บอกก่อนว่า บทวิเคราะห์นี้ไม่ได้เขียนเอง...นักข่าวของ Tokyo sports เป็นคนเขียน ซึ่งพออ่านแล้วทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองเขียนเองก็ไม่รู้ ฮาาาาาา
ตรงใจทุกประโยค ทุกถ้อยคำ และโอตะ SKE ทั่วโลกก็รู้สึกแบบเดียวกันกับในบทวิเคราะห์นี้แหละ
เห็นกระทู้ด้านล่างบ่นผลงานฝ่ายบริหารของ AKB งั้นลองมาดูผลงานฝ่ายบริหาร SKE กันบ้าง...ไม่อยากจะเกทับเลยเรื่องนี้
แต่ว่าที่ผ่านมามันเห็นๆกันอยู่
แล้วมันก็เป็นสาเหตุว่าทำไมโอตะ SKE ถึงร้อนแรงได้ทุกปี
ส่วนตัวเราเอง เรามองว่างานเลือกตั้งไม่ใช่ทุกอย่าง
มันเป็นแค่ช่องทางนึงที่แฟนๆจะส่งกำลังใจให้กับเมมเบอร์ (หรือบางทีก็กลายเป็นทำร้ายจิตใจไปซะงั้น....)
และเป็นเครื่องมือที่แฟนๆจะใช้บอกกับฝ่ายบริหารว่า "หันมามองเด็กคนนี้บ้างโว้ยยยย!!!"
การที่ SKE มีเมมเบอร์ติดเยอะ สำหรับโอตะ SKE อย่างเรา มันเป็นการส่งสัญญาณถึงฝ่ายบริหารค่ะ มันคือความสะใจ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
บทวิเคราะห์นี้
สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ตาม SKE และไม่เข้าใจว่าทำไมโอตะมันโหดจัง อ่านค่ะ อ่านแล้วคุณจะเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง
สำหรับโอตะ SKE ได้อ่านแล้วก็คงดีใจที่ ในที่สุดก็มีสื่อหยิบเรื่องนี้มาเล่นซะที รอมานาน
ไปอ่านกันดีกว่า
---------------------------------------------------------------------------------------
เบื้องหลัง "ก้าวที่ยิ่งใหญ่" ของ SKE48
SKE48 ก้าวขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ในการเลือกตั้งเซมบัตสึซิงเกิ้ลที่ 41 ของ AKB48 ที่จัดขึ้นที่ฟุกุโอกะโดมในวันที่ 6 ที่ผ่านมา
จากทั้งหมด 80 ที่นั่ง 27 ที่นั่งเป็นของเมมเบอร์จาก SKE (รวมมิยาซาว่า ซาเอะ) แม้ว่ามัตสึอิ เรนะ จะไม่ได้เข้าร่วมและมีเมมเบอร์ที่ติดอันดับในปีที่แล้วแกรดไปถึง 6 คน พวกเขาก้าวข้าม AKB48 ซึ่งส่งเมมเบอร์เข้ามาได้ 23 ที่นั่ง
ขึ้นมาเป็น "ส่วนใหญ่ของ 48 กรุ๊ป" ทำไมในงานเลือกตั้ง SKE ถึงแข็งแกร่งนัก? เราเชื่อว่ามันเป็นความอัดอั้นตันใจของแฟน SKE ที่มีต่อ "ความโชคร้าย" ของวงกำลังทำงาน
การส่งมัตสึมูระ คาโอริ (อันดับ 13) และทาคายานางิ อากาเนะ (อันดับ 14) ขึ้นไปเป็นเซมบัตสึเป็นครั้งแรกนั้น มันคือ "พลังกองทัพนาโกย่า" ที่ไประเบิดในแดนฮากาตะ เสียงโห่ร้องดีใจจากแสตนด์เชียร์คือ ผลงานของการรวบรวมโหวตของ "ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง" ที่ทำงานอย่างหนัก
ศูนย์อำนวยการเหล่านี้ก่อตั้งขึ้นโดยสมัครใจจากแฟนๆ พวกเขาเช่าห้องประชุมและรวมตัวกันแกะแผ่นและโหวต
ด้วยการทำงานหนักของทุกกลุ่ม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนจึงกล่าวกันว่า "ในบรรดาแฟนๆของ 48 กรุ๊ป แฟน SKE ร้อนแรงที่สุด"
แต่แรงจูงใจเบื้องหลังความร้อนแรงเหล่านี้ซับซ้อนกว่านั้น
จากคำบอกเล่าของแฟน SKE คนหนึ่ง เขากล่าวว่า "ถ้าเป็นเรื่องการทำงานของฝ่ายบริหาร SKE เนี่ยมีเรื่องให้โวยเยอะสุดแล้ว" ความอัดอั้นต่อสถานการณ์ของ SKE ในปัจจุบันค่อยๆสะสมมาและในที่สุดก็มาถึงจุดสูงสุดในการเลือกตั้งเซมบัตสี
แม้ว่าความนิยมของ "WMatsui" จูรินะและเรนะจะไม่แพ้ AKB แต่ SKE กลับเป็นวงที่อยู่ในหน้าสื่อน้อยที่สุด วงน้องอีกสองวงอย่าง NMB48 และ HKT48 ต่างก็มีรายการเป็นของตัวเองในสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น แต่ SKE ไม่มีอะไรเลยในนาโกย่า
HKT48 ถึงขั้นมีรายการประจำทาง Kanto TV network เลยด้วยซ้ำ นั่นยิ่งทำให้เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีแฟนๆที่คิดว่าการไม่ค่อยมีคอนเสิร์ตในท้องถิ่นหรืออีเว้นท์นอกเหนือจากที่เธียร์เตอร์ก็เป็นปัญหาเช่นกัน NMB ได้ทัวร์ในโอซาก้าและคินกิในเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้นหลังจากก่อตั้งวง ส่วน HKT ก็ได้ทัวร์ที่คิวชูภายในปีที่ 2 ที่ก่อตั้งวง
แต่ SKE ซึ่งถือว่าไอจิ กิฟุและมิเอะเป็นบ้านเกิด มีเพียงแค่การส่งทีม KII ไปแสดงที่มิเอะเท่านั้นใน 7 ปีที่ก่อตั้งวงมา แถมยังไม่เคยไปแสดงที่กิฟุเลยด้วย "SKE มีแสดงไลฟ์น้อยมาก พวกเราไม่รู้จะเอาเงินไปไว้ไหนเลยเอามาใช้งานเลือกตั้งซะ" แฟนท้องถิ่นรายหนึ่งกล่าวอย่างประชดประชัน
สาเหตุที่ SKE ไม่สามารถมีอีเว้นท์ของตัวเองได้นั้นอาจเป็นเพราะ AKB มีความสำคัญกว่า วงท้องถิ่นต้องไปเข้าร่วมงานจับมือเดี่ยวของ AKB และเป็นการทำให้ยอดขายของ AKB ยังคงทะลุล้านอย่างต่อเนื่อง "เมมเบอร์ SKE ต้องไปทั้งงานจับมือของ AKB และ SKE ซึ่งมักจัดวันเสาร์-อาทิตย์ทำให้ไม่มีเวลาไปแสดงไลฟ์คอนเสิร์ต" และการได้ออกสื่ออันน้อยนิด (เมื่อเทียบกับวงอื่นๆในกรุ๊ป) เลยกลายเป็นเชื้อไฟให้ SKE แฟนพยายามทำให้วงขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ให้ได้
คาโต้ ชินเป อดีตแชมป์นักปั่นผู้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแฟน SKE กล่าวว่า "โอตะ SKE อยากเห็นเมมเบอร์ได้รับการตอบแทนมากกว่านี้ เราทำอะไรไม่ได้นอกจากช่วยให้พวกเธอติดอันดับสูงขึ้นในงานเลือกตั้ง ซึ่งเป็นงานที่ทั่วประเทศให้ความสนใจ เพราะงั้นเราเลยทุ่มสุดตัวเพื่อสนับสนุนพวกเธอ"
มันคงจะน่าสนใจมาก หากความร้อนแรงของแฟนๆจะส่งไปถึงฝ่ายบริหารต่อจากนี้
cr:
http://bilingual48.tumblr.com/post/120988873831/behind-the-great-leap-forward-of-ske48
Source:
http://headlines.yahoo.co.jp/hl?a=20150607-00000016-tospoweb-ent
**แก้ไขนิด จัดหน้าชิดซ้ายแทน
[SKE48] เบื้องหลัง "ก้าวที่ยิ่งใหญ่" ของ SKE48
ตรงใจทุกประโยค ทุกถ้อยคำ และโอตะ SKE ทั่วโลกก็รู้สึกแบบเดียวกันกับในบทวิเคราะห์นี้แหละ
เห็นกระทู้ด้านล่างบ่นผลงานฝ่ายบริหารของ AKB งั้นลองมาดูผลงานฝ่ายบริหาร SKE กันบ้าง...ไม่อยากจะเกทับเลยเรื่องนี้
แต่ว่าที่ผ่านมามันเห็นๆกันอยู่
แล้วมันก็เป็นสาเหตุว่าทำไมโอตะ SKE ถึงร้อนแรงได้ทุกปี
ส่วนตัวเราเอง เรามองว่างานเลือกตั้งไม่ใช่ทุกอย่าง
มันเป็นแค่ช่องทางนึงที่แฟนๆจะส่งกำลังใจให้กับเมมเบอร์ (หรือบางทีก็กลายเป็นทำร้ายจิตใจไปซะงั้น....)
