บทนำ
สวัสดีชาวพันทิปที่รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจทุกๆท่านนะครับ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเฮีย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เฮียก็ไปเที่ยวมาในหลายๆประเทศ (รู้เสียดายที่ไม่ได้เขียนรีวิวไว้) ทั้งนี้ทั้งนั้นเฮียหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รีวิวการท่องเที่ยวของเฮียที่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า จะเป็นประโยชน์สำหรับชาวพันทิปทุกๆท่าน ไม่มากก็น้อยครับ
เฮียจองตั๋วช่วงโปรโมชั่นของสายการบินแอร์เอเชียไว้ตั้งแต่ต้นปีในราคาไป-กลับของสองแม่ลูก 6,000 บาทหรือ 3,000 บาท/คน ราคานี้รวมค่าน้ำหนักกระเป๋าที่ซื้อเพิ่มแล้วครับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เฮียและแม่จะได้ไปเยี่ยมเยียนประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ความรู้สึกตอนนั้นเป็นความรู้สึกกล้าๆกลัวๆอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่เฮียก็ผ่านมาแล้วในหลายๆประเทศ เป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นก็ไม่เชิง อาจเป็นเพราะเฮียจิตนการไปเองหลายๆอย่างทั้งๆที่ยังไม่ได้ไปพบเจอกับพม่าจริงๆ แต่ขอบอกเลยว่าใครที่จะไปพม่าเองแล้วไม่ได้อ่านรีวิวของเฮียนั้น...ถือว่าคุณพลาดมากๆเลยครับ
Day 1
ย่างกุ้ง ---------- ไจ๊ก์ติโย (พระธาตุอินแขวน)
เฮียและแม่ถึงสนามบินดอนเมืองในช่วงเวลา 6 โมงเช้า เดินไปเช็คอินเรียบร้อย เที่ยวบิน FD 251 กรุงเทพ (ดอนเมือง) สู่ พม่า (ย่างกุ้ง) พร้อมกับแลกเงิน ดอลลาร์ (USD) ไปกันคนละ 11,000 บาท ได้มา 306 ดอลลาร์ครับ ต้องทำใจเพราะช่วงนี้เงินบาทอ่อนค่า TT จากนั้นก็เข้าไปในด่านขาออกนอกประเทศครับ คนเยอะใช้ได้เลย นึกว่าจะตกเครื่องแล้ว แต่...สุดท้ายก็ได้มานั่งรอที่ Gate เกือบ 20 นาที ผู้คน ไฟท์นี้ที่บินไปพม่า ในจำนวนเกินครึ่งคือคนไทยครับ มีคนจีนกับฝรั่งอยู่ไม่เท่าไหร่ นอกนั้นก็คนพม่า หลังจากนั่งรอได้ไม่นานทางสายการบินก็ประกาศให้เข้าแถวผ่านด่านเจ้าหน้าที่พนักงานเพื่อเตรียมตัวไปขึ้นเครื่องโดยเราจะต้องขึ้นรถบัสของทางสายการบินเพื่อไปส่งขึ้นเครื่องอีกทีครับ ในราวๆ 5-10 นาที เฮียกับแม่ก็นั่งอยู่บนเครื่องเป็นที่เรียบร้อย เฮียกับแม่ถึง พม่า (ย่างกุ้ง) ในเวลาท้องถิ่นที่นั่นก็ 8 โมงตรง (เวลาที่พม่าจะช้ากว่าไทยครึ่งชั่วโมง) จัดแจงเขียนใบตรวจคนเข้าเมืองให้เรียบร้อย อากาศช่วงนี้แดดร้อนใช้ได้เลยครับ ฝนตกบางวันด้วย
(ใบตรวจคนเข้าเมืองและใบรายงานสัมภาระในกระเป๋า)
