Part พิเศษ  ประสบการณ์การเช่ารถขับในอเมริกา http://pantip.com/topic/35242067
Part 12 ทริปพาเที่ยว Canadian Rockies กับเหล่า Avengers สาวทั้ง 6 http://pantip.com/topic/35196719
Part 11 ไปดูแสงเหนือที่ Alaska แต่ Alaska Winter ไม่ได้มีดีแค่แสงเหนือ http://pantip.com/topic/34888818
Part 10 ภูเขาสูง หิมะขาวโพลน Winter @ Yosemite http://pantip.com/topic/34835960
Part 9 มหัศจรรย์การสร้างสรรค์ของธรรมชาติ Antelope Canyon และ Zion Nation Park http://pantip.com/topic/34788566
Part 8 ฝ่าพายุหิมะไปยัง Bryce Canyon National Park, Utah http://pantip.com/topic/34754027
Part 7 จุดหมายในฝัน หนึ่งเดียวในอเมริกา Harry Potter@ Orlando http://pantip.com/topic/34641279
Part 6 ใต้สุดของอเมริกา Key West กับเมืองชายหาดอันโด่งดัง Miami Beach http://pantip.com/topic/34621815
Part 5 Chicago เมืองชิคๆ ที่ไม่ได้อยากมา แต่... http://pantip.com/topic/34612352
Part 4 Autumn in Yosemite National Park & Lake Tahoe http://pantip.com/topic/34443866
Part 3 Maui, Hawaii เกาะสวรรค์ (เหมือนขึ้นไปบนสวรรค์จริงๆ)  http://pantip.com/topic/34358475
Part 2 Highway no.1 ถนนที่สวยที่สุดชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา http://pantip.com/topic/34277681
Part เสริม Disneyland LA และการเล่นเครื่องเล่นสำคัญๆใน Park ให้ครบภายใน 1 วัน http://pantip.com/topic/34277393

เมื่อโชคชะตา นำพาให้ผมกับภรรยาต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกา 1 ปี ภารกิจหลักคือ เรียน แต่ภารกิจหลักกว่าของเราคือ เที่ยวววววว แหะๆๆๆ (มาถึงแล้วก็อยากเก็บประสบการณ์ให้ครบนะครับ) เลยอยากแบ่งปันประสบการณ์การมาอเมริกา เผื่อสมาชิกพันทิปท่านอื่นเอาไปเป็นแนวทาง (เพราะผมก็ได้ความรู้จากประสบการณ์ของรีวิวในนี้เยอะเหมือนกัน) และผมอยากเก็บเรื่องราวของตัวเองไว้ เผื่อลืมรายละเอียด จะได้เอากลับมารำลึกมันได้
ตอนนี้เรามาอยู่ที่ San Francisco กันได้เกือบ 2 เดือนแล้ว จะรีวิวไปเรื่อยๆจนเรากลับนะครับ ที่แรกที่จะขอแชร์ประสบการณ์เลยคือ San Francisco เมืองที่เรามาอยู่

เริ่มเรื่องเลยนะครับ

จากไทย เราบินกันมาด้วยสายการบิน EVA Airline ไป Transit ที่ใต้หวันครับ สายการบินมาที่ San Francisco หรือ LA มีPromotion เรื่อยๆนะครับ ช่วง Promotion ราคาค่าตั๋วก็ไม่น่าเกิน 30,000 บาท(เห็นว่าตอนนี้ยังมี Pro อยู่) แต่เราจองมาขาเดียว แบบไม่มีโปร เพราะขากลับยังไม่รู้วันกลับ และตอนจองจะมาไม่มีโปรออกมาด้วย เลยจองในราคาใกล้เคียงกับราคา Promotion ไป-กลับเลย (EVA airline ใช้เวลาการบินประมาณ 17 ชม.) ของ EVA ให้กระเป๋าโหลดคนละ 2 ใบๆละ 23 กก. นะครับ

การเช่ารถ
มาเที่ยวที่อเมริกานี่ แนะนำให้เช่ารถนะครับ มีแต่เฉพาะที่ San Francisco การขนส่งดี มี Metro มีรถบัสครอบคลุมทั้งเมือง และเป็นเมืองเล็กๆ ก็ไม่ต้องเช่ารถก็ได้นะครับ แต่ถ้าออกไปนอก San Fran แนะนำให้เช่ารถขับเองนะครับ สำหรับ Website ที่ใช้เช่ารถที่ผมใช้ประจำก็มี
http://www.carrentals.com/ กับ
https://www.priceline.com/ นะครับ
2 เจ้านี้มันดีตรง มันจะเรียงลำดับราคากับสถานที่ๆใกล้เราก่อน ส่วนเจ้าอื่นๆส่วนใหญ่จะมีให้แต่สนามบิน และบางทีถ้าลองหาดูดีๆ ถ้าจะเช่ารถที่นึง คืนอีกที่นึง บางเจ้าค่าเช่าอาจจะแพงกว่า แต่ไม่เสียค่าคืนรถต่างสถานที่ คำนวณไปมาถูกกว่าเยอะ มีนะครับ เคยจองที่ San Francisco ไปคืน LA ของ National ไม่เสียค่าการคืนต่างสถานที่เลย และที่สำคัญยิ่งจองก่อนเวลานานๆ ราคาเช่ารถยิ่งถูกนะครับ
**เช่ารถก็อย่าลืมเตรียมใบขับขี่สากล กับใบขับขี่ไทย ไปด้วยนะครับ ใช้คู่กันตอนเช่า แต่คนที่มาอยู่หลายเดือน จนเป็นปีแบบผม กฎหมายของรัฐ CA เค้าไม่ให้ใช้ใบขับขี่สากลครับ เค้าให้ไปทำใบขับขี่ของรัฐเค้า และใบขับขี่ของที่นี่ใช้แทนเป็น ID Card ได้ด้วย สอบผ่านละเมื่ออาทิตย์ก่อน
***เช่ารถอย่าลืมซื้อประกันนะครับ ค่าประกันรถเช่าที่นี่รวมกันไปมาแพงกว่าค่าเช่ารถเสียอีก ประกันรถเช่าที่นี่จะมีอยู่ 4 แบบ
1. Collission Damage หรือ Damage Waiver อันนี้เป็นแบบประกันตัวรถเช่า ไปชนใครมา หรือไปชนอะไรมาก็แล้วแต่ซ่อมรตัวเองอย่างเดียว (ตัวนี้บริษัทรถเช่าบังคับซื้อ) หน้า Couter จะแพงกว่าหน้า Web เพราะฉะนั้นซื้อหน้า Web ไปดีกว่า
2. Liability Protection ตัวนี้จะเป็นประกันรถหรือตัวบุคคลคนอื่น เมื่อเราไปชนคนอื่น ตัวนี้จะแพงกว่าอันแรก และไม่มีขายหน้า Web (ถ้ามีขายหน้า Web ทางไหนถูกๆ แนะนำกันด้วยนะครับ) ต้องไปซื้อที่ Counter ซึ่งแพง แต่ก็จำเป็นต้องซื้อ
แนะนำแค่ 2 อันนี้แหละ พอแล้วครับ ถ้า Counter แนะนำอะไรเพิ่มก็ไม่ต้องซื้อละ เปลือง

การเช่ารถที่สนามบิน ค่าเช่ารถอย่างเดียวจะถูกกว่าเช่าในตัวเมืองเยอะ แต่เช่าที่สนามบินจะมีบวกค่านู่น ค่านี่ เพิ่มเยอะกว่าเช่าในเมือง เช่น ค่านักท่องเที่ยว ค่าจอดรถในสนามบิน ค่านั่ง Air Train ไปยังอาคารเช่ารถ (ที่สนามบินซานฟราน อาคารเช่ารถอยู่แยกออกจาก Terminal ต้องนั่งรถไฟ Air Train ไป) ไปๆมาๆแพงกว่าเช่ารถในตัวเมืองเสียอีก ลองดูดีๆนะครับ ถ้าจะเที่ยวซรานฟรานก่อนไปที่อื่น แนะนำให้เช่ารถในเมืองดีกว่า

