เมื่อเช้าก่อนไปเรียนหนังสือตื่นมาดูเรื่องเล่าเช้านี้ กับหัวข้อข่าว ดังนี้
"นายกฯ ชี้ชาวประมงต้องเคารพ กม. วอนอย่ากดดัน รบ."
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช.กล่าวถึงการขึ้นทะเบียนเรือประมงว่า ภาครัฐได้ผ่อนผัน และ ขยายเวลาให้มาขึ้นทะเบียนถึง 3 เดือน แล้วหลังจากนี้ไปจะไม่ขยายเวลาให้อีก เพราะไอยูยูไม่ได้ผ่อนผันให้ประเทศไทย เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ห้ามเรือที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนออกทะเล ถ้าพบกลางทะเลแล้วไม่มีใบอนุญาตทำประมง ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที จะเลือกปฏิบัติไม่ได้ ใครทำผิดต้องจัดการ
สำหรับกรณีที่แรงงานประมงทั่วประเทศ นัดรวมตัว หยุดเดินเรือเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากเรือประมงจำนวนมากอาจไม่สามารถออกทำประมงกลางทะเลได้ เนื่องจากยังไม่มีอาชญาบัตร หรือใบอนุญาตในการทำประมงที่ถูกต้องตามกฎหมาย นายกฯว่าตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน และรัฐบาลกำลังหามาตรการดูแลชาวประมงในทุกมิติ เพราะจะเกิดความเสียหายลดความเชื่อมั่นต่อประเทศ พร้อมกันนี้จะกระทบต่อรายได้ที่เข้ามาจากสินค้าการประมง ทั้งนี้พร้อมวอนสื่อนำเสนอข่าวสร้างความเข้าใจ
ที่มาของเนื้อหาข่าว tp://morning-news.bectero.com/economy/02-Jul-2015/45609
จากข่าวที่นายกออกมาชี้แจงดังกล่าวแล้วดิฉันก็สงสัยว่าทำไมเรือเล่านั้นไม่ยอมไปจดทะเบียนให้มันถูกต้องสักทีเพราะถ้าหากไม่ยอมจดทะเบียนและมาจอดเรือประท้วงแบบนี้มันก็จะส่งผมเสียในระยาวเป็นห่วงโซ่ ต่อๆไปเรื่อยๆ สุดท้ายประเทศไทยก็จะต้องส่งออกอาหารทะเลไม่ได้เนื่องจากไม่ผ่าน IUU คณะกรรมาธิการยุโรปได้ตัดสินใจประกาศให้ "ใบเหลือง" หรือการแจ้งเตือนประเทศไทย ถึงความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะถูกขึ้นบัญชีเป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือ (Non-cooperating Country) ในการต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ภายใต้ระเบียบว่าด้วยการป้องกัน ต่อต้าน และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม หรือกฎระเบียบ IUU (Illegal, Unreported and Unregulated Finishing) มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 โดยคณะกรรมาธิการยุโรปได้ให้เวลาประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาภายในเวลา 6 เดือน (ตุลาคม 2558) โดยสถานะใบเหลืองที่ให้กับประเทศไทยขณะนี้ยังไม่มีผลในการส่งออกสินค้าประมงจากไทยเข้าสู่ตลาดสหภาพยุโรป แต่หลังจากนั้น (6 เดือน) หากประเทศไทยได้รับ "ใบแดง" ความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะถูกตอบโต้จากสหภาพยุโรปก็คือ การ "คว่ำบาตร" สินค้าประมง ทั้งนี้ สหภาพยุโรปต้องการ "แผนปฏิบัติการ" ที่ชัดเจนในการต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย และการปฏิบัติการที่มีรูปธรรมในการแก้ไขปัญหา ด้วยการส่งคณะเจ้าหน้าที่เข้ามาประเมินและติดตามสถานการณ์ หากได้รับการประเมินผ่าน สถานะของประเทศไทยก็จะถูกปลดออกจาก "ใบเหลือง" มาเป็นการได้รับ "ใบเขียว" เป็นการรับรองการทำประมงที่ถูกกฎหมาย