หลังจากเฮียและแม่รับกระเป๋าเดินทางเสร็จ ก่อนที่จะเดินไปขึ้นแท็กซี่พวกเราก็ไม่ลืมที่จะแลกเงินพม่าก่อน ที่พม่านั้นใช้เงินสกุล KYAT (จั๊ต) เฮียกับแม่แลกคนละ 200 ดอลลาร์ (USD) ได้มา 255,200 จั๊ต ที่เหลือ 106 ดอลลาร์เก็บเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน แลกเงินเสร็จเฮียและแม่ก็มุ่งหน้าจาก สนามบินย่างกุ้ง สู่ สถานีขนส่งอองมิงกลาเพื่อจะต่อรถบัสไปที่เมืองไจ๊ก์โถเพื่อไปสักการะบูชา พระธาตุอินแขวน เฮียแนะนำให้ใช้บริการเคาเตอร์เรียกแท็กซี่ในสนามบินเพราะเค้าจะไม่โก่งราคาค่าแท็กซี่กับเรา สรุปค่าแท็กซี่จากสนามบินย่างกุ้ง ไป สถานีขนส่งอองมิงกลา 6,000 จั๊ต หรือราวๆ ร้อยกว่าบาท ปลายๆ
เฮียกับแม่นั่งแท็กซี่ออกมาจากสนามบินย่างกุ้งเกือบๆครึ่งชั่วโมง (รถติดนิดหน่อย) ก็มาถึงสถานีขนส่งอองมิงกลา ทันใดที่แท็กซี่เข้ามาในสถานีขนส่งอองมิงกลาก็จะมีเด็กวิ่งรถ (เฮียตั้งเอง) เข้ามารุมถามว่าเราจะไปไหน ไม่ต้องตกใจครับ...เราควรตั้งสติดีๆและต่อรองราคา โดยปกติรถที่จะไปเมืองไจ๊ก์โถราคาจะอยู่ที่ 7,000 จั๊ต ถ้าแพงกว่านี้แสดงว่าโดนเด็กวิ่งรถโก่งราคาเอาเข้าแล้วครับ แต่เฮียก็โดนโก่งราคาไป 1,000 จั๊ต ราคาที่เฮียได้คือ 8,000 จั๊ต/คน เฮียกับแม่รอขึ้นรถและเสียเวลาไป 1 ชั่วโมงด้วยความผิดพลาดของตัวเองในการเลือกรถที่จะไปเมืองไจ๊ก์โถ (เฮียจะมาเล่าเรื่องราวการเลือกบริษัทรถบัสใน Day 2 ว่าเราควรเลือกรถอย่างไร เพราะที่พม่าก็มีทั้งรถ ป.1และ ป.2 คล้ายๆกับบ้านเรา) 10.30 น. รถบัสมุ่งหน้าสู่เมืองไจ๊ก์โถ สภาพรถไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก มีกลิ่นอับแปลกๆ เฮียคาดว่าคงเป็นกลิ่นน้ำหมาก ผู้ชายพม่าส่วนใหญ่นิยมเคี้ยวหมากกัน (สงสารแม่) ตอนนั่งรอรถออกแอร์ก็เปิดอย่างเย็นสบาย แต่พอรถออกเท่านั้นล่ะครับ ปิดแอร์แล้วเราจะต้องเปิดหน้าต่างแทน รถจอดรับผู้สารตลอดทาง เฮียและแม่รู้สึกเวียนหัวกับอากาศที่ร้อนและกลิ่นควันมลพิษเป็นอย่างมาก ด้วยความผิดพลาดกับการเลือกบริษัทรถบัสในครั้งนี้ของเฮีย เฮียรู้สึกแย่มากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย เฮียและแม่ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 5 ชั่วโมงเราก็ถึงเมืองไจ๊ก์โถ แต่เราจะไป ไจ๊ก์ติโย (พระธาตุอินแขวน) เราจะต้องลงที่ คินปุน (คิมปุนเบสแคมป์ Kinpun Base Camp) ก่อนซื้อตั๋วรถบัสให้เราถามบริษัทรถบัสให้แน่นอนว่าไปส่งเราถึงคิมปุนหรือไม่ครับ
(ลักษณะหน้าตาของตั๋วรถบัสที่เฮียขึ้นเพื่อเดินทางไปเมืองไจ๊ก์โถ)
