เคยเที่ยวกับทัวร์มาบ้าง เที่ยวด้วย ทำงานด้วยมาบ้าง พาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวกันเองมาบ้าง...แต่ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าจะถึงวันที่ต้องไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวเป็นเวลาหลายวัน แถมครั้งนี้เป็นทริปแบบวางแผนล่วงหน้าไม่นานนัก จองล่วงหน้าแค่เดือนเดียว ปกติจะจองตั๋วโปรล่วงหน้านาน เพิ่งรู้เหมือนกันว่าจองล่วงหน้าแค่เดือนเดียวก็ได้ราคาไม่แพงอย่างที่คิด
อีกอย่างครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่มีการเดินทางเที่ยวต่อกันถึงสองประเทศ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา...เพราะเป็นเมืองคู่แฝดที่มีอะไรคล้าย ๆ กันนั่นเอง
เราเริ่มต้นด้วยการเดินทางที่
เมืองแฝดน้องก่อน นั่นก็คือ
ไต้หวัน ที่เรียกว่าแฝดน้อง เพราะว่าคนไทยเพิ่งนิยมไปท่องเที่ยวที่ประเทศนี้ได้ไม่นาน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ากระแสตั๋วโปรที่มีออกมาอย่างสม่ำเสมอ ถ้าไม่ติดว่าต้องใช้วีซ่าเนี่ย คนไทยคงไปเยอะกว่านี้ แต่สำหรับเราแล้วไม่ใช่ปัญหา เพราะโชว์วีซ่าอเมริกาเก๋ ๆ เข้าเมืองได้เลยจ้า ปีนี้ไปไต้หวันเป็นรอบที่สองแล้วนะเออ ลองไปชมรีวิวเก่า ๆ ได้ที่
http://pantip.com/topic/33241550
แผนของเราก็คือเที่ยวไต้หวัน 3 วัน แล้วก็ไปต่อที่
เมืองแฝดพี่ ซึ่งก็คือ
ญี่ปุ่น อีก 3 วัน ญี่ปุ่นเป็นประเทศท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยตั้งแต่ยังไม่ฟรีวีซ่า จนฟรีวีซ่าแล้วทำให้ฮิตหนักกว่าเดิมหลายเท่า หลังจากเช็คราคาตั๋วเครื่องบินแล้วก็ได้
ตั๋วพี่หมี Vair ไปไต้หวัน>>>Peach ไปโอซาก้า>>>Air Asia กลับไทย
ราคารวมโหลดกระเป๋าแล้วประมาณ 11,000 บาทเองนะคะ จองเสร็จก็เริ่มหวั่นใจ...ไม่มีข้อมูลโอซาก้าในหัวเลยน่ะสิ หุ หุ ส่วนไต้หวันหล่ะ ไม่กลัว เพราะเพิ่งไปมาก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนเอง
เริ่มการเดินทางด้วยการให้น้องสาวไปส่งที่สนามบินตอน 4 ทุ่มกว่า ๆ เพราะกลัวน้องนอนดึก ต้องตื่นไปทำงานอีก เราเลยผ่านตม. เข้าไปเร็วกว่าเวลาบอร์ดดิ้งนานมาก
นี่ยังอยู่ดอนเมืองนะเนี่ย!
รอจนง่วงทนไม่ได้ ต้องนอนเร็วตามประสาเด็กอนามัย เก็บของมีค่าทุกอย่างแนบตัว นอนทับไว้ แล้วเอาผ้าคลุมไหล่ผืนยักษ์ห่มตัวเอง ล้มตัวลงนอนบนที่นั่งรอนี่หล่ะ หลับไปตื่นนึง สะดุ้งตื่นขึ้นมา ปรากฏว่ามีคนนอนอยู่ฝั่งตรงข้าม ลืมตาจ้องมาทางเราพอดี ตกใจหมดเลย รอบ ๆ ก็มีทั้งคนนั่ง คนนอนรอหนาตาขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้เวลาตีหนึ่งซึ่งเป็นเวลาเครื่องออกเลย
พอขึ้นเครื่องได้ก็หยิบแคตาล็อกกับเมนูอาหารมาสำรวจก่อนนอน ปรากฏว่า....แทร๊ม แทร๊ม แทร่ม แทร่ม...เปลี่ยนเมนูแล้วค่ะ ไม่เหมือนที่กินครั้งก่อนเลย พลิกอ่านนู่น อ่านนี่อยู่สักพักก็นอนดีกว่า