และเป็นเครื่องมือที่แฟนๆจะใช้บอกกับฝ่ายบริหารว่า "หันมามองเด็กคนนี้บ้างโว้ยยยย!!!"
การที่ SKE มีเมมเบอร์ติดเยอะ สำหรับโอตะ SKE อย่างเรา มันเป็นการส่งสัญญาณถึงฝ่ายบริหารค่ะ มันคือความสะใจ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
บทวิเคราะห์นี้
สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ตาม SKE และไม่เข้าใจว่าทำไมโอตะมันโหดจัง อ่านค่ะ อ่านแล้วคุณจะเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง
สำหรับโอตะ SKE ได้อ่านแล้วก็คงดีใจที่ ในที่สุดก็มีสื่อหยิบเรื่องนี้มาเล่นซะที รอมานาน
ไปอ่านกันดีกว่า
---------------------------------------------------------------------------------------
เบื้องหลัง "ก้าวที่ยิ่งใหญ่" ของ SKE48
SKE48 ก้าวขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ในการเลือกตั้งเซมบัตสึซิงเกิ้ลที่ 41 ของ AKB48 ที่จัดขึ้นที่ฟุกุโอกะโดมในวันที่ 6 ที่ผ่านมา
จากทั้งหมด 80 ที่นั่ง 27 ที่นั่งเป็นของเมมเบอร์จาก SKE (รวมมิยาซาว่า ซาเอะ) แม้ว่ามัตสึอิ เรนะ จะไม่ได้เข้าร่วมและมีเมมเบอร์ที่ติดอันดับในปีที่แล้วแกรดไปถึง 6 คน พวกเขาก้าวข้าม AKB48 ซึ่งส่งเมมเบอร์เข้ามาได้ 23 ที่นั่ง
ขึ้นมาเป็น "ส่วนใหญ่ของ 48 กรุ๊ป" ทำไมในงานเลือกตั้ง SKE ถึงแข็งแกร่งนัก? เราเชื่อว่ามันเป็นความอัดอั้นตันใจของแฟน SKE ที่มีต่อ "ความโชคร้าย" ของวงกำลังทำงาน
การส่งมัตสึมูระ คาโอริ (อันดับ 13) และทาคายานางิ อากาเนะ (อันดับ 14) ขึ้นไปเป็นเซมบัตสึเป็นครั้งแรกนั้น มันคือ "พลังกองทัพนาโกย่า" ที่ไประเบิดในแดนฮากาตะ เสียงโห่ร้องดีใจจากแสตนด์เชียร์คือ ผลงานของการรวบรวมโหวตของ "ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง" ที่ทำงานอย่างหนัก
ศูนย์อำนวยการเหล่านี้ก่อตั้งขึ้นโดยสมัครใจจากแฟนๆ พวกเขาเช่าห้องประชุมและรวมตัวกันแกะแผ่นและโหวต
ด้วยการทำงานหนักของทุกกลุ่ม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนจึงกล่าวกันว่า "ในบรรดาแฟนๆของ 48 กรุ๊ป แฟน SKE ร้อนแรงที่สุด"
แต่แรงจูงใจเบื้องหลังความร้อนแรงเหล่านี้ซับซ้อนกว่านั้น
จากคำบอกเล่าของแฟน SKE คนหนึ่ง เขากล่าวว่า "ถ้าเป็นเรื่องการทำงานของฝ่ายบริหาร SKE เนี่ยมีเรื่องให้โวยเยอะสุดแล้ว" ความอัดอั้นต่อสถานการณ์ของ SKE ในปัจจุบันค่อยๆสะสมมาและในที่สุดก็มาถึงจุดสูงสุดในการเลือกตั้งเซมบัตสี
