**สดๆร้อนๆ น้ำตาเพิ่งแห้ง** เราจะบอกว่า ขอบคุณนะที่โทรมาบอกว่า "กำลังจะแต่งงาน"

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ขอระบายค่ะ (อาจมีการใช้คำไม่สุภาพค่ะ)

เปิดเพลงไป อ่านไปจะอินมาก... https://www.youtube.com/watch?v=Ux2Ikf6xZJU

ที่เค้าว่ากันว่า "ความสุขมันสั้น...เราจะเก็บเกี่ยวไว้ให้นานที่สุด ถึงแม้ว่าตอนจบเราต้องแลกคืนด้วยความเสียใจก็ตาม..." มันคงจะจริง


สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเรากับคนๆนึง  เราเจอกันที่ทำงานค่ะ เค้าเป็นคนหล่อ หน้าตาดี ในบรรดาที่ทำงาน ก็พากันกรี๊ดกร๊าดค่ะ มีแค่เราที่รู้สึกว่าเค้าเฉยๆ ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหนเลย หน้าก็โหด ก็แค่หุ่นดีละวะ! หน้าเข้มๆแบบผู้ชายไทยๆ ไม่ใช่สเปคอะ แย่งกันทำไม หุ่ววว

และแล้วเหตุการณ์ต่างๆ ก็เริ่มต้นขึ้น...

ในวันนั้นสิ้นปีของปี 57 ที่ทำงานได้จัดทริปปีใหม่ให้ไปเที่ยวที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทุกคนในที่ทำงานก็ไปหมด เราเองก็พึ่งอกหักมา เรียกว่าพึ่งจะเลิกกับแฟนมาดีกว่า เหมาะเจาะมาก สิ้นปีเลย! เราก็คิดว่า ได้! ต่อไปนี้จะไม่อะไรกับใครอีก ในระหว่างทางจากกรุงเทพไปเพชรบูรณ์ ก็สนุกสนานเฮฮาจนเราลืมความเศร้าไป ที่นั่งกับเรา เรานั่งกับเพื่อนสนิทที่เป็นกระเทย สนุกสนานและเฮฮามาก จนเมื่อถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ กิจกรรมกระชับสัมพันธ์กับคนในที่ทำงานก็ดำเนินการล่วงเลยไปถึงเวลาเกือบเที่ยงคืน หลังจากนั้นทุกคนจึงแยกย้ายกันเข้าที่พักและทำกิจธุระส่วนตัว เราเอง พักกับพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง ส่วนเพื่อนสนิทเราที่เป็นกระเทย ก็ต้องพักกับพี่ผู้ชายที่ทำงานฝ่ายเสียง ดังนั้นเราจึงต้องแยกห้องพัก

สักพักหนึ่ง ในขณะที่เรานั่งเล่นโทรศัพท์ในห้อง ก็ได้ยินเสียงประตูดังขึ้น "ก๊อก ก๊อก! กูเองงง อิชะนีเปิดประตูให้กูเร้วววว!!" ต้นเสียงนอกห้องคงไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คงเป็นเพื่อนกระเทยตัวใหญ่เท่าควายธนูของเรานั่นเอง "อะไรของ! ดึกแล้ว กูจะนอน" เราตอบพร้อมไล่เพื่อนไปเพื่อปัดรำคาญ "กูไม่กล้านอนคนเดียวอ่ะ กูกลัว.... พี่เค้ายังไม่เข้าห้องไง" เพื่อนกระเทยทำหน้าเหยเกว่ากลัวผีมากๆ (ไม่เหมาะกับหน้าเลยจริงๆ 5555)
"โอเค ละจะเอายังไง นอนกับกูมั้ย หะ?" เราตอบ แต่เพื่อนกระเทยเราบอกว่า "งั้นไปดูพี่เค้าตรงลานหน้ารีสอร์ทกับกูหน่อย เค้าอาจจะยังตั้งวงกันตรงนั้นอยู่" ไอเราคิด (นี่เยอะนะ) "โอเคๆๆ รอแปบ ขอหารองเท้าก่อนไม่ได้เอาอีแตะมา" เราตอบ "ไม่ต้อง!ไปงี้แหละ แปบเดียว" เราก็เชื่อเพื่อนและเดินใส่ถุงเท้าพร้อมกับชุดเตรียมนอน

อากาศข้างนอกเย็นๆ ไม่หนาวมาก แต่เราเองใส่เสื้อยืดและกางเกงขายาว และถุงเท้า ไม่ได้ใส่รองเท้ามา ส่วนเพื่อนกระเทยเดินนำหน้าไประหว่างทางเดินเชื่อมตึก สักพักหนึ่ง... เพื่อนกระเทยก็เดินไปเจอกับวงเหล้าวงเล็กๆวงหนึ่ง ซึ่งนั่งกันอยู่สองคน เราเองเดินตามมา ก็ตอบว่า "กลับเหอะ เดี๋ยวพี่เค้าก้อกลับห้องแหละ" ส่วนเพื่อนกระเทยเรานะหรอ ด้วยความที่เป็นควีนออฟแรดมานานมากแล้ว นางจึงตอบว่า "เหยยยยยย....กลับได้ไง นั่นคนหล่อนั่งอยู่นั่น กูไปอ่อยๆ หยอดๆนิดๆๆ ดีกว่า ตามกูมา!!" เราเองยังไม่ทันได้ห้าม เพื่อนกระเทยเราก็ปรี่ไปที่วงเหล้าวงเล็กๆวงนั้น ซึ่งมี "เค้าคนนั้น" คนที่หล่อๆอะไรนั่นล่ะ ละก็รุ่นพี่ในที่ทำงานอีกคนนึง กำลังนั่งดื่มชิวๆกันอยู่สองคน "เอ้า! น้อง! ยืนอยู่ทำไม เชิญครับเชิญ นั่งๆๆๆ" รุ่นพี่ในวงคนนึงเอ่ยปากชวน เราเองก็นั่งลงติดกับ "เค้า" ส่วนเพื่อนกระเทยเรานั่งฝั่งของรุ่นพี่ ในจังหวะนั่น ก็ดื่มกันไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงไปจนเกือบตีสอง อากาศเริ่มเย็น เราเองไม่ได้เอาเสื้แขนยาวมา ก็หนาว เอามือลูบๆตัว ส่วน "เค้า" คนนั้น ก็ใส่เสื้อแขนยาวอยู่ "หนาวหรอ? เอาเสื้อมะ อะ!" เค้าก็ถอดเสื้อกันหนาวแขนยาว ผ้าหนาๆเหมือนเสื้อ ร.ด. เอามาให้เรา "แต้งกิ้วนะ" เราขอบคุณละยิ้มให้ แล้วบทสนทนาที่ทำให้เราสนิทกันมากขึ้นในวงเหล้าก็เริ่มต้นขึ้น

"เอ้อ! น้องจบมาจากที่ไหนนะคับ เก่งภาษาอังกฤษนิ ได้ข่าว" รุ่นพี่ในวงพูดขึ้น
"อ่อ...ค่ะ ก็ไม่มากค่ะ ชอบมากกว่า ก้อก่อนหน้านี้ไปทำงานต่างประเทศมาค่ะ เลยได้มานิดนึงตอนนั้น" เราตอบ
"จบมาจากที่ไหนนะ" เค้าคนนั้นถาม "เราจบ ม.เกษตร เด็กศึกษา แต่เรียนที่นครปฐมนะ มีอีกวิทยาเขตนึง" เราตอบให้กับเค้าคนนั้นที่ถาม
"เฮ้ย! พูดเป็นเล่น อย่าอำนะ!" เค้าทำหน้าตกใจ "ผมก็จบเกษตร ศึกษาด้วย นครปฐมด้วย เคยูอะไรนะ?" เค้าถามเรา "อายุเท่าไรด้วยจะได้เรียกถูก"
"24 ค่ะ เคยูหกแปด เดี๋ยว! เราเรียนที่เดียวกัน คณะเดียวกันหรอ ทำไมไม่เห็นหน้าเลยอะ" เราเองก็ตกใจ "นี่ผ่านมาจะ 2 ปีละนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้มาทำงานที่นี่แล้วมาเจอเพื่อนร่วมรุ่น 5555" เราตอบปนหัวเราะ ในใจลึกๆก็คิดว่า ทำไมมันฟลุ๊กจังวะ! สักพักเค้าก็ยื่นโทรศัพท์ของเค้ามา พร้อมทั้งเอารูปเค้าให้ดู และเพื่อนๆของเค้า เราเองก็ดู ซึ่งมันน่าแปลกที่ เรารู้จักหมด แต่ทำไม เราไม่เคยเห็นหน้าเค้าเลย... แต่มันยังไม่หมดแค่นั้น

