แบคแพคแบกเป้ตะลุยสังขละ 4 วัน 3 คืน แบบไม่วางแผน ด้วยงบ 1500 บาท

สวัสดีครับ นี่ก็เป็นกระทู้แรกของผมและเพื่อน ๆ อยากมาแบ่งปันประสบการณ์การไปเที่ยวแบบแบคแพคครั้งแรกของพวกเรา หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ^^

การเดินทางของพวกเราในครั้งนี้พวกเราตั้งใจว่าจะไปแบบไร้แผนและใช้เงินให้น้อยที่สุด ทำได้ไม่ได้เดี๋ยวรู้กัน 5555

>>> วันที่ 1 <<<



ทริปการเดินทางของเราในครั้งนี้เริ่มต้นที่นี่ครับ สถานีรถไฟธนบุรี ซึ่งเปลี่ยนจากแผนเดิมที่จะเดินทางกันด้วยรถทัวร์เพราะอยากได้บรรยากาศท้องถิ่นและมีราคาประหยัดกว่า ตามโปนแกรมรถไฟรอบแรกจากสถานีรถไฟธนบุรีไปยังสถานีน้ำตก จังหวัดกาญจนบุรี จะออกเวลา 7.45 น. และจะถึงสถานีน้ำตกเวลา 12.50 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง แต่ขึ้นชื่อว่ารถไฟไทยแน่นอนครับว่าล่าช้านิดหน่อย 555 เราจะมาดูกันว่าจริงๆ แล้วจะใช้เวลาเดินทางกี่ชั่วโมง



บรรยากาศยามเช้าครับ คนมารอรถไฟเยอะพอสมควรเหมือนกัน



หลังจากรอมาซักพักรถไฟที่ลอยคอ เอ้ย รอคอยก็มาครับ เลทไปนิดหน่อยประมาณ 15 นาที รถไฟยังไม่ทันจะจอดสนิทคนก็เริ่มทยอยขึ้นรถไฟเพื่อจับจองที่นั่งกันแล้ว ด้วยความที่ต้องตื่นเช้าทำให้พวกเรายังไม่ได้กินข้าวกันมา คิดว่าบนรถไฟต้องมีของกินแน่ๆ และก็เป็นอย่างที่คิดครับ มีของหลากหลายให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ข้าวเหนียวไก่ทอด ก๋วยเตี๋ยว ผลไม้ เครื่องดื่มต่างๆ เป็นต้น ทำให้เราต้องควักกระเป๋าตังซื้อกันคนละอย่างสองอย่าง



ก๋วยเตี๋ยวครับราคา 10 บาทเท่านั้น รสชาติหวานไปนิด แต่ก็ทานได้ครับ รองท้อง

บรรยากาศข้างทางครับ ธรรมชาติล้วนๆ กินไปพร้อมกับดูบรรยากาศข้างทางไปพลางๆ จากเมืองที่มีแต่ตึก อาคารบ้านช่อง ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นบรรยากาศที่มีแต่ท้องทุ่งนากว้างอย่างสุดลูกหูลูกตา แต่ด้วยระยะเวลาที่ค่อนข้างนานทำให้พวกเราต้องงีบหลับเพื่อเก็บแรงเอาไว้เที่ยวในช่วงที่ลงจากรถไฟ  


นั่งมาเรื่อยๆ ไม่นานก็สะดุ้งตื่นเพราะคนรอบข้างค่อยๆ แตกตื่นทำท่าทางลุกลี้ลุกลน เมื่อตั้งสติได้จะเห็นว่า คนยื่นแขนออกไปถ่ายรูปที่ด้านซ้ายของรถไฟซึ่งเป็นทางรถไฟสายมรณะที่อยู่ตรงทางโค้งพอดี  เสียดายที่พวกเรานั่งอยู่ฝั่งขวาทำให้ไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปถ่ายได้ เพราะทุกที่ทางฝั่งซ้ายนั้น ถูกจับจองไปหมด ไม่เว้นแม่แต่ระหว่างขบวน แต่โชคดีที่เห็นคนเดินจากห้องน้ำพอดี พวกเรา เลยรีบฝ่าคนมากมายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อยื่นแขนออกไปจากหน้าต่าง กดชัตเตอร์ได้ภาพมาอย่างที่เห็น



และในที่สุดครับ ถึงแล้วววว TvT สถานีน้ำตก จังหวัดกาญจนบุรี สิ้นสุดการนั่งรถไฟยาวนานกว่าห้าชั่วโมง เมื่อมองดูนาฬิกาก็เป็นเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว อาจจะเลทไปบ้างเล็กน้อย เมื่อลงมาจากรถไฟทุกอย่างเคว้งคว้างมากครับไม่รู้จะไปทางไหน