แม้ว่าความนิยมของ "WMatsui" จูรินะและเรนะจะไม่แพ้ AKB แต่ SKE กลับเป็นวงที่อยู่ในหน้าสื่อน้อยที่สุด วงน้องอีกสองวงอย่าง NMB48 และ HKT48 ต่างก็มีรายการเป็นของตัวเองในสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น แต่ SKE ไม่มีอะไรเลยในนาโกย่า
HKT48 ถึงขั้นมีรายการประจำทาง Kanto TV network เลยด้วยซ้ำ นั่นยิ่งทำให้เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีแฟนๆที่คิดว่าการไม่ค่อยมีคอนเสิร์ตในท้องถิ่นหรืออีเว้นท์นอกเหนือจากที่เธียร์เตอร์ก็เป็นปัญหาเช่นกัน NMB ได้ทัวร์ในโอซาก้าและคินกิในเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้นหลังจากก่อตั้งวง ส่วน HKT ก็ได้ทัวร์ที่คิวชูภายในปีที่ 2 ที่ก่อตั้งวง
แต่ SKE ซึ่งถือว่าไอจิ กิฟุและมิเอะเป็นบ้านเกิด มีเพียงแค่การส่งทีม KII ไปแสดงที่มิเอะเท่านั้นใน 7 ปีที่ก่อตั้งวงมา แถมยังไม่เคยไปแสดงที่กิฟุเลยด้วย "SKE มีแสดงไลฟ์น้อยมาก พวกเราไม่รู้จะเอาเงินไปไว้ไหนเลยเอามาใช้งานเลือกตั้งซะ" แฟนท้องถิ่นรายหนึ่งกล่าวอย่างประชดประชัน
สาเหตุที่ SKE ไม่สามารถมีอีเว้นท์ของตัวเองได้นั้นอาจเป็นเพราะ AKB มีความสำคัญกว่า วงท้องถิ่นต้องไปเข้าร่วมงานจับมือเดี่ยวของ AKB และเป็นการทำให้ยอดขายของ AKB ยังคงทะลุล้านอย่างต่อเนื่อง "เมมเบอร์ SKE ต้องไปทั้งงานจับมือของ AKB และ SKE ซึ่งมักจัดวันเสาร์-อาทิตย์ทำให้ไม่มีเวลาไปแสดงไลฟ์คอนเสิร์ต" และการได้ออกสื่ออันน้อยนิด (เมื่อเทียบกับวงอื่นๆในกรุ๊ป) เลยกลายเป็นเชื้อไฟให้ SKE แฟนพยายามทำให้วงขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ให้ได้
คาโต้ ชินเป อดีตแชมป์นักปั่นผู้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแฟน SKE กล่าวว่า "โอตะ SKE อยากเห็นเมมเบอร์ได้รับการตอบแทนมากกว่านี้ เราทำอะไรไม่ได้นอกจากช่วยให้พวกเธอติดอันดับสูงขึ้นในงานเลือกตั้ง ซึ่งเป็นงานที่ทั่วประเทศให้ความสนใจ เพราะงั้นเราเลยทุ่มสุดตัวเพื่อสนับสนุนพวกเธอ"
มันคงจะน่าสนใจมาก หากความร้อนแรงของแฟนๆจะส่งไปถึงฝ่ายบริหารต่อจากนี้
cr: http://bilingual48.tumblr.com/post/120988873831/behind-the-great-leap-forward-of-ske48
Source: http://headlines.yahoo.co.jp/hl?a=20150607-00000016-tospoweb-ent
**แก้ไขนิด จัดหน้าชิดซ้ายแทน