*รูปทั้งหมดมาจากกล้องมือถือ KYOCERA DIGNO T และ process ด้วย ACDsee ครับ*
เกริ่นนำ*เกริ่นยาวหน่อยนะครับ ใครอยากดูแค่รูป ข้ามหัวกระทู้ไปเลยครับ*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่วงที่ผ่านมาประเทศญี่ปุ่นได้รับความนิยมจากหมู่เราชาวไทยเพิ่มขึ้นจากสมัยก่อนหลายเท่าตัว ใครๆก็ไปเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงนี้ญี่ปุ่นฟีเวอร์ ถึงขนาดกลับไปเมืองไทยเมื่อ Golden Week คราวที่แล้ว ก็ยังได้ไปเจอ ญี่ปุ่นจำลอง(พาซิโอ)มี鳥居
(โทริอิ ซุ้มประตูทางเข้าศาลเจ้าของญี่ปุ่น )ใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านตัวเองอีก
(ยืนช็อคอยู่ข้างหน้าพาซิโอ ไป5วินาที...)
ภาพจาก Mthai
อีกอย่างที่บูมมากกว่าการท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกก็คือ กระแสการปั่นจักรยานในเมืองไทย
หากให้เทียบ สังคมจักรยาน ณ ตอนนี้ กับเมื่อ 4-5ปีก่อนแล้ว มันช่างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
สมัยนั้นจักรยานยังคงถูกคนส่วนใหญ่มองว่าเป็น พาหนะจ่ายตลาด
ไว้สำหรับไปสถานที่ใกล้ๆ และห้ามปั่นบนถนนหลวง
สมัยผมปั่นช่วงนั้น ปั่นไปหาเพื่อนที่บ้านอยู่ในละแวกเดียวกัน ระยะทางเกือบๆ10กิโล ก็ยังมีหลายคนตกใจ
มันไกลไปไหมสำหรับจักรยาน? หรือไม่เช่นนั้นแล้ว จักรยานก็ถูกมองว่าเป็นกีฬาของผู้สูงอายุข้อเข่าไม่ดี…
เดี๋ยวผู้คนมีความนิยม หันมาปั่นจักรยานกันเพิ่มขึ้นการจัดงานรณรงค์มากมาย
สิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ปั่นจักรยานที่เพิ่มขึ้น
เลนจักรยานตามท้องถนน เลนเขียวสุวรรณภูมิ
Pageกลุ่มจักรยาน ในFacebook มากมาย
ดาราปั่นจักรยานอัพรูปลงInstagram
กระแสหมอบ Single speed ทรงคลาสสิค สีPastel สไตล์ยิปกะเปอร์
หรือง่ายสุดคือในพันทิพนี่แหละครับถ้าลองเทียบบอร์ดตอนนี้ กับ บอร์ดเก่า ก็จะเห็นว่า
ห้องจักรยานนี้คึกคักขึ้นมามากเราจะเห็นกระทู้มือใหม่ขอให้ช่วยเลือกซื้อจักรยานไม่เว้นแต่ละวันกันเลยทีเดียว…
ดังนั้นนอกเหนือไปจาก สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารของประเทศญี่ปุ่น
ผมจึงอยากใช้กระทู้นี้ นำเสนอแง่มุมเกี่ยวกับ จักรยาน การเดินทางในชีวิตประจำวันทั่วๆไป
(สรุปง่ายๆว่า ขอโม้เรื่องตัวเองปั่นจักรยานในญี่ปุ่นหน่อยเถอะ)
พูดมาซะยาว น้ำท่วมทุ่งมาก็เยอะข้ออ้างทั้งนั้น ความจริงคือ ผมยอมรับเลยว่า
หลายๆคนส่วนใหญ่ได้เที่ยวญี่ปุ่นมากกว่าผมซะอีกที่วันๆเป็นมนุษย์เงินเดือน
บ้าทำแต่งาน ไม่มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวซักเท่าไหร่…555
ขนาดเวลาจะเขียนบทความนี้ยังไม่ค่อยจะมี ตัวเองก็เป็นคนสร้างอารมณ์สุนทรีย์ยาก
เขียนบรรยายอะไรไม่ค่อยเก่งอยู่แล้วด้วย แถมต้องมานั่ง เลือกรูป Processรูป(แบบเขี่ยๆ)อีก
