[SR] เที่ยวเรือล่องแม่น้ำสุดหรู Avalon Waterways จากประเทศเยอรมัน สู่ ประเทศออสเตรีย 9 วัน ตอนที่ 1

กระทู้รีวิว
เที่ยวเรือล่องแม่น้ำสุดหรู ประเทศเยอรมัน สู่ ประเทศออสเตรีย 9 วัน
Review นี้ขอพาเที่ยว 2 ประเทศ โดยไฮไลท์จะเป็นการเที่ยวทางเรือ (ห้องพัก และทานอาหารอยู่บนเรือหรูของ Avalon เสร็จสรรพ) ขอออกตัวก่อนนะคะว่า จขกท เป็นพนักงานของ Travel Agent ที่ชวนไปเที่ยว
โปรแกรมนี้เดินทางระหว่างวันที่ 09 - 17 เม.ย. 58 เที่ยวประเทศเยอรมัน เริ่มจากเมือง มิวนิค 3 วัน และล่องแม่น้ำ 6 วัน
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/33823702
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/33827168
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/33827725

ครั้งแรกกับการเดินทางด้วย สายการบิน Emirates โดยการต่อเครื่องที่ดูไบ

มาถึงสนามบิน จะพบกับเจ้าหน้าที่ถือป้ายของ Avalon Waterways และพาไปยังรถ ตื่นเต้นมากๆแล้ว ยังไงก็ไม่ยอมหลับ นั่งดูสองข้างทางไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเพื่อเดินทางไปโรงแรม Westin Grand Munich เมื่อเดินทางถึงโรงแรม พบกับเค๊าเตอร์ของ  Avalon Waterways ไปรับข้อมูลจากที่นี่ได้เลย แล้วตอนเย็นเขาก็ต้อนรับเราด้วยไวน์ พร้อมกับให้ข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมทัวร์โดย Tour Director ชื่อ Sabine เขาจะอยู่ดูแลเราไปตลอดทริป โดยพบกับลูกค้าคนอื่นๆ ทริปนี้มีคนมาจากประเทศอังกฤษ, อเมริกา, แคนนาดา, ออสเตรเรีย  และไทย เพื่อมาเที่ยวด้วยกัน ทุกคนน่ารักมาก

เมื่อได้เวลาของอาหารมื้อแรก ซึ่งเป็นอาหารค่ำ ณ เวลาเที่ยงคืนของประเทศไทย หลังจากเดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย มาเยอรมันทั้งที ต้องนี่เลย Beer Paulaner และไส้กรอก มันฟินเวอร์ๆ เลยลืมความเหนื่อยไปเลย ทาง Tour Director แนะนำร้านนี้ Paulaner´s Wirtshaus ซึ่งอยู่ที่ชั้นใต้ดินของโรงแรม บรรยากาศและการตกแต่งสวยมากๆ ที่สำคัญ เค้าว่าอาหารอร่อยและไม่แพงเลย ขอลองจัดสักหน่อย เห็น Pretzel ชิ้นใหญ่มาก คาดว่าน่าจะเอาไว้ทานกับเบียร์ หลังจากอิ่มแล้วก็ขอตัว กู๊ดไนท์ ก่อนนะคะ

Munich
Guten  Morgen พร้อมแล้วสำหรับการเริ่มต้นตะลุยมิวนิค!! อากาศค่อนข้างเย็นในช่วงเช้า ไกด์ได้แจกหูฟังพร้อม receiver สำหรับลูกทัวร์เพื่อติดตัวไว้ฟังไกด์อธิบาย จะได้ยินเสียงไกด์ได้ทั่วถึงแม้ขณะ Selfie รูปเลิศๆ และตื่นเต้นอีกแล้ว เมื่อรถบัสพาผ่านสนามอัลลิอันซ์อาเรนา สโมสรฟุตบอล ของบาเยิร์น มิวนิค ในปีนี้พวกได้คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยที่ 25 มาครอง
จขกท ก็เป็นแฟนคลับของทีมบาเยิร์นมิวนิค ค่ะ ก็ขอนิดนึงนะคะ

สถานที่แรกที่ได้เยือนก็คือ พระราชวังนิมเฟนบูร์ก เป็นพระราชวงในหน้าร้อนของพระราชวงศ์ผู้ปกครองบาวาเรีย ถูกสร้างแบบสถาปัตยกรรมบาร็อกที่เน้นความหรูหรา จุดเด่นก็คือ งานปูนปั้น หินอ่อน และ จิตรกรรมฝาผนัง สวนของยุโรปช่างใหญ่โตจริงๆ ฮืม...แดดออกแล้วร้อนทันที