สถานที่พัก
ที่พักและค่าครองชีพที่ San Francisco ขอบอกว่าแพงมาก แพงเกือบๆจะเท่า New York เคยเจอบาง Website ที่สำรวจเรื่องนี้ บอกว่าเท่าๆกัน เพราะฉะนั้น เจอที่พักที่นี่แพงๆ ไม่ต้องตกใจ แพงเป็นปกติ แต่เมืองนี้ ค่อนข้างปลอดภัยเกือบทุกที่ครับ ขอย้ำว่า"เกือบ"ทุกที่ เพราะฉะนั้น ถ้ามาเที่ยวก็หาที่พักใกล้ downtown จะดีกว่าเพราะแหล่งท่องเที่ยวอยู่แถวๆนั้น หรือที่แนะนำเลยคือ หาบ้านที่เค้าปล่อยให้เช่าห้องแบบ Airbnb ก็ดีครับ ราคาไม่แพง บางทีได้ทั้งชั้น บ้านพัก BNB ที่นี่ราคาไม่แพง และสวยเกือบทุกหลังครับ ผมมาอยู่ที่นี่ช่วง 2-3 วันแรกก็นอน Airbnb ไปก่อน เพราะบ้านที่จะไปอยู่ยังเข้าไปอยู่ไม่ได้

รูปนี้ถ่ายจากหน้าต่างบ้านพัก บ้านใน San Fran จะอยู่ตามเนินเขา


บ้านในเมือง San Francisco จะเป็นแนวๆนี้ครับ สีสันสดใส บ้านจำนวนมากมีอายุมากกว่า 100 ปีนะครับ มีการบูรณะกันอยู่เรื่อยๆ



การคมนาคมขนส่ง
เมือง San Francisco เป็นเมืองที่มีการคมนาคมขนส่งที่ดีมากครับ ประกอบกับเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มาก ทำให้การเดินทางสะดวก ในเมืองจะมีระบบขนส่งสาธารณะหลายอย่างครับ
1. Muni เป็นระบบขนส่งของรัฐ Muni ครอบคลุมทั้งรถเมล์ และรถ Metroหรือรถราง ค่าขึ้นก็คนละ $2.25 ตั๋วนึงก็ใช้ได้ประมาณ 1.30 ชม.หรือ ตามแต่ที่คนขับรถจะฉีกตั๋วให้ (ที่ตั๋วจะมีบอกเวลาสิ้นสุดอยู่) หรือมีตั๋วเดือนราคา $70 แต่ถ้ามาท่องเที่ยวแนะนำซื้อเป็นแบบ Pass ดีกว่าครับ มีแบบ 1 day 3 days และ 7 days ดูตาม Website นี้เลยครับ Pass สามารถขึ้นได้ทั้งรถเมล์ รถราง รถ Cable Car
https://www.sfmta.com/getting-around/transit/fares-passes/visitor-day-passes

นี่คือ Cablr Car อันเลื่องชื่อของเมือง San Francisco


นอกจากนี้ยังมี Bart เป็นรถไฟที่วิ่งใต้ดินและบนดิน วิ่งเชื่อมเมืองใกล้ๆและสนามบิน นักท่องเที่ยวที่มาจากสนามบินถ้าจะเข้าเมือง แนะนำให้นั่ง Bart เข้านะครับ ราคาไม่แพง (คิดตามสถานีใกล้ไกล) สะดวกสบาย

และสุดท้ายรถไฟที่วิ่งระหว่างเมืองที่ไกลออกไป คือ Caltrain อันนี้ถ้าจะมาเที่ยว แนะนำเช่ารถดีกว่านั่งรถไฟนี้นะครับ เพราะมีสายเดียว วิ่งขึ้นจากเหนือลงใต้ ไม่ได้ผ่านที่ท่องเที่ยวอะไรมากมาย