านสงครามราคาอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์
"ตลาดโทรคมปีนี้จะโอเวอร์รีแอค แม้ตัวเลขการประมูลจะสูง แต่เมื่อดูการใช้งาน 15-18 ปี ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอยู่ที่ปีละ 1.4 หมื่นล้าน เทียบกับรายได้ของทั้งอุตสาหกรรมที่มี รายได้ 2.4 แสนล้านต่อปี และเติบโตปีละ 1 หมื่น ถึง 1.5 หมื่นล้านต่อปี เท่ากับเซ็ตแบคทีเดียว แล้วก็โตต่อ แล้วก็เทียบกับโอกาสว่า 4จี จะให้ความจุมากขึ้นกว่า 10 เท่า ในไทย บรอดแบนด์เข้าถึงแค่ 31%
ขณะที่เทคโนโลยีอย่างเอ็มทูเอ็มยังไม่ คิกออฟ สมาร์ทฟาร์มมิ่ง ไอโอที ต่างๆ รถยนต์อัจฉริยะ โฮมซิเคียวริตี้ ยังไม่เกิด แต่ภายใน 5-10 ปีข้างหน้าจะเห็นตัวเซนเซอร์มากกว่าจำนวนประชากรทั้งโลก มากกว่าจำนวนมือถือ หลายเท่า ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ตอบโจทย์ความต้องการทุกอุตสาหกรรม"
ส่วนสงครามราคา ประเทศไทยแข่งเรื่องนี้มานาน จนปัจจุบันไทยมีอัตราค่าบริการที่ถูกเป็นอันดับ 2 รองจากอินเดีย เกือบเป็นประเทศที่มีอัตราค่าบริการที่ถูกที่สุดในเอเชีย
"ผมเชื่อว่า ไดนามิกของตลาดจะไม่รุนแรงไปกว่าเดิมมาก การแข่งขันจะไปเน้นเรื่องคัสโตเมอร์ เซ็นทริกซ์ ทั้งภาคเอกชน และผู้บริโภคทั่วไป ที่ต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ซึ่งตามหลัก ลูกค้าบริโภคดาต้ามาก ดาต้าต้องถูกลง ขณะที่ 4จีให้ความจุเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ดาต้าต่อหน่วยถูกลงมากอยู่แล้ว ทำให้คนหันไปบริโภคคอนเทนท์ คอมเมิร์ซ ธุรกรรมต่างๆ ที่สร้างความสะดวกสบายทรูจะเข้าไปแข่งขันตรงนั้น"
ผิดคาด'เอไอเอส'ไม่ชนะ
นายศุภชัย ยังกล่าวถึงการแข่งขันเคาะราคาคลื่น 900 ด้วยว่า ทรูไม่ได้คิดว่าจะไปต่อ ได้อีกมาก อยู่ในช่วงที่จวนเจียน แต่ยังอยู่ในระดับที่บริษัทประเมินไว้ หากประหลาดใจมากกว่าที่เอไอเอสไม่เป็นผู้ชนะ
"เอไอเอสเขาก็สู้ถึง 75,000 ล้าน ดีแทค สู้ถึง 72,000 ล้าน จะเห็นว่าทุกคนประเมินมา ไม่ต่างกันเท่าไร แต่ตัวเลขตอนที่ทรูให้ที่ปรึกษาประเมินได้คำนวณมาหมดว่า เอไอเอสต้องประมูลเท่าไร ดีแทคเท่าไร เราประเมินมาทุกราย ซึ่งค่อนข้างตรงกับที่เราประเมิน ผมเองไม่ได้มองว่า เราแข่งกับจัสมินอยู่ ตอนนั้นมองว่า ล็อต 1 ดีแทคแน่ เพราะติดกับคลื่นดีแทคเดิม
ส่วนล็อต 2 เอไอเอสมาแน่ ก็คิดว่าสู้อยู่กับเอไอเอส ไม่ได้คิดว่าสู้กับแจสเลย และไม่คิดว่าดีแทคจะถอยเร็ว พอมิดไนท์เริ่มที่จะเคาะรอบต่อไป ตอนนั้นเราเตรียมจะเคาะ แต่ระบบเหมือนแฮงก์ ยังคิดว่าสงสัยการประมูลจะโมฆะ แต่สักพักก็ขึ้นข้อความว่า Congratulations, you're the winner ล็อต 2 ที่เราอยู่ก็ยังคิดว่าเราแข่งกับเอไอเอส หรือจัสมิน พอเดินออกมาเอไอเอสไม่ได้ ผมตกใจมาก"
เคาะราคาสูงหวังได้ลูกค้าเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม ที่หลายฝ่ายอาจมองว่าเพดานของทรูสูงกว่าเอไอเอส นายศุภชัย กล่าวว่า สำหรับเอไอเอส กับดีแทค ประมูลเพื่อป้องกันลูกค้าไม่ให้ไหลออก คือ ต้องการรักษาฐานลูกค้า เพราะมาร์เก็ตแชร์ใหญ่ และอยู่ตัว แต่ทรูประมูลเพื่อขยายฐานลูกค้า กวาดลูกค้าเข้ามาเพิ่ม
ต่างจากตอนประมูลคลื่น 1800 ทรูประมูลเพื่อรักษาฐานลูกค้า เพราะทรูยังมีลูกค้าค้างอยู่ในระบบหลายล้านคน ประมาณ 2-3 ล้านคน ยังใช้คลื่น 1800 อยู่ ดังนั้นบนคลื่น 900 ต้นทุนที่ทรูได้มาเพื่อสร้างการเติบโต แต่กับคู่แข่งต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาอาจไม่ได้สร้างการเติบโต อาจเป็นการป้องกันการไหลออกของลูกค้า