ตื่นมาด้วยความโมโหแอร์ฯ มาก ๆ ยังอยากนอนต่ออยู่เลยปลุกให้เตรียมแลนดิ้งเสียแล้ว หน้าบูดเป็นตูดลิงเลยเวลานั้น แต่ก็พยายามคิดว่าชั้นได้แลนดิ้งลงอย่างปลอดภัย ยังดีกว่าต้องมาค้างเติ่งอยู่บนนี้ชั่วนิรันดร์น๊า
[CR] เดินเดี่ยวเที่ยวเมืองคู่แฝด [Ep. 1 ถูกต้มจนเปื่อยในออนเซน]
อีกอย่างครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่มีการเดินทางเที่ยวต่อกันถึงสองประเทศ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา...เพราะเป็นเมืองคู่แฝดที่มีอะไรคล้าย ๆ กันนั่นเอง
เราเริ่มต้นด้วยการเดินทางที่เมืองแฝดน้องก่อน นั่นก็คือ ไต้หวัน ที่เรียกว่าแฝดน้อง เพราะว่าคนไทยเพิ่งนิยมไปท่องเที่ยวที่ประเทศนี้ได้ไม่นาน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ากระแสตั๋วโปรที่มีออกมาอย่างสม่ำเสมอ ถ้าไม่ติดว่าต้องใช้วีซ่าเนี่ย คนไทยคงไปเยอะกว่านี้ แต่สำหรับเราแล้วไม่ใช่ปัญหา เพราะโชว์วีซ่าอเมริกาเก๋ ๆ เข้าเมืองได้เลยจ้า ปีนี้ไปไต้หวันเป็นรอบที่สองแล้วนะเออ ลองไปชมรีวิวเก่า ๆ ได้ที่ http://pantip.com/topic/33241550
แผนของเราก็คือเที่ยวไต้หวัน 3 วัน แล้วก็ไปต่อที่เมืองแฝดพี่ ซึ่งก็คือ ญี่ปุ่น อีก 3 วัน ญี่ปุ่นเป็นประเทศท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยตั้งแต่ยังไม่ฟรีวีซ่า จนฟรีวีซ่าแล้วทำให้ฮิตหนักกว่าเดิมหลายเท่า หลังจากเช็คราคาตั๋วเครื่องบินแล้วก็ได้
ราคารวมโหลดกระเป๋าแล้วประมาณ 11,000 บาทเองนะคะ จองเสร็จก็เริ่มหวั่นใจ...ไม่มีข้อมูลโอซาก้าในหัวเลยน่ะสิ หุ หุ ส่วนไต้หวันหล่ะ ไม่กลัว เพราะเพิ่งไปมาก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนเอง
เริ่มการเดินทางด้วยการให้น้องสาวไปส่งที่สนามบินตอน 4 ทุ่มกว่า ๆ เพราะกลัวน้องนอนดึก ต้องตื่นไปทำงานอีก เราเลยผ่านตม. เข้าไปเร็วกว่าเวลาบอร์ดดิ้งนานมาก
นี่ยังอยู่ดอนเมืองนะเนี่ย!
รอจนง่วงทนไม่ได้ ต้องนอนเร็วตามประสาเด็กอนามัย เก็บของมีค่าทุกอย่างแนบตัว นอนทับไว้ แล้วเอาผ้าคลุมไหล่ผืนยักษ์ห่มตัวเอง ล้มตัวลงนอนบนที่นั่งรอนี่หล่ะ หลับไปตื่นนึง สะดุ้งตื่นขึ้นมา ปรากฏว่ามีคนนอนอยู่ฝั่งตรงข้าม ลืมตาจ้องมาทางเราพอดี ตกใจหมดเลย รอบ ๆ ก็มีทั้งคนนั่ง คนนอนรอหนาตาขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้เวลาตีหนึ่งซึ่งเป็นเวลาเครื่องออกเลย
พอขึ้นเครื่องได้ก็หยิบแคตาล็อกกับเมนูอาหารมาสำรวจก่อนนอน ปรากฏว่า....แทร๊ม แทร๊ม แทร่ม แทร่ม...เปลี่ยนเมนูแล้วค่ะ ไม่เหมือนที่กินครั้งก่อนเลย พลิกอ่านนู่น อ่านนี่อยู่สักพักก็นอนดีกว่า
ตื่นมาด้วยความโมโหแอร์ฯ มาก ๆ ยังอยากนอนต่ออยู่เลยปลุกให้เตรียมแลนดิ้งเสียแล้ว หน้าบูดเป็นตูดลิงเลยเวลานั้น แต่ก็พยายามคิดว่าชั้นได้แลนดิ้งลงอย่างปลอดภัย ยังดีกว่าต้องมาค้างเติ่งอยู่บนนี้ชั่วนิรันดร์น๊า