(รถที่จะขึ้นไปบน ไจ๊ก์ติโยหรือที่คนไทยรู้จักกันในนามของ “พระธาตุอินแขวน”)
เฮียกับแม่ถึง “คิมปุน” ในราวๆเวลา บ่าย 3 กว่าๆ เกือบ 4 โมงเย็น แต่จะต้องต่อรถขึ้นไปบน ไจ๊ก์ติโย (พระธาตุอินแขวน) อีกราวๆ ครึ่งชั่วโมง ค่ารถที่จะขึ้นไปบนพระธาตุอินแขวนสำหรับชาวต่างชาติอยู่ที่ 2,500 จั๊ต/คน ลักษณะการเดินทาง เฮียคิดว่าคล้ายๆกับรถไฟเหาะบ้านเรา...แต่ไม่แรงเท่าหรอกครับ ได้ชมวิวสวยๆ จากด้านล่าง แต่แม่เฮียนี่สิ ก้มหน้าตลอด... และแล้วในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมาย เมื่อลงจากรถเราต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อยไม่กี่นาที ถึงจะเห็นองค์พระธาตุอินแขวนครับระหว่างก่อนถึงประตูทางเข้าเราก็จะพบกับโรงแรมที่ชาวต่างชาติชอบพักกันก็คือ Kyaikhto Hotel และ Mountain Top Hotel ต้องบอกก่อนว่าเมื่อเราลงจากรถจะเจอกับคนช่วยแบกกระเป๋าสัมภาระหรือแบกคุณขึ้นไปบนพระธาตุอินแขวน เฮียใช้บริการเด็กแบกกระเป๋าและต่อรองราคากันเล็กน้อย เด็กๆบางคนพูดไทยชัดแจ๋ว เงินไทยก็รับครับ โรมแรมที่พักที่นี่จะมีไม่เยอะครับ ยิ่งถ้าเราไปช่วงวันหยุดนักท่องเที่ยวจะเยอะกว่าวันธรรมดามากๆ แต่เฮียก็โชคดี โชคเข้าข้างได้โรงแรมที่พักอย่างดีมากๆครับ (เดี๋ยวจะมารีวิวที่พักให้ฟังกัน)
( เฮียใช้บริการเด็กแบกกระเป๋าตามราคาที่เฮียต่อรอง ไม่เอารัดเอาเปรียบเด็กๆมากเกินไป )
( โรงแรมที่พัก Mountain Top Hotel ระหว่างก่อนถึงประตูทางเข้า )
( อีก 1 โรงแรมก่อนถึงประตูทางเข้า Kyaikhto Hotel )
( ประตูทางเข้าที่จะขึ้นไปสู่ ไจ๊ก์ติโย “พระธาตุอินแขวน” )
( เด็กแบกกระเป๋าที่เฮียและแม่ใช้บริการครับ ชื่อโบโบ้ พูดไทยเก่งมากๆ )
เฮียและแม่เดินขึ้นผ่านประตูเมืองเข้าไปพร้อมกับถอดรองเท้า วัฒนธรรมการเข้าวัดที่พม่าก็ไม่ต่างจากบ้านเราสักเท่าไหร่ เมื่อผ่านประตูทางเข้าไป เราต้องไปเสียค่าเข้าในราคาคนละ 6 ดอลลาร์ หรือ 6,000 จั๊ต แล้วเราก็จะบัตรเข้าเป็นป้ายห้อยรูปร่างหน้าตาอย่างนี้มาครับ
( บัตรเข้าเขตบริเวณพื้นที่ ไจ๊ก์ติโย “พระธาตุอินแขวน” )
เมื่อจ่ายค่าเข้าเรียบร้อย เดินตรงไปเรื่อยๆ ผ่านพระธาตุอินแขวนไป ก่อนถึงทางลงบันไดก็จะเจอกับป้ายโรงแรมที่เฮียพัก Yoe Yoe Lay Hotel 3 อยู่ด้านซ้ายมือ เฮียและแม่เดินลงบันได้ไปไม่กี่ขั้นก็เจอรีเซฟชั่นของโรงแรมด้านซ้ายมือ ต้องบอกก่อนว่าเฮียและแม่มาพม่าครั้งนี้ ไม่ได้จองที่พักไว้เลย อาศัย Walk in เองล้วนๆ ที่โรงแรมนี้จากที่เห็นส่วนมากก็เป็นชาวต่างชาติที่มาพักที่นี่ โดยเฉพาะลูกทัวร์ไทยถือว่าเยอะทีเดียวครับ เฮียและแม่ได้ห้อง 3 เตียงเพราะห้อง 2 เตียงเต็ม ในราคาคืนละ 100 ดอลาร์ พร้อมอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์
( วิวโรงแรมที่เฮียและแม่พักจากทางด้านหลังห้อง )
( ห้องพักแบบ 3 เตียงมีแอร์ ทีวี ตู้เย็นเครื่องทำน้ำอุ่น และWifi ที่เฮียเข้าไม่ได้สักที )
เดินทางมาทั้งวันอย่างแรกที่เฮียและแม่ทำเมื่อเข้าถึงห้องพักก็คือ จัดแจงอาบน้ำ เมื่อเราสองแม่ลูกอาบน้ำเสร็จก็ได้เดินออกมาจากที่พักไปสักการะบูชาพระธาตุอินแขวนครั้งที่ 1ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักมากๆ (ชาวพม่าเชื่อว่าคำอธิฐานจะเป็นจริงก็ต่อเมื่อสักการะบูชาครบ 3 ครั้ง) ดอกไม้ธูปเทียนมีขายในราคาชุดละ 2,000 จั๊ต แต่สำหรับใครที่ต้องการประหยัดเงินในกระเป๋าเฮียแนะนำให้นำธูปกับเทียนมาเอง ผู้ชายสามารถลงไปปิดทองที่องค์พระธาตุอินแขวนได้ ซึ่งสามารถซื้อได้ในราคาชุดละ 1,750 จั๊ต หลังจากที่เฮียและแม่สักการะบูชาพระธาตุอินแขวนรอบที่ 1 เสร็จเราสองแม่ลูกก็ได้เดินกลับที่พักและได้สั่งอาหารทานกัน มื้อนี้เฮียสั่งไข่เจียว , ผัดผักบุ้งใส่หมู , ข้าวเปล่า 2 จาน , โค๊ก 1 ขวด , น้ำเปล่า 1 ขวด อาหารพม่าเฮียไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่ครับ
(ห้องอาหารที่โรงแรม )
(หน้าตาข้าวไข่เจียวกับผัดผักบุ้งใส่หมู )
มื้อนี้คิดเป็นเงินไทยแค่ 2 ร้อยกว่าบาท ถือว่าถูกมากครับ อากาศดีและวิวสวยเฮียประทับใจจริงๆ ทานอาหารเสร็จก่อนนอน เฮียและแม่ก็ได้เดินไปสวดมนต์ที่พระธาตุอินแขวน เมื่อกลับมาถึงห้องพักอาจเป็นเพราะความเหนื่อยจากการเดินทาง เฮียและแม่คุยกันได้ไม่นาน ก็เผลอหลับไป ราตรีสวัสดิ์ครับ Day 1
(นามบัตรโรงแรมครับ สำหรับใครที่อยากจองที่พักไว้ล่วงหน้าเพื่อความสบายใจ )
[CR] เฮียซาน รีวิวเที่ยวพม่า 3 เมือง 3 คืน 4 วัน 16 – 19th Oct. 2015
สวัสดีชาวพันทิปที่รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจทุกๆท่านนะครับ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเฮีย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เฮียก็ไปเที่ยวมาในหลายๆประเทศ (รู้เสียดายที่ไม่ได้เขียนรีวิวไว้) ทั้งนี้ทั้งนั้นเฮียหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รีวิวการท่องเที่ยวของเฮียที่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า จะเป็นประโยชน์สำหรับชาวพันทิปทุกๆท่าน ไม่มากก็น้อยครับ
