กระทู้ไม่ใช่ SR นะคะ พอดีติ๊กผิดช่อง
ไปภูกระดึงมาค่ะ วันหยุดยาว 23-25
เราขับรถไปกันเองกับเพื่อนค่ะ ไม่รีวิวเรื่องวิธีการไปละกันเนอะ
แต่มีเรื่องแนะนำค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ มันจะมีแยก ที่ไปทางชัยภูมิ กับอีกทาง
ถ้าใครไม่ชินทาง ไม่แนะนำเส้นชัยภูมิค่ะ (กลางคืน)
มีรถสิบล้อเยอะมาก ถนนสวนสองเลนส่วนใหญ่ และขับความเร็วเฉลี่ย 100-120 เป็นอย่างต่ำค่ะ
ถนนมืด ไม่ค่อยมีไฟตามทาง เส้นทางก็เป็นเนินเป็นระยะๆ ถนนขรุขระไม่ค่อยดีเป็นช่วงๆ
(ตอนเราไปรถบัส แซงทางโค้งที่ความเร็วเฉียดร้อย สวนมา แทบประสานงาค่ะ!!)
ออกเดินทาง 22 ตค สี่ทุ่ม ถึงภูกระดึง 6 โมงเช้าวันที่ 23
ขึ้นภูเวลา 8.30 ถึงลานกางเต๊น 14.00 ค่ะ
ระยะทาง 9 กิโลเมตร แบบขึ้นเขา (มี 3 กิโลสุดท้ายเดินทางลาดพื้นทรายค่ะเหนื่อยโคตร)
ขาลง ลง 8.30 ถึงข้างล่าง 13.00 ค่ะ
สภาพร่างกายผู้เดินทาง ไม่มีใครออกกำลังกายกันไปก่อนค่ะ (ไม่ได้เตรียมตัว)
การติดต่อเมื่อไปถึง
จะมีช่องให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ 4 ช่อง
- ช่อง 1 คือช่องที่จองล่วงหน้าไปจากในเว็ปค่ะ
- ช่อง 2 ถ้าไปเองไม่มีเต๊น ค่ะ เช่าเต๊น ถ้าเค้าบอกว่าหมด ไม่ต้องกลัวค่ะ
เดินไปถึงด้านบน ติดต่อที่เจ้าหน้าที่อุทยานได้เลย 225 บาทนะถ้าจำไม่ผิด
(ไม่ต้องซื้อค่าจองพื้นที่กางแล้วนะ เราโง่ ซื้อมันสองอย่าง Y^Y)
- ช่อง 3 ต้องซื้อบัตรผ่านของแต่ละคนเหมือนบัตรค่าเข้าค่ะ(อันนี้ต้องซื้อทุกคน)
- ช่อง 4 ถ้าเอาเต๊นไปเองต้องซื้อค่าพื้นที่กางเต๊น
คำแนะนำ
- ควรออกกำลังกายท่อนขาให้แข็งแรงงง!!!!!
- แนะนำซื้อรองเท้าสตั๊ดดอยที่ลูกหาบใส่ค่ะ 80 บาท ซื้อก่อนขึ้นตามร้านขายของด้านล่าง เกาะพื้นดีมาก ขาขึ้นมีประโยชน์ที่สุด
- ใส่ถุงเท้าหนาๆด้วย ถ้าข้างหลังรองเท้าด้านในคมเอาไฟแชคลนให้มันนิ่มๆ รองเท้ามันกัดนะ แต่ถ้าใส่ถุงเท้าแล้วจะโอเค
- ขาลง รองเท้าที่มีปิดหน้า จะทำให้เจ็บเล็บ ควรใส่รองเท้าที่เปิดด้านหน้าค่ะ ตอนลงพอเราชะลอความเร็ว เท้ามันจะไปดันกับรองเท้าด้านหน้า
วิธีแก้ปัญหาของเราคือ โมสตั๊ดดอย เปิดด้านหน้าออก
