One day; One night. จากพิ’โลก สู่ สุโขทัย ดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุข
สวัสดีครับทุกท่าน รีวิวทริปนี้เป็นรีวิวแรกที่ผมเขียนลงเว็บพันทิป ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ
เข้าเรื่องเลยกว่าครับ…..การเที่ยวครั้งนี้ผมและเพื่อนวางแผนสถานที่เที่ยวของทริปนี้คือ"
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย" ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของจังหวัดสุโขทัยเลยก็ว่าได้ โดยอุทยานฯขึ้นเป็นมรดกโลกตามที่ UNESCO ได้ประกาศไว้ นอกจากนี้ยังไปสัมผัสบรรยากาศอาทิตย์อัศดงที่ "
ทุ่งทะเลหลวง (แก้มลิง) หรือ แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ"
ถึงเวลาพาทุกท่านไปท่อง”สุโขทัย ดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุข”
หลังจากขับรถออกจากพิษณุโลก ไปตามถนนสาย 12 (ถ้าจำไม่ผิด) มุ่งหน้าสู่สุโขทัย ใช้ประมาณเกือบ 50 นาที ก็เข้าเขตจังหวัดสุโขทัย

สถานที่แรกที่พวกเราตั้งใจไปคือ”ศาลพระแม่ย่า” ไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองก็แวะกราบสิ่งศักดิ์สิทธ์ ขอพรกันสักหน่อยครับ….ขอเสริมเกร็ดความรู้สักเล็กน้อยครับว่า”พระแม่ย่า” ตามประวัติศาสตร์ พระแม่ย่าถูกสันนิษฐานว่าเป็นนางกษัตริย์องค์หนึ่ง ในประวัติศาสตร์ของสุโขทัย ตามที่เล่าขานกันมาและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น”พระนางเสือง”พระราชชนนีของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
บริเวณหน้าศาลพระแม่ย่าครับ

บรรยากาศภายนอกศาลพระแม่ย่า...คนเยอะพอสมควรครับ บ้างก็มาแก้บน บ้างก็มาขอพร....หลังจากผมกับเพื่อนซื้อดอกไม้ ธูปเทียน และน้ำมันเติมตะเกียงก็พากันมาสักการะพระแม่ย่าทางด้านนอกของศาล โดยธูปและเทียนที่จุดแล้วจะต้องปักลงอ่างทรายด้านนอกครับ

ส่วนแผ่นทองก็ปิดทองเฉพาะองค์พระแม่ย่า(จำลอง)ที่อยู่ทางด้านนอกครับเท่านั้น

ภายในศาลพระแม่ย่าครับ...หลังจากปิดทองเสร็จก็เหลือดอกไม้ซึ่งจะต้องนำมาถวายบนพานทองด้านในศาลครับ

นอกจากนี้ภายในศาลมีเซี่ยมซี่ด้วย...แม่นไม่แม่นต้องลองไปเซี่ยมซี่กันดูละครับงานนี้

สถานที่สองที่เราไปคือ”สถานที่พัก” เพื่อนๆผมค้นหาข้อมูลที่พักจากกูเกิลก็มีอยู่หลายที่อยู่ในลิส แต่ก็คัดสรรมาหลายที่พอสมควรเปรียบเทียบทั้งราคา บริการ ที่ตั้ง….สุดม้ายเพื่อนผมก็ตัดสินใจเลือก สถานที่พักกายพักใจของทริปคือ "
สุรีรัตน์ รีสอร์ทสุโขทัย" เนื่องจากราคาถูก+บริการอาหารเช้าฟรี อยู่ในตัวเมืองแถมใกล้กับร้านก๋วยเตี๋ยวหลายๆร้านชื่อดังในตัวเมือง มาสุโขทัยทั้งทีถ้าไม่กินก๋วยเตี๋ยวโขทัยนี่ (ผมว่ามาไม่ถึงนะ ฮ่าๆ)

เพราะเตี๋ยวสุโขทัยนี่ขึ้นชื่อเลย….ผมเองก็สังเกตอยู่หลายครั้งเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดนอกจากพิษณุโลกมักจะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยในหลายๆจังหวัด แปลกดีเหมือนกันครับ….
ถึงแล้วที่พัก