ต่อจากนั้นไปยัง จัตุรัสมาเรียนปลัตส์ (MARIENPLATZ) ไกด์เล่าว่า ที่นี่เป็นศูนย์กลาง และเคยเป็นตลาด ได้ข่าวว่าหอระฆัง Glockenspiel เป็นที่ๆทุกคนต้องมา จะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ พวกเราได้มาถึงทันเวลาดูการแสดงของ ระบำตุ๊กตา รวมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆกว่าครั่งพัน รอชมการแสดงนี้ พอเริ่มมีเสียงเพลง ทุกๆคนก็เริ่มมีเสียงชื่นชม นาฬิกาชั้นแรกเป็นพาเหรดของอัศวินเพื่อเฉลิมฉลองพระราชพิธีสมรสของกษัตริย์พระองค์หนึ่งในสมัยศตวรรษที่ 16 ใช้เวลานานถึง 12-15 นาทีเลยทีเดียว เป็น Must See ค่ะ

จากนั้นเดินเที่ยวรอบเมือง และพบกับร้าน ฮอฟบราวเฮาส์เบียร์ฮอลล์ โรงเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอายุเก่าแก่นับร้อยปี บรรยากาศข้างในทำให้ดูเก่าๆ ตอนนี้คงจะไม่มีแรงต่อคิวเพราะคนแน่นเอี๊ยด ดังนั้นคงต้องหาอย่างอื่นทดแทน เลยได้ของฝากเล็กๆน้อยๆมาเป็นที่ระลึก

หลังจากเติมพลังแล้วก็ออกเดินทางไปยัง Beer World มาพบกับเบียร์บาวาเรี่ยนแท้ๆ เป็นแหล่งปลูกต้นฮอพที่ใหญ่ที่สุดในโลก!! ต้นฮอพเป็นส่วนผสมในการผลิตเบีย์ที่ทำให้เบียร์มีรสขมและกลิ่นเฉพาะตัว พอดมๆแล้วเหมือนกลิ่นเบียร์เลยค่ะ มาที่กระดานแผนที่ ฮืมยังไม่มีใครมาปักหมุดที่ประเทศไทย งั้นขอเป็นตัวแทนประเทศไทยนะคะ เลยจัดให้แล้วค่ะ

ไกด์จะพาชมการผลิตเบียร์ ละเอียดทุกขั้นตอน และที่นี่จุดเด่นก็คือ หอคอย Kuchlbauer Tower สูงถึง 34.14 เมตร และออกแบบโดยสถาปนิคชาวออสเตรีย Friedensreich Hundertwasser หอคอยนี้เห็นเด่นแต่ไกลตอนเข้าเมืองมา

หอคอยนี้ดูค่อยข้างจะสนุกสนาน มีสีสันที่โดดเด่น เหมือนกำลังจะเป็นเด็กอีกครั้งที่ได้ปีนขึ้นนหอคอยสีสดใสเหมือนการ์ตูน ถ้าใครเดินไม่ไหว เขาก็มีลิฟให้ค่ะ การตกแต่งน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเพราะจะมีการรวมถึงศิลปได้อย่างลงตัว

ไม่ใช่แค่เดินชมการผลิตเท่านั้น เหมือนได้เดินดูชิ้นงานของศิลปอีกด้วย ชั้นสูงสุดของหอคอย สามารถชมวิวของโรงงานและรอบเมือง Abensberg นี้

เมื่อสุดการชม หางบัตรแลกเบียนขวดโตๆได้ 1 ขวดพร้อม Pretzel ด้วยนะคะ

ต่อจากนั้นเดินทางต่อไปยัง Hop Museum ที่นี่เป็น พิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงประวัติของต้นฮอพ

และการปลูก การเก็บ จนถึงการผลิตเบียร์ ไกด์ได้อธิบาย และพาชมอย่างละเอียดมาก เขายังมีเครื่องกรองดอกฮอพและเปิดให้ดูอีกด้วย เสียงงี๊ลั่นเลย
นอกจากเป็นส่วนผสมของเบียร์แล้ว ยังนำมาทำน้ำมัน ช๊อตโกแลต หรือแม้แต่ชมพูสระผม ได้ด้วย

คืนนี้ขอทานอาหารค่ำที่เดิม เมื่อคืนแอบเห็นโต๊ะข้างๆจัดขาหมู Schweine Haxe "ชวายเนอร์ ฮักเซอ" มันฟินเวอร์ครัชพี่น้อง เนื้อขาหมูกรอบนอกสุดนิ่มข้างใน สอดแทรกด้วยน้ำเกรวี่รสเข้มข้น รวมถึงมันฝรั่งบดหอมกรุ่นด้วยเครื่องปรุงรสชั้นเลิศ 10 คะแนนเต็ม

Neauschwanstein & Oberammergau
วันนี้เป็นอีกวันที่ตื่นเต้น เพราะจะได้ไปปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ปราสามนี้อายุราว 140 กว่าๆ เดินทางออกไปนอกมิวนิคประมาณชั่วโมงกว่าๆ ระหว่างทางได้ชมทิวทัศน์ของหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ มันเหมือนในภาพวาดในนิยายเลย เริ่มต้นบิวท์ตัวเองก่อนที่จะเข้าปราสาท  ปราสาทแห่งนี้ ได้เป็นแรงบันดาลใจ ให้การสร้างปราสาทในเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมถึง แดนเนรมิต หวังว่าทุกคนคงจะรู้จักนะคะ เริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายโดยการเดินขึ้นไป พอได้เบิร์นขาหมูขอเมื่อคืน ฮิๆ ใครไม่อยากเดินขึ้นก็สามารถนั่งรถม้าไปได้นะคะ แอ๊ปเป็นเจ้าหญิงในเทพนิยายไปก็ได้