จากฤดูใบไม้ผลิ ย่างเข้าฤดูฝน จนจะเข้าฤดูร้อนแล้ว ก็ยังไม่เสร็จ ปาไปสามเดือนกันเลยทีเดียวครับ บทความนี้
ที่มาที่ไป
เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมเพิ่งจบการศึกษาระดับ ป.ตรี คณะวิศวฯ เมื่อปีที่แล้วและจับพลัดจับผลู
ได้มีโอกาสมาทำงานกับ บ.ญี่ปุ่น (ทั้งๆที่เกรดก็ไม่ดี ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้) แต่กว่าจะต้องเรียนภาษา
อะไรต่างๆนาๆ ให้พร้อมได้เข้าทำงานจริง ก็เมื่อเดือน กพ. ที่ผ่านมานี่เอง
ตั้งใจเลยว่า มาทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนไปวันๆอย่างเดียว คงไม่ดีแน่
ถ้าวันไหนไม่มี OT ทำงานเสร็จเร็ว ออกมาปั่นก็คงจะดีไม่น้อย
ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ออกไปเป็นแมวเหมียวไต่เนินญี่ปุ่น วะฮะฮ่า
วาดฝันไปซะไกลลิบลิ่ว...
เมืองที่ผมอาศัยอยู่
เมือง ที่ผมอาศัยอยู่นั้นอยู่ในจังหวัดโทชิกิ(栃木県:Tochigi-ken)เป็นจังหวัดที่อยู่
ทางเหนือของเมืองหลวงโตเกียวขึ้นมาประมาณ 130กิโลเมตร
โดยมีเมืองอุซึโนมิยะ(宇都宮市:Utsunomiya-shi)เป็นเมืองศูนย์กลาง
(เทียบกับ อำเภอเมืองบ้านเราก็น่าจะไม่ผิดมากนัก)
มีของขึ้นชื่อ ประจำจังหวัดคือ เกี๊ยวซ่า สตรอเบอรี่ ดนตรีแจ๊ซ และนิกโก้(日光)
เมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่อันสวยงามมากมายจนได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก...
เกี๊ยวซ่าเป็นจุดขายของเมืองนี้ หากเอ่ยชื่ออุซึโนะมิยะเมื่อไหร่
แน่นอนคำแรกที่หลุดออกมาจากปากชาวญี่ปุ่นก็คือ เกี๋ยวซ่า
สังเกตจากการเรียงลำดับความสำคัญในโปสเตอร์ที่แปะไว้ที่สถานี utsunomiya
ทั้งๆที่มีของขึ้นชื่ออื่นๆด้วย แต่เกี๊ยวซ่ากลับกินพื้นที่ไปเกือบหมด
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นคือการตั้งใจนอกประเด็นครับ...555
เมืองที่ผมอาศัยและทำงานอยู่นั้นอยู่ขึ้นมาทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ของเมืองของอุซึโนมิะ ประมาณ 10km ชื่อ ทาคาเนะซาวะ(高根沢町:Takanezawa-machi)
เป็นเมืองเล็กๆที่มีที่ราบทุ่งนาเป็นซะส่วนใหญ่สลับกับเนินเขา
ถนนในเมืองนี้เหมาะกับการปั่นจักรยานมาก ผมให้ 8.5/10 คะแนน
Mountain bike สุดรัก คันเก่า
เนื่องจากมีความผูกพันกับแมวภูเขาคันเก่ามาก ถึงมากที่สุด แม้ว่าจะเป็นรถที่ถูก ถึก หนัก
แต่ก็อยู่มาด้วยกัน 4-5พัน กิโลแล้ว ก็อยากจะพาใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปในต่างแดน
คิด สะระตะ สะระตี่ อยู่หลายตลบว่าจะแบกมายังไงดี สัมภาระที่ต้องขนมาเพื่ออาศัยอยู่ที่นี่ก็เยอะแยะ
เลยมาถาม พี่ๆน้องๆพันทิพเมื่อครั้งกระโน้น(หากดูในประวัติตั้งกระทู้ของผมก็จะเจอครับ)
ได้ความว่า...เอ็งทิ้งเจ้าแมวภูเขาคันเก่าไว้ที่นั่นเถอะ ค่าแบกมาก็เกินค่าตัวมันละ…เศร้าสิครับ...
