สาเหตุเกิดจากโรคที่ทุกคนนิยมเป็นกันทั้งๆ ที่ไม่อยากเป็น มันเป็นดั่งโรคระบาด ยิ่งในช่วงหน้าฝนแบบนี้ยิ่งทำให้ป่วยหนักเข้าไปใหญ่
นั่นก็คือ
อกหัก ไง!! ไอ ไอ ไอ ไอ ไอ...




อยู่กรุงเทพแล้วฝุ่นควันมันยิ่งทำให้ใจมัวหมอง พอเจอสอบกลางภาคเข้าไปยิ่งช้ำหนัก เพราะงั้นตัดสินใจแล้ว
ไปเถอะไป ไปเที่ยวกันเถอะเรา อยากไปมานานแล้วนี่ ออกแบ็คแพ็คคนเดียวครั้งแรก ลุยกัน!!
จองตั๋วไป-กลับ ดูบ้านพัก วางแผน บลาๆๆๆๆ แบบส่งๆ มั่วๆ ไม่ได้แพลนมากมาย ยังไงก็ไปมั่วที่นั่นได้แหละน่า!
ได้ยินว่ามีคนรีวิวมาเยอะ แต่ไม่เคยเข้าไปอ่านรีวิว เออเอาเถอะ ไปอ่านเอาหน้างานก็ได้วะ
ประเดิมแรกขอแนะนำเพื่อนร่วมทริปในครั้งนี้
ผู้บันทึกภาพหมายเลข 1 ... Iphone 5c ร้าวๆ
ผู้บันทึกภาพหมายเลข 2 ... Xiaomi yi ต๊องๆ
ผู้บันทึกภาพหมายเลข 3 ... ดวงตาของเราไง!!
จุดประสงค์ครั้งนี้น่ะรึ... หึหึ เอาความรู้สึกเราต่อเขาไปลอยทิ้งแม่น้ำโขงซะ!!!! เย้เย้
*ค่าใช้จ่ายจะลงไว้หลังจบการรีวิวรูปนะคะ*
สอบกลางภาควันสุดท้าย เช้า-บ่ายวันที่ 23 ใช่มั้ย... เดินทางเลยค่ำวันที่ 23 ละกัน ใจร้อน
แต่โดนดาเมจจากวิชาหฤโหดมา ขอเติมพลังเบาๆก่อนแล้วกัน ช้ำในมาก กินหนักไม่ได้
แล้วก็จับมือกับลูกสาวเล็กน้อย บอกยาใจว่าเค้าขอไปเที่ยวก่อนนะอีกสองวันกลับ
ตั๋วพร้อม เราพร้อม ตื่นเต้นนนนนนนนนนนน พ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอานี่สั่งเสียกันใหญ่
บอกไปแล้วไม่ต้องกลับนะ กินเยอะเปลืองข้าวสุก

วันพุธหากใครจำได้ กทม ฝนตกแรงมากข่าาา แบบนั่งในร่มยังเปียกชื้นถึงชั้นใน
ขนาดลุงหมายังอยากขึ้นรถไปหลบฝน

พระเอกของเราในงานนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก บขส ผู้แสนดีและอับชื้น

ขนมปังถั่วดำงาขาวอร่อยนะเออพูดเป็นเล่น
เปิดไพ่ใบที่หมอบอยู่....
วาร์ปซี
Zzz...

แปปเดียวก็เช้า รถปรับอากาศชั้น 1 ค่อนข้างนอนไม่สบาย ตามราคานั่นล่ะเนอะ
ใครอยากสบายอีกนิด เพิ่มเงินแล้วนั่ง VIP ก็แจ่มแมว แถมไปคนเดียวเลือกที่นั่งคนเดียวได้ด้วย
อันนี้โชคดีขาไปคนน้อยเลยไม่มีคนนั่งข้างๆ สบายไปเปราะหนึ่งเนอะ
รถ บขส ส่งท่านถึงเชียงคานแบบไม่ต้องต่อรถ ลงหน้าตลาดสดพอดี อากาศตอนเช้าหมอกลง กำลังเย็นสบาย
จากนั้นด้วยความไม่รู้เลยนั่งรถสามล้อให้ลุงไปส่งที่ถนนชายโขง 20 บาท
ทั้งที่จริงถ้าเป้ไม่หนักมากเดินไปได้เลยนะ แหม่ ไม่เป็นไร อยู่กทมไม่ค่อยได้นั่งหรอก กทม มีสามล้อที่ไหน! (ตุ๊กๆล่ะ?)

ทุกเช้าชาวบ้านจะตักบาตรกัน โดยวัดก็จะอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ เป็นบรรยากาศน่ารักๆที่หาได้ในต่างจังหวัดทุกที่เนอะ
เราเองซึ่งไม่เคยมา เห็นหลวงตาเดินบิณฑบาตร มีเด็กวัดสี่ขาเดินตามด้วย เลยเดินตามหมาด้วยเลย
เดินไปๆ ก็ถึงที่ที่เราหมายตาไว้ตอนแรก นั่นคือไทยกันเองของป้าเป๊ะแสนใจดี

แต่ด้วยความที่ทริปครั้งนี้ได้ท่านบิดาเป็นสปอนเซอร์ทั้งหมดทั้งปวง ท่านพ่อประสงค์ให้เราพักอีกที่ เราก็เลยตามนั้น

บ้านสุพิชญา

ประตูแบบโบราณที่เราชอบมากๆ ไม่มีกลอนไม่มีอะไร แค่คล้องไว้ง่ายๆ

พอเปิดออกไป...

หมอกจ๋าาาา สวัสดีจ้ะ เราโสดนะ จีบเราเลยยยยย

ด้านหลังมีเส้นทางจักรยานเลียบแม่น้ำโขง ตอนเช้าคนมาเดินเล่นออกกำลังกายกัน เราก็ไม่รอช้า รีบไปเช่าจักรยานมาปั่น
เช่าแต่เช้า เช่าได้ทั้งวัน งานนี้มีหรือจะไม่คุ้ม รับประกันความคุ้มค่าโดยรอยยิ้มของคุณยายร้านเช่า เสียดายจังไม่ได้ถ่ายไว้
แต่ที่ถ่ายไว้คือจักรยานคันมุ้งมิ้ง

ความเดียวดายไม่ใช่เรื่องตลก... แต่มันเกิดตลอด!
จากนั้นก็ปั่นไปตระเวนถ่ายจุดต่างๆ กล้องมือถือธรรมดาหรือจะสู้กล้องDSLRราคาแพง
ก็เหมือนคนหน้าตาบ้านๆดำดินอย่างเราหรือจะสู้สาวสวยดีกรีมหาลัยดังอย่างเขา... เดี๋ยวๆ ทำไมเป็น "เขา" วะ

ปั่นไป เพ้อไป พูดคนเดียวไป ก็หิวไง พอปั่นลงเนินแล้วกลิ่นหอมมันแตะจมูกนี่ถึงกับเบรกเอี๊ยดอ๊าดให้กับร้านแรกของวัน...

สั่งป้าบอกป้า เอาข้าวเปียกไม่ใส่หมูค่ะ ป้าก็งง แต่ก็ทำ 555 จริงๆแล้วข้าวเปียกที่นู่นจะใส่หมูยอนะคะ

แล้วก็ประชาสัมพันธ์กันสักเล็กน้อยสำหรับคนว่างเดือนพฤศจิกายน น่าไปมากกกก (ข้าน้อยติดสอบ งามไส้สุดๆTT)
จากนั้นก็ปั่นๆจักรยานกัน แนะนำว่าช่วงหมอกลงอ่ะปั่นไปเถอะ เพราะอีกไม่นานเดี๋ยวรู้เลย 55

คนปกติเขาถ่ายกับป้ายกับอะไรที่มันเชียงค๊านเชียงคาน นี่ขอถ่ายกับหมอกละกัน เผื่อเอาไปเช็คอินว่าอยู่เกาหลีได้
ปั่นไปสักพักท้องมันบอกว่า ข้าวเปียกเมื่อกี้อร่อยว่ะแกร แต่อยากกินอีก โอเค มาเที่ยวทั้งทีพี่จะตามใจน้อง
จอดดิเอ๋จอด!!

บอกป้า ขอข้าวเปียกไม่ใส่หมูยอ ป้าก็กลายเป็นคนงงคนที่ 2 ของเชียงคาน แล้วก็จัดให้เด็กแปลกๆอย่างเรา

คืองานดีมากกก รักเห็ดหอม ชอบเห็ดหอม อร่อยยยยย ยอมใจ ยอมอ้วน ยอมท้องแตก -กกกกก
เสร็จมื้อที่ 2 เราก็ไปหาที่นั่งเอื่ยเฉื่อยกันสักหน่อย

แล้วก็มีคนมานั่งแซะข้างเรา

แดดจะมาแล้วอ่ะหมาจ๋า เราขอไปแอ่วอีกสักหน่อยเนอะ

นมคาราเมลคืองานดีมากข่าาาา หอมหวานอร่อยในราคา 30 บาทสวยๆ บรรยากาศร้านดีงาม
เท่านั้นยังไม่พอ เราได้ยินเสียงแมวเหมียว เจ้าของร้านเลยบอก เข้าไปดูข้างในได้ครับ
อ้าววว เบิกทางขนาดนี้ จะรออะไรล่ะคะ ไปค่ะไป


แล้วเราก็พบว่าด้านหลังบ้านคือบ้านแมวววววววววว

น่าเสียดายน้องแมวคงจะกลัวเราเลยไม่ยอมมารับแขก มีแค่ตัวเดียวยอมมาดมๆแล้วจากไป
แป๊ปๆก็ใกล้เที่ยง เอ้า งั้นมาหามื้อที่ 3 ของเราเลยแล้วกัน

บอกพี่คะๆ เอาข้าวปุ้นไม่ใส่หมูนะ เขาเลยให้ไข่ต้มมาแทน

ตัวกินผักอย่างเราหลงรักสีเขียวมาก

ตบท้ายด้วยของหวาน เขาบอกกันว่ามานี่พลาดไม่ได้กับไอติมลุงเติบเนอะ

ถ่ายย้อนแสงขึ้นท้องฟ้าสักหน่อยให้ดูร่มเย็น แต่ความจริงน่ะรึ

แดดเริ่มแรง เราควรจะเข้าที่พักก่อนที่ผิวเราจะมอดไหม้ยิ่งกว่ามันทอดที่เราซื้อมา

เหมาะดีที่จะสุนทรีเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย

สิ่งที่ชอบมากอย่างหนึ่งของห้องพักคือผนังห้องหรือใดๆมันช่างเนียนใสยิ่งกว่าหน้าเรา เหมาะอย่างยิ่งในการเซลฟี่ข่าาา
แล้วก็นอนพักยาวๆ รอแดดหมดก่อน เขารุนแรงเกินไป หนูสู้ไม่ไหวจริงๆ...



[CR] ห ญิ ง เ ดี่ ย ว เ ที่ ย ว เ ชี ย ง ค า น ..ฝนแล้วไงอยากไปซะอย่าง!
นั่นก็คือ อกหัก ไง!! ไอ ไอ ไอ ไอ ไอ...
อยู่กรุงเทพแล้วฝุ่นควันมันยิ่งทำให้ใจมัวหมอง พอเจอสอบกลางภาคเข้าไปยิ่งช้ำหนัก เพราะงั้นตัดสินใจแล้ว
ไปเถอะไป ไปเที่ยวกันเถอะเรา อยากไปมานานแล้วนี่ ออกแบ็คแพ็คคนเดียวครั้งแรก ลุยกัน!!
จองตั๋วไป-กลับ ดูบ้านพัก วางแผน บลาๆๆๆๆ แบบส่งๆ มั่วๆ ไม่ได้แพลนมากมาย ยังไงก็ไปมั่วที่นั่นได้แหละน่า!
ได้ยินว่ามีคนรีวิวมาเยอะ แต่ไม่เคยเข้าไปอ่านรีวิว เออเอาเถอะ ไปอ่านเอาหน้างานก็ได้วะ
ประเดิมแรกขอแนะนำเพื่อนร่วมทริปในครั้งนี้
ผู้บันทึกภาพหมายเลข 1 ... Iphone 5c ร้าวๆ
ผู้บันทึกภาพหมายเลข 2 ... Xiaomi yi ต๊องๆ
ผู้บันทึกภาพหมายเลข 3 ... ดวงตาของเราไง!!
จุดประสงค์ครั้งนี้น่ะรึ... หึหึ เอาความรู้สึกเราต่อเขาไปลอยทิ้งแม่น้ำโขงซะ!!!! เย้เย้
*ค่าใช้จ่ายจะลงไว้หลังจบการรีวิวรูปนะคะ*
สอบกลางภาควันสุดท้าย เช้า-บ่ายวันที่ 23 ใช่มั้ย... เดินทางเลยค่ำวันที่ 23 ละกัน ใจร้อน
แต่โดนดาเมจจากวิชาหฤโหดมา ขอเติมพลังเบาๆก่อนแล้วกัน ช้ำในมาก กินหนักไม่ได้
แล้วก็จับมือกับลูกสาวเล็กน้อย บอกยาใจว่าเค้าขอไปเที่ยวก่อนนะอีกสองวันกลับ
ตั๋วพร้อม เราพร้อม ตื่นเต้นนนนนนนนนนนน พ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอานี่สั่งเสียกันใหญ่
บอกไปแล้วไม่ต้องกลับนะ กินเยอะเปลืองข้าวสุก
วันพุธหากใครจำได้ กทม ฝนตกแรงมากข่าาา แบบนั่งในร่มยังเปียกชื้นถึงชั้นใน
ขนาดลุงหมายังอยากขึ้นรถไปหลบฝน
พระเอกของเราในงานนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก บขส ผู้แสนดีและอับชื้น
ขนมปังถั่วดำงาขาวอร่อยนะเออพูดเป็นเล่น
เปิดไพ่ใบที่หมอบอยู่....
วาร์ปซี
Zzz...
แปปเดียวก็เช้า รถปรับอากาศชั้น 1 ค่อนข้างนอนไม่สบาย ตามราคานั่นล่ะเนอะ
ใครอยากสบายอีกนิด เพิ่มเงินแล้วนั่ง VIP ก็แจ่มแมว แถมไปคนเดียวเลือกที่นั่งคนเดียวได้ด้วย
อันนี้โชคดีขาไปคนน้อยเลยไม่มีคนนั่งข้างๆ สบายไปเปราะหนึ่งเนอะ
รถ บขส ส่งท่านถึงเชียงคานแบบไม่ต้องต่อรถ ลงหน้าตลาดสดพอดี อากาศตอนเช้าหมอกลง กำลังเย็นสบาย
จากนั้นด้วยความไม่รู้เลยนั่งรถสามล้อให้ลุงไปส่งที่ถนนชายโขง 20 บาท
ทั้งที่จริงถ้าเป้ไม่หนักมากเดินไปได้เลยนะ แหม่ ไม่เป็นไร อยู่กทมไม่ค่อยได้นั่งหรอก กทม มีสามล้อที่ไหน! (ตุ๊กๆล่ะ?)
ทุกเช้าชาวบ้านจะตักบาตรกัน โดยวัดก็จะอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ เป็นบรรยากาศน่ารักๆที่หาได้ในต่างจังหวัดทุกที่เนอะ
เราเองซึ่งไม่เคยมา เห็นหลวงตาเดินบิณฑบาตร มีเด็กวัดสี่ขาเดินตามด้วย เลยเดินตามหมาด้วยเลย
เดินไปๆ ก็ถึงที่ที่เราหมายตาไว้ตอนแรก นั่นคือไทยกันเองของป้าเป๊ะแสนใจดี
แต่ด้วยความที่ทริปครั้งนี้ได้ท่านบิดาเป็นสปอนเซอร์ทั้งหมดทั้งปวง ท่านพ่อประสงค์ให้เราพักอีกที่ เราก็เลยตามนั้น
บ้านสุพิชญา
ประตูแบบโบราณที่เราชอบมากๆ ไม่มีกลอนไม่มีอะไร แค่คล้องไว้ง่ายๆ
พอเปิดออกไป...
หมอกจ๋าาาา สวัสดีจ้ะ เราโสดนะ จีบเราเลยยยยย
ด้านหลังมีเส้นทางจักรยานเลียบแม่น้ำโขง ตอนเช้าคนมาเดินเล่นออกกำลังกายกัน เราก็ไม่รอช้า รีบไปเช่าจักรยานมาปั่น
เช่าแต่เช้า เช่าได้ทั้งวัน งานนี้มีหรือจะไม่คุ้ม รับประกันความคุ้มค่าโดยรอยยิ้มของคุณยายร้านเช่า เสียดายจังไม่ได้ถ่ายไว้
แต่ที่ถ่ายไว้คือจักรยานคันมุ้งมิ้ง
ความเดียวดายไม่ใช่เรื่องตลก... แต่มันเกิดตลอด!
จากนั้นก็ปั่นไปตระเวนถ่ายจุดต่างๆ กล้องมือถือธรรมดาหรือจะสู้กล้องDSLRราคาแพง
ก็เหมือนคนหน้าตาบ้านๆดำดินอย่างเราหรือจะสู้สาวสวยดีกรีมหาลัยดังอย่างเขา... เดี๋ยวๆ ทำไมเป็น "เขา" วะ
ปั่นไป เพ้อไป พูดคนเดียวไป ก็หิวไง พอปั่นลงเนินแล้วกลิ่นหอมมันแตะจมูกนี่ถึงกับเบรกเอี๊ยดอ๊าดให้กับร้านแรกของวัน...
สั่งป้าบอกป้า เอาข้าวเปียกไม่ใส่หมูค่ะ ป้าก็งง แต่ก็ทำ 555 จริงๆแล้วข้าวเปียกที่นู่นจะใส่หมูยอนะคะ
แล้วก็ประชาสัมพันธ์กันสักเล็กน้อยสำหรับคนว่างเดือนพฤศจิกายน น่าไปมากกกก (ข้าน้อยติดสอบ งามไส้สุดๆTT)
จากนั้นก็ปั่นๆจักรยานกัน แนะนำว่าช่วงหมอกลงอ่ะปั่นไปเถอะ เพราะอีกไม่นานเดี๋ยวรู้เลย 55
คนปกติเขาถ่ายกับป้ายกับอะไรที่มันเชียงค๊านเชียงคาน นี่ขอถ่ายกับหมอกละกัน เผื่อเอาไปเช็คอินว่าอยู่เกาหลีได้
ปั่นไปสักพักท้องมันบอกว่า ข้าวเปียกเมื่อกี้อร่อยว่ะแกร แต่อยากกินอีก โอเค มาเที่ยวทั้งทีพี่จะตามใจน้อง
จอดดิเอ๋จอด!!
บอกป้า ขอข้าวเปียกไม่ใส่หมูยอ ป้าก็กลายเป็นคนงงคนที่ 2 ของเชียงคาน แล้วก็จัดให้เด็กแปลกๆอย่างเรา
คืองานดีมากกก รักเห็ดหอม ชอบเห็ดหอม อร่อยยยยย ยอมใจ ยอมอ้วน ยอมท้องแตก -กกกกก
เสร็จมื้อที่ 2 เราก็ไปหาที่นั่งเอื่ยเฉื่อยกันสักหน่อย
แล้วก็มีคนมานั่งแซะข้างเรา
แดดจะมาแล้วอ่ะหมาจ๋า เราขอไปแอ่วอีกสักหน่อยเนอะ
นมคาราเมลคืองานดีมากข่าาาา หอมหวานอร่อยในราคา 30 บาทสวยๆ บรรยากาศร้านดีงาม
เท่านั้นยังไม่พอ เราได้ยินเสียงแมวเหมียว เจ้าของร้านเลยบอก เข้าไปดูข้างในได้ครับ
อ้าววว เบิกทางขนาดนี้ จะรออะไรล่ะคะ ไปค่ะไป
แล้วเราก็พบว่าด้านหลังบ้านคือบ้านแมวววววววววว
น่าเสียดายน้องแมวคงจะกลัวเราเลยไม่ยอมมารับแขก มีแค่ตัวเดียวยอมมาดมๆแล้วจากไป
แป๊ปๆก็ใกล้เที่ยง เอ้า งั้นมาหามื้อที่ 3 ของเราเลยแล้วกัน
บอกพี่คะๆ เอาข้าวปุ้นไม่ใส่หมูนะ เขาเลยให้ไข่ต้มมาแทน
ตัวกินผักอย่างเราหลงรักสีเขียวมาก
ตบท้ายด้วยของหวาน เขาบอกกันว่ามานี่พลาดไม่ได้กับไอติมลุงเติบเนอะ
ถ่ายย้อนแสงขึ้นท้องฟ้าสักหน่อยให้ดูร่มเย็น แต่ความจริงน่ะรึ
แดดเริ่มแรง เราควรจะเข้าที่พักก่อนที่ผิวเราจะมอดไหม้ยิ่งกว่ามันทอดที่เราซื้อมา
เหมาะดีที่จะสุนทรีเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย
สิ่งที่ชอบมากอย่างหนึ่งของห้องพักคือผนังห้องหรือใดๆมันช่างเนียนใสยิ่งกว่าหน้าเรา เหมาะอย่างยิ่งในการเซลฟี่ข่าาา
แล้วก็นอนพักยาวๆ รอแดดหมดก่อน เขารุนแรงเกินไป หนูสู้ไม่ไหวจริงๆ...
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น