ต่อจาก Part 1 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa
http://pantip.com/topic/33870954
Part 2 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 2 เที่ยวกัวลาลัมเปอร์
http://pantip.com/topic/33878708
Part 3 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 3 ชิมลาง Copenhagen
http://pantip.com/topic/33887984
Part 4 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 4 ชมเมืองน่ารัก Helsingor
http://pantip.com/topic/33909339
Part 5 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 4 พาเที่ยว Helsingborg & Malmo
http://pantip.com/topic/33918582
Part 6 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 5 ชมวังอลังการ ใน Copenhagen
http://pantip.com/topic/33936462
Part 7 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 6 เที่ยว Stockholm ราชินีแห่งทะเลบอลติก
http://pantip.com/topic/33950029
Part 8 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 6 เที่ยว Stockholm ชมพิพิธภัณฑ์ขึ้นหอคอยสูง
http://pantip.com/topic/33968804
Part 9 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 7 ขึ้นเรือสำราญวันแรก
http://pantip.com/topic/33973448
Part 10 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 8 พาชมเรือสำราญ Luminosa
http://pantip.com/topic/33981989
Part 11 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 9 Helsinki สวยเกินคาด
http://pantip.com/topic/33998820
ลืมเล่าไปว่าเมื่อ 2 วันก่อนเราได้รับเอกสารจากทางเรือสำราญเสียบไว้ในกล่องรับจดหมายหน้าห้องนอน ให้ไปติดต่อรับพาสปอร์ต เพราะเมื่อเรือเดินทางถึงเมือง St.Petersburg ผดส.ทุกคนต้องใช้พาสปอร์ตเพื่อผ่านด่านตม.ของรัสเซีย วันนี้เราตื่นเช้าทำกิจวัตรประจำวันด้วยการขึ้นลิฟต์ไปชั้น 9 เข้าห้องอาหารบุฟเฟ่ต์แห่งเดิม พอทานเสร็จก็ออกจากเรือเตรียมตัวเดินทางเข้าไปเที่ยวเมือง St.Petersburg ที่ได้ชื่อว่าสวยงามนักหนา แต่น่าแปลกใจเล็กๆตรงที่แผ่นเอกสารประจำวันของเรือ ไม่มีการบอกราคาค่ารถบัสรับส่งเข้าเมืองเหมือนตอนจอดเที่ยวเฮลซิงกิ แสดงว่าไม่มีรถบัสของเรือมาให้บริการ แต่มีการขายทัวร์ท่องเที่ยวเมืองตามปกติ
พอเดินออกจากเรือสำราญ ทุกคนต้องเดินเข้าอาคารหลังนี้ เพื่อให้จนท.ตม.ของรัสเซียตรวจสอบพาสปอร์ตและวีซ่า คนไทยสามารถเที่ยวในรัสเซียได้ถ้าอยู่ไม่เกิน 30 วัน เราสองคนเลยเดินตัวปลิวผ่านตม.แบบสบายๆ แต่คนต่อคิวยาวเหยียดเลยใช้เวลานานเหมือนกันกว่าจะผ่านด่านได้
หลังจากผ่านด่านออกมาก็จะเจอบูธขายของที่ระลึกต่างๆ
เราลองถามคนขายสาวสวยที่บูธนึง ดีที่สาวรัสเซียคนนี้พูดอังกฤษได้ เธอบอกว่าแค่เดินออกจากอาคารนี้ ก็จะเจอป้ายรถบัสอยู่ติดอาคารนี้เลย โอ้ว ง่ายมากๆ เข้าใจแล้วว่าทำไมทางเรือสำราญถึงไม่จัดรถบัสไว้คอยบริการรับส่งผดส. เพราะรถบัสประจำทางของเมือง St.Petersburg มันวิ่งตรงเข้ามารับคนถึงในท่าเรือสำราญเลย สะดวกดีจริงๆ