ปราสาทนี้ไม่ได้เข้าง่ายๆ เข้าไปกับ Avalon ใช้ตั๋วกร๊ป! Exclusive จริงๆ ทำให้รู้สึกเป็นนักท่องเที่ยวที่ทรงเกรียติมาก เขาต้องมีคิวถึงจะเข้าได้นะคะ ข้างในห้ามถ่ายรูป อด Selfie เลย

แต่.... สามารถถ่ายวิวสวยๆของ ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา (Hohenschwanga Castle) จากระเบียงได้ ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา พระบิดาของพระเจ้าลุดวิกเป็นคนสร้าง เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน

ปราสาทนอยชวานสไตน์ ไกด์ได้เล่าว่า เจ้าชายลุดวิกที่ 2 เป็นผู้สร้าง ตอนพระองค์มีชีวิตอยู่ก็ทรงนอนได้เพียง 11 คืนเท่านั้นเอง ปราสาทหลังนี้ก็ยังคงสร้างไม่เสร็จ เพราะจะใช้เงินเยอะมาก ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างรายได้มหาศาลให้กับเยอรมัน มีนักท่องเที่ยวกว่า 1.3 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว ใครไม่ได้มาถือว่ามาไม่ถึงเยรมันเลยนะเนี้ย ถ้าได้กลับมาอีกก็จะขออยู่ทั้งวันเพื่อเก็บทุกมุมมองที่ดีที่สุดของปราสาทนี้

จากนั้นไป หมู่บ้านกำแพงสวย โอบาร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) หมู่บ้านน่ารักที่มีการวาดภาพลงบนกำแพงตึก เป็นเรื่องรวมในเทพนิยาย ดูแล้วน่ารักดี และมีโบสถ์ประจำหมู่บ้านชื่อ โบสถ์คาทอลิชเช่อะเคี้ยเช่อะ (Katholische Kirche)

ภายในรู้สึกถึงความสงบเงียบ เดินรอบๆเมือง มีแต่ของขายน่ารักๆทั้งนั้น กระจุ๊กกจะจิ๊ก


และแล้วหันไปเห็นร้านนึงที่มีคนนั่งเยอะจริงๆ นั่นก็คือร้านไอติม!! ไม่เข้าทนไหวเหรอ? ฮืม Yummy! จัดในโคนมาเลยน้อง ดังนั้น จขกท ก็เลยทำสำเนียงเยรมมันว่า บานาเนีย & พิสตาซี่ (Banane & Pistazie) มันคือกล้วยกับถั่วพิสตาชิโอ สำเนียงดีเลยได้มากิน อากาศเย็นขนาดนี้ ไอติมยังขายดี ไม่ลองให้รู้ไป

ต่อมาผ่าน Ettal Monastery สำนักสงฆ์เอ็ททาล รอยจากการถูกทำลายระหว่างสงคราม ระหว่างปี ค.ศ. 1618 ปี ค.ศ. 1648 และได้ถูกรื้อฟื้น เมื่อปี ค.ศ. 1900 ซึ่งได้สถาปนาอารามเอททัลกลับเป็นอารามเบเนดิกตินตามเดิม ภายในสวยงามตามแบบศิลปะแบบบาร็อก บนเพดานสร้างภาพบุคคล 431 คน เน้นความอลังการและความสว่างของสีขาว ปัจจุบันถือเป็นสำนักสงฆ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งแห่งเทือกเขาแอลป์

และคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่พวกเราจะได้นอนบนบก เพราะอีก 5 คืนหลังจากคืนนี้ได้อาศัยอยู่ในเรือ คืนนี้ สโมสรฟุตบอล ของบาเยิร์น มิวนิค ชนะ Eintracht Frankfurt 3 ประตูต่อ 0 ขอตะโกนคำว่า Mia San Mia!! เป็นภาษาบาวาเรื่ยน แปลว่า "We are who we are" เป็นคำเชียร์ของบาเยิร์น มิวนิค ขอแวะเข้าเมืองสักหน่อย จขกท เอาเสื้อทีมบาเยิร์น มิวนิค มาด้วยขอใส่เดินในเมืองสักหน่อย แม่เจ้า ใครๆก็ใส่เสื้อทีม เลยขอเนียนนิดนึง มีแฟนบอลมาเฉลิมฉลองด้วยการดื่มเบียร์และ ร้องเพลงตามถนน อบอุ่นจริงๆ

ติตามชมตอน 2 ของทริปเที่ยวเรือล่องแม่น้ำสุดหรู Avalon Waterways ได้ที่นี่ค่ะ
http://pantip.com/topic/33823702
ชื่อสินค้า:   Avalon Waterways : Austrian Highlights & Bavaria 9 วัน
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่