____________________T r i p 1 : N o e n m a p r e a g P h i t s a n u lo k______________________________

      สวัสดีค่ะทุกๆคนนะค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกเลย โดยที่จขกท ตั้งใจจะมารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวในบ้านเกิดตัวเอง และเป็นสถานที่ที่ตัวจขกท นั้น ไม่เคยได้ไปสัมผัสเลยตั้งแต่อยู่พิษณุโลกมา ขอเกริ่นนำก่อนว่าจขกท นั้นชอบการเดินทางท่องเที่ยวมาก โดยเฉพาะที่ไม่ค่อยมีคนไปสัมผัสก่อนจะเดินทางก็มีการวางแผนกันกับเพื่อนๆในแก๊งค์หน่อยค่ะ ขอเรียกแทนเจ้าของกระทู้ว่าพวกเรานะค่ะ เพราะมีเพื่อนๆไปด้วย และความคิดของเพื่อนๆหลายคน
      วางแผน : concept ของพวกเราคือ one day trip เที่ยวในจังหวัดพิษณุโลกที่ไม่ค่อยมีใครไปหรือไม่รู้จัก เราก็ทำการค้นหาเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลก ขอบอกนะค่ะสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก และเชื่อว่าใครหลายๆคนต้องรู้จักจังหวัดนี้เป็นอย่างดี แต่ที่จะพบในอินเตอร์เน็ตหรือเว็ปไซต์ต่างๆ ก็จะเป็นที่จขกท กับเพื่อนๆไปมาแล้ว ยกตัวอย่างนะค่ะ วัดใหญ่ ภูหินร่องกล้า ทุ่งแสลงหลวง น้ำตกต่างๆตามเส้นทางหล่มสัก สักเกตได้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจะเป็นเส้นทางพิษณุโลก-หล่มสัก และได้รับการโปรโมทเป็นอย่างดี เราอยากเสนอมุมที่ทุกคนไม่เคยเห็น
     อ้างว้างเนินมะปราง อยากให้ทุกคนอ่านแล้วน่าจะมองเห็นถึงความอ้างอ้างในความหมายของพวกเราได้ค่ะ....

______   พูดส่ะยืดยาวเลยนะค่ะ .... อยากให้ทุกๆคนเห็นภาพของการเที่ยวของพวกเรานะค่ะ อีกอย่างเป็นกระทู้แรกด้วย ตั้งใจเขียนสุดๆค่ะ

     เอาเป็นว่าเราและเพื่อนเลือกอำเภอเนินมะปรางค่ะ ดูข้อมูลว่ามีเขาหินปูนอายุ กว่า 300 ล้านปี มีถ้ำอยู่มากมาย โอเคเลยค่ะเราและเพื่อนชอบการปีนเขาเดินทางไกลอยู่แล้ว 5555


_______บอกก่อนนะค่ะทริปนี้รูปอาจจะไม่ชัดเพราะถ่ายจากโทรศัพท์ กล้องที่นำติดตัวไป แบตหมด เศร้าใจมากเลย ได้ภาพที่ไม่คมชัด แต่ไม่เป็นไร ได้เห็นของจริงก็สุดค่ะ
           พวกเราออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยตอน 11.20 น มุ่งหน้าไปตามทางหลวงหมายเลข 12 ถึงอำเภอวังทองระยะทาง 20 กิโลเมตร แยกขวาไปยังอำเภอสากเหล็กอีก 38 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 11 แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวง 1115 อีก 17 กิโลเมตร ถึงโรงเรียนเนินมะปรางศึกษาวิทยา (ก่อนถึงตัวอำเภอ 2 กิโลเมตร) มีแยกขวาไปถ้ำผาท่าพลอีก 10 กิโลเมตร

           ที่นี้มีจักรยานให้เช่าปั่นด้วยนะค่ะ คันละ 30 บาท จักรยานดีมากค่ะ เสือภูเขาแต่เสียดายเพื่อนอีกคนปั่นจักรยานไม่แข็ง เราเลยตกลงขับรถเข้าไปดีกว่า ถ้าปั่นจักรยานมันจะได้บรรยากาศมากเลยค่ะ แดดไม่ร้อนมาก เรามาถึงที่แรกที่เราจะเข้าไปถ้ำเรือ (เราจะไม่พูดถึงประวัติความเป็นมานะค่ะเพราะในเว็ปมีให้อ่านค่ะ)
           บรรยากาศที่นี้ดีมากค่ะ ถนนลาดยางเส้นทางไม่ใหญ่มาก แล้วเราไปถึงถ้ำแรกเราก็เจอศาลานั่งพัก และมีกลุ่มวัยรุ่นนั่งอยู่เปิดเพลงฟังกัน