ก็เลยลงเอยว่าจะต้องมาหาซื้อเอาที่นี่ครับ
MTBคันเก่าแสนรักแสนหวง
ตัดสินใจซื้อ road bike
เล็งไว้ละอยากจะรีบๆซื้อจักรยานมาปั่น ซึ่งตอนแรกก็ยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อจักรยานแบบไหนดี
แต่ไอ้ผมมันเพิ่งมาลงหลักปักฐาน ทุนทรัพย์ก็น้อย คงจะต้องซื้อกรยาน มือ1ระดับเริ่มต้น
หรือไม่ก็ต้องหามือสอง ปั่นเอาให้หายอยาก พอจะกลับไทยก็ขายๆไปก่อนกลับซะ และอีกอย่าง
แมวภูเขาคันเก่านั้น ก็ไม่ได้ดีโด่เด่อะไรขนาดนั้น เราก็ปั่นกับมันมาได้ตั้งนานไม่มีปัญหา
ตัดสินใจได้ อย่างนั้นแล้วไอ้เราก็ไปตระเวณหาในเมืองครับ ตั้งงบให้ตัวเองต่ำมาก ถึงมากที่สุด
ไปหาตามร้านที่ไหนก็บอกว่าไม่มีเจ้าของร้านซึ่งปกติหน้าตายๆไร้ความรู้สึกยังถึงขั้นทำหน้าประมาณ
เอ็งเพี้ยนไปแล้วสินะ เจ้าแมวภูเขาอยากได้จักรยาน มือ1 ราคา xxxxx เยน
ความหวังริบหรี่ลงไปซักพัก หลังจากนั้นคนรอบๆตัวหลายๆคนก็เริ่มยุครับ...
เช่น...”เห้นายจ๋า ทำไมไม่ซื้อที่มันดีๆหน่อย แล้วพอกลับไทยก็แบกไปด้วยกันเลยล่ะ?”
บ้างก็...”ถนนญี่ปุ่นเนี่ย ดีกว่าเมืองไทยเทียบไม่ติดเลย ไม่ว่าจะ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือจักรยาน
จะไม่ซื้อของดีๆ แล้วลงไปขี่เป็นบุญตูดหน่อยฤา?”
...อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก…
...ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว...
ปั่นไปในแดนปลาดิบ ตอนที่1:เมื่อแมวภูเขาแปลงร่างเป็นแมวหมอบ (梅雨:ฤดูฝน)
เรื่อง “แมวภูเขาสามตัว ปั่นๆๆ เที่ยว หัวหิน ปราณบุรี อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด”
ซึ่งกระทู้หายไปแล้ว ตามหายังไงก็หาไม่เจอคงเหลือไว้แต่รูปใน Facebook ตาม Link ข้างล่างนี้
หากใครทราบวิธีหากระทู้คืนมาช่วยบอกเป็นวิทยาทานด้วยครับ…
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.316161368430021.71938.100001084811322&type=1&l=be276966bc
เกริ่นนำ*เกริ่นยาวหน่อยนะครับ ใครอยากดูแค่รูป ข้ามหัวกระทู้ไปเลยครับ*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมืองที่ผมอาศัยอยู่
ทางเหนือของเมืองหลวงโตเกียวขึ้นมาประมาณ 130กิโลเมตร
โดยมีเมืองอุซึโนมิยะ(宇都宮市:Utsunomiya-shi)เป็นเมืองศูนย์กลาง
(เทียบกับ อำเภอเมืองบ้านเราก็น่าจะไม่ผิดมากนัก)
เมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่อันสวยงามมากมายจนได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก...