ระหว่างยืนรอรถบัส ผมลองคุยกับสาวเอเชียตัวเล็กๆคนนึง เธอเป็นคนอินโดนีเซีย มาทำงานเป็นบริกรบนเรือสำราญมาร์โคโปโล (ผมจำได้ว่าเรือเจ้านี้ราคาสูงทีเดียว) เธอเพิ่งออกจากกะ เลยคิดจะไปเที่ยวในเมืองนี้เป็นครั้งแรก ผมถามเธอว่าค่ารถบัสเท่าไหร่ เธอเดาว่าน่าจะ 20-30 รูเบิล แต่เธอไม่มีเงินรัสเซีย มีแต่เงินยูโร คาดว่าน่าจะใช้แทนกันได้ เพราะเหรียญ 1 ยูโร มันมีค่าเกินกว่าค่ารถที่คิดเป็นเงินรูเบิล เธอกะจ่ายเงินเหรียญ 1 ยูโรให้คนขับรถบัส ส่วนตัวผมไม่มีปัญหาเพราะเตรียมเงินรูเบิลมาแล้ว ดีใจที่เจอคนร่วมทาง เราจะได้ขอเกาะเธอเข้าเมืองซะเลย เพราะแฟนผมเธอหาข้อมูลไม่ได้ว่าจากท่าเรือสำราญมันจะเดินทางเข้าตัวเมืองได้ด้วยวิธีใด
รถบัสมาถึงแล้ว สาย 158
พอพวกเราขึ้นรถบัส ตรงไปจ่ายเงินค่ารถกับคนขับแต่กลายเป็นว่าคนขับรถไม่รับเงินยูโร ผมเลยจ่ายเงินรูเบิลแทนสาวอินโดซะเลย (จำไม่ได้ว่าค่ารถคนละเท่าไหร่ แต่คุ้นๆว่าไม่แพง ไม่น่าถึง 30 รูเบิล/คน) เธอพยายามคืนเงินผมด้วยเหรียญ 1 ยูโร แต่ผมไม่รับ บอกเธอว่าไม่เป็นไรหรอกมันเป็นเงินเล็กน้อยเอง ยินดีที่ได้ช่วยเหลือกัน (มาเที่ยวตปท.แล้วมีโอกาสได้ทำบุญให้ทานนับเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง)
สาวอินโดเธอพาเราลงรถบัสที่ป้ายนี้ (ป้ายนี้ถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะเขียนว่า Primorskaya) สังเกตภาษารัสเซียดีๆนะครับ ถ้าใครคิดจะเดินทางไปเองควรจดชื่อป้ายเป็นภาษารัสเซียแล้วคอยถามคนขับรถบัส แค่นี้ก็ไปเองได้ไม่ยากแล้วครับ
พอลงจากรถบัสผมมัวแต่เดินไปถ่ายรูปป้ายรถบัส พอเดินกลับมาแฟนผมบอกว่าสาวอินโดเธอเดินไปแล้ว แต่ก่อนไปเธอบอกให้เราขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อเข้าไปในตัวเมือง ยุ่งล่ะสิ แล้วเราจะไปยังไงต่อล่ะเนี่ย ไม่เป็นไรข้างหน้าเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน (เมโทร) เดี๋ยวเราไปคลำทางในนั้นก็ได้
เดินเข้าไปข้างในสถานี ไม่สามารถสื่อสารกะใครได้ เพราะคนรัสเซียไม่รู้ภาษาอังกฤษ ผมต้องคอยสังเกตคนที่เดินผ่านไปมา ว่าใครพอจะมีแววคุยกะเราได้บ้าง ยืนรอนานพักใหญ่ผมก็เจอสาวน้อยหน้าตาคล้ายชาวเอเชียคนนึงเดินเข้ามาในสถานีนี้ จึงรีบเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือ โชคดีที่เธอพอจะพูดอังกฤษได้บ้างเล็กๆ ผมบอกว่าจะหาทางไปถนน Navsky Prospect เธอช่วยพาเราไปซื้อตั๋วรถไฟใต้ดิน เธอบอกจำนวนเงินที่ต้องใช้ แต่ผมฟังไม่เข้าใจว่ามันต้องใช้กี่เหรียญเป็นจำนวนเท่าไหร่ เลยแบมือยื่นเงินให้เธอเลือกหยิบเอง (ตอนนั้นมั่นใจว่าเธอไม่ใช่คนเลวแน่ๆ)
เธอเลือกหยิบเงินไปจากมือผม แล้วซื้อตั๋วรถไฟ (เป็นเหรียญเหมือนกับตั๋วรถไฟใต้ดินของบ้านเราเลย) ให้ผมกับแฟนเรียบร้อย พร้อมพาเดินไปบอกวิธีหยอดเหรียญเข้าสถานีเสร็จสรรพ โชคดีที่เจอคนดีให้ความช่วยเหลือ ตอนนี้เราเตรียมตัวขึ้นรถไฟใต้ดินกัน
นี่คือชื่อของสถานีเมโทรแห่งนี้ สังเกตดีๆจะพบว่ามันเป็นชื่อเดียวกะป้ายรถบัสที่เราลงนั่นเอง Primorskaya
