กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 มาตรการ เสนอ ครม. ในวันที่ 1 กันยายน 2558 อัดเงินลงทุน 136,000 ล้านบาท ช่วยผู้ที่มีรายได้น้อย กระจายรายได้สู่ชุมชน ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย เตือนระวังหนี้เสีย

         เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2558 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันที่ 1 กันยายนนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 มาตรการเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนสามารถเข้าไปรับงานโครงการรัฐได้ จะทำให้เกิดเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจ ได้แก่

       1. มาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น

         2. มาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐผ่านตำบล ๆ ทั่วประเทศ โดยมีผู้ว่าราชการทุกจังหวัดเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ

         3. มาตรการใช้จ่ายงบประมาณการลงทุนโครงการขนาดเล็กในพื้นที่

         นายอภิศักดิ์ กล่าวต่อว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง 3 มาตรการ มีเม็ดเงินรวมประมาณ 136,000 ล้านบาท ซึ่งต้องเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อพยุงเศรษฐกิจในปีนี้ให้จีดีพีโตได้ 3% เพื่อประสานกับการลงทุนขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าและหาก ครม. อนุมัติก็สามารถดำเนินการได้ทันที ประกอบด้วย

        1. ปล่อยกู้สินเชื่อให้แก่กองทุนหมู่บ้านผ่านธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงิน 5.9 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี แต่ต้องนำเงินที่ได้ไปสร้างรายได้ ห้ามนำไปใช้หนี้เดิม

         2. จัดสรรเงินแบบให้เปล่า 7 พันตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท รวมวงเงิน 3 หมื่น 5 พันล้านบาท เพื่อจ้างงานในชนบท

         3. จัดงบลงทุนให้ส่วนราชการที่เสนอโครงการลงทุนขนาดเล็กไม่เกิน 1 ล้านบาท วงเงินรวม 1.6 หมื่นล้านบาท

     ที่มา http://money.kapook.com/view128055.html
##################################################################################

           ในมุมมองส่วนตัว ผมเห็นว่ามันช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นก็จริง แต่ระยะยาว อาจมีปัญหา  เพราะนโยบายนี้คิดกันระยะสั้น ไม่มีการวางแผนทีรอบคอบ  จะป้องกันการจัดสรรค์เงินให้ใช้ถูกตามวัตถุประสงค์ได้อย่างไร  
     
             อย่างข้อ 1 ปล่อยสินเชื่อ วงเงิน 5.9 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี แต่ต้องนำเงินที่ได้ไปสร้างรายได้ ห้ามนำไปใช้หนี้เดิม
                       - คำถามจะป้องกันการปลอมแปลง หรือ เมค เรื่องสร้างโครงการลมได้อย่างไร ใครเป็นคนตรวจสอบ ถึงแม้จะผ่านธนาคารออมสิน แต่ต้องเร่งอนุมัติเบิกจ่าย เหมือนการสร้างภาพ อนาคตระยะยาว ถ้าเกิดหนี้เสียหนี้ครัวเรือน เพราะไม่ได้นำเงินไปสร้างรายได้จริง จะทำเช่นไร ทำแบบนี้เหมือนแค่ปล่อยเงินเพื่อเพิ่มยอด GDP ให้ดูดีเฉยๆ  
         
             2. จัดสรรเงินแบบให้เปล่า 7 พันตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท
                      - มีโครงการแล้วเหรอไง แต่ละตำบล ไม่ใช่ไปซื้อเครื่องทำปุ๋ยวางไง้แต่ละชุมชนเหมือนเดิม   คำว่าจ้างงานในชุมชน จ้างอย่างไร ใครเป็นผู้จ้าง ตรวจสอบอย่างไร เหมือนเอาเงินไปโยนให้ผู้นำท้องถิ่น แล้วจะป้องกันให้มีการใช้เงินอย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างไร

            3.จัดงบลงทุนให้ส่วนราชการที่เสนอโครงการลงทุนขนาดเล็กไม่เกิน 1 ล้านบาท วงเงินรวม 1.6 หมื่นล้านบาท
                       -ขนาดสนามฟุตซอล เครื่องเด็กเล่นมันยังโกงกันเลย ตรวจสอบทุจริตยังไม่เสร็จเลย ยังเพิ่มช่องทางทำมาหากินให้กับพวกเหลือไรอีก

           ผมไม่เห็นว่ามันจะช่วยประเทศได้แบบชาญฉลาดตรงไหนด้วยวิธีเหล่านี้ เพียงแค่เพิ่มยอด จีดีพีระยะสั้น

         สรุปยังไม่โดนครับ โครงการระยะสั้น โยนเงินไปแบบนี้  ชาวบ้าน หรือ ผู้นำท้องถิ่นอาจพอใจ แต่ในระยะยาวก็จะเหมือนกับโครงการ กองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละล้าน ที่มีโบราณวัตถุ เช่นเครื่องบดปุ๋ยใช้ไม่ได้วางอยู่กลางหมู่บ้าน อยากเห็นมาตรการที่ป้องกันที่มาพร้อมกับนโยบายครับ