- ทากจะเริ่มมีที่ด้านบนตั้งแต่หลังแปขึ้นไปคือระยะ 3 กิโลสุดท้ายโน่นค่ะ ทากตัวเหมือนพยาธิเลยยาวๆ ถ้ามันเกาะ เอาซอฟเฟลฉีด ทีเดียวหลุด
ถุงกันทากราคา 50 บาท จริงๆ มันคือถุงผ้ายาวๆที่คลุมมาถึงเข่า คล้ายๆถุงเท้าซานตาคลอส (เราไม่ได้ใส่ค่ะใช้วิธีกำจัดทากแทนการป้องกัน)
หน้าตาถุงกันทากใส่ปุ๊ป ญี่ปุ่นปั๊ปปป
- ของกินและน้ำ มีตลอดทาง ไม่ต้องกลัวหิว ไม่ต้องกลัวอด แต่ถ้ากลัวตังหมดก็แบกขึ้นไปก็ได้
- ราคาของกินและน้ำ จะแพงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสูงขึ้น
- ราคาข้าวด้านบน ราดแกง 1 อย่าง 60 2 อย่าง 70 เป๊ปซี่ลิตร 80 บาท น้ำแข็งถึงบักเก็ตละ 40 บาท น้ำเปล่าขวดเล็กเฉลี่ยขวดละ 20 บาท
ไอติมในมือ ไม้ละ 20 (อยู่ปกติสามไม้ 20) แต่ก็กิน เพราะ

โคตรต่อพลังในการเดินทาง
- ลูกหาบคิดราคา กิโลละ 30 บาท (หมายถึงน้ำหนักของที่เราขนไปนะไม่ใช่ระยะทาง)
- ข้างบนก่อไฟไม่ได้ ทำอาหารไม่ได้
- เต๊นที่เอาไปถ้าไปช่วงหน้าฝน หรือฝนยังตก ดูเรื่องการกันน้ำด้วยนะคะ มีคนหอบหิ้วเต๊นใส่น้ำผ่านหน้าเราไป 2 กรุ๊ป โอ้โหน้ำนี่ล้นเลย
- ข้างบนลานกางเต๊นมีของกินเยอะมาก หลายร้านให้เลือกสรรค์ (น้ำเต้าหู้แก้วละ 25 ไม่อร่อยเหมือนเอาเต้าหู้ขาวแผ่นๆ มาบี้แล้วผสมน้ำเปล่า)
- ควรตัดเล็บเท้าให้เรียบร้อยจะได้ไม่เจ็บมากตอนลง พกกรรไกรตัดเล็บไปก็ดีนะคะ
- สเปรพ่นอาการบาดเจ็บที่นักกีฬาชอบใช้ มันใช้งานได้ดีมากในขาลง (พอดีเราน่าจะอักเสบที่ขาพอฉีดแล้วแบบมีพลังงงงง)
- ที่นอน แผ่นรองนอน ถุงนอนและหมอน มีให้เช่าทั้งหมดที่ด้านบน (ราคา หมอน 30 ถุงนอนจำไม่ได้ แผ่นรองนอนก็ 30 (มั้งคะ))

- ชาทแบทโทรศัพท์ได้ 40 บาทจนเต็ม แต่ต้องเอาเครื่องทิ้งไว้ที่เจ้าหน้าที่
- หลังจากลงมาทานยาคลายกล้ามเนื้อและแก้อักเสบและกินโปรตีนเยอะๆ
คำแนะนำเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
- พอขึ้นไปถึงบนนั้นให้นับว่าเป็นแค่การเริ่มต้น เพราะที่เที่ยวจริงๆ อยู่ด้านบน ควรมีเวลานอนบนนั้นอย่างน้อย 2 คืน
การเดินทางด้านบนก็คือเดินค่ะ ระยะทางต่ำสุดเริ่มต้นที่ 1.5 กิโลเมตรไปจนถึงหล่มสัก 9 กิโลเมตร
ลงมาเจอภาพนี้ ทุกคนจะรู้สึกแบบ เอิ่ม..... เพราะ