สถานีที่เราต้องลงมีชื่อว่า Gostiny Dvor ซึ่งมันคือสถานีใกล้เคียงหรือแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสถานีเดียวกับ Navsky Prospect นั่นเอง สังเกตป้ายให้ดีๆ
เข้ามาด้านในสถานี
เตรียมตัวขึ้นรถไฟใต้ดิน
มาโผล่สถานี Gostiny Dvor สถานีนี้น่าจะเป็นสถานีใหญ่ ภายในตัวอาคารมีร้านค้าหลายแห่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดย่อมๆ
ภาพถ่ายตัวเต็มๆของอาคารหลังนี้ ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย
แฟนผมเธออยากเข้าห้องน้ำ เราเลยเดินข้ามถนนไปตึกฝั่งตรงข้าม เจอร้านอาหารเลยแวะไปทานมื้อเที่ยง พร้อมใช้ห้องน้ำฟรีซะเลย
ในเซทอาหารมีชาฟรีด้วย แต่ต้องไปเลือกกดเอง ว่าจะเอาชาแบบไหน ทำไม่เป็นเลยถามลูกค้าสาวรัสเซียให้เค้าช่วยทำให้
หน้าตาอาหารเซทนี้ พอทานได้ไม่อร่อยเท่าไหร่และราคาไม่แพง
พอทานเสร็จ เราเดินข้ามถนนกลับมาที่อาคารสถานีรถไฟใต้ดิน แล้วเดินตรงขึ้นไปเรื่อยๆ ง่ายๆคือถ้าเดินออกจากสถานีเมโทรนี้ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงไปนั่นเอง ถนนเมนหลักเส้นนี้คือถนน Navsky
ระหว่างทางเดินเจอโบสถ์เล็กๆแห่งนี้ เข้าฟรีซะด้วย จัดไป
ชมโบสถ์เสร็จ เดินออกมาตามถนนหลัก เจอตึกสวยหลังนี้อยู่หัวมุมถนน โดดเด่นเป็นสง่า เลยเดินเข้าไปดู ชั้น 1 และ 2 เป็นร้านขายหนังสือ บอกทริคนิดนึงให้เดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 สามารถใช้ห้องน้ำฟรีได้ด้วย (ในยุโรปส่วนมากต้องเสียเงินค่าเข้าห้องน้ำ ด้วยราคาที่คิดเป็นเงินบาทแล้ว ก็แพงโขอยู่)
[CR] Part 12 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 10 ซื้อทัวร์ชมพระราชวัง Peterhof
Part 2 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 2 เที่ยวกัวลาลัมเปอร์ http://pantip.com/topic/33878708
Part 3 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 3 ชิมลาง Copenhagen http://pantip.com/topic/33887984
Part 4 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 4 ชมเมืองน่ารัก Helsingor http://pantip.com/topic/33909339
Part 5 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 4 พาเที่ยว Helsingborg & Malmo http://pantip.com/topic/33918582
Part 6 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 5 ชมวังอลังการ ใน Copenhagen http://pantip.com/topic/33936462
Part 7 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 6 เที่ยว Stockholm ราชินีแห่งทะเลบอลติก http://pantip.com/topic/33950029
Part 8 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 6 เที่ยว Stockholm ชมพิพิธภัณฑ์ขึ้นหอคอยสูง http://pantip.com/topic/33968804
Part 9 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 7 ขึ้นเรือสำราญวันแรก http://pantip.com/topic/33973448
Part 10 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 8 พาชมเรือสำราญ Luminosa http://pantip.com/topic/33981989