แผ่นที่รีสอร์ทครับ เผื่อท่านไหนสนใจ….(Cr. www.sureeratresortsukhothai.com)

เมื่อเข้ามาในบริเวณรีสอร์ทก็เข้าไปสอบถามห้องพักที่เรือนเศรษฐี...เดินเข้าไปเรือนเศรษฐี สัมผัสได้ว่าตัวเองเป็นเศรษฐี ขึ้นมาทันทีเลย (มะโน

)

ยังที่บอกไปมีบริการอาหารเช้าด้วยนะครับ

เห็นเมนูอาหารกับแผ่นบอกช่วงเวลาอาหารเช้า (ขออนุญาตพี่เค้าถ่าย)

หลังพูดคุยและตกลงเรื่องที่พักว่าจะพักแบบไหนกี่วัน กี่คืน ห้องแบบไหน…ไม่นานพี่เขาก็พาไปที่พักครับ
โดยที่พัก ผมกับเพื่อนเลือกที่พักแบบบ้านที่เป็นหลัง (ราคาต่อวันก็หลักพันครับ แต่พวกผมมากันหลายคนหารกันแล้วไม่แพงครับ)

ก่อนขึ้นบ้านก็ควร...

บรรยากาศภายในห้องครับ (เตียงนุ่มมากครับ)

อยากจะนอนคดอยู่ทั้งวัน ขับรถมาก็เหนื่อยละ คนอื่นนี่นั่งกันสบายเลย (ได้แต่บ่นในใจ

)

มุมไหนสวย กดอดลั่นชัตเตอร์ไม่ได้จริงๆครับ

มีมุมถ่ายรูปด้วย….

หลังจากเก็บของเข้าที่พัก ก็นั่งพัก กินลม ชมวิวรอบรีสอร์ทไปเรื่อย… เสียงท้องของใครบางคนในกลุ่มร้องออกมา!!

ต่างคนต่างมองหน้ากัน คงไม่ต้องบอกครับ…ได้เวลาไปลิ้มรสอาหารเที่ยงที่สุโขทัยแล้ว
มื้อแรกของพวกเราที่สุโขทัยคือ"
ก๋วยเตี๋ยวเจ้แฮ"ครับ
พวกเราขับออกจากรีสอร์ทไม่ถึง 5 นาที ก็ถึง….ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้แฮ….คนค่อนข้างเยอะพอสมควร

นั่งรอไม่นานก็มีคนมารับออเดอร์ครับ โดยพวกเราก็สั่ง หมูสะเต๊ะกับน้ำสมุนไพรเย็นๆมาชิมลางกันก่อนเบาๆเพราะของหนักคงรอนาน ต้องทำพิธีก่อนชิมครับ…ลั่นชัตเตอร์ไปหนึ่งที!

น้ำสมุนไพรจากซ้ายไปขวา…ชามะนาว น้ำกระเจี๊ยบ และน้ำเก๊กฮวย…ดูดเข้าไปเฮือบหนึ่งโอ้ยย ชื่นจายย

10 นาทีผ่านไป ของหนักก็เสริฟถึงที่โต๊ะครับ บะหมี่ต้มยำหมูแดงครับ…ไม่รอช้า ตะเกียบ ช้อนพร้อม ลุยสิครับ!
รสชาตินี่กินไอก๋วยเตี๋ยวแบบไทยๆจริงๆครับ สมกลับที่เขาเล่าลือถึง"
ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย" นอกจากร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้แฮ ก็ยังมีร้าน
ก๋วยเตี๋ยวอีกหลายร้าน…ก่อนออกทริปพวกเราได้ลิสมาก็มี
- ร้านอาหารไม้กลางกรุง
- ก๋วยเตี๋ยวบัวน้อย
- ก๋วยเตี๋ยวตาปุ๋ย (เจ้าเก่า)
- ก๋วยเตี๋ยวลึกลับป้าเพ็ญ
- ก๋วยเตี๋ยวเจ้แฮ
- ก๋วยเตี๋ยวต้นกระจี้
กินไปคนละชามสองชาม ตามคติกองทัพต้องเดินด้วยท้อง…ตอนนี้กลายเป็น คนต้องพาท้องเดิน