เป็นภาพแรกที่ลงมาจากภู ซึ้งใจมากจริงๆ
รูปนี้จากกูเกิลค่ะ ขออนุญาติเอามาหน่อย ตอนนั้นถ่ายไม่ไหวละจะตาย
ปิดท้ายเบาๆ ตอนอยู่บนนั้นเพื่อนๆ คุยกันว่า
"ไอ้เห ี ้ย ถ้ากูลงไปถึงข้างล่างนะ กูจะเข้าเซเว่นซื้อโค๊กลิตรสักสามขวด เขย่าๆ แล้วเททิ้งเทขว้าง"
ปล. รูปภาพไม่รู้จะสวยไหม เดี๋ยวล้างฟิล์ม แล้วจะเอามาแปะท้ายนะคะ
ใครชอบก็โหวตด้วยนะ
ฝากด้วยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่ฝากเฟส ไม่ฝากไอจี ไม่ฝากอะไรทั้งนั้นอะ
เราเห็นข่าวแม่กำปองล่าสุดเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา เรารู้สึกเสียใจ ทำไมเอาเมืองเข้าไปในป่า :'(
ฝากไว้แค่ว่า จะไปไหน เที่ยวอะไร อย่าเอาเมืองเข้าไปเลยค่ะ อยากรู้จักเค้าก็เข้าเมืองตาหลิ่วนะคะ
ไปแล้วก็รักษาอะไรที่มันเคยมี เคยอยู่มาก่อนกันหน่อย เพราะที่บางที่สำหรับบางคนเค้าก็อยากมีความทรงจำดีดีแบบนั้นไปเรื่อยๆเนอะ
[SR] พิชิตภูกระดึงให้ถึงใจ
ไปภูกระดึงมาค่ะ วันหยุดยาว 23-25
เราขับรถไปกันเองกับเพื่อนค่ะ ไม่รีวิวเรื่องวิธีการไปละกันเนอะ
แต่มีเรื่องแนะนำค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ออกเดินทาง 22 ตค สี่ทุ่ม ถึงภูกระดึง 6 โมงเช้าวันที่ 23
ขึ้นภูเวลา 8.30 ถึงลานกางเต๊น 14.00 ค่ะ
ระยะทาง 9 กิโลเมตร แบบขึ้นเขา (มี 3 กิโลสุดท้ายเดินทางลาดพื้นทรายค่ะเหนื่อยโคตร)
ขาลง ลง 8.30 ถึงข้างล่าง 13.00 ค่ะ
สภาพร่างกายผู้เดินทาง ไม่มีใครออกกำลังกายกันไปก่อนค่ะ (ไม่ได้เตรียมตัว)
การติดต่อเมื่อไปถึง
จะมีช่องให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ 4 ช่อง
- ช่อง 1 คือช่องที่จองล่วงหน้าไปจากในเว็ปค่ะ
- ช่อง 2 ถ้าไปเองไม่มีเต๊น ค่ะ เช่าเต๊น ถ้าเค้าบอกว่าหมด ไม่ต้องกลัวค่ะ
เดินไปถึงด้านบน ติดต่อที่เจ้าหน้าที่อุทยานได้เลย 225 บาทนะถ้าจำไม่ผิด
(ไม่ต้องซื้อค่าจองพื้นที่กางแล้วนะ เราโง่ ซื้อมันสองอย่าง Y^Y)
- ช่อง 3 ต้องซื้อบัตรผ่านของแต่ละคนเหมือนบัตรค่าเข้าค่ะ(อันนี้ต้องซื้อทุกคน)
- ช่อง 4 ถ้าเอาเต๊นไปเองต้องซื้อค่าพื้นที่กางเต๊น
คำแนะนำ
- ควรออกกำลังกายท่อนขาให้แข็งแรงงง!!!!!