Part 11 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 9 Helsinki สวยเกินคาด http://pantip.com/topic/33998820
ลืมเล่าไปว่าเมื่อ 2 วันก่อนเราได้รับเอกสารจากทางเรือสำราญเสียบไว้ในกล่องรับจดหมายหน้าห้องนอน ให้ไปติดต่อรับพาสปอร์ต เพราะเมื่อเรือเดินทางถึงเมือง St.Petersburg ผดส.ทุกคนต้องใช้พาสปอร์ตเพื่อผ่านด่านตม.ของรัสเซีย วันนี้เราตื่นเช้าทำกิจวัตรประจำวันด้วยการขึ้นลิฟต์ไปชั้น 9 เข้าห้องอาหารบุฟเฟ่ต์แห่งเดิม พอทานเสร็จก็ออกจากเรือเตรียมตัวเดินทางเข้าไปเที่ยวเมือง St.Petersburg ที่ได้ชื่อว่าสวยงามนักหนา แต่น่าแปลกใจเล็กๆตรงที่แผ่นเอกสารประจำวันของเรือ ไม่มีการบอกราคาค่ารถบัสรับส่งเข้าเมืองเหมือนตอนจอดเที่ยวเฮลซิงกิ แสดงว่าไม่มีรถบัสของเรือมาให้บริการ แต่มีการขายทัวร์ท่องเที่ยวเมืองตามปกติ
พอเดินออกจากเรือสำราญ ทุกคนต้องเดินเข้าอาคารหลังนี้ เพื่อให้จนท.ตม.ของรัสเซียตรวจสอบพาสปอร์ตและวีซ่า คนไทยสามารถเที่ยวในรัสเซียได้ถ้าอยู่ไม่เกิน 30 วัน เราสองคนเลยเดินตัวปลิวผ่านตม.แบบสบายๆ แต่คนต่อคิวยาวเหยียดเลยใช้เวลานานเหมือนกันกว่าจะผ่านด่านได้
หลังจากผ่านด่านออกมาก็จะเจอบูธขายของที่ระลึกต่างๆ
เราลองถามคนขายสาวสวยที่บูธนึง ดีที่สาวรัสเซียคนนี้พูดอังกฤษได้ เธอบอกว่าแค่เดินออกจากอาคารนี้ ก็จะเจอป้ายรถบัสอยู่ติดอาคารนี้เลย โอ้ว ง่ายมากๆ เข้าใจแล้วว่าทำไมทางเรือสำราญถึงไม่จัดรถบัสไว้คอยบริการรับส่งผดส. เพราะรถบัสประจำทางของเมือง St.Petersburg มันวิ่งตรงเข้ามารับคนถึงในท่าเรือสำราญเลย สะดวกดีจริงๆ
ระหว่างยืนรอรถบัส ผมลองคุยกับสาวเอเชียตัวเล็กๆคนนึง เธอเป็นคนอินโดนีเซีย มาทำงานเป็นบริกรบนเรือสำราญมาร์โคโปโล (ผมจำได้ว่าเรือเจ้านี้ราคาสูงทีเดียว) เธอเพิ่งออกจากกะ เลยคิดจะไปเที่ยวในเมืองนี้เป็นครั้งแรก ผมถามเธอว่าค่ารถบัสเท่าไหร่ เธอเดาว่าน่าจะ 20-30 รูเบิล แต่เธอไม่มีเงินรัสเซีย มีแต่เงินยูโร คาดว่าน่าจะใช้แทนกันได้ เพราะเหรียญ 1 ยูโร มันมีค่าเกินกว่าค่ารถที่คิดเป็นเงินรูเบิล เธอกะจ่ายเงินเหรียญ 1 ยูโรให้คนขับรถบัส ส่วนตัวผมไม่มีปัญหาเพราะเตรียมเงินรูเบิลมาแล้ว ดีใจที่เจอคนร่วมทาง เราจะได้ขอเกาะเธอเข้าเมืองซะเลย เพราะแฟนผมเธอหาข้อมูลไม่ได้ว่าจากท่าเรือสำราญมันจะเดินทางเข้าตัวเมืองได้ด้วยวิธีใด
รถบัสมาถึงแล้ว สาย 158
พอพวกเราขึ้นรถบัส ตรงไปจ่ายเงินค่ารถกับคนขับแต่กลายเป็นว่าคนขับรถไม่รับเงินยูโร ผมเลยจ่ายเงินรูเบิลแทนสาวอินโดซะเลย (จำไม่ได้ว่าค่ารถคนละเท่าไหร่ แต่คุ้นๆว่าไม่แพง ไม่น่าถึง 30 รูเบิล/คน) เธอพยายามคืนเงินผมด้วยเหรียญ 1 ยูโร แต่ผมไม่รับ บอกเธอว่าไม่เป็นไรหรอกมันเป็นเงินเล็กน้อยเอง ยินดีที่ได้ช่วยเหลือกัน (มาเที่ยวตปท.แล้วมีโอกาสได้ทำบุญให้ทานนับเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง)
สาวอินโดเธอพาเราลงรถบัสที่ป้ายนี้ (ป้ายนี้ถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะเขียนว่า Primorskaya) สังเกตภาษารัสเซียดีๆนะครับ ถ้าใครคิดจะเดินทางไปเองควรจดชื่อป้ายเป็นภาษารัสเซียแล้วคอยถามคนขับรถบัส แค่นี้ก็ไปเองได้ไม่ยากแล้วครับ
