23 ตุลาคม 2558
วันนี้เราตื่นกันเช้าหน่อย เก็บของส่วนที่เหลือ แล้วลงไปเช็คเอ๊ากัน วันนี้เราจะกลับ Thailand กันล๊าวววว
10.14 : เราออกจากโรงแรม หลังจากที่เราเช็คเอ๊าท์กันเรียบร้อยแล้ว เราฝากกระเป๋าไว้ก่อน เราจะไปเก็บตกกันที่ ตลาด Ameyoko ต่อแล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาเอากระเป๋า
กระเป๋าเราออกลูก 555
11.19 : ถึงและที่ที่เราคุ้นเคย ตลาด Ameyoko 555 เราเดินเล่น หาของฝาก กันไปจนสุดซอย วันนี้เราจะไปตามหา ร้าน Hinoya ร้านขายกางเกง แบรนด์ญี่ปุ่นกัน ตามออเดอร์ของน้องชายอิคุณแม่ หาไม่ยาก ถามคนแถวนั้นดู 555 เดินเข้ามาในตลาดได้นิดนึง จะเจอแผงขายผลไม้ เดินเข้าซอย ทางซ้ายมือ แต่มันมีร้านขายผลไม้หลายร้าน เราก็จำไม่ได้ว่าซอยไหน 555 ถามดูได้
ระหว่างที่เรารออิคุณแม่ซื้อกางเกง ในร้าน Hinoya เราเลยไปนั่งรอกินขนม ที่ร้านตรงข้ามกับร้าน Hinoya
ร้านขาย ขนม Taiyaki ในตลาด เราสั่งใส้ถั่วแดง 150 เยน ใส้คัสตาร์ด 170 เยน ร้านเปิด 11.30 เราได้คิวแรกเลย
ร้านหน้าตาแบบนี้ มีคนมาซื้อตลอด
น้องหมาขาสั้น ตัวเล็กน่ารักดี
นางพยายามไปทำความรู้จักกับน้องหมาขาสั้น แต่ขอโทษ หมาเมินค่ะ อิอิ
กินอีกแล้ว 200 เยน ที่หน้าร้านจะมีถังขยะให้เราทิ้งไม้ด้วยนะ ถ้าไม่รีบไปไหนยืนกินหน้าร้านได้เลย จะได้เป็นระเบียบ สะอาด ด้วย
13.50 : เรากลับมากินข้าวที่ร้าน Yoshinoya ร้านเดิมที่อยู่ใกล้ๆโรงแรม
14.25 : เราเข้าไปเอากระเป๋าที่เราฝากไว้ แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่นาริตะกัน ตอนกลับเราก็นั่ง รถไฟ จาก H14-H17 เหมือนเดิม พอไปถึงเราหาทางออก 6 เพราะเราจะไปเปลี่ยนเป็นสาย Keisei ที่สถานี Ueno ไปสนามบินนาริตะ หาทางไปไม่ยาก มีป้ายรูปเครื่องบินบอกตลอดทาง
15.15 : เราขึ้นรถไฟ ของ Keisei เป็นขบวน SKY LINER ราคา 2,470 เยน ใช้เวลา 40 นาทีเองถึงสนามบินนาริตะและ ถ้าใครพักแถวนี้นั่งสายนี้มาลงที่ Ueno ได้นะจากนาริตะ ที่ขายตั๋วตรงข้ามกับ สาย Nex เลย แต่ตอนเรามาเราต้องต่อรถไป Hakone ที่สถานีชินจูกุ เราเลยเลือกสายนั้นจะสะดวกเรากว่า
ที่นั่งปรับเบาะให้หันหน้ามาเจอกันได้ด้วยยยย ดี๊ดี
เหลือเงินติดตัวแค่นี้ มีแบงค์ 5,000 เยน 1 ใบ กับเหรียญจำนวนนึง กิกิ
16.00 : ถึงสนามบินนาริตะและ เวลาเราเหลือเฟือ เราเลยนั่งกินกาแฟกันเล่นๆก่อน ร้านอยู่ติดกับห้องน้ำ เดินขึ้นบันไดเลื่อนจากชั้น ที่ลงรถไฟมาปุ๊ปเจอปั๊ป
แอบถ่ายแก้วคนอื่น แก้วตัวเองกินไปแล้ว
17.10 : เราเดินเข็นกระเป๋าขึ้นลิฟต์ไปชั้น 3 มองหาเคาว์เตอร์เช็คอิน ของ Air Asia คือเคาว์เตอร์ N พอเราเข้าไปจะเจอตราชั่ง ถ้าใครไม่แน่ใจลองชั่งดูได้นะ จะได้จัดใหม่ ถ้ามีเวลานะ ของเราไม่มีเกิน ชั่งแล้ว สบายใจ 555 เช็คอินเสร็จเราก็เดินเข้าไปในข้างใน เราไปขึ้นเครื่อง Gate 98 ประตูปิดตอน 19.55 เวลาเราเหลืออีกและ 555
18.11 : เราผ่านขั้นตอนมาหมดและเข้ามาข้างใน ดูแผนผังไปร้าน TAX FREE Akihabara เราจะไปซื้อ ROYCE' Chocolate กลับไปฝากที่บ้าน อิอิ แต่แอบคนเยอะนะ ต่อคิวจ่ายตังยาวเลย เราเลยรีบซื้อ Royce’ แบบ nama กล่องล่ะ 720 เยน ซื้อฟอยล์ห่อเพิ่มอีก 100 เยน ตอนเราต่อแถวจ่ายตังเราก็แอบเห็น Totoro ตัวใหญ่อีกแล้ว ดีดเลยจ่ะ จ่ายตังเสร็จแล้วพุ่งไปหานางเลยจ่ะ อิอิ
แต่เราก็เปลี่ยนใจเอาน้องไก่มาแทน ตัวล่ะ 700 เยน ซื้อ 2 ตัว อิพยาบาล แฮบไป 1 ตัว เนื่องจากได้ Totoro มาหลายตัวและเอาน้องไก่กะได้ อิอิ ถ้าใครยังไม่ได้ซื้อน้ำหรือของฝากนะ เดินไป Gate เลยเหอะถ้าเวลามีไม่พอ มีร้านขายของจนถึง Gate 98 เลยก็ว่าได้ 555 มีพวกคิทแคทให้เก็บตกด้วย เราซื้อของจนวินาทีสุดท้ายกับเงิน 1,000 เยนที่เหลืออยู่ 555

น้องไก่ 700 เยน
ร้านขายของเยอะมาก ไม่ต้องกลัว
20.04 : ได้เวลาไปขึ้นเครื่องกลับบ้านเราแล้วซินะ Good Bye Japan อิ๊ซิ๊อิ๊ซิ๊ จบและทริปของเรา 555 จบแบบง่ายๆนี่ล่ะ ถึงบ้านตอนไหนไม่ต้องรุ้หรอก ตอนกลับเราเตรียมตัวกันมาดี เสื้อนงเสื้อหนาว ผ้าพันคอ หมวกพร้อม แต่ไม่หนาวเลยค่ะ ออกจะร้อนซะด้วยซ้ำ สงสารแต่อิพยาบาลนางลงทุนซื้อผ้าห่มน้อยๆ ย้ำนะว่าน้อยๆ มาด้วย นางกลัวหนาว
00.45 : ถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพค๊า
ส่วนเรื่องโรงแรมที่เราพัก ตอนนี้เรากำลังเขียนแผนที่อยู่ เดี๋ยวเราเขียนเสร็จเรียบร้อย เราจะบอกรายละเอียดของที่พัก อีก Part นึงนะ
แอบนอกเรื่อง 555
กลับมาถึงแล้วตอนเที่ยงแอบพาโตโตโร่ไปกินเค้ก
สุดท้ายจริงๆ ล่ะ
เราขอฝากไว้นิดนึง พอดีเวลาที่เรากลับก็ค่อนข้างจะค่ำแล้ว คือ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มนึง ขึ้นเครื่องมาทีหลัง แล้วนางก็วุ่นวาย เสียงดัง คุยกันเสียงดังมาก เรื่องกรุ๊ปเที่ยวของนาง ลามไปจนถึง เพื่อนนาง น่าจะตั้งแต่สมัยเรียนเลยมั๊ง คือแบบ ปิดไฟก็แล้ว ขายอาหารเครื่องดื่มกินข้าวก็แล้ว จนเค้าปิดไฟอีกรอบก็แล้ว พวกนางยังไม่หยุดคุยกันเลย ความดังของเสียงเท่าเดิม คือเราหันไปมองหน้าหลายรอบอยู่นะ จน 22.30 ในช่วงเวลานั้น พวกนางถึงหยุดพูด คือเราสงสารคนที่นั่งแถวเดียวกันกับเรา คือเกรงใจ คนรอบข้างบ้าง นี่คุยเอามัน เอาสนุกเล่าเรื่องทริปของตัวเอง คือแบบไม่ได้ไปด้วยกันมาหรอค่ะ ถึงเมาส์เครื่องแตกซะขนาดนี้ เพลียค่ะเพลีย บอกเลย !!!