หลังจากเติมพลังกับอาหารอร่อย ก็เตรียมตัวไปจุดหมายต่อไปคือ”อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” โดยวัดแรกที่ไปคือ…วัดพระพุทธรูปพูดได้…หรือ…วัดศรีชุม…หลายท่านอาจจะสงสัยทำไมถึงเล่ากันว่าเป็นวัดพระพุทธรูปพูดได้ วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่โดยมีนามว่า "พระอจนะ" แปลว่า “ผู้ไม่หวั่นไหว มั่นคง” สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหง ในสมัยอยุธยา เมื่อครั้ง "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ทำให้หัวเมืองต่าง ๆ ยกเลิกการส่งส่วยให้กับพม่า แต่ยังมีเมืองเชลียง (สวรรคโลก) ที่ไม่ยอมทำตามพระราชโองการของพระองค์ พระองค์จึงนำทัพเสด็จมาปราบเมืองเชลียง และได้มีการมาชุมนุมทัพที่ "วัดศรีชุม" แห่งนี้ก่อนที่จะไปตีเมืองเชลียง และด้วยการรบในครั้งนั้น ถือเป็นการรบระหว่างคนไทยกับคนไทยด้วยกัน ทำให้เหล่าทหารไม่มีกำลังใจในการรบ และไม่อยากรบ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" จึงได้วางแผนสร้างกำลังใจให้กับทหารโดยการให้ทหาร คนหนึ่งปีนบันไดขึ้นไปทางด้านหลังองค์พระ และพูดให้กำลังใจแก่เหล่าทหาร ทำให้ทหารเกิดกำลังใจที่จะต่อสู้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดตำนาน "พระพูดได้" ที่วัดศรีชุมแห่งนี้ และ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ยังได้มีการทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาขึ้นที่วัดแห่งนี้อีกด้วย (Cr.Mr_Taweesak:Blogger,Oknation.)นอกจากนี้ตามที่ได้ยินมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังยกวัดนี้เป็นที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand
ก่อนเข้าไปชมบรรยากาศในวัด ก็ต้องเสียค่าทำนุบำรุงสถานที่คนละ 20 บาทครับ

Tickets 20฿

ป้ายบอกประวัติศาสตร์และความเป็นมาของวัด ทั้งที่ตั้ง ลักษณะเด่นของวัดและความสำคัญ

เก็บภาพบรรยากาศในวัดและรอบวัดไม่หมดเพราะเลนส์ที่ติดตัวไปตอนนั้นมีแค่เลนส์ Fix เสียดายมากครับ

นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกนอกบริเวณวัดอยู่หลายร้าน ทั้งของเก่า,ข้าวตอกพระร่วง,ภาพวาด,พ่วงกุญแจ ฯลฯ จัดไปคนละเส้นสองเส้น

สถานที่ต่อไปขาดได้เลยครับ มา อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ทั้งทีต้องแวะสักการะ"
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช"
ตามประวัติศาสตร์ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือ พญาร่วง เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 ในราชวงศ์พระร่วงแห่งราชอาณาจักรสุโขทัย พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของไทยที่ได้รับการยกย่องเป็น "มหาราช" ด้วยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันทรงคุณประโยชน์แก่แผ่นดิน ทรงรวบรวมอาณาจักรไทยจนเป็นปึกแผ่นกว้างขวาง ทั้งยังได้ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้น ทำให้ชาติไทยได้สะสมความรู้ทางศิลปะ วัฒนธรรม และวิชาการต่าง ๆ สืบทอดกันมากว่าเจ็ดร้อยปี(Cr.วิกีพีเดีย,สารานุกรมเสรี)

ศึกษาประวัติศาสตร์กันสักเล็กน้อย…ก่อนเข้าไปสักการะพ่อขุนรามคำแหง

ร้านขายดอกไม้ ธูปเทียน
กระดิ่งพ่อขุนรามคำแหงยุคสมัยของพ่อขุนรามคำแหง ราษฎรสามารถสั่นกระดิ่งร้องทุกข์ได้ครับ