- แนะนำซื้อรองเท้าสตั๊ดดอยที่ลูกหาบใส่ค่ะ 80 บาท ซื้อก่อนขึ้นตามร้านขายของด้านล่าง เกาะพื้นดีมาก ขาขึ้นมีประโยชน์ที่สุด
- ใส่ถุงเท้าหนาๆด้วย ถ้าข้างหลังรองเท้าด้านในคมเอาไฟแชคลนให้มันนิ่มๆ รองเท้ามันกัดนะ แต่ถ้าใส่ถุงเท้าแล้วจะโอเค
- ขาลง รองเท้าที่มีปิดหน้า จะทำให้เจ็บเล็บ ควรใส่รองเท้าที่เปิดด้านหน้าค่ะ ตอนลงพอเราชะลอความเร็ว เท้ามันจะไปดันกับรองเท้าด้านหน้า
วิธีแก้ปัญหาของเราคือ โมสตั๊ดดอย เปิดด้านหน้าออก
- ทากจะเริ่มมีที่ด้านบนตั้งแต่หลังแปขึ้นไปคือระยะ 3 กิโลสุดท้ายโน่นค่ะ ทากตัวเหมือนพยาธิเลยยาวๆ ถ้ามันเกาะ เอาซอฟเฟลฉีด ทีเดียวหลุด
ถุงกันทากราคา 50 บาท จริงๆ มันคือถุงผ้ายาวๆที่คลุมมาถึงเข่า คล้ายๆถุงเท้าซานตาคลอส (เราไม่ได้ใส่ค่ะใช้วิธีกำจัดทากแทนการป้องกัน)
- ของกินและน้ำ มีตลอดทาง ไม่ต้องกลัวหิว ไม่ต้องกลัวอด แต่ถ้ากลัวตังหมดก็แบกขึ้นไปก็ได้
- ราคาของกินและน้ำ จะแพงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสูงขึ้น
- ราคาข้าวด้านบน ราดแกง 1 อย่าง 60 2 อย่าง 70 เป๊ปซี่ลิตร 80 บาท น้ำแข็งถึงบักเก็ตละ 40 บาท น้ำเปล่าขวดเล็กเฉลี่ยขวดละ 20 บาท
- ลูกหาบคิดราคา กิโลละ 30 บาท (หมายถึงน้ำหนักของที่เราขนไปนะไม่ใช่ระยะทาง)
- ข้างบนก่อไฟไม่ได้ ทำอาหารไม่ได้
- เต๊นที่เอาไปถ้าไปช่วงหน้าฝน หรือฝนยังตก ดูเรื่องการกันน้ำด้วยนะคะ มีคนหอบหิ้วเต๊นใส่น้ำผ่านหน้าเราไป 2 กรุ๊ป โอ้โหน้ำนี่ล้นเลย
- ข้างบนลานกางเต๊นมีของกินเยอะมาก หลายร้านให้เลือกสรรค์ (น้ำเต้าหู้แก้วละ 25 ไม่อร่อยเหมือนเอาเต้าหู้ขาวแผ่นๆ มาบี้แล้วผสมน้ำเปล่า)
- ควรตัดเล็บเท้าให้เรียบร้อยจะได้ไม่เจ็บมากตอนลง พกกรรไกรตัดเล็บไปก็ดีนะคะ
- สเปรพ่นอาการบาดเจ็บที่นักกีฬาชอบใช้ มันใช้งานได้ดีมากในขาลง (พอดีเราน่าจะอักเสบที่ขาพอฉีดแล้วแบบมีพลังงงงง)
- ที่นอน แผ่นรองนอน ถุงนอนและหมอน มีให้เช่าทั้งหมดที่ด้านบน (ราคา หมอน 30 ถุงนอนจำไม่ได้ แผ่นรองนอนก็ 30 (มั้งคะ))
- ชาทแบทโทรศัพท์ได้ 40 บาทจนเต็ม แต่ต้องเอาเครื่องทิ้งไว้ที่เจ้าหน้าที่
- หลังจากลงมาทานยาคลายกล้ามเนื้อและแก้อักเสบและกินโปรตีนเยอะๆ
คำแนะนำเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
- พอขึ้นไปถึงบนนั้นให้นับว่าเป็นแค่การเริ่มต้น เพราะที่เที่ยวจริงๆ อยู่ด้านบน ควรมีเวลานอนบนนั้นอย่างน้อย 2 คืน
การเดินทางด้านบนก็คือเดินค่ะ ระยะทางต่ำสุดเริ่มต้นที่ 1.5 กิโลเมตรไปจนถึงหล่มสัก 9 กิโลเมตร
ลงมาเจอภาพนี้ ทุกคนจะรู้สึกแบบ เอิ่ม..... เพราะ
ปิดท้ายเบาๆ ตอนอยู่บนนั้นเพื่อนๆ คุยกันว่า "ไอ้เห ี ้ย ถ้ากูลงไปถึงข้างล่างนะ กูจะเข้าเซเว่นซื้อโค๊กลิตรสักสามขวด เขย่าๆ แล้วเททิ้งเทขว้าง"
ใครชอบก็โหวตด้วยนะ
ฝากด้วยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น