Part 1
http://pantip.com/topic/34368377
Part 2
http://pantip.com/topic/34368696
Part 3
http://pantip.com/topic/34368696
Part 4
http://pantip.com/topic/34384589
Part 5
http://pantip.com/topic/34385035
Part 6
http://pantip.com/topic/34385505
Part 8
http://pantip.com/topic/34391915
ลากกระเป๋าไปเที่ยวญี่ปุ่น แบบไปกันเอง สบาย สบ๊าย ไม่รีบ : 18 oct – 23 oct 2015 : Part 7
วันนี้เราตื่นกันเช้าหน่อย เก็บของส่วนที่เหลือ แล้วลงไปเช็คเอ๊ากัน วันนี้เราจะกลับ Thailand กันล๊าวววว
10.14 : เราออกจากโรงแรม หลังจากที่เราเช็คเอ๊าท์กันเรียบร้อยแล้ว เราฝากกระเป๋าไว้ก่อน เราจะไปเก็บตกกันที่ ตลาด Ameyoko ต่อแล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาเอากระเป๋า
กระเป๋าเราออกลูก 555
11.19 : ถึงและที่ที่เราคุ้นเคย ตลาด Ameyoko 555 เราเดินเล่น หาของฝาก กันไปจนสุดซอย วันนี้เราจะไปตามหา ร้าน Hinoya ร้านขายกางเกง แบรนด์ญี่ปุ่นกัน ตามออเดอร์ของน้องชายอิคุณแม่ หาไม่ยาก ถามคนแถวนั้นดู 555 เดินเข้ามาในตลาดได้นิดนึง จะเจอแผงขายผลไม้ เดินเข้าซอย ทางซ้ายมือ แต่มันมีร้านขายผลไม้หลายร้าน เราก็จำไม่ได้ว่าซอยไหน 555 ถามดูได้
ระหว่างที่เรารออิคุณแม่ซื้อกางเกง ในร้าน Hinoya เราเลยไปนั่งรอกินขนม ที่ร้านตรงข้ามกับร้าน Hinoya
ร้านขาย ขนม Taiyaki ในตลาด เราสั่งใส้ถั่วแดง 150 เยน ใส้คัสตาร์ด 170 เยน ร้านเปิด 11.30 เราได้คิวแรกเลย
ร้านหน้าตาแบบนี้ มีคนมาซื้อตลอด
น้องหมาขาสั้น ตัวเล็กน่ารักดี
นางพยายามไปทำความรู้จักกับน้องหมาขาสั้น แต่ขอโทษ หมาเมินค่ะ อิอิ
กินอีกแล้ว 200 เยน ที่หน้าร้านจะมีถังขยะให้เราทิ้งไม้ด้วยนะ ถ้าไม่รีบไปไหนยืนกินหน้าร้านได้เลย จะได้เป็นระเบียบ สะอาด ด้วย
13.50 : เรากลับมากินข้าวที่ร้าน Yoshinoya ร้านเดิมที่อยู่ใกล้ๆโรงแรม
14.25 : เราเข้าไปเอากระเป๋าที่เราฝากไว้ แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่นาริตะกัน ตอนกลับเราก็นั่ง รถไฟ จาก H14-H17 เหมือนเดิม พอไปถึงเราหาทางออก 6 เพราะเราจะไปเปลี่ยนเป็นสาย Keisei ที่สถานี Ueno ไปสนามบินนาริตะ หาทางไปไม่ยาก มีป้ายรูปเครื่องบินบอกตลอดทาง
15.15 : เราขึ้นรถไฟ ของ Keisei เป็นขบวน SKY LINER ราคา 2,470 เยน ใช้เวลา 40 นาทีเองถึงสนามบินนาริตะและ ถ้าใครพักแถวนี้นั่งสายนี้มาลงที่ Ueno ได้นะจากนาริตะ ที่ขายตั๋วตรงข้ามกับ สาย Nex เลย แต่ตอนเรามาเราต้องต่อรถไป Hakone ที่สถานีชินจูกุ เราเลยเลือกสายนั้นจะสะดวกเรากว่า
ที่นั่งปรับเบาะให้หันหน้ามาเจอกันได้ด้วยยยย ดี๊ดี
เหลือเงินติดตัวแค่นี้ มีแบงค์ 5,000 เยน 1 ใบ กับเหรียญจำนวนนึง กิกิ
16.00 : ถึงสนามบินนาริตะและ เวลาเราเหลือเฟือ เราเลยนั่งกินกาแฟกันเล่นๆก่อน ร้านอยู่ติดกับห้องน้ำ เดินขึ้นบันไดเลื่อนจากชั้น ที่ลงรถไฟมาปุ๊ปเจอปั๊ป
แอบถ่ายแก้วคนอื่น แก้วตัวเองกินไปแล้ว