เรามาดูฝั่งทางนายกสมาคมประมงระนอง ขอเวลา 2 ปี แก้ปัญหา
นายกสมาคมประมงจังหวัดระนอง เปิดเผย “ผู้สื่อข่าว” ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจเรือประมงในขณะนี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับภาคธุรกิจประมงเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อดูแนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลยังสวนทางกับแนวทางที่ชาวประมงต้องการที่ตอนนี้ชาวประมงยินยอมที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาในลักษณะยั่งยืนมากกว่าการผ่อนผันไม่จบสิ้น ดังนั้นภาครัฐจะต้องเปิดกว้างและให้โอกาสเรือประมง เพราะที่ผ่านมาปัญหาไม่ได้เกิดจากเรือประมงแต่ปัญหาเกิดจากภาครัฐที่ไม่ยอมดำเนินการจดทะเบียนเรือให้ถูกต้องเอง แต่แนะนำให้จดอีกประเภท จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน
นายทวี กล่าวว่า กฎระเบียบอะไรที่ออกมาแล้วสร้างผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างก็น่าจะมีการทบทวนการที่เรือประมงหยุดออกทะเลจับปลาผลกระทบมันมีมาก ธุรกิจต่อเนื่อง การว่างงาน และสุดท้ายก็จะเกิดปัญหาสังคม โจรผู้ร้ายจะออกมาอาละวาดเพราะเค้าไม่มีอะไรจะกิน ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ จึงอยากเรียกร้องให้มีการทบทวนให้ดี
นายทวี กล่าวว่า เรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ขนาด 20-100 ตันซึ่งทำประมงในเขตทะเลลึกในทะเลอันดามันซึ่งมีจำนวนกว่า 300 ลำ ได้ทยอยเข้าฝั่งจังหวัดระนองเกือบทั้งหมดแล้วในเพื่อหยุดการทำประมงตามมาตรการที่สมาคมประมงแห่งประเทศไทยกำหนดร่วมกันทั้ง 22 จังหวัดทั่วประเทศเพื่อหยุดทำการประมงพร้อมกัน เนื่องจากไม่สามารถออกทำการประมงได้อันเป็นผลมาจากได้รับผลกระทบจากมาตรการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฏหมายของรัฐบาลที่มีการบังคับใช้กฏหมายตาม IUU นายทวี กล่าวว่า การที่รัฐบาลตีกรอบกำหนดเงื่อนไขเวลาให้เรือประมงทุกลำที่ยังไม่ได้รับใบอาชญาบัตรกำหนดต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24มิ.ย. 2558 ที่ผ่านมา ถือเป็นการกำหนดกรอบเวลาที่เร่งรัดเกินไป ทำให้เรือประมงไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ส่วนการหยุดทำประมงในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการประท้วง แต่เรือประมงที่หยุดเพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการที่รัฐบาลกำหนดหากออกทำการประมงก็จะถูกจับหรือไม่สามารถเข้าฝั่งได้ จึงต้องหยุดทำประมง ในขณะเดียวกันก็ต้องการให้รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวให้กับเรือประมงเนื่องจากตอนนี้ทุกคนพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาของชาติ อีกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากผู้ประกอบการประมงฝ่ายเดียวเป็นการร่วมผิดกันทุกฝ่ายที่ปล่อยให้ปัญหาเรือรังมานานกว่า 20 ปี ดังนั้นจะใช้เวลา 5-6 เดือนแก้ไขคงทำไม่ได้จึงต้องการให้รัฐบาลขยายระยะเวลาในการดำเนินการโดยความคิดเห็นส่วนตัวหากทุกฝ่ายพร้อมใจจะแก้ไขปัญหากันอย่างจริงจังคาดจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ปีในการดำเนิน แต่ทั้งนี้ต้นน้ำคือภาครัฐที่จะต้องแก้ไขส่วนของกฎระเบียบที่ยังเป็นปัญหา ส่วนภาคประมงก็จะต้องเตรียมตัวในการดำเนินการ
ส่วนผลกระทบจากการหยุดทำประมงนั้นเกิดผลกระทบอย่างแน่นอนเพราะมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เป็นลูกโซ่จากประมงเป็นจำนวนมาก ไม่เฉพาะแต่ภาคต่อเนื่องโดยตรง ทั้งโรงน้ำแข็ง,โรงงานปลาป่น,กิจการแพปลา แต่ผลกระทบจะลงไปถึงชาวบ้านที่จะต้องบริโภคอาหารทะเลในราคาแพง,ร้านอาหารที่จะไม่มีวัตถุดิบ พ่อค้า แม่ค้าในตลาดที่การค้าขายจะลดลง เนื่องจากภาคประมงโดยเฉพาะในระนองเป็นภาคธุรกิจหลัก เป็นเศรษฐกิจหลักของจังหวัดเมื่อกระทบก็จะกระทบตามไปหมด แม้กระทั่งธนาคารที่แต่ละวันมีเงินสดหมุนเวียนวันละกว่า 100 ล้านบาทก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยขณะนี้อีกประมาณหนึ่งเดือนหากยังไม่มีท่าทีที่ดีจากรัฐบาลทั้งระบบจะมีการหยุดกิจการทั้งหมดเพื่อร่วมใจกันในครั้งนี้ ที่แสดงให้รัฐบาลรู้ว่าแนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลนั้นไม่ถูกต้อง
ที่มาของเนื้อหาข่าว
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=762417
ข้อกล่าวหาที่ประเทศไทยได้รับทั้ง 3 ในตอนนี้ประเทศคู่ค้าได้ให้เวลาในการแก้ไขปัญหามาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ ICAO ที่แจ้งเตือนประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2548 กรณีของ TIP Report ผ่านมาไม่น้อยกว่า 3 ปี กระทั่งถึงกรณี IUU ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2556 เพียงแต่รัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมาไม่ให้ความสำคัญและใส่ใจในการแก้ไขปัญหา และนำมาซึ่งการถูกประเทศคู่ค้าปรับสถานะและถูกตอบโต้ในที่สุด
*ขอนอกเรื่อง
เมื่อวานนี้ไปตลาดกับลุงคะได้ไปซื้อกับข้าวตามปกติทุกวันและแวะไปแวะซื้อปลานิลเผา
ลุง : ปลาเผาตัวละเท่าไหร่คับ
แม่ค้า : 350 จ้า
ลุง : เอ้าปกติซื้อ 150 เองทำไมแพงจัง
แม่ค้า : ช่วงนี้เรือมันไม่วิ่งอาหารทะเลหายากแล้วเขาประกาศกันโครมๆ มันขึ้นราคาทั้งนั้นแหละ!!
ลุง : ด่าในใจ อีเอาเปรียบคิดว่าคนเขาโง่กันหรือไง (ปลาที่แม่ค้าขายเป็นปลานิลแบบเลี้ยงบ่อธรรมดาไม่ใช่ปลาทะเล)
..... ถึงโรงเรียนแล้ว ตอนเย็นกลับมาต่อคะ ..........
ว่าด้วยเรื่องของประมงและเศรษฐกิจปัญหาแบบนี้ควรที่จะแก้จากจุดไหนคุณคิดว่าไง?
"นายกฯ ชี้ชาวประมงต้องเคารพ กม. วอนอย่ากดดัน รบ."