     ข้างในถ้ำเรือกว้างใหญ่มากค่ะ ถือว่าเป็นถ้ำที่มีขนาดทางเดินที่ใหญ่ในบรรดาถ้ำต่างๆ ถ้าเราไปในหน้าฝนนั้นเราอาจจะเดินไม่ได้เพราะจะมีน้ำขังอยู่ แต่ที่พวกเราไปนั้นไม่มีน้ำขังอยู่ค่ะ แค่แฉะนิดหน่อย ในการเดินถ้ำควรพกไฟฉายไปด้วยนะค่ะ พวกเราไม่ได้เตรียมตัวไปก็ใช้ไฟฉ่ายจากโทรศัพท์ อาจจะมีกลิ่นของขี้ค้างค้าวหน่อยเพราะถ้ำมีค้างค้าวอาศัยอยู่





        ขอบอกนะค่ะว่าพอถึงถ้ำที่บอกว่าพบซากดึกดำบรรพ์พวกเราก็หมดแรงแล้วก็หาไม่เจอว่าตรงไหน มันอยู่ตรงไหนซากดึกดำบรรพ์  แต่ก็เพื่อน 1 คนที่เดินหารอบถ้ำเลย5555

        และแล้วเราก็พบมันค่ะ ซากดึกดำบรรพ์ของหอยและปะการังที่กลายเป็นหินไปแล้ว เนื่องจากบริเวณนี้เคยเป็นท้องทะเลมาก่อน




        อักษรญี่ปุ่นก็เป็นไปตามข้อสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทหารญี่ปุ่นน่าจะมาสลักไว้ แต่แล้วพวกเราเด็กประวัติศาสตร์ก็ต้องสันนิษฐานและสังเกตว่า คล้ายอักษรเกาหลีมากกว่าอาจจะเป็นเฉชยเกาหลีที่มาเป็นทหารในกองทัพญี่ปุ่นก็เป็นได้ (พวกเราก็พูดกันขำๆไปนะค่ะตามประแสเด็กขี้สงสัย)

        เราก็เดินทางมาถึงถ้ำรอดค่ะ แต่ละถ้ำที่เรามากัน ขับรถมาจอดหน้าปากถ้ำได้เลยนะค่ะ แค่เดินเข้าไปในถ้ำเฉยๆ กลัวทุกคนว่าจะเดินตลอด จริงๆเราขับรถจอดแต่ละถ้ำกันนะค่ะ






        ถ้ำรอดแห่งนี้พอเดินออกไปจะพบกับคล้ายๆสำนักสงฆ์ มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้ เสี่ยงเซี่ยมซี บอกก่อนนะค่ะก่อนเข้าถ้ำมาพวกเราถามเด็กๆหน้าถ้ำแล้วว่ามีอะไร เด็กๆก็บอกว่ามีพระที่พูดไม่ได้ 5555 เราก็งงๆ พวกเราก็คิดว่าคงมีพระพุทธรูปให้กราบไหว้ธรรมดา แต่ไม่คิดว่าจะเจอลิงค่ะ ลิงหลายสิบตัว โอ้ย น่ารักมาค่ะ มันเชือนมาก ไม่กลัวคนด้วยและพวกเราก็อยุ่ถ้ำนี้นานมากค่ะ เล่นกับลิง เพราะไม่เคยได้อยู่ใกล้ลิงขนาดนี้









       ขอบอกว่าน่ารักจริงๆค่ะ เข้าใกล้ได้นานมาก เลยถ่ายรูปลิงมาเยอะไปหน่อย แหะๆ
ยังไม่จบนะค่ะ เดี๋ยวมาต่อ เพราะขอบอกว่ารูปเยอะมากๆ เพราะชอบวิวและอยากบรรยายให้เห็นภาพ