ระหว่างเดินชมอุทยานฯ ตามซุ้มไม้ต่างๆในอุทยานฯมีการประดับโคมไฟเพื่อตอนรับงานลอยกระทง
โดยปีนี้ทางสุโขทัยจัดประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ วันที่ 21-25 พ.ย. 2558

รูปด้านล่างเป็นบริเวณวัดมหาธาตุ วัดมหาธาตุที่สร้างสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พระเจดีย์มหาธาตุ ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ศิลปะแบบสุโขทัย ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานมีวิหารขนาด ใหญ่ก่อ ด้วยศิลาแลง (Cr.ไปด้วยกันดอทคอม)

มองไปทางไหนก็มีแต่ชาวต่างชาติครับ…คุณลุงชาวต่างชาติท่านนี้กำลังซึมซับบรรยากาศของบริเวณรอบๆวัดมหาธาตุ

เกาะกลางน้ำที่อยู่ทางทิศใต้ของวัดมหาธาตุ

ภาพบริเวณด้านหลังวัดมหาธาตุครับ ผมถ่ายจากเกาะกลางน้ำทางทิศใต้ของวัด

เดินเล่น ถ่ายรูปรอบๆอุทยานประวัติศาสตร์เสร็จก็ถึงเวลากลับไปพักที่รีสอร์ท หลับเอาแรงสักงีบครับ…ก่อนที่จะไปที่เที่ยวต่อไป"ทุ่งทะเลหลวง"
ทางเข้าเกาะกลางรูปหลวงใจ

วัดนี้อยู่บนเกาะรูปหัวใจครับ…บรรยากาศดีมาก แสงอาทิตย์อ่อนๆ ไม่ถึงกับร้อนมาก แถมลมพัดมาตลอด
โชคดีที่ผมกับเพื่อนๆซื้อขนมมาด้วยระหว่างนั่นก็มีคนมาปั่นจักรยานเล่น รอบๆ บ้างก็พาครอบครัวมาถ่ายรูปเล่น