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช.กล่าวถึงการขึ้นทะเบียนเรือประมงว่า ภาครัฐได้ผ่อนผัน และ ขยายเวลาให้มาขึ้นทะเบียนถึง 3 เดือน แล้วหลังจากนี้ไปจะไม่ขยายเวลาให้อีก เพราะไอยูยูไม่ได้ผ่อนผันให้ประเทศไทย เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ห้ามเรือที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนออกทะเล ถ้าพบกลางทะเลแล้วไม่มีใบอนุญาตทำประมง ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที จะเลือกปฏิบัติไม่ได้ ใครทำผิดต้องจัดการ
สำหรับกรณีที่แรงงานประมงทั่วประเทศ นัดรวมตัว หยุดเดินเรือเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากเรือประมงจำนวนมากอาจไม่สามารถออกทำประมงกลางทะเลได้ เนื่องจากยังไม่มีอาชญาบัตร หรือใบอนุญาตในการทำประมงที่ถูกต้องตามกฎหมาย นายกฯว่าตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน และรัฐบาลกำลังหามาตรการดูแลชาวประมงในทุกมิติ เพราะจะเกิดความเสียหายลดความเชื่อมั่นต่อประเทศ พร้อมกันนี้จะกระทบต่อรายได้ที่เข้ามาจากสินค้าการประมง ทั้งนี้พร้อมวอนสื่อนำเสนอข่าวสร้างความเข้าใจ
ที่มาของเนื้อหาข่าว tp://morning-news.bectero.com/economy/02-Jul-2015/45609
เรามาดูฝั่งทางนายกสมาคมประมงระนอง ขอเวลา 2 ปี แก้ปัญหา
นายกสมาคมประมงจังหวัดระนอง เปิดเผย “ผู้สื่อข่าว” ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจเรือประมงในขณะนี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับภาคธุรกิจประมงเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อดูแนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลยังสวนทางกับแนวทางที่ชาวประมงต้องการที่ตอนนี้ชาวประมงยินยอมที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาในลักษณะยั่งยืนมากกว่าการผ่อนผันไม่จบสิ้น ดังนั้นภาครัฐจะต้องเปิดกว้างและให้โอกาสเรือประมง เพราะที่ผ่านมาปัญหาไม่ได้เกิดจากเรือประมงแต่ปัญหาเกิดจากภาครัฐที่ไม่ยอมดำเนินการจดทะเบียนเรือให้ถูกต้องเอง แต่แนะนำให้จดอีกประเภท จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน
นายทวี กล่าวว่า กฎระเบียบอะไรที่ออกมาแล้วสร้างผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างก็น่าจะมีการทบทวนการที่เรือประมงหยุดออกทะเลจับปลาผลกระทบมันมีมาก ธุรกิจต่อเนื่อง การว่างงาน และสุดท้ายก็จะเกิดปัญหาสังคม โจรผู้ร้ายจะออกมาอาละวาดเพราะเค้าไม่มีอะไรจะกิน ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ จึงอยากเรียกร้องให้มีการทบทวนให้ดี
นายทวี กล่าวว่า เรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ขนาด 20-100 ตันซึ่งทำประมงในเขตทะเลลึกในทะเลอันดามันซึ่งมีจำนวนกว่า 300 ลำ ได้ทยอยเข้าฝั่งจังหวัดระนองเกือบทั้งหมดแล้วในเพื่อหยุดการทำประมงตามมาตรการที่สมาคมประมงแห่งประเทศไทยกำหนดร่วมกันทั้ง 22 จังหวัดทั่วประเทศเพื่อหยุดทำการประมงพร้อมกัน เนื่องจากไม่สามารถออกทำการประมงได้อันเป็นผลมาจากได้รับผลกระทบจากมาตรการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฏหมายของรัฐบาลที่มีการบังคับใช้กฏหมายตาม IUU นายทวี กล่าวว่า การที่รัฐบาลตีกรอบกำหนดเงื่อนไขเวลาให้เรือประมงทุกลำที่ยังไม่ได้รับใบอาชญาบัตรกำหนดต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24มิ.