ขับรถกินลมชมวิว EP. # 2 Fukuoka - Hakata - Karatsu - Saga Part #2

มาต่อกันจาก Part #1 นะคะ

ขับรถกินลมชมวิว EP. # 2 Fukuoka - Hakata - Karatsu - Saga Part #1
http://pantip.com/topic/34313786

อัพ part สุดท้ายของทริปนี้แล้วนะคะ

ขับรถกินลมชมวิว EP. # 2 Fukuoka - Hakata - Karatsu - Saga Part #3
http://pantip.com/topic/34809765


เช้านี้ต้องนั่งรถไฟย้อนกลับที่สนามบินอีกครั้ง เพราะว่าผิดแผนไปหนึ่งวัน แถวใกล้ๆสนามบินจะมีร้านให้เช่ารถอยู่หลายๆเจ้าเลย แต่ไม่ค่อยรับลูกค้าต่างชาติกันซะเท่าไหร่ จะมีของ Toyota ที่รับลูกค้าต่างชาติแน่ๆ มีสาขาเยอะ สามารถเลือกรถรับจุดนึง คืนอีกจุดนึงก็ได้ (ถ้าข้ามเมืองจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม) ลองดูที่เวบนี้นะคะ https://rent.toyota.co.jp/eng/

เอาล่ะค่ะ ออกเดินทางกันได้แล้ว จุดหมายปลายทางของวันนี้คือเมือง Yobuko เป็นเมืองหนึ่งในจังหวัด Saga จะอยู่เยื้องมาทางตอนใต้ของ Fukuoka ค่ะ ปกติก็สามารถไปทางรถไฟได้ แต่อย่างที่จั่วหัวเรื่องไว้ เราเน้นขับรถเล่นกินลมชมวิวซะมากกว่า ระหว่างทางเจอจุดไหนน่าสนใจก็แวะดู เปิด google map เห็นสัญลักษณ์ view point ก็อย่าได้พลาดต้องแวะเข้าไปดูซะหน่อย เหนื่อยก็พักเข้ามินิมาร์ทกินขนม กินไอติมแล้วค่อยออกเดินทางต่อ เพราะอย่างนี้เราถึงได้ตัดสินใจเช่ารถมา อมยิ้ม04

หลังจากออกนอกเมืองมาได้ระยะนึงก็ถึง view point จุกแรกของวันนี้ค่ะ
ที่นี่เรียกว่า Kagami Yama (鏡山)
เป็นจุดชมวิวบนเขาต้องขับรถขึ้นมาค่ะ และไม่มีรถบัสประจำทางวิ่งขึ้นมา ถ้าจะเดินขึ้นมาจากข้างล่างก็คงต้องเดินกันเหงื่อตกไปหลายปี๊บเลยแหละ ถ้ามารถไฟก็ลงที่สถานี Nijinomatsubara (虹ノ松原駅) แล้วหารถแท๊กซี่ขึ้นมาค่ะ เปิดให้เข้าทุกวันไม่มีวันหยุด ไม่มีกำหนดเวลา จอดรถที่ลานจอดแล้วเดินขึ้นไปอีกประมาณ 5 นาทีก็ถึงละ

บรรยากาศสุดยอดอ่ะ ลมพัดเย็นสบาย หายเหนื่อยเลยอมยิ้ม01



มีชานยื่นออกไปข้างนอกให้ชมวิวเต็มๆตา ส่วนใหญ่จะมาเป็นคู่เนอะ จุ๊บๆ
เก็บบรรยายกาศทั้งซ้ายละขวาชัดๆ





ขอพาโนรามาซักรูปนะ อมยิ้ม04



แถบป่าสนธรรมชาติตรงชาดหาดเป็น 1 ใน 3 ของป่าสนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่มีไว้เป็นแนวกันลม กันพายุค่ะ อีกแหน่งหนึ่งก็คือที่ Amanohashidate
ที่เห็นเป็นแนวยาวกลางทะเลนั่นแหละค่ะ ส่วนที่ที่นึงนี่จำไม่ได้ละ อมยิ้ม16



เอาละหลังจากสูดเก็บโอโซนกันเต็มปอดแล้ว ได้เวลาเดินทางต่อไปแล้วค่ะ
ขากลับออกมาเพิ่งสังเกตเห็นรูปปั้นนี้ ชีชื่อว่า Matsurasayohime (松浦佐用姫) ได้ยินมาว่าชีร้องไห้ตามคนรักที่ไปออกรบ ร้องซะจนกลายเป็นหินไปเลย เม่าแพนิค



เมื่อเดินทางมาที่เมือง Karatsu ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลแบบนี้ เรื่องที่จะพลาดไม่ได้เลยคืออาหารทะเลสดๆ รสล้ำเลิศ
มื้อเที่ยงนี้เราจะพาไปกินอาหารทะเลสดกันที่ Marine Center Osakana Mura (マリンセンター おさかな村)



บริเวณชั้น 1 จะขายของทะเลสดและแห้ง ส่วนชั้น 2 จะเป็นร้านอาหารค่ะ



ของทะเลสดๆ อยากจะเหมาตลาดเอากลับบ้านสุดๆ เค้าล้อเล่น







ร้านอาหารที่ชั้น 2 วันนี้ขอจัดเบาๆกับชุด lady set ละกัน



เติมพลังเต็มท้องแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ จุดหมาบปลายทางวันนี้ยังอีกยาวไกลนัก



จุดต่อไปผู้ร่วมทางเค้าว่าที่เป็นไฮไลท์แห่งหนึ่งของวันนี้เลยค่ะ ถ้ามาแถวนี้แล้วห้ามพลาดเลย นั่นก็คือ Nanatsukama(七つ釜)แปลว่ากระเทยเจ็ดอัน เอ้ย! ไม่ใช่ หม้อเจ็ดใบต่างหากย่ะหล่อน! มั่วจริง!  ก็ศัพท์แสลงมันแปลว่ากระเทยนี่ ไม่เห็นจะผิดตรงไหน อมยิ้ม06



ที่ว่าหม้อเจ็ดใบนี่คือ บริเวณหน้าผาจะมีโพรงลึกเข้าไปอยู่เจ็ดโพรงนั่งเอง แต่ถ้ามองจากข้างบนจะเห็นแค่ 5 โพรง ต้องนั่งเรือมาดูจะมองเห็นชัดครบทุกอันค่ะ เรือเฟอรี่สำหรับนั่งออกมาดูจะมาจากท่าเรือที่ Yobuko ที่เราจะไปพักคืนนี้ค่ะ



โดยเรือที่ว่านี่จะพาเราชมทะเลมาเรื่อยๆ พอมาถึงที่ Nanatsukama ก็จะแล่นเรือเข้ามาให้ดูใกล้ๆเลย ถ้าโชคดีน้ำลงระดับนึงเรือจะแล่นเข้าไปในโพรง เพื่อให้ดูช่วงปากๆโพรงค่ะ





ลักษณะก้อนหินแถวๆนี้จะเป็นแท่งๆ ซึ่งเกิดจากการไหลของลาวาแล้วเย็นตัวลงกระทันหัน มันก็เลยการเป็นเส้นๆ แท่งๆ แบบนี้แหละค่ะ

ก่อนออกเดินทางไปที่ต่อไปขอเก็บภาพมุมกว้างสักนิดนึงก่อนนะ





และแล้วก็มาถึง Yobuko จนได้ ความเร็วรถ 50 กม./ชม. วันนึงๆจะไปได้สักเท่าไหร่ บวกกับแวะกินแวะดูนู่นนี่นั่น ก็เกือบจะหมดวันละ ยังเหลือเป้าหมายสุดท้ายของวันนี้นั่นคือข้ามไปเกาะ Kabeshima (加部島)สมัยก่อนต้องนั่งเรือข้ามฟากไป แต่ตอนนี้มีสะพานแล้วก็ขับรถข้ามไปมาสะดวกขึ้นเยอะ



บนเกาะนี่มีฟาร์มวัวริมทะเลด้วยอยู่แถวๆ Suginohara (杉ノ原) เค้าอยากเป็นเด็กเลี้ยงวัวอยู่แถวนี้อ่ะ วิวดีชะมัด ให้นั่งเลี้ยงทั้งวันก็ยังได้อมยิ้ม04





เก็บบรรยากาศฟาร์มวัว นี่ถ้าได้มานอนดูดาวที่นี่จะมองเห็นทางช้างเผือกมั้ยนะ



พลขับของทริปนี้ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนการเดินทาง อาหารการกิน และที่พัก จุ๊บๆๆๆ หัวใจจุ๊บๆ



view point อีกแห่งของเกาะนี้ คือ Kazenomieruoka Park (風の見える丘公園)จะเป็นจุดชมเมือง Yobuko ที่มองจากเกาะ Kabeshima จุดสังเกตคือจะมีกังหันลมขนาดใหญ่อยู่บนเนิน

เมืองYobukoเมื่อมองจากที่นี่



อีกด้านหนึ่งของเกาะ





สะพาน Yobuko oohashi (よぶこおおはし)ที่ข้ามมาเมื่อกี้



กะว่าจะรอดูตะวันตกดิน (รึว่าตกน้ำทะเล?) บนนี้ แต่ว่านี่เพิ่งจะ 5 โมงเอง รออีกเป็นชั่วโมงคงไม่ไหว อาจจะแข็งตายได้ อากาศเริ่มเย็นลง ลมก็พัดแรง คงจะไม่ไหวเป็นแน่ขอเก็บร่างไว้เที่ยวต่ออีกสัก2-3 วันนะ
ไหนๆก็ไหนๆ ก่อนกลับขอแวะเดินทำมิวสิคสักเพลงบนสะพานหน่อยนะ



เดินมาถึงกลางๆสะพาน ชักจะไม่ไหวจริงๆละ ลมแรงมว๊ากกขนาด 70 โลกว่าอย่างอิชั้นนี่ยังทนทานแรงลมและความเย็นไม่ไหว ขี้มูกไหลมาละ บ๊ายบายก่อนนะ Kabeshima แล้วเราจะมาใหม่
มานั่งรอดูพระอาทิตย์ตกแถวๆท่าเรือ จะหมดไปอีกหนึ่งวันแล้วเหรอเนี่ย เร็วจัง



เอาล่ะเข้าที่พักกันได้แล้ว คืนนี้เราจะพักกันที่เรียวกังชื่อว่า Chikuzenya เป็นเรียวกังเล็กๆ ติดท่าเรือมีแค่ 8 ห้อง เป็นห้องเสื่อญี่ปุ่นทั้งหมด ห้องน้ำรวมอยู่นอกห้อง แยกเป็นชั้นๆ มี 3 ชั้น ห้องอาบน้ำรวม มีบ่อออนเซ็นขนาดไม่ใหญ่นักให้ลงไปแช่ได้ทีละประมาณ 2-3 คน มีอาหารเย็นและเช้าให้ มื้อเย็นจะจัดแยกให้เป็นห้อง ส่วนมื้อเช้าจะทานรวมกันในห้องอาหาร ราคา 10,000-15,000 เยน/คน/1คืน



ทีเด็ดของที่นี่คืออาหารทะเลสดมว๊ากก ของดังมีชื่อที่นี่คือหมึกค่ะ ถ้ามาแล้วไม่ได้กินนี่มาไม่ถึงนะ หั่นกันมาสดๆ หนวดยังกระดุกกระดิกได้อยู่ในจาน เวลาคีบกินเลย หอยเม่นผ่าครึ่งมาหนามยังกระดิกยุกยิกไปมา ซาชิมิปลาสดคนละ 1 ลำเรือ ปลานึ่ง ปลาทอด หอยย่าง และเครื่องเคียงอื่นๆอีกมากมาย



เยอะขนาดนี้ถามว่ากินหมดมั้ย จะเหลือเรอะโอกาศดีๆแบบนี่ไม่ได้มีบ่อย ถ้าเลียจานได้คนทำไปแล้วอมยิ้ม05

อิ่มละออกไปเดินย่อยนึดนุง บรรยากาศท่าเรือยามค่ำคืนด้านหลังเรียวกัง



ไหนๆก็ออกมาแล้ว ลองกลับไปที่ Kabeshima อีกสักรอบ ตรงที่ว่าจะไปดูดาวกันเมื่อกลางวัน เผื่อว่าจะเห็นทางช้างเผือกกับเค้าบ้าง พอไปถึงนี่ขอบอกเลยว่ามืดมว๊ากกก ไฟทางก็ไม่มี จอดรถแล้วมองหน้ากัน วัดใจกันอยู่พักนึง ไม่มีใครกล้าลงรถอ่ะ โคตรหลอนเลย เผื่อมีตัวประหลาดวิ่งออกมาคาบเราไปจะทำไง เหอๆๆ อมยิ้ม24 ล้มเลิกแผนดูดาวที่นี่โดยบัดดล แล้วไปที่ view point ตรง Kazenomieruoka Park แทน ค่อยยังชั่วที่ตรงนี้มีไฟจากตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติอยู่4-5ตู้ ก็สว่างพอที่จะไม่หลอนกันเท่าไหร่
ได้ดูเมืองยามค่ำคืนกันสองต่อสอง โรแมนติกปนหลอนๆ อมยิ้ม07ว่าแล้วก็รีบกลับกันเหอะ ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลยสักคน บอกตรงๆว่ากลัว เหอๆๆๆ สรุปว่าไม่ได้เห็นทางช้างเผือกกันนะคะ

เอ้าปิดท้ายด้วยรูปสุดท้ายสำหรับค่ำคืนนี้
Yobuko ยามค่ำคืนจากเกาะ Kabeshima



พักก่อนสำหรับคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้จะพาไปตลาดนัดนะจ๊ะอมยิ้ม04
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่