**กระทู้นี้สร้างขึ้นเพื่อบันทึกเรื่องราวตั้งแต่การตรวจพบและรักษาโรคเนื้องอกที่เต้านมของเจ้าของกระทู้เอง
และเพื่อเผยแพร่ข้อมูลซึ่งอาจพอเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจด้วยค่ะ
**ถ้าแทคห้องผิด ขออภัยด้วยนะคะ
ตอนที่1
http://pantip.com/topic/33772059
วินิจฉัยกับคุณหมอขั้นเทพ
ช่วงเดือนMay 2015
หลังจากนั้นไม่กี่วันเราก็ลางาน เพื่อเดินทางไปคลินิก
บ้านเรากับคลินิกห่างกันประมาณเกือบๆชั่วโมง
คลินิกของหมอคนนี้รักษาโรคทั่วไป รุ่นพี่บอกว่าคนเยอะนะ
เราก็แบบไม่อยากรอนานก็เลยไปตั้งแต่เก้าโมง เพราะเค้าเปิดตั้งแต่11โมง
ตอนแรกไปถึงนึกว่าคนต้องเยอะแน่ๆ ขั้นเทพขนาดนี้ ปรากฏว่า แทบไม่มีคน
ไม่ได้หวั่นใจอะไร นึกแค่ว่าโชคดีจัง จะได้ไม่ต้องรอ
ก็เดินไปแจ้งเคาเตอร์เรื่องขอพบคุณหมอ
ซักพักไม่ถึงห้านาที เจ้าหน้าที่ก็เรียกเข้าไปห้องตรวจ
สวัสดีทักทาย แจ้งวัตถุประสงค์ว่าจับเจอก้อนเนื้อที่เต้านม อยากรู้ว่าต้องผ่าออกไหม
หมอก็ให้นอนบนเตียง คลำหาก้อนเนื้อ
โดยไม่ต้องใช้เรื่องอัลตร้าซาวน์หรือไม้บรรทัดใดๆทั้งสิ้น บอกได้เลยว่า
“ อื้ม มีอยู่สามก้อน ข้างนี้ อีกก้อน ก้อนนี้น่าจะประมาณ 2มิล”
มันก็คือก้อนที่เราคลำเจอเองนั่นแหละค่ะ
แต่ที่นี่ระหว่างที่หมอคลำเราเกิดเจ็บ จริงๆไม่ได้กดแรงเลยนะคะ
ก็คือน้ำหนักปกติ เราก็เลยบอกว่าเจ็บค่ะ
หมอก็ถามเลย เจ็บด้วยหรอ อาจเป็นเนื้องอกนะ
เราก็เลยถามว่ารู้ได้อย่างไร ต้องเจาะชิ้นเนื้ออกมาดูไหม
แกก็แบบ ไม่ต้องเจาะ แค่เอาเข็มดูดขึ้นมาก็ได้
หมอบอกว่า “ถ้ามันเป็นแค่ถุงน้ำ เจาะขึ้นมาจะมีของเหลวขึ้นมากับเข็มด้วยแล้วมันก็จะหายไป”
“แต่ถ้าเป็นก้อนเนื้อ เจาะแล้วจะไม่มีอะไรขึ้นมา”
แล้วก็ถามเราว่าจะเจาะเลยไม๊
เราก็มาถึงนี่แล้ว เจาะก็เจาะค่ะ
หมอบอกว่าแปบเดียว ไม่ได้นาน
หมอก็เลยเล็งหาก้อนเนื้อซักอันแล้วก็เจาะ เข็มลงไป ก่อนดูดอะไรซักอย่างขึ้นมา
แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรขึ้นมาค่ะ
ก็สรุปเลยว่าเป็นเนื้องอก แต่ไม่ใช่มะเร็ง
(เอาจริงๆ ตรงนี้เราไม่ได้ถามนะคะว่าความต่างเวลาเจาะเนื้องอกกับมะเร็งคืออะไร)
ตอนนั้นอึนๆอยู่ค่ะ เข้าข้างตัวเองมาตลอดว่าเป็นแค่ถุงน้ำ พอบอกเนื้องอกก็เลยอึนๆ อึ้งๆเล็กน้อย
แต่หมอก็บอกว่า “ไม่อันตราย”
คือเหมือนหมอคงรู้ว่าสิ่งที่คนไข้ห่วงคือเรื่องความปลอดภัยน่ะค่ะ
แกก็เลยบอกมาแบบนั้น
มันเป็นเนื้องอกปกติ ที่เกินขึ้นกับผู้หญิงที่มีฮอร์โมนส์ผิดปกติ
เอาง่ายๆคือเราไม่ใช่คนแรกในโลกที่เป็นโรคนี้ค่ะ
มันมีทางรักษา คือผ่าตัดออกไป แต่มันจะขึ้นใหม่เรื่อยๆ
ก็คือต้องคอยเอาออกเรื่อยๆค่ะ
ที่นี่จากที่รุ่นพี่เล่า แกบอกว่าหมอผ่าออกให้ได้ ก็เลยว่าถ้างั้นจะผ่ากับหมอ
แต่หมอก็พูดมาก่อนเลย มันหลายก้อนนะ แนะนำให้วางยานอนหลับที่โรงพยาบาล
เราก็เลยไม่ได้พูดอะไร คิดว่าหมอเค้าคงเห็นว่าผ่าที่อื่นน่าจะเหมาะสมกว่า
แต่ตอนท้ายเค้าก็บอกนะคะว่า ถ้าจะให้หมอผ่า นัดวันมาก็ได้
สุดท้ายเราก็ไม่ได้นัดหมอค่ะ คิดว่าโรงพยาบาลก็ดีเหมือนกัน แถมหมอแนะนำเป็นอันดับแรก
น่าจะเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ
จากนั้นก็ล่ำลาหมอแล้วกลับบ้านค่ะ
จะบอกว่าคุณหมอท่านนี้เก่งมากนะคะ เราคิดมาตลอดว่าการเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจจะต้องมีขั้นตอนที่เยอะสิ่งมากกว่านี้
เอาจริงๆเราก็ไม่รู้หรอกค่ะ ว่าที่โรงพยาบาลแรกแนะนำให้เราเจาะชิ้นเนื้อคือวิธีเดียวกันกับหมอท่านนี้หรือเปล่า
เพราะเราไม่ค่อยได้เข้าโรงพยาบาลค่ะ เห็นราคา12000เราก็คิดไปแล้วว่าสงสัยมันจะเป็นขั้นตอนยากมาก
เราแค่รู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่มาหาหมอคนนี้ค่ะ ราคาไม่แพง(ไม่ถึงห้าร้อย) และสามารถระบุโรคให้เราได้เลย
คลินิกนี้อยู่ในตัวเมืองชลบุรีค่ะ คลินิกเล็กๆ
จริงๆ หลังจากเราออกมาจากห้องตรวจมีคนมารอตรวจจากไหนไม่รู้เกือบ10คนแน่ะค่ะ เรายังบอกตัวเองอยู่เลย โชคดีนะเนี่ยที่ตอนมาไม่มีคน
ปล. ชื่อคุณหมอกับคลินิกหลังไมค์ได้นะคะ เราไม่แน่ใจว่าบอกชื่อไปแล้วจะเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะค่ะ
บันทึกประสบการณ์ เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นเนื้องอกที่เต้านม ตอนที่2
และเพื่อเผยแพร่ข้อมูลซึ่งอาจพอเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจด้วยค่ะ
**ถ้าแทคห้องผิด ขออภัยด้วยนะคะ
ตอนที่1
http://pantip.com/topic/33772059
วินิจฉัยกับคุณหมอขั้นเทพ
ช่วงเดือนMay 2015
หลังจากนั้นไม่กี่วันเราก็ลางาน เพื่อเดินทางไปคลินิก
บ้านเรากับคลินิกห่างกันประมาณเกือบๆชั่วโมง
คลินิกของหมอคนนี้รักษาโรคทั่วไป รุ่นพี่บอกว่าคนเยอะนะ
เราก็แบบไม่อยากรอนานก็เลยไปตั้งแต่เก้าโมง เพราะเค้าเปิดตั้งแต่11โมง
ตอนแรกไปถึงนึกว่าคนต้องเยอะแน่ๆ ขั้นเทพขนาดนี้ ปรากฏว่า แทบไม่มีคน
ไม่ได้หวั่นใจอะไร นึกแค่ว่าโชคดีจัง จะได้ไม่ต้องรอ
ก็เดินไปแจ้งเคาเตอร์เรื่องขอพบคุณหมอ
ซักพักไม่ถึงห้านาที เจ้าหน้าที่ก็เรียกเข้าไปห้องตรวจ
สวัสดีทักทาย แจ้งวัตถุประสงค์ว่าจับเจอก้อนเนื้อที่เต้านม อยากรู้ว่าต้องผ่าออกไหม
หมอก็ให้นอนบนเตียง คลำหาก้อนเนื้อ
โดยไม่ต้องใช้เรื่องอัลตร้าซาวน์หรือไม้บรรทัดใดๆทั้งสิ้น บอกได้เลยว่า
“ อื้ม มีอยู่สามก้อน ข้างนี้ อีกก้อน ก้อนนี้น่าจะประมาณ 2มิล”
มันก็คือก้อนที่เราคลำเจอเองนั่นแหละค่ะ
แต่ที่นี่ระหว่างที่หมอคลำเราเกิดเจ็บ จริงๆไม่ได้กดแรงเลยนะคะ
ก็คือน้ำหนักปกติ เราก็เลยบอกว่าเจ็บค่ะ