แสงอาทิตย์สาดส่อง สะท้อนพื้นน้ำ ชวนให้ครุ่นคิดถึงความสวยงามของชีวิตและธรรมชาติ… THE END
[CR] One day,One night...จากพิ’โลก สู่ สุโขทัย ดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุข
สวัสดีครับทุกท่าน รีวิวทริปนี้เป็นรีวิวแรกที่ผมเขียนลงเว็บพันทิป ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ
เข้าเรื่องเลยกว่าครับ…..การเที่ยวครั้งนี้ผมและเพื่อนวางแผนสถานที่เที่ยวของทริปนี้คือ"อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย" ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของจังหวัดสุโขทัยเลยก็ว่าได้ โดยอุทยานฯขึ้นเป็นมรดกโลกตามที่ UNESCO ได้ประกาศไว้ นอกจากนี้ยังไปสัมผัสบรรยากาศอาทิตย์อัศดงที่ "ทุ่งทะเลหลวง (แก้มลิง) หรือ แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ"
ถึงเวลาพาทุกท่านไปท่อง”สุโขทัย ดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุข”
หลังจากขับรถออกจากพิษณุโลก ไปตามถนนสาย 12 (ถ้าจำไม่ผิด) มุ่งหน้าสู่สุโขทัย ใช้ประมาณเกือบ 50 นาที ก็เข้าเขตจังหวัดสุโขทัย
สถานที่แรกที่พวกเราตั้งใจไปคือ”ศาลพระแม่ย่า” ไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองก็แวะกราบสิ่งศักดิ์สิทธ์ ขอพรกันสักหน่อยครับ….ขอเสริมเกร็ดความรู้สักเล็กน้อยครับว่า”พระแม่ย่า” ตามประวัติศาสตร์ พระแม่ย่าถูกสันนิษฐานว่าเป็นนางกษัตริย์องค์หนึ่ง ในประวัติศาสตร์ของสุโขทัย ตามที่เล่าขานกันมาและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น”พระนางเสือง”พระราชชนนีของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
บริเวณหน้าศาลพระแม่ย่าครับ
บรรยากาศภายนอกศาลพระแม่ย่า...คนเยอะพอสมควรครับ บ้างก็มาแก้บน บ้างก็มาขอพร....หลังจากผมกับเพื่อนซื้อดอกไม้ ธูปเทียน และน้ำมันเติมตะเกียงก็พากันมาสักการะพระแม่ย่าทางด้านนอกของศาล โดยธูปและเทียนที่จุดแล้วจะต้องปักลงอ่างทรายด้านนอกครับ
ส่วนแผ่นทองก็ปิดทองเฉพาะองค์พระแม่ย่า(จำลอง)ที่อยู่ทางด้านนอกครับเท่านั้น
ภายในศาลพระแม่ย่าครับ...หลังจากปิดทองเสร็จก็เหลือดอกไม้ซึ่งจะต้องนำมาถวายบนพานทองด้านในศาลครับ
นอกจากนี้ภายในศาลมีเซี่ยมซี่ด้วย...แม่นไม่แม่นต้องลองไปเซี่ยมซี่กันดูละครับงานนี้
สถานที่สองที่เราไปคือ”สถานที่พัก” เพื่อนๆผมค้นหาข้อมูลที่พักจากกูเกิลก็มีอยู่หลายที่อยู่ในลิส แต่ก็คัดสรรมาหลายที่พอสมควรเปรียบเทียบทั้งราคา บริการ ที่ตั้ง….สุดม้ายเพื่อนผมก็ตัดสินใจเลือก สถานที่พักกายพักใจของทริปคือ "สุรีรัตน์ รีสอร์ทสุโขทัย" เนื่องจากราคาถูก+บริการอาหารเช้าฟรี อยู่ในตัวเมืองแถมใกล้กับร้านก๋วยเตี๋ยวหลายๆร้านชื่อดังในตัวเมือง มาสุโขทัยทั้งทีถ้าไม่กินก๋วยเตี๋ยวโขทัยนี่ (ผมว่ามาไม่ถึงนะ ฮ่าๆ)
เพราะเตี๋ยวสุโขทัยนี่ขึ้นชื่อเลย….ผมเองก็สังเกตอยู่หลายครั้งเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดนอกจากพิษณุโลกมักจะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยในหลายๆจังหวัด แปลกดีเหมือนกันครับ….
ถึงแล้วที่พัก
แผ่นที่รีสอร์ทครับ เผื่อท่านไหนสนใจ….(Cr. www.sureeratresortsukhothai.com)
เมื่อเข้ามาในบริเวณรีสอร์ทก็เข้าไปสอบถามห้องพักที่เรือนเศรษฐี...เดินเข้าไปเรือนเศรษฐี สัมผัสได้ว่าตัวเองเป็นเศรษฐี ขึ้นมาทันทีเลย (มะโน