ย. 2558 ที่ผ่านมา ถือเป็นการกำหนดกรอบเวลาที่เร่งรัดเกินไป ทำให้เรือประมงไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ส่วนการหยุดทำประมงในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการประท้วง แต่เรือประมงที่หยุดเพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการที่รัฐบาลกำหนดหากออกทำการประมงก็จะถูกจับหรือไม่สามารถเข้าฝั่งได้ จึงต้องหยุดทำประมง ในขณะเดียวกันก็ต้องการให้รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวให้กับเรือประมงเนื่องจากตอนนี้ทุกคนพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาของชาติ อีกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากผู้ประกอบการประมงฝ่ายเดียวเป็นการร่วมผิดกันทุกฝ่ายที่ปล่อยให้ปัญหาเรือรังมานานกว่า 20 ปี ดังนั้นจะใช้เวลา 5-6 เดือนแก้ไขคงทำไม่ได้จึงต้องการให้รัฐบาลขยายระยะเวลาในการดำเนินการโดยความคิดเห็นส่วนตัวหากทุกฝ่ายพร้อมใจจะแก้ไขปัญหากันอย่างจริงจังคาดจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ปีในการดำเนิน แต่ทั้งนี้ต้นน้ำคือภาครัฐที่จะต้องแก้ไขส่วนของกฎระเบียบที่ยังเป็นปัญหา ส่วนภาคประมงก็จะต้องเตรียมตัวในการดำเนินการ
ส่วนผลกระทบจากการหยุดทำประมงนั้นเกิดผลกระทบอย่างแน่นอนเพราะมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เป็นลูกโซ่จากประมงเป็นจำนวนมาก ไม่เฉพาะแต่ภาคต่อเนื่องโดยตรง ทั้งโรงน้ำแข็ง,โรงงานปลาป่น,กิจการแพปลา แต่ผลกระทบจะลงไปถึงชาวบ้านที่จะต้องบริโภคอาหารทะเลในราคาแพง,ร้านอาหารที่จะไม่มีวัตถุดิบ พ่อค้า แม่ค้าในตลาดที่การค้าขายจะลดลง เนื่องจากภาคประมงโดยเฉพาะในระนองเป็นภาคธุรกิจหลัก เป็นเศรษฐกิจหลักของจังหวัดเมื่อกระทบก็จะกระทบตามไปหมด แม้กระทั่งธนาคารที่แต่ละวันมีเงินสดหมุนเวียนวันละกว่า 100 ล้านบาทก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยขณะนี้อีกประมาณหนึ่งเดือนหากยังไม่มีท่าทีที่ดีจากรัฐบาลทั้งระบบจะมีการหยุดกิจการทั้งหมดเพื่อร่วมใจกันในครั้งนี้ ที่แสดงให้รัฐบาลรู้ว่าแนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลนั้นไม่ถูกต้อง
ที่มาของเนื้อหาข่าว http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=762417
ข้อกล่าวหาที่ประเทศไทยได้รับทั้ง 3 ในตอนนี้ประเทศคู่ค้าได้ให้เวลาในการแก้ไขปัญหามาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ ICAO ที่แจ้งเตือนประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2548 กรณีของ TIP Report ผ่านมาไม่น้อยกว่า 3 ปี กระทั่งถึงกรณี IUU ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2556 เพียงแต่รัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมาไม่ให้ความสำคัญและใส่ใจในการแก้ไขปัญหา และนำมาซึ่งการถูกประเทศคู่ค้าปรับสถานะและถูกตอบโต้ในที่สุด
*ขอนอกเรื่อง
เมื่อวานนี้ไปตลาดกับลุงคะได้ไปซื้อกับข้าวตามปกติทุกวันและแวะไปแวะซื้อปลานิลเผา
ลุง : ปลาเผาตัวละเท่าไหร่คับ
แม่ค้า : 350 จ้า
ลุง : เอ้าปกติซื้อ 150 เองทำไมแพงจัง
แม่ค้า : ช่วงนี้เรือมันไม่วิ่งอาหารทะเลหายากแล้วเขาประกาศกันโครมๆ มันขึ้นราคาทั้งนั้นแหละ!!
ลุง : ด่าในใจ อีเอาเปรียบคิดว่าคนเขาโง่กันหรือไง (ปลาที่แม่ค้าขายเป็นปลานิลแบบเลี้ยงบ่อธรรมดาไม่ใช่ปลาทะเล)
..... ถึงโรงเรียนแล้ว ตอนเย็นกลับมาต่อคะ ..........