นายศุภชัย ปฏิเสธว่า การเคาะอย่างต่อเนื่องของทรู ไม่ได้เกี่ยวกับการที่เป็นเจ้าของบริษัทไปนั่งเคาะเอง ทรูเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีพาร์ทเนอร์ระดับโลก มีนักลงทุน ที่สำคัญดึงที่ปรึกษาระดับโลกเข้ามาช่วยดู ยืนยันว่าทรูใช้หลักวิชาการเรื่องตัวเลขเข้ามา ไม่ได้คิดว่าจะเคาะเท่าไรก็ได้
"บริษัทไทย"ขึ้นเป็นผู้นำโทรคม
"อีกประเด็น คือ ทรูเป็นบริษัทไทย เรามองทุกอย่างในประเทศนี้เป็นระยะยาว ไม่ได้คิดว่าจะเอาปันผลคืนอย่างเดียว แต่มองว่าเป็นส่วนสำคัญของประเทศ ถ้าเราผ่านพ้นจุดนี้ไปเราก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้ เราต้องเป็นรีจินัล เพลย์ เราประมูลครั้งนี้เพื่อต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในระดับประเทศ ขยายไปยังต่างประเทศ"
เร่งสรุปทีโอทีชิงเปิดคลื่น900
นายศุภชัย ยืนยันว่า การชำระเงินคลื่น 900 งวดแรกเกิดขึ้นแน่ และไม่มีปัญหาเรื่องแบงก์ การันตี โดยยังรอการเจรจากับทีโอที เพื่อใช้เสาทีโอที ติดตั้งแอนเทนน่าให้บริการคลื่น 900 หากเจรจาแล้วเสร็จ ทรูติดตั้งอุปกรณ์ บนเสาได้เร็วเท่าไร ทุกอย่างจะพร้อมให้บริการ ลูกค้าได้ทันทีหลังจากทรูชำระเงินงวดแรก จะนำคลื่น 900 ให้บริการทั้ง 2จี และ 4จี ซึ่งการเจรจาใกล้สรุปแล้ว
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะ ผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า ทรูไม่มีปัญหาด้านการเงิน โดยขณะนี้ได้เจรจากับธนาคารทั้งไทย และ ต่างประเทศ 10 แห่ง ซึ่งทุกแห่งพร้อมปล่อยกู้ และออกแบงก์ การันตี ในจำนวนนี้ มีเพียง 1 แห่งที่ต้องขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะปล่อยวงเงินกู้เต็มจำนวนแล้ว และธปท.อนุมัติแล้ว
"ที่ยังไม่นำเงินงวดแรกไปชำระ พร้อมแบงก์ การันตี เพราะเราคำนวณดูแล้วว่า หากเรานำเงินไปจ่ายเลยต้องรับภาระดอกเบี้ย ทันทีวันละ 5 ล้านบาท ถ้า 90 วันก็ประหยัดไปได้ 450 ล้านบาท"
ส่วนประเด็น ไชน่า โมบาย นายศุภชัย กล่าวว่า ด้วยความที่ไชน่า โมบายเป็นผู้นำด้านโทรคมระดับโลก โดยเฉพาะเป็นผู้นำมาตรฐาน 4จี ทรูก็ได้รับการถ่ายทอดมาแบบไม่แพ้ใคร และได้ต้นทุนโครงข่าย เข้าถึงได้ว่าข้อมูลโครงข่าย จะประหยัดไปได้เท่าไร และการโรมมิ่ง โดยเฉพาะโรมมิ่งจากจีนเข้ามา ไชน่า โมบายมีแชร์ในตลาดจีนไม่ต่ำกว่า 70-80% ไชน่าโมบายก็ศึกษาเรื่องคอนเวอร์เจนซ์ด้วย และทรูมีโอกาสนำคอนเทนท์ไปขายจีนเช่นกัน
แจงนักลงทุนสร้างความมั่นใจ
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ราคาหุ้นเริ่ม stabilize แต่ต้องเดินหน้าชี้แจง ทำความเข้าใจนักลงทุน ซึ่งยืนยันว่าราคาหุ้นขณะนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ยังไม่จ่ายเงินงวดแรก 4จี คลื่น 900 แต่สิ่งที่อุตสาหกรรม หรือนักลงทุนมองคือ สิ่งที่พูดจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ จะสร้างการเติบโตได้จริงหรือไม่
โยนผู้ถือหุ้นตัดสินใจเพิ่มทุนทำ4G
ส่วนประเด็นที่จะมีการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาชำระค่าใบอนุญาตหรือไม่นั้น ขณะนี้ฝ่ายบริหารได้เสนอแนวทางมา 2 แนวทาง คือ เพิ่มทุน และไม่เพิ่มทุน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นในการตัดสินใจ
การแข่งขันปีนี้จะสูง โดยเฉพาะคอนเทนท์ ไม่ใช่สงครามราคา
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559 (หน้า 4)
ข่าวเพิ่มเติม (ทรูฯ โยนผู้ถือหุ้นตัดสินใจเพิ่มทุนทำ 4G)
หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559 (หน้า 10)