"เนี่ยๆเวลาเราไปมหาลัยนะ ต้องไปขึ้นรถตรงห้างท๊อป พี่ชายเราทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กวดวิชาตรงนั้น เราก็ไปนั่งรอบ่อยๆ พี่เราตัวอ้วนกว่าเราเยอะ 55555" เค้าเล่าให้ฟัง เพราะในวงเหล้าก็คุยกันมาหลายเรื่อง จนเราต้องหยุดไปสักพัก.... "เดี๋ยวนะ! พี่ชายแท้ๆหรือป่าว?" เราถามแบบสงสัยสุดๆ "อื้อใช่ พี่ชายเราเอง เค้าชื่อพี่.... (ชื่อคล้ายกันกับเค้า) อย่าบอกนะว่า...." เค้าตอบมาและหยุดไปให้เราตอบ "อื้อใช่! เรารู้จักพี่ชายนาย เราเคยเรียนที่นั่น แต่นั่นมันตั้งแต่ ม.6 ละนะ" เราตอบแล้วคิดในใจว่า โลกทำไมมันกลมจังวะ กลมไปละ! นี่เล่นตลกปะเนี่ย เราไปมาทั่วโลก ต้องมาเจอคนที่มีอะไรทำให้เหตุการณ์สอดคล้องกันขนาดนั้น แต่ยังไม่พอ เค้าถามเราว่า "เอ้อ! แล้วไปฝึกงานที่ไหน เราฝึกที่ รนบ (โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านงามวงศ์วาน)" เค้าตอบมา เราเองช๊อกไปอีก และเราก็ตอบว่า "ถ้าเราตอบไป นายจะคิดว่ามันบังเอิญไปปะ เราฝึกที่นั่นเหมือนกัน แต่เป็นปีหลังจากที่นายลาออกไปแล้ว" เค้าทำหน้างง แล้วยิ้ม ในวงเหล้าพากันหัวเราะ พร้อมแซวว่า แม่ม! พรหมลิขิตชัดๆๆๆๆ! เราเองก็ดื่มกันอย่างสนุกสนานจนเริ่มมึน จึงแยกย้ายกันกลับห้อง

และเช้าวันถัดมา.... กิจกรรมต่างๆที่ที่ทำงานจัดจนถึงค่ำ ก็มีอีก เรา เพื่อนกระเทย เค้าและรุ่นพี่ ก็เริ่มสนิทกันจึงนั่งโต๊ะเดียวกัน เค้าก็ผลัดยกอาหาร ยกน้ำมาให้ เป็นอะไรที่ดีๆมากๆ ตรงๆ ความรู้สึกตอนนั้นของเรา แค่รู้สึกว่า อย่างน้อยในที่ทำงาน ก็มีคนมาจากที่เดียวกัน ก็เลยสนิทกันไว อย่างน้อยก็อุ่นใจว่าเราไม่โดดเดี่ยว รู้สึกดีไปอีกแบบ จนถึงวันกลับ เราต้องนั่งรถกลับคนละคัน แต่ระหว่างทางก็ต้องแวะสถานที่ต่างๆ ก็ต้องเปลี่ยนรถ ด้วยความที่เรา เพื่อนกระเทย เค้าและรุ่นพี่ เมาค้าง ก็ต้องนั่งรถไปเที่ยวแบบทุลักทุเล จึงเห็นมุมแย่ๆ ฮาๆของแต่ละคน สนุกมากๆ และคิดว่า ต่อไปนี้ ที่ทำงานที่นี่ ต้องมีเรื่องดีๆ และเค้าเอง คงเป็นเพื่อนที่ดีของเราแน่ๆ แต่มันมากกว่านั้น.... เมื่อความรู้สึก มันดันมากกว่า "เพื่อน"


เดี๋ยวมาต่อนะคะ ไปทานข้าวก่อน^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่