17.10 : เราเดินเข็นกระเป๋าขึ้นลิฟต์ไปชั้น 3 มองหาเคาว์เตอร์เช็คอิน ของ Air Asia คือเคาว์เตอร์ N พอเราเข้าไปจะเจอตราชั่ง ถ้าใครไม่แน่ใจลองชั่งดูได้นะ จะได้จัดใหม่ ถ้ามีเวลานะ ของเราไม่มีเกิน ชั่งแล้ว สบายใจ 555 เช็คอินเสร็จเราก็เดินเข้าไปในข้างใน เราไปขึ้นเครื่อง Gate 98 ประตูปิดตอน 19.55 เวลาเราเหลืออีกและ 555
18.11 : เราผ่านขั้นตอนมาหมดและเข้ามาข้างใน ดูแผนผังไปร้าน TAX FREE Akihabara เราจะไปซื้อ ROYCE' Chocolate กลับไปฝากที่บ้าน อิอิ แต่แอบคนเยอะนะ ต่อคิวจ่ายตังยาวเลย เราเลยรีบซื้อ Royce’ แบบ nama กล่องล่ะ 720 เยน ซื้อฟอยล์ห่อเพิ่มอีก 100 เยน ตอนเราต่อแถวจ่ายตังเราก็แอบเห็น Totoro ตัวใหญ่อีกแล้ว ดีดเลยจ่ะ จ่ายตังเสร็จแล้วพุ่งไปหานางเลยจ่ะ อิอิ
แต่เราก็เปลี่ยนใจเอาน้องไก่มาแทน ตัวล่ะ 700 เยน ซื้อ 2 ตัว อิพยาบาล แฮบไป 1 ตัว เนื่องจากได้ Totoro มาหลายตัวและเอาน้องไก่กะได้ อิอิ ถ้าใครยังไม่ได้ซื้อน้ำหรือของฝากนะ เดินไป Gate เลยเหอะถ้าเวลามีไม่พอ มีร้านขายของจนถึง Gate 98 เลยก็ว่าได้ 555 มีพวกคิทแคทให้เก็บตกด้วย เราซื้อของจนวินาทีสุดท้ายกับเงิน 1,000 เยนที่เหลืออยู่ 555
น้องไก่ 700 เยน
ร้านขายของเยอะมาก ไม่ต้องกลัว
20.04 : ได้เวลาไปขึ้นเครื่องกลับบ้านเราแล้วซินะ Good Bye Japan อิ๊ซิ๊อิ๊ซิ๊ จบและทริปของเรา 555 จบแบบง่ายๆนี่ล่ะ ถึงบ้านตอนไหนไม่ต้องรุ้หรอก ตอนกลับเราเตรียมตัวกันมาดี เสื้อนงเสื้อหนาว ผ้าพันคอ หมวกพร้อม แต่ไม่หนาวเลยค่ะ ออกจะร้อนซะด้วยซ้ำ สงสารแต่อิพยาบาลนางลงทุนซื้อผ้าห่มน้อยๆ ย้ำนะว่าน้อยๆ มาด้วย นางกลัวหนาว
00.45 : ถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพค๊า
ส่วนเรื่องโรงแรมที่เราพัก ตอนนี้เรากำลังเขียนแผนที่อยู่ เดี๋ยวเราเขียนเสร็จเรียบร้อย เราจะบอกรายละเอียดของที่พัก อีก Part นึงนะ
แอบนอกเรื่อง 555
กลับมาถึงแล้วตอนเที่ยงแอบพาโตโตโร่ไปกินเค้ก
สุดท้ายจริงๆ ล่ะ
เราขอฝากไว้นิดนึง พอดีเวลาที่เรากลับก็ค่อนข้างจะค่ำแล้ว คือ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มนึง ขึ้นเครื่องมาทีหลัง แล้วนางก็วุ่นวาย เสียงดัง คุยกันเสียงดังมาก เรื่องกรุ๊ปเที่ยวของนาง ลามไปจนถึง เพื่อนนาง น่าจะตั้งแต่สมัยเรียนเลยมั๊ง คือแบบ ปิดไฟก็แล้ว ขายอาหารเครื่องดื่มกินข้าวก็แล้ว จนเค้าปิดไฟอีกรอบก็แล้ว พวกนางยังไม่หยุดคุยกันเลย ความดังของเสียงเท่าเดิม คือเราหันไปมองหน้าหลายรอบอยู่นะ จน 22.30 ในช่วงเวลานั้น พวกนางถึงหยุดพูด คือเราสงสารคนที่นั่งแถวเดียวกันกับเรา คือเกรงใจ คนรอบข้างบ้าง นี่คุยเอามัน เอาสนุกเล่าเรื่องทริปของตัวเอง คือแบบไม่ได้ไปด้วยกันมาหรอค่ะ ถึงเมาส์เครื่องแตกซะขนาดนี้ เพลียค่ะเพลีย บอกเลย !!!
Part 1
http://pantip.com/topic/34368377
Part 2
http://pantip.com/topic/34368696
Part 3
http://pantip.com/topic/34368696
Part 4
http://pantip.com/topic/34384589
Part 5
http://pantip.com/topic/34385035
Part 6
http://pantip.com/topic/34385505
Part 8
http://pantip.com/topic/34391915