เหลือบไปเห็นรถสองแถวที่จอดติดกับสถานี มีคนตะโกนถาม “น้ำตกมั้ยครับ…น้ำตก” พวกเราก็ได้แต่ยืนงง แล้วก็ตอบไปแบบงงๆ “ครับๆ น้ำตก” แล้วก็เดินขึ้นไปบนรถกันอย่างงงๆ 555 รู้สึกตัวอีกทีก็ถึงน้ำตกไทรโยคน้อยแล้ว น้อยจริงๆ ครับ น้อยตามชื่อเลย ระดับน้ำความสูงเท่าตาตุ่มเอง 555 พวกเราเลยตัดสินใจไปเติมพลังกันที่ร้านอาหารบริเวณนั้น



เมื่อกินเสร็จแล้วจึงไปถามคนบริเวณนั้นถึงสถานที่เล่นน้ำจึงได้รู้ว่ามีต้นน้ำด้านบนที่คนไม่เยอะและน้ำสะอาดกว่าด้านล่างมาก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรเดินแปปเดียวก็ถึง รถเมล์เครื่องไม่ได้กินตังพวกเราหรอก เมื่อเดินไปถึงท่ารถเมล์เครื่อง คนขับก็ตะโกนมาว่า “นั่งรถไหมครับ ไป-กลับ 20 บาท” พวกเรามองหน้ากันแล้วแย่งกันจับจองที่นั่งทันที ด้วยทางที่เป็นดินและค่อนข้างขรุขระ ซึ่งผมก็คิดว่าพวกเราคิดถูแล้วที่นั่งเมล์เครื่องที่เป็นมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างนั่งได้คันละ 3 คนเข้ามาไม่งั้นเดินเมื่อยแน่ๆ เพราะกระเป๋าแต่ละคนก็หนัก

น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาจริงๆครับ (รูปนี้เห็นแต่คนขออภัยครับ 555)


หลังจากเล่นน้ำกันพอหอมปากหอมคอ พวกเราก็ต้องรีบมาขึ้นรถเมล์เข้าตัวเมืองกาญจนบุรีครับ ตามที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่าเราไม่มีแผน 555 จัดไปครับ นั่งสัปหงกกันมาประมาณสองชั่วโมงครึ่งก็ถึงตัวเมือง

หาที่พักแถวๆ สถานีรถทัวร์ เก็บของเรียบร้อยก็ออกตระเวนราตรีกันครับ

ตลาดโต้รุ่ง

ตลาดนัดเจเจ
มัวแต่เดินกันเพลินครับ ถ่ายรูปมาน้อยไปหน่อยขออภัยด้วย

>>> วันที่ 2 <<<

หลังจากพักผ่อนเติมพลังกันมาเต็มถัง พวกเราตื่นแต่เช้าเพื่อมาขึ้นรถตู้ไปยังจุดหมายหลักของเราครับ "สังขละบุรี" นั่นเองง

บรรยากาศระหว่างทาง

นั่งรถตู้จากตัวเมืองมาประมาณสองชั่วโมงก็มาถึงอำเภอสังขละบุรีแล้วครับ พอมาถึงก็งงเล็กน้อยเพราะไม่รู้จะไปทางไหน (อย่างที่บอกครับว่าไม่ได้วางแผน 555) จนได้พี่พ่อค้าไก่ทอดแนะนำที่พักมา อยู่ข้างสถานีตำรวจราคาไม่แพงมากครับ หลักร้อยเท่านั้น หลังจากพวกเราเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย ก็เช่ามอเตอร์ไซค์กันสามคันเพื่อขับตะลุยสังขละครับ

มุ่งหน้าสู่จุดหมายแรก "ด่านเจดีย์สามองค์"

ขับมาเรื่อยๆครับ อากาศร้อนมาก แต่ก็ไม่หวั่นครับ จนมาถึงด่านเจดีย์สามองค์



หลังจากเดินชอปปิ้งหาของฝากกันเรียบร้อยแล้ว ก็ขับรถกลับมาที่ตลาดครับ ซึ่งพี่พ่อค้าบอกว่าจะมีถนนคนเดินทุกวันเสาร์ แหม่ช่างเหมาะเจาะจริงๆ ครับ



มีการแสดงของน้องๆ ในชุดพื้นเมืองด้วยครับ น่ารักมากๆ



หมูจุ่มครับ ไม้ละ 1 บาทเท่านั้นน กินกันเพลินเลยทีเดียว

>>> วันที่ 3 <<<

ตื่นเช้ามาที่นี่อากาศดีมากๆ เลยครับ มีหมอกลงตลอดทาง

และแน่นอนครับสิ่งที่ต้องทำเช้านี้ ทำบุญใส่บาตรครับตามประสาคนใจบุญ 5555



มีแม่ชีชาวมอญด้วยครับ พึ่งเคยเห็นครั้งแรกเลย จะเดินมาพร้อมกับเสียงสวดมนต์ตลอดทางเลยครับ สาธุๆ