เฮียจองตั๋วช่วงโปรโมชั่นของสายการบินแอร์เอเชียไว้ตั้งแต่ต้นปีในราคาไป-กลับของสองแม่ลูก 6,000 บาทหรือ 3,000 บาท/คน ราคานี้รวมค่าน้ำหนักกระเป๋าที่ซื้อเพิ่มแล้วครับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เฮียและแม่จะได้ไปเยี่ยมเยียนประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ความรู้สึกตอนนั้นเป็นความรู้สึกกล้าๆกลัวๆอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่เฮียก็ผ่านมาแล้วในหลายๆประเทศ เป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นก็ไม่เชิง อาจเป็นเพราะเฮียจิตนการไปเองหลายๆอย่างทั้งๆที่ยังไม่ได้ไปพบเจอกับพม่าจริงๆ แต่ขอบอกเลยว่าใครที่จะไปพม่าเองแล้วไม่ได้อ่านรีวิวของเฮียนั้น...ถือว่าคุณพลาดมากๆเลยครับ
เฮียและแม่ถึงสนามบินดอนเมืองในช่วงเวลา 6 โมงเช้า เดินไปเช็คอินเรียบร้อย เที่ยวบิน FD 251 กรุงเทพ (ดอนเมือง) สู่ พม่า (ย่างกุ้ง) พร้อมกับแลกเงิน ดอลลาร์ (USD) ไปกันคนละ 11,000 บาท ได้มา 306 ดอลลาร์ครับ ต้องทำใจเพราะช่วงนี้เงินบาทอ่อนค่า TT จากนั้นก็เข้าไปในด่านขาออกนอกประเทศครับ คนเยอะใช้ได้เลย นึกว่าจะตกเครื่องแล้ว แต่...สุดท้ายก็ได้มานั่งรอที่ Gate เกือบ 20 นาที ผู้คน ไฟท์นี้ที่บินไปพม่า ในจำนวนเกินครึ่งคือคนไทยครับ มีคนจีนกับฝรั่งอยู่ไม่เท่าไหร่ นอกนั้นก็คนพม่า หลังจากนั่งรอได้ไม่นานทางสายการบินก็ประกาศให้เข้าแถวผ่านด่านเจ้าหน้าที่พนักงานเพื่อเตรียมตัวไปขึ้นเครื่องโดยเราจะต้องขึ้นรถบัสของทางสายการบินเพื่อไปส่งขึ้นเครื่องอีกทีครับ ในราวๆ 5-10 นาที เฮียกับแม่ก็นั่งอยู่บนเครื่องเป็นที่เรียบร้อย เฮียกับแม่ถึง พม่า (ย่างกุ้ง) ในเวลาท้องถิ่นที่นั่นก็ 8 โมงตรง (เวลาที่พม่าจะช้ากว่าไทยครึ่งชั่วโมง) จัดแจงเขียนใบตรวจคนเข้าเมืองให้เรียบร้อย อากาศช่วงนี้แดดร้อนใช้ได้เลยครับ ฝนตกบางวันด้วย
หลังจากเฮียและแม่รับกระเป๋าเดินทางเสร็จ ก่อนที่จะเดินไปขึ้นแท็กซี่พวกเราก็ไม่ลืมที่จะแลกเงินพม่าก่อน ที่พม่านั้นใช้เงินสกุล KYAT (จั๊ต) เฮียกับแม่แลกคนละ 200 ดอลลาร์ (USD) ได้มา 255,200 จั๊ต ที่เหลือ 106 ดอลลาร์เก็บเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน แลกเงินเสร็จเฮียและแม่ก็มุ่งหน้าจาก สนามบินย่างกุ้ง สู่ สถานีขนส่งอองมิงกลาเพื่อจะต่อรถบัสไปที่เมืองไจ๊ก์โถเพื่อไปสักการะบูชา พระธาตุอินแขวน เฮียแนะนำให้ใช้บริการเคาเตอร์เรียกแท็กซี่ในสนามบินเพราะเค้าจะไม่โก่งราคาค่าแท็กซี่กับเรา สรุปค่าแท็กซี่จากสนามบินย่างกุ้ง ไป สถานีขนส่งอองมิงกลา 6,000 จั๊ต หรือราวๆ ร้อยกว่าบาท ปลายๆ
เฮียกับแม่นั่งแท็กซี่ออกมาจากสนามบินย่างกุ้งเกือบๆครึ่งชั่วโมง (รถติดนิดหน่อย) ก็มาถึงสถานีขนส่งอองมิงกลา ทันใดที่แท็กซี่เข้ามาในสถานีขนส่งอองมิงกลาก็จะมีเด็กวิ่งรถ (เฮียตั้งเอง) เข้ามารุมถามว่าเราจะไปไหน ไม่ต้องตกใจครับ...เราควรตั้งสติดีๆและต่อรองราคา โดยปกติรถที่จะไปเมืองไจ๊ก์โถราคาจะอยู่ที่ 7,000 จั๊ต ถ้าแพงกว่านี้แสดงว่าโดนเด็กวิ่งรถโก่งราคาเอาเข้าแล้วครับ แต่เฮียก็โดนโก่งราคาไป 1,000 จั๊ต ราคาที่เฮียได้คือ 8,000 จั๊ต/คน เฮียกับแม่รอขึ้นรถและเสียเวลาไป 1 ชั่วโมงด้วยความผิดพลาดของตัวเองในการเลือกรถที่จะไปเมืองไจ๊ก์โถ (เฮียจะมาเล่าเรื่องราวการเลือกบริษัทรถบัสใน Day 2 ว่าเราควรเลือกรถอย่างไร เพราะที่พม่าก็มีทั้งรถ ป.1และ ป.2 คล้ายๆกับบ้านเรา) 10.30 น. รถบัสมุ่งหน้าสู่เมืองไจ๊ก์โถ สภาพรถไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก มีกลิ่นอับแปลกๆ เฮียคาดว่าคงเป็นกลิ่นน้ำหมาก ผู้ชายพม่าส่วนใหญ่นิยมเคี้ยวหมากกัน (สงสารแม่) ตอนนั่งรอรถออกแอร์ก็เปิดอย่างเย็นสบาย แต่พอรถออกเท่านั้นล่ะครับ ปิดแอร์แล้วเราจะต้องเปิดหน้าต่างแทน รถจอดรับผู้สารตลอดทาง เฮียและแม่รู้สึกเวียนหัวกับอากาศที่ร้อนและกลิ่นควันมลพิษเป็นอย่างมาก ด้วยความผิดพลาดกับการเลือกบริษัทรถบัสในครั้งนี้ของเฮีย เฮียรู้สึกแย่มากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย เฮียและแม่ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 5 ชั่วโมงเราก็ถึงเมืองไจ๊ก์โถ แต่เราจะไป ไจ๊ก์ติโย (พระธาตุอินแขวน) เราจะต้องลงที่ คินปุน (คิมปุนเบสแคมป์ Kinpun Base Camp) ก่อนซื้อตั๋วรถบัสให้เราถามบริษัทรถบัสให้แน่นอนว่าไปส่งเราถึงคิมปุนหรือไม่ครับ
เฮียกับแม่ถึง “คิมปุน” ในราวๆเวลา บ่าย 3 กว่าๆ เกือบ 4 โมงเย็น แต่จะต้องต่อรถขึ้นไปบน ไจ๊ก์ติโย (พระธาตุอินแขวน) อีกราวๆ ครึ่งชั่วโมง ค่ารถที่จะขึ้นไปบนพระธาตุอินแขวนสำหรับชาวต่างชาติอยู่ที่ 2,500 จั๊ต/คน ลักษณะการเดินทาง เฮียคิดว่าคล้ายๆกับรถไฟเหาะบ้านเรา...แต่ไม่แรงเท่าหรอกครับ ได้ชมวิวสวยๆ จากด้านล่าง แต่แม่เฮียนี่สิ ก้มหน้าตลอด... และแล้วในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมาย เมื่อลงจากรถเราต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อยไม่กี่นาที ถึงจะเห็นองค์พระธาตุอินแขวนครับระหว่างก่อนถึงประตูทางเข้าเราก็จะพบกับโรงแรมที่ชาวต่างชาติชอบพักกันก็คือ Kyaikhto Hotel และ Mountain Top Hotel ต้องบอกก่อนว่าเมื่อเราลงจากรถจะเจอกับคนช่วยแบกกระเป๋าสัมภาระหรือแบกคุณขึ้นไปบนพระธาตุอินแขวน เฮียใช้บริการเด็กแบกกระเป๋าและต่อรองราคากันเล็กน้อย เด็กๆบางคนพูดไทยชัดแจ๋ว เงินไทยก็รับครับ โรมแรมที่พักที่นี่จะมีไม่เยอะครับ ยิ่งถ้าเราไปช่วงวันหยุดนักท่องเที่ยวจะเยอะกว่าวันธรรมดามากๆ แต่เฮียก็โชคดี โชคเข้าข้างได้โรงแรมที่พักอย่างดีมากๆครับ (เดี๋ยวจะมารีวิวที่พักให้ฟังกัน)
เฮียและแม่เดินขึ้นผ่านประตูเมืองเข้าไปพร้อมกับถอดรองเท้า วัฒนธรรมการเข้าวัดที่พม่าก็ไม่ต่างจากบ้านเราสักเท่าไหร่ เมื่อผ่านประตูทางเข้าไป เราต้องไปเสียค่าเข้าในราคาคนละ 6 ดอลลาร์ หรือ 6,000 จั๊ต แล้วเราก็จะบัตรเข้าเป็นป้ายห้อยรูปร่างหน้าตาอย่างนี้มาครับ
เมื่อจ่ายค่าเข้าเรียบร้อย เดินตรงไปเรื่อยๆ ผ่านพระธาตุอินแขวนไป ก่อนถึงทางลงบันไดก็จะเจอกับป้ายโรงแรมที่เฮียพัก Yoe Yoe Lay Hotel 3 อยู่ด้านซ้ายมือ เฮียและแม่เดินลงบันได้ไปไม่กี่ขั้นก็เจอรีเซฟชั่นของโรงแรมด้านซ้ายมือ ต้องบอกก่อนว่าเฮียและแม่มาพม่าครั้งนี้ ไม่ได้จองที่พักไว้เลย อาศัย Walk in เองล้วนๆ ที่โรงแรมนี้จากที่เห็นส่วนมากก็เป็นชาวต่างชาติที่มาพักที่นี่ โดยเฉพาะลูกทัวร์ไทยถือว่าเยอะทีเดียวครับ เฮียและแม่ได้ห้อง 3 เตียงเพราะห้อง 2 เตียงเต็ม ในราคาคืนละ 100 ดอลาร์ พร้อมอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์
เดินทางมาทั้งวันอย่างแรกที่เฮียและแม่ทำเมื่อเข้าถึงห้องพักก็คือ จัดแจงอาบน้ำ เมื่อเราสองแม่ลูกอาบน้ำเสร็จก็ได้เดินออกมาจากที่พักไปสักการะบูชาพระธาตุอินแขวนครั้งที่ 1ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักมากๆ (ชาวพม่าเชื่อว่าคำอธิฐานจะเป็นจริงก็ต่อเมื่อสักการะบูชาครบ 3 ครั้ง) ดอกไม้ธูปเทียนมีขายในราคาชุดละ 2,000 จั๊ต แต่สำหรับใครที่ต้องการประหยัดเงินในกระเป๋าเฮียแนะนำให้นำธูปกับเทียนมาเอง ผู้ชายสามารถลงไปปิดทองที่องค์พระธาตุอินแขวนได้ ซึ่งสามารถซื้อได้ในราคาชุดละ 1,750 จั๊ต หลังจากที่เฮียและแม่สักการะบูชาพระธาตุอินแขวนรอบที่ 1 เสร็จเราสองแม่ลูกก็ได้เดินกลับที่พักและได้สั่งอาหารทานกัน มื้อนี้เฮียสั่งไข่เจียว , ผัดผักบุ้งใส่หมู , ข้าวเปล่า 2 จาน , โค๊ก 1 ขวด , น้ำเปล่า 1 ขวด อาหารพม่าเฮียไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่ครับ
มื้อนี้คิดเป็นเงินไทยแค่ 2 ร้อยกว่าบาท ถือว่าถูกมากครับ อากาศดีและวิวสวยเฮียประทับใจจริงๆ ทานอาหารเสร็จก่อนนอน เฮียและแม่ก็ได้เดินไปสวดมนต์ที่พระธาตุอินแขวน เมื่อกลับมาถึงห้องพักอาจเป็นเพราะความเหนื่อยจากการเดินทาง เฮียและแม่คุยกันได้ไม่นาน ก็เผลอหลับไป ราตรีสวัสดิ์ครับ Day 1