ยังที่บอกไปมีบริการอาหารเช้าด้วยนะครับ
หลังพูดคุยและตกลงเรื่องที่พักว่าจะพักแบบไหนกี่วัน กี่คืน ห้องแบบไหน…ไม่นานพี่เขาก็พาไปที่พักครับ
โดยที่พัก ผมกับเพื่อนเลือกที่พักแบบบ้านที่เป็นหลัง (ราคาต่อวันก็หลักพันครับ แต่พวกผมมากันหลายคนหารกันแล้วไม่แพงครับ)
ก่อนขึ้นบ้านก็ควร...
บรรยากาศภายในห้องครับ (เตียงนุ่มมากครับ)
มุมไหนสวย กดอดลั่นชัตเตอร์ไม่ได้จริงๆครับ
มีมุมถ่ายรูปด้วย….
หลังจากเก็บของเข้าที่พัก ก็นั่งพัก กินลม ชมวิวรอบรีสอร์ทไปเรื่อย… เสียงท้องของใครบางคนในกลุ่มร้องออกมา!!
มื้อแรกของพวกเราที่สุโขทัยคือ"ก๋วยเตี๋ยวเจ้แฮ"ครับ
พวกเราขับออกจากรีสอร์ทไม่ถึง 5 นาที ก็ถึง….ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้แฮ….คนค่อนข้างเยอะพอสมควร
นั่งรอไม่นานก็มีคนมารับออเดอร์ครับ โดยพวกเราก็สั่ง หมูสะเต๊ะกับน้ำสมุนไพรเย็นๆมาชิมลางกันก่อนเบาๆเพราะของหนักคงรอนาน ต้องทำพิธีก่อนชิมครับ…ลั่นชัตเตอร์ไปหนึ่งที!
น้ำสมุนไพรจากซ้ายไปขวา…ชามะนาว น้ำกระเจี๊ยบ และน้ำเก๊กฮวย…ดูดเข้าไปเฮือบหนึ่งโอ้ยย ชื่นจายย
10 นาทีผ่านไป ของหนักก็เสริฟถึงที่โต๊ะครับ บะหมี่ต้มยำหมูแดงครับ…ไม่รอช้า ตะเกียบ ช้อนพร้อม ลุยสิครับ!
รสชาตินี่กินไอก๋วยเตี๋ยวแบบไทยๆจริงๆครับ สมกลับที่เขาเล่าลือถึง"ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย" นอกจากร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้แฮ ก็ยังมีร้าน
ก๋วยเตี๋ยวอีกหลายร้าน…ก่อนออกทริปพวกเราได้ลิสมาก็มี
- ร้านอาหารไม้กลางกรุง
- ก๋วยเตี๋ยวบัวน้อย
- ก๋วยเตี๋ยวตาปุ๋ย (เจ้าเก่า)
- ก๋วยเตี๋ยวลึกลับป้าเพ็ญ
- ก๋วยเตี๋ยวเจ้แฮ
- ก๋วยเตี๋ยวต้นกระจี้
กินไปคนละชามสองชาม ตามคติกองทัพต้องเดินด้วยท้อง…ตอนนี้กลายเป็น คนต้องพาท้องเดิน
หลังจากเติมพลังกับอาหารอร่อย ก็เตรียมตัวไปจุดหมายต่อไปคือ”อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” โดยวัดแรกที่ไปคือ…วัดพระพุทธรูปพูดได้…หรือ…วัดศรีชุม…หลายท่านอาจจะสงสัยทำไมถึงเล่ากันว่าเป็นวัดพระพุทธรูปพูดได้ วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่โดยมีนามว่า "พระอจนะ" แปลว่า “ผู้ไม่หวั่นไหว มั่นคง” สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหง ในสมัยอยุธยา เมื่อครั้ง "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ทำให้หัวเมืองต่าง ๆ ยกเลิกการส่งส่วยให้กับพม่า แต่ยังมีเมืองเชลียง (สวรรคโลก) ที่ไม่ยอมทำตามพระราชโองการของพระองค์ พระองค์จึงนำทัพเสด็จมาปราบเมืองเชลียง และได้มีการมาชุมนุมทัพที่ "วัดศรีชุม" แห่งนี้ก่อนที่จะไปตีเมืองเชลียง และด้วยการรบในครั้งนั้น ถือเป็นการรบระหว่างคนไทยกับคนไทยด้วยกัน ทำให้เหล่าทหารไม่มีกำลังใจในการรบ และไม่อยากรบ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" จึงได้วางแผนสร้างกำลังใจให้กับทหารโดยการให้ทหาร คนหนึ่งปีนบันไดขึ้นไปทางด้านหลังองค์พระ และพูดให้กำลังใจแก่เหล่าทหาร ทำให้ทหารเกิดกำลังใจที่จะต่อสู้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดตำนาน "พระพูดได้" ที่วัดศรีชุมแห่งนี้ และ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ยังได้มีการทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาขึ้นที่วัดแห่งนี้อีกด้วย (Cr.Mr_Taweesak:Blogger,Oknation.)นอกจากนี้ตามที่ได้ยินมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังยกวัดนี้เป็นที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand
ก่อนเข้าไปชมบรรยากาศในวัด ก็ต้องเสียค่าทำนุบำรุงสถานที่คนละ 20 บาทครับ
Tickets 20฿
ป้ายบอกประวัติศาสตร์และความเป็นมาของวัด ทั้งที่ตั้ง ลักษณะเด่นของวัดและความสำคัญ
เก็บภาพบรรยากาศในวัดและรอบวัดไม่หมดเพราะเลนส์ที่ติดตัวไปตอนนั้นมีแค่เลนส์ Fix เสียดายมากครับ
นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกนอกบริเวณวัดอยู่หลายร้าน ทั้งของเก่า,ข้าวตอกพระร่วง,ภาพวาด,พ่วงกุญแจ ฯลฯ จัดไปคนละเส้นสองเส้น
สถานที่ต่อไปขาดได้เลยครับ มา อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ทั้งทีต้องแวะสักการะ"พ่อขุนรามคำแหงมหาราช"
ตามประวัติศาสตร์ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือ พญาร่วง เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 ในราชวงศ์พระร่วงแห่งราชอาณาจักรสุโขทัย พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของไทยที่ได้รับการยกย่องเป็น "มหาราช" ด้วยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันทรงคุณประโยชน์แก่แผ่นดิน ทรงรวบรวมอาณาจักรไทยจนเป็นปึกแผ่นกว้างขวาง ทั้งยังได้ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้น ทำให้ชาติไทยได้สะสมความรู้ทางศิลปะ วัฒนธรรม และวิชาการต่าง ๆ สืบทอดกันมากว่าเจ็ดร้อยปี(Cr.วิกีพีเดีย,สารานุกรมเสรี)
ศึกษาประวัติศาสตร์กันสักเล็กน้อย…ก่อนเข้าไปสักการะพ่อขุนรามคำแหง
ร้านขายดอกไม้ ธูปเทียน
กระดิ่งพ่อขุนรามคำแหงยุคสมัยของพ่อขุนรามคำแหง ราษฎรสามารถสั่นกระดิ่งร้องทุกข์ได้ครับ
ระหว่างเดินชมอุทยานฯ ตามซุ้มไม้ต่างๆในอุทยานฯมีการประดับโคมไฟเพื่อตอนรับงานลอยกระทง
โดยปีนี้ทางสุโขทัยจัดประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ วันที่ 21-25 พ.ย. 2558
รูปด้านล่างเป็นบริเวณวัดมหาธาตุ วัดมหาธาตุที่สร้างสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พระเจดีย์มหาธาตุ ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ศิลปะแบบสุโขทัย ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานมีวิหารขนาด ใหญ่ก่อ ด้วยศิลาแลง (Cr.ไปด้วยกันดอทคอม)
มองไปทางไหนก็มีแต่ชาวต่างชาติครับ…คุณลุงชาวต่างชาติท่านนี้กำลังซึมซับบรรยากาศของบริเวณรอบๆวัดมหาธาตุ
เกาะกลางน้ำที่อยู่ทางทิศใต้ของวัดมหาธาตุ
ภาพบริเวณด้านหลังวัดมหาธาตุครับ ผมถ่ายจากเกาะกลางน้ำทางทิศใต้ของวัด
เดินเล่น ถ่ายรูปรอบๆอุทยานประวัติศาสตร์เสร็จก็ถึงเวลากลับไปพักที่รีสอร์ท หลับเอาแรงสักงีบครับ…ก่อนที่จะไปที่เที่ยวต่อไป"ทุ่งทะเลหลวง"
ทางเข้าเกาะกลางรูปหลวงใจ
วัดนี้อยู่บนเกาะรูปหัวใจครับ…บรรยากาศดีมาก แสงอาทิตย์อ่อนๆ ไม่ถึงกับร้อนมาก แถมลมพัดมาตลอด
โชคดีที่ผมกับเพื่อนๆซื้อขนมมาด้วยระหว่างนั่นก็มีคนมาปั่นจักรยานเล่น รอบๆ บ้างก็พาครอบครัวมาถ่ายรูปเล่น
แสงอาทิตย์สาดส่อง สะท้อนพื้นน้ำ ชวนให้ครุ่นคิดถึงความสวยงามของชีวิตและธรรมชาติ… THE END