แน่นอนคำแรกที่หลุดออกมาจากปากชาวญี่ปุ่นก็คือ เกี๋ยวซ่า
สังเกตจากการเรียงลำดับความสำคัญในโปสเตอร์ที่แปะไว้ที่สถานี utsunomiya
ทั้งๆที่มีของขึ้นชื่ออื่นๆด้วย แต่เกี๊ยวซ่ากลับกินพื้นที่ไปเกือบหมด
เมืองที่ผมอาศัยและทำงานอยู่นั้นอยู่ขึ้นมาทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ของเมืองของอุซึโนมิะ ประมาณ 10km ชื่อ ทาคาเนะซาวะ(高根沢町:Takanezawa-machi)
เป็นเมืองเล็กๆที่มีที่ราบทุ่งนาเป็นซะส่วนใหญ่สลับกับเนินเขา
ถนนในเมืองนี้เหมาะกับการปั่นจักรยานมาก ผมให้ 8.5/10 คะแนน
Mountain bike สุดรัก คันเก่า
แต่ก็อยู่มาด้วยกัน 4-5พัน กิโลแล้ว ก็อยากจะพาใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปในต่างแดน
คิด สะระตะ สะระตี่ อยู่หลายตลบว่าจะแบกมายังไงดี สัมภาระที่ต้องขนมาเพื่ออาศัยอยู่ที่นี่ก็เยอะแยะ
เลยมาถาม พี่ๆน้องๆพันทิพเมื่อครั้งกระโน้น(หากดูในประวัติตั้งกระทู้ของผมก็จะเจอครับ)
ได้ความว่า...เอ็งทิ้งเจ้าแมวภูเขาคันเก่าไว้ที่นั่นเถอะ ค่าแบกมาก็เกินค่าตัวมันละ…เศร้าสิครับ...
ก็เลยลงเอยว่าจะต้องมาหาซื้อเอาที่นี่ครับ
ตัดสินใจซื้อ road bike
แต่ไอ้ผมมันเพิ่งมาลงหลักปักฐาน ทุนทรัพย์ก็น้อย คงจะต้องซื้อกรยาน มือ1ระดับเริ่มต้น
หรือไม่ก็ต้องหามือสอง ปั่นเอาให้หายอยาก พอจะกลับไทยก็ขายๆไปก่อนกลับซะ และอีกอย่าง
แมวภูเขาคันเก่านั้น ก็ไม่ได้ดีโด่เด่อะไรขนาดนั้น เราก็ปั่นกับมันมาได้ตั้งนานไม่มีปัญหา
ตัดสินใจได้ อย่างนั้นแล้วไอ้เราก็ไปตระเวณหาในเมืองครับ ตั้งงบให้ตัวเองต่ำมาก ถึงมากที่สุด
ไปหาตามร้านที่ไหนก็บอกว่าไม่มีเจ้าของร้านซึ่งปกติหน้าตายๆไร้ความรู้สึกยังถึงขั้นทำหน้าประมาณ
เอ็งเพี้ยนไปแล้วสินะ เจ้าแมวภูเขาอยากได้จักรยาน มือ1 ราคา xxxxx เยน
เช่น...”เห้นายจ๋า ทำไมไม่ซื้อที่มันดีๆหน่อย แล้วพอกลับไทยก็แบกไปด้วยกันเลยล่ะ?”
บ้างก็...”ถนนญี่ปุ่นเนี่ย ดีกว่าเมืองไทยเทียบไม่ติดเลย ไม่ว่าจะ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือจักรยาน
จะไม่ซื้อของดีๆ แล้วลงไปขี่เป็นบุญตูดหน่อยฤา?”
...อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก…
...ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว...