ชี้ชะตา"นพดล" หนุนเขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร4ก.ย. | เดลินิวส์
ศาลฎีกา ฯ นัดชี้ชะตา นพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยไม่ผ่านรัฐสภา“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/crime/345753
มาดูคำว่า " หนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก " กัน
ว่ารัฐบาลก่อนหน้านายกสมัคร ก็ได้เคยหนุนฯเช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำ แปลอย่างไม่เป็นทางการ ของอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ คณะกรรมการมรดก สมัยประชุมที่ 31 เมืองไครส์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน-2 กรกฎาคม 2550
ซึ่งนายนพดล ปัทมะ
ระบุว่ารัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ในขณะนั้นเข้าร่วมประชุมและลงนามพร้อมสนับสนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนประสาทพระ วิหารไว้ก่อนแล้ว
คณะกรรมการการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ
คณะกรรมการมรดกโลก
สมัยประชุมที่ 31 Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์
23 มิถุนายน-2 กรกฎาคม 2550
คณะกรรมการมรดกโลก
1.ได้ตรวจสอบเอกสาร WHC-07/31.COM/8B และ WHC-07/31.COM/INF.8B.1
2.รับทราบคำแถลงของประธานคณะกรรมการมรดกโลกซึ่งคณะผู้แทนกัมพูชาและไทยได้เห็นพ้องด้วยแล้วดังต่อไปนี้
" รัฐภาคีกัมพูชาและรัฐภาคีไทยเห็นพ้องกันอย่างเต็มที่ว่าปราสาทพระวิหารอัน ศักดิ์สิทธิ์มีคุณค่าสากลที่โดดเด่นและจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดก โลกโดยเร็วที่สุด ดังนั้น กัมพูชาและไทยตกลงกันว่ากัมพูชาจะเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก อย่างเป็นทางการในสมัยประชุมที่ 32 ของคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2551 โดยการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากไทย
ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันด้วยว่า ปราสาทจำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่อย่างรีบด่วนและต้องการสนับสนุนทางการ เงินและทางวิชาการจากนานาชาติ และต้องการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างไทยและกัมพูชา
ทั้งสองฝ่าย เห็นพ้องกันต่อไปว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำการอนุรักษ์และจัดการปราสาท อย่างแข็งขันรวมทั้งให้มีการพัฒนาแผนการจัดการที่เหมาะสมตามที่กำหนดโดยความ ในวรรค 108 ของ แนวทางปฏิบัติ (Operational Guidelines) ซึ่งจะให้ประกันการคุ้มครองปราสาทแห่งนี้ในอนาคต
ทั้งสองฝ่ายมีความ เข้าใจสืบเนื่องจากการปรึกษาหารือกับศูนย์มรดกโลกว่าความช่วยเหลือทางการ เงินและวิชาการสำหรับการพัฒนาแผนการบริหารจัดการจะได้รับจากโครงการความช่วย เหลือระหว่างประเทศของศูนย์มรดกโลก"
3.รับรองว่าปราสาทพระวิหารอัน ศักดิ์สิทธิ์มีความสำคัญระหว่างประเทศเป็นอย่างยิ่งและมีคุณค่าสากลที่โดด เด่นบนพื้นฐานของเงื่อนไข 1.2 และ 4 ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการว่าปราสาทควรได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่ประชุมรับทราบว่ากระบวนการขึ้นทะเบียนอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
4. ร้องขอรัฐภาคีกัมพูชาให้ทำการอนุรักษ์และบริหารจัดการปราสาทอย่างแข็งขันโดย พัฒนาแผนบริหารจัดการที่เหมาะสมให้มีความคืบหน้าซึ่งจะทำให้ปราสาทพระวิหาร ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยที่ 32 ในปี 2551
5.ร้องขอต่อรัฐภาคีกัมพูชาให้เสนอรายงานความคืบหน้าต่อศูนย์มรดกโลกภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=39429&catid=1
แต่ทั้งนี้ในช่วงรัฐบาลก่อนนายกสมัครนั้น กัมพูชาได้ยื่นเอกสารต่อยูเนสโก้ ที่มี
คลิ๊กแผนที่ของตัวเองแนบไปแบบเต็มๆ
จึงทำให้ถูกคัดค้านจากที่ประชุม และที่ประชุมก็ได้ให้ไทยเเละกัมพูชาไปตกลงกันใหม่ และนำมาพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
ต่อจากนั้นมาถึงรัฐบาลสมัคร ก็มีการตกลงข้อแถลงการร่วมโดยมีการตัด
คลิ๊กแผนที่ของกัมพูชา ออกไป และเมื่อดูยังไงก็ Win-Win ทั้งสองประเทศ ไม่มีใครเสียดินแดนเลย แม้แต่ทางฝ่ายแผนที่ทหารก็ให้การรับรอง
และตามเอกสารแถลงร่วม พื้นที่ 4.6 ตร.กม ก็ยังตกลงกันที่ข้อ 5 ว่า ...
5. การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกจะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิของราชอาณาจักรกัมพูชาและราชอาณาจักรไทยในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ของทั้งสองประเทศ
อ่านเพิ่มเติมที่ http://pantip.com/topic/31229919
ร่วมลุ้นและเกาะติด คดีของคุณ นพดล ปัทมะ บ่ายนี้กัน
ศาลฎีกา ฯ นัดชี้ชะตา นพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยไม่ผ่านรัฐสภา“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/crime/345753
มาดูคำว่า " หนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก " กัน
ว่ารัฐบาลก่อนหน้านายกสมัคร ก็ได้เคยหนุนฯเช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ทั้งนี้ในช่วงรัฐบาลก่อนนายกสมัครนั้น กัมพูชาได้ยื่นเอกสารต่อยูเนสโก้ ที่มีคลิ๊กแผนที่ของตัวเองแนบไปแบบเต็มๆ
จึงทำให้ถูกคัดค้านจากที่ประชุม และที่ประชุมก็ได้ให้ไทยเเละกัมพูชาไปตกลงกันใหม่ และนำมาพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
ต่อจากนั้นมาถึงรัฐบาลสมัคร ก็มีการตกลงข้อแถลงการร่วมโดยมีการตัดคลิ๊กแผนที่ของกัมพูชา ออกไป และเมื่อดูยังไงก็ Win-Win ทั้งสองประเทศ ไม่มีใครเสียดินแดนเลย แม้แต่ทางฝ่ายแผนที่ทหารก็ให้การรับรอง
และตามเอกสารแถลงร่วม พื้นที่ 4.6 ตร.กม ก็ยังตกลงกันที่ข้อ 5 ว่า ...
5. การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกจะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิของราชอาณาจักรกัมพูชาและราชอาณาจักรไทยในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ของทั้งสองประเทศ
อ่านเพิ่มเติมที่ http://pantip.com/topic/31229919