หมอก็ถามเลย เจ็บด้วยหรอ อาจเป็นเนื้องอกนะ
เราก็เลยถามว่ารู้ได้อย่างไร ต้องเจาะชิ้นเนื้ออกมาดูไหม
แกก็แบบ ไม่ต้องเจาะ แค่เอาเข็มดูดขึ้นมาก็ได้
หมอบอกว่า “ถ้ามันเป็นแค่ถุงน้ำ เจาะขึ้นมาจะมีของเหลวขึ้นมากับเข็มด้วยแล้วมันก็จะหายไป”
“แต่ถ้าเป็นก้อนเนื้อ เจาะแล้วจะไม่มีอะไรขึ้นมา”
แล้วก็ถามเราว่าจะเจาะเลยไม๊
เราก็มาถึงนี่แล้ว เจาะก็เจาะค่ะ
หมอบอกว่าแปบเดียว ไม่ได้นาน
หมอก็เลยเล็งหาก้อนเนื้อซักอันแล้วก็เจาะ เข็มลงไป ก่อนดูดอะไรซักอย่างขึ้นมา
แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรขึ้นมาค่ะ
ก็สรุปเลยว่าเป็นเนื้องอก แต่ไม่ใช่มะเร็ง
(เอาจริงๆ ตรงนี้เราไม่ได้ถามนะคะว่าความต่างเวลาเจาะเนื้องอกกับมะเร็งคืออะไร)
ตอนนั้นอึนๆอยู่ค่ะ เข้าข้างตัวเองมาตลอดว่าเป็นแค่ถุงน้ำ พอบอกเนื้องอกก็เลยอึนๆ อึ้งๆเล็กน้อย
แต่หมอก็บอกว่า “ไม่อันตราย”
คือเหมือนหมอคงรู้ว่าสิ่งที่คนไข้ห่วงคือเรื่องความปลอดภัยน่ะค่ะ
แกก็เลยบอกมาแบบนั้น
มันเป็นเนื้องอกปกติ ที่เกินขึ้นกับผู้หญิงที่มีฮอร์โมนส์ผิดปกติ
เอาง่ายๆคือเราไม่ใช่คนแรกในโลกที่เป็นโรคนี้ค่ะ
มันมีทางรักษา คือผ่าตัดออกไป แต่มันจะขึ้นใหม่เรื่อยๆ
ก็คือต้องคอยเอาออกเรื่อยๆค่ะ
ที่นี่จากที่รุ่นพี่เล่า แกบอกว่าหมอผ่าออกให้ได้ ก็เลยว่าถ้างั้นจะผ่ากับหมอ
แต่หมอก็พูดมาก่อนเลย มันหลายก้อนนะ แนะนำให้วางยานอนหลับที่โรงพยาบาล
เราก็เลยไม่ได้พูดอะไร คิดว่าหมอเค้าคงเห็นว่าผ่าที่อื่นน่าจะเหมาะสมกว่า
แต่ตอนท้ายเค้าก็บอกนะคะว่า ถ้าจะให้หมอผ่า นัดวันมาก็ได้
สุดท้ายเราก็ไม่ได้นัดหมอค่ะ คิดว่าโรงพยาบาลก็ดีเหมือนกัน แถมหมอแนะนำเป็นอันดับแรก
น่าจะเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ
จากนั้นก็ล่ำลาหมอแล้วกลับบ้านค่ะ
จะบอกว่าคุณหมอท่านนี้เก่งมากนะคะ เราคิดมาตลอดว่าการเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจจะต้องมีขั้นตอนที่เยอะสิ่งมากกว่านี้
เอาจริงๆเราก็ไม่รู้หรอกค่ะ ว่าที่โรงพยาบาลแรกแนะนำให้เราเจาะชิ้นเนื้อคือวิธีเดียวกันกับหมอท่านนี้หรือเปล่า
เพราะเราไม่ค่อยได้เข้าโรงพยาบาลค่ะ เห็นราคา12000เราก็คิดไปแล้วว่าสงสัยมันจะเป็นขั้นตอนยากมาก
เราแค่รู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่มาหาหมอคนนี้ค่ะ ราคาไม่แพง(ไม่ถึงห้าร้อย) และสามารถระบุโรคให้เราได้เลย
คลินิกนี้อยู่ในตัวเมืองชลบุรีค่ะ คลินิกเล็กๆ
จริงๆ หลังจากเราออกมาจากห้องตรวจมีคนมารอตรวจจากไหนไม่รู้เกือบ10คนแน่ะค่ะ เรายังบอกตัวเองอยู่เลย โชคดีนะเนี่ยที่ตอนมาไม่มีคน
ปล. ชื่อคุณหมอกับคลินิกหลังไมค์ได้นะคะ เราไม่แน่ใจว่าบอกชื่อไปแล้วจะเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะค่ะ