
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า การได้ไปเที่ยวของผมครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะตามกระทู้ หรือตามพรีวิวจากเพจต่างๆ แล้วอยากจะไปบ้าง แต่ที่ไป
เพราะว่าวันหนึ่ง คุยกันในไลน์กลุ่มเพื่อนๆที่สนิทกัน แล้วเพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า "กูอยากไปลาวหว่ะ"
คำพูดนี้ทำให้เพื่อนทุกคนในกลุ่ม รู้สึกว่ามันเป็นทริปที่น่าสนใจ แล้วปรึกษากันว่า เราจะไปที่ไหนในประเทศลาวกันดี ก็มีเพื่อนคนหนึ่ง ได้ไปเห็นโพสในเฟสบุ๊ค ในโพสนี้ พูดถึงสถานที่เที่ยงแห่งหนึ่ง คือ วังเวียง จึงตกลงกันว่า เออ จะไปที่นี่ละ โดยตกลงกันว่าจะขับรถข้ามกันไป เพราะไปหลายคน หารกันจะคุ้มกว่า แต่สุดท้าย ด้วยความที่ทุกคน ต่างมีภาระกิจแตกต่างกัน จึงขอตัวผ่านมิสชั่นนี้ ไปทีละคน สองคน เรียกง่ายๆคือ มันเบี้ยว !!!
ขอยืมรูปจาก Google ขอบคุณเจ้าของภาพด้วยครับ
ทำไงละครับทีนี้ ตังพร้อม ลางานพร้อม ร่างกายพร้อม แต่ เพื่อนไม่พร้อม ที่สำคัญ คือ ไอคนที่เอ่ยปากพูดว่า "กูอยากไปลาวหว่ะ" มันยังเบี้ยว
เหลือผู้ไปต่อเพียง 2 ราย แต่ทำยังไงได้ ในเมื่อมากันขนาดนี้แล้ว ก็ตกลงกันว่า 2 คนก็จะไป แต่ยังดีที่มีพี่ของเพื่อน อยากร่วมทางไปอีกคน ก็เป็น 3 คน จึงทำการ วางแผนทริปใหม่ทั้งหมด โดยแผนแรกเลย คือจากที่ต้อง ขับรถไปกันเอง ก็เปลี่ยนเป็นจองตั๋ว รถทัวร์ นครชัยแอร์ ผ่านหน้าเวปในราคา 500 บาท เป็นรถคลาสไหนผมก็เรียกไม่ถูก แต่รู้ว่ามัน หรู กว่ารถทัวร์ ที่ผมเคยขึ้นมาทั้งชีวิต มีทั้ง จอให้นั่งกด ดูนู้นนี่นั่น ที่นั่งปรับไฟฟ้า อาหารเครื่องดื่ม เสริฟตลอดการเดินทาง พูดง่ายๆคือ อย่างกับนั่งเครื่องบินเลยล่ะ
รถทัวร์ ออกจากท่า เวลา 14.00 วันศุกร์ที่ 29/05/15 ถึงจังหวัด อุดรธานี 22.30 พอถึงก็เข้าที่พัก ที่อยู่ด้านหลัง บขส.อุดรฯ ซึ่งได้จองไว้แล้ว
ในราคา 600 บาท คือที่ต้องจองใกล้ๆ เพราะขี้เกียจ ห่างจาก บขส. ด้วยตัวแปร ว่า รถโดยสาร จากจังหวัดอุดรฯ ไปวังเวียง มี 1 เที่ยวถ้วน เปิดขาย
8.00 น. และที่สำคัญ พรุ้งนี้วันเสาร์ ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์หยุดยาว เนื่องจากวันจันทร์เป็นวันวิสาขบูชา ซึ่งแน่นอน นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาแน่ ที่สงสัยคือ
คนก็ไปกันเยอะ แต่ทำไม ถึงมีรถไปแค่เที่ยวเดียว ??
ปล.ค่าโดยสารจาก บขส.อุดรฯ ถึง วังเวียง 350
30/05/15 ตื่นแต่เช้า 6 โมง เครื่องฟิต อาบน้ำเก็บของ เผื่อเวลาอย่างดี เดินชิวๆ ไปหาอาหารเช้ากินกัน อากาศสดชื่น เมนูเช้านี้ ไข่กระทะ+ขนมปังปิ้ง+โอวัลตินร้อนๆ

กินอิ่มสบายใจ ก็เดินไปซื้อตั๋วรถ แต่เมื่อถึงที่ขายตั๋ว ....... ก็ต้องถึงกับสะเทือนใจ ....... แถวต่อคิวซื้อตั๋วยาวมาก และที่สำคัญ ขายหมดไว ยิ่งกว่าบัตร Maroon5 ประเด็นคือ มันมีเพียงเที่ยวเดียว และตอนนี้เราตกรถ แล้วจะไปกันยังไง?? ยืนโยกเยก กันสักพัก ก็มีเสียงหญิงสาวตะโกนขึ้นมาว่า ใครจะร่วมเหมารถตู้ไปวังเวียงมั้ยค๊ะ........
ทั้งสามนาย พร้อมใจกันยกมือ แล้วเดินปรี่เข้าไปหาทันที แล้วรวมกลุ่มกันได้ประมาณ 12 คน เหมารถตู้ไปด้วยราคา หัวละ 50 บาท โดยที่รถตู้วินนี้ จะจอดอยู่บริเวณ ข้าง บขส. และไปส่งเราถึงแค่ด่านข้ามไป สปป.ลาวเท่านั้น

ถึงด่านข้ามไป สปป.ลาว รถตู้ปล่อยลง ตรงนี้ แยกย้ายกันเดินหารถตู้คันใหม่เพื่อเหมาไปถึง วังเวียงโดยระหว่างเดินหา ก็เจอหลากหลายราคา ให้ต่อรอง จนมาเจอราคาที่ถูกใจที่สุดคือ 350 บาทต่อคน แต่ตอนนี้ เหลือเพื่อนร่วมเดินทาง 9 คน เนื่องจากที่เหลืออาจจะไม่ได้ไปจุดหมายเดียวกับเรา

เมื่อตกลงราคากันได้แล้ว ทุกคนมารวมตัว กรอกเอกสารต่างๆ และแลกเงิน เพื่อเดินทางเข้าสู้ประเทศลาว ผ่านเมืองเวียงจันทร์ และจุดหมายคือ เมืองวังเวียง ในระหว่างที่นั่งอยู่บนรถ ก็ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทาง ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง
ได้ข้อสรุปคือทุกคนมีจุดหมายเดียวกันคือ วังเวียง จึงต่อรองราคา กับคนขับ ว่าจะเหมารถให้เค้าพาเราเที่ยว ไปรับ-ส่ง ถึงหน้าที่พัก และพากลับมาส่งถึงด่านหนองคาย ในราคาหัวละ 600 บาท
ซึงทุกคนก็พอใจสำหรับราคานี้ เพราะถ้าไปหาซื้อทริปในวังเวียง ราคาโดยรวมก็ไม่ต่างกันมาก

ปล.รถตู้ ที่พวกเราเหมาไป คนขับรถชื่อ พี่ใจ บริการทุกระดับประทับใจ ถ้าใครไปถึงแล้วตกรถ ก็ไปใช้บริการเค้าได้ครับ
เดินทางมาถึงวังเวียง พี่ใจ(คนขับรถตู้) พาเราส่งที่พัก ซึ่งแต่ละคู่ได้จองไว้แล้ว อ่อ ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าที่มาด้วยกัน แยกเป็น 4 คณะ คือ หญิง 3 คู่ และ กลุ่มผมชาย 3 มาเป็นคี่ เพราะไม่มีคู่ แฮร่......... สาวๆ 3 คู่ เค้าได้จองห้องพักกันเป็นที่เรียบร้อย เหลือแต่พวกผมที่ยังไม่มีที่พัก ก็ต้องเดินหาสิครับ โดยก่อนแยกกัน ได้นัดกันว่า ถ้าเราได้ที่พักแล้ว จะขอยืมโทรสัพของที่พัก โทรไปหา พี่ใจ ให้มารับเรา แล้วค่อยไปรับ พวกผู้หญิง อีก 3 คู่ ไปหาร้านกินข้าวกัน

เราเดินหาที่พักใกล้ๆแม่น้ำซอง เพราะอยากได้วิวสวยๆ แต่ก็เป็นอย่างที่คิด.... เต็มทุกที่ครับจึงเดินขึ้นมาเรื่อยๆ มาเจอที่พักราคาไม่แพงมาก
แต่ไม่ได้อยู่ติดแม่น้ำชื่อว่า Mountain riverview guesthouse ราคาคืนละ 570 บาท เป็นเงินลาว 142500 กีบ ซึ่งก็ไม่แพงมาก พออยู่ได้สบายๆ สำหรับผู้ชาย 3 คน

แต่ถ้าใครที่ได้มีโอกาศมาในช่วงหน้าหนาว แนะนำให้พัก ในกระท่อมแบบนี้เลยครับ จะได้บรรยากาศมาก

เมื่อได้ที่พัก ก็รวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อไปหาร้านกินข้าวกัน ได้ไปนั่งร้าน ที่บรรยากาศดีอยู่ริมแม่น้ำซอง ชื่อร้าน River view bangalows

บรรยากาศใช้ได้ครับ มาถึงก็สั่ง ของที่เรารอคอยกันก่อนเลย นั่นก็คือ เขยลาว หรือ เบียร์ลาว นั่นเอง แล้วก็อาหารอีกหลายอย่างตามมา

รวมแล้วมื้อนี้กินกันไปทั้งหมด ราคา 378,000 กีบ

......... นาทีนี้ ไม่พูดถึง เงินร้อย เงินพัน แล้วครับ นาทีนี้ต้อง เงินแสน เงินล้าน 5555 รู้สึกรวยขึ้นมาเลย

ขอยืมรูปจาก Google ขอบคุณเจ้าของภาพด้วยครับ
ตกดึกก็เดินท่องราตรี วังเวียง สามหนุ่ม สามมุม ได้เดินไปเจอร้านที่ถูกใจ ชื่อร้าน Sakura bar vang vieng บรรยากาศเหมือนเที่ยวแถวถนนข้าวสาร
ในร้าน เท่าที่เห็น 80 เปอร์เซ็น ฝรั่ง 10 เปอร์เซ็น เกาหลี+ญี่ปุ่น อีก 10 เปอร์เซ็น ไทย+ลาว
1/06/15 ตื่นเช้ามาด้วยอาการ แฮงค์ วันนี้ก็จะได้ไปเที่ยวตามแผนการเดินทางที่วางไว้ โทรนัดให้พี่ใจ มารับกลุ่มผู้ชายเป็นกลุ่มแรก 8.30 น.

9.30 น. ถ้ำจัง ค่ารถผ่าน 100 บาท + ค่าขึ้นถ้ำ คนละ 40 บาท มีสะพานสีส้มข้ามแม่น้ำซอง เป็นสถานที่ สำคัญที่ช่างภาพทุกคนต้องมาถ่าย

ภายในถ้ำก็ มีหินงอกหินย้อยสวยงาม

11.00 น. บลูลากูน และ ถ้ำปูดำ ราคาเข้า คนละ 40 บาท หรือ 10,000 กีบ นั่นเอง ทางเข้ามา จะเป็นถนนลูกลังดิน ฝุ่นลงหนักมาก แดดร้อนมาก
ระยะทาง ประมาณ 5 กิโล ใครไม่แคร์ก็สามารถเช่า มอเตอร์ไซน์ หรือ ATV ขับลุยเข้ามาได้เลยครับ แนะนำให้เตรียมผ้าปิดจมูก แว่นตา และปลอกแขนอุปกรณ์ กันแดด แต่สำหรับผม รถตู้นี่ละ สบายสุด

ภายในก็จะมี ลำธารและแอ่งน้ำลึกให้ได้แช่เล่น โดดเล่น น้ำที่นี่มีสีฟ้าใส และเย็นมากกกก เดินเข้ามาเห็นสาวเกาหลีอยู่ในน้ำทำปากสั่น คิดในใจ มันหนาวขนาดนั้นเลยหร๋อวะ อากาศตอนนั้นน่าจะซัก 40 องศาได้ แต่พอได้ลงไป ก็รู้ทันที ว่าน้ำมันเย็นมากๆ ปากสั่นหนักกว่าสาวเกาหลีคนนั้นอีก

จุดกระโดดน้ำที่เป็นอะไรที่สนุกมากครับ ขึ้นไปโดดทุกครั้ง ก็ทำใจยากทุกครั้ง

อีกกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือ เจ้านี่เลยครับโหนสลิงจากต้นไม้สูง ไปยังต้นไม้อีกต้น ไม่รู้เค้าเรียกอะไร แล้วก็ไม่ได้ถามราคาด้วย มัวแต่เพลินกับการเล่นน้ำเย็นๆ ใสๆ

14.00 น. ถ้ำลอด เสียค่าเข้า 40 บาท ตามสเต๊ป ที่นี่ต้องเดินจากทางเข้า ไปถึงตีนเขาประมาน 1 กิโล เดินมาพอได้ออกกำลัง เหงื่อเริ่มออก ก็มาเจอทางเข้าถ้ำ เสียตังค่า ห่วงยางและไฟฉายส่องกบ(อารมเหมือนมี Go pro ติดหัว) คนละ 40 บาท อีกตามเคย ตรงนี้เป็นลำธารไหลเข้าไปในถ้ำมืดๆ
มีเชือกให้เราเกาะเข้าไปในถ้ำ ลึกประมาน 500 เมตร และน้ำก็เย็นพอๆกับบลูลากูนเมื่อกี้เลย ก็สนุกไปอีกแบบ

16.30 น. พายเรือคายัคล่องแม่น้ำซอง หลังจากถ้ำลอด ก็นั่งรถเข้ามาในตัวเมือง เพื่อซื้อทริปพายเรือคายัค ตรงนี้เราสามารถต่อรองราคา ได้มาถูกพอสมควร คนละ 250 บาท ตรงนี้จะมีรถ บรรทุกเรือคายัคและเรา ไปส่งทางเหนือแม่น้ำซอง และปล่อยเราพายเรือล่องน้ำมาเรื่อย โดยที่ ให้พี่ใจของเรา ขับรถไปรอที่ปลายทาง