หลังจากอิ่มบุญกันแล้ว ก็เที่ยวกันต่อเลยครับ เช้านี้ลงเรือลุยครับ


ที่นี่มีโปรแกรมให้นักท่องเที่ยวเลือก 2 แบบครับ แบบแรกคือนั่งเรือ 6 คนชม 3 วัด ราคา 500 บาท และแบบที่สองคือ 1 วัด ราคา 300 บาท พวกเราเลือกแบบแรกครับ  


วัดนี้ต้องเดินขึ้นบันได 65 ขั้นครับ น้องๆมัคคุเทศน์น้อยบอกมา อิอิ


วัดนี้อยู่กลางน้ำเลยครับ


หลังจากลุยในน้ำแล้ว พวกเราก็ขึ้นมาลุยบนบกกันต่อครับ วันนี้เป้าหมายของพวกเราอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมและน้ำตกเกริงกระเวียครับ ลุยย !!

ขับรถออกจากสังขละมาทางตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 60 กิโลครับ เหนื่อยเลยทีเดียว

พอเข้าอุทยานพวกเราก็ลุยเลยครับเดินเข้าไปได้ประมาณหนึ่งกิโล ดูท่าทางแปลกๆ เลยเดินกลับออกมาถามเจ้าหน้าที่ครับ ได้ความว่า ถ้าจะเข้าไปต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้นำเข้าไปครับ เพราะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ แหม่ เกือบหลงแล้วมั้ยล่ะ 555

พอออกมาพวกเราก็ไปที่น้ำตกเกริงกระเวียเลยครับ ขับต่อไปอีกประมาณห้ากิโล

พอถึงที่นี่อดใจไม่ไหวจริงๆครับ ลงเล่นน้ำกันเพลินเลยไม่ได้ถ่ายรูปกันเลย

พอกลับมาที่ตลาด พวกเราก็เจอผู้ชายคนนึงครับ เขาบอกว่าเขาชื่อต๋อง เขาชวนพวกเราให้ไปดูเขาโดดน้ำที่สะพานมอญตอนเช้า ไม่รู้ว่าเขาจะทำจริงไหม เดี๋ยวรู้กันน

>>> วันที่ 4 <<<

วันสุดท้ายของทริปนี้แล้วครับ เวลาแห่งความสุขผ่านไปไวมากจริงๆ เช้านี้พวกเราไปที่สะพานมอญอีกครั้งครับเพื่อตามหาต๋อง 555

เช้าวันนี้หมอกไม่เยอะเท่าเมื่อวานครับ แต่อากาศก็ยังดีอยู่


มีน้องมัคคุเทศน์น้องมาคอยให้ข้อมูลด้วยครับ น้องมาทำเพื่อหาทุนการศึกษา ถือว่าดีมากๆเลยครับ

แล้วเราก็เจอเขาครับ ต๋องนั่นเองง 555 ต๋องบอกว่าตัวเองอายุ 16 ปี เป็นครูสอนว่ายน้ำกับศิลปะครับ มาโดดน้ำเพื่อหาทุนการศึกษาแล้วก็เอาไปซื้อขนมให้เด็กๆ

หลังจากดูต๋องโดดน้ำและเก็บภาพบรรยากาศกันหนำใจแล้ว ก็ได้เวลากลับแล้วครับ ฮืออ ไม่อยากกลับเลย

เราเลือกเดินทางกลับด้วยรถทัวร์ครับ 5 ชั่วโมงถึงหมอชิต 2 เลยครับ

สรุปงบที่ใช้ในทริปนี้นะครับ (คนละ)
- รถไฟไปกาญจนบุรี = ฟรี
- รถสองแถวไปน้ำตกไทรโยกน้อย = 20 บาท
- รถเมเครื่องไปต้นน้ำ = 20 บาท
- อาหารกลางวัน = 135 บาท
- รถบัสเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี = 40 บาท
- อาหารเย็น = 40 บาท
- รถตู้ไปสังขละบุรี = 175 บาท
- ที่พักสองคืน = 360 บาท
- ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์สองวัน = 160 บาท
- ของใส่บาตร = 20 บาท
- ค่าเรือชมวัด = 100 บาท
- อาหารกลางวันที่น้ำตก = 75 บาท
- ค่ารถทัวร์กลับกรุงเทพ = 286 บาท
รวมทั้งสิ้นคนละประมาณ 1431 บาท
(ปล.ไม่รวมค่าอื่นๆ ที่ต่างคนต่างไปซื้อนะครับ อิอิ)

หวังว่าการมาบอกต่อของพวกเราในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่