พอลงจากรถบัสผมมัวแต่เดินไปถ่ายรูปป้ายรถบัส พอเดินกลับมาแฟนผมบอกว่าสาวอินโดเธอเดินไปแล้ว แต่ก่อนไปเธอบอกให้เราขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อเข้าไปในตัวเมือง ยุ่งล่ะสิ แล้วเราจะไปยังไงต่อล่ะเนี่ย ไม่เป็นไรข้างหน้าเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน (เมโทร) เดี๋ยวเราไปคลำทางในนั้นก็ได้
เดินเข้าไปข้างในสถานี ไม่สามารถสื่อสารกะใครได้ เพราะคนรัสเซียไม่รู้ภาษาอังกฤษ ผมต้องคอยสังเกตคนที่เดินผ่านไปมา ว่าใครพอจะมีแววคุยกะเราได้บ้าง ยืนรอนานพักใหญ่ผมก็เจอสาวน้อยหน้าตาคล้ายชาวเอเชียคนนึงเดินเข้ามาในสถานีนี้ จึงรีบเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือ โชคดีที่เธอพอจะพูดอังกฤษได้บ้างเล็กๆ ผมบอกว่าจะหาทางไปถนน Navsky Prospect เธอช่วยพาเราไปซื้อตั๋วรถไฟใต้ดิน เธอบอกจำนวนเงินที่ต้องใช้ แต่ผมฟังไม่เข้าใจว่ามันต้องใช้กี่เหรียญเป็นจำนวนเท่าไหร่ เลยแบมือยื่นเงินให้เธอเลือกหยิบเอง (ตอนนั้นมั่นใจว่าเธอไม่ใช่คนเลวแน่ๆ)
เธอเลือกหยิบเงินไปจากมือผม แล้วซื้อตั๋วรถไฟ (เป็นเหรียญเหมือนกับตั๋วรถไฟใต้ดินของบ้านเราเลย) ให้ผมกับแฟนเรียบร้อย พร้อมพาเดินไปบอกวิธีหยอดเหรียญเข้าสถานีเสร็จสรรพ โชคดีที่เจอคนดีให้ความช่วยเหลือ ตอนนี้เราเตรียมตัวขึ้นรถไฟใต้ดินกัน
นี่คือชื่อของสถานีเมโทรแห่งนี้ สังเกตดีๆจะพบว่ามันเป็นชื่อเดียวกะป้ายรถบัสที่เราลงนั่นเอง Primorskaya
สถานีที่เราต้องลงมีชื่อว่า Gostiny Dvor ซึ่งมันคือสถานีใกล้เคียงหรือแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสถานีเดียวกับ Navsky Prospect นั่นเอง สังเกตป้ายให้ดีๆ
เข้ามาด้านในสถานี
เตรียมตัวขึ้นรถไฟใต้ดิน
มาโผล่สถานี Gostiny Dvor สถานีนี้น่าจะเป็นสถานีใหญ่ ภายในตัวอาคารมีร้านค้าหลายแห่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดย่อมๆ
ภาพถ่ายตัวเต็มๆของอาคารหลังนี้ ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย
แฟนผมเธออยากเข้าห้องน้ำ เราเลยเดินข้ามถนนไปตึกฝั่งตรงข้าม เจอร้านอาหารเลยแวะไปทานมื้อเที่ยง พร้อมใช้ห้องน้ำฟรีซะเลย
ในเซทอาหารมีชาฟรีด้วย แต่ต้องไปเลือกกดเอง ว่าจะเอาชาแบบไหน ทำไม่เป็นเลยถามลูกค้าสาวรัสเซียให้เค้าช่วยทำให้
หน้าตาอาหารเซทนี้ พอทานได้ไม่อร่อยเท่าไหร่และราคาไม่แพง
พอทานเสร็จ เราเดินข้ามถนนกลับมาที่อาคารสถานีรถไฟใต้ดิน แล้วเดินตรงขึ้นไปเรื่อยๆ ง่ายๆคือถ้าเดินออกจากสถานีเมโทรนี้ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงไปนั่นเอง ถนนเมนหลักเส้นนี้คือถนน Navsky
ระหว่างทางเดินเจอโบสถ์เล็กๆแห่งนี้ เข้าฟรีซะด้วย จัดไป
ชมโบสถ์เสร็จ เดินออกมาตามถนนหลัก เจอตึกสวยหลังนี้อยู่หัวมุมถนน โดดเด่นเป็นสง่า เลยเดินเข้าไปดู ชั้น 1 และ 2 เป็นร้านขายหนังสือ บอกทริคนิดนึงให้เดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 สามารถใช้ห้องน้ำฟรีได้ด้วย (ในยุโรปส่วนมากต้องเสียเงินค่าเข้าห้องน้ำ ด้วยราคาที่คิดเป็นเงินบาทแล้ว ก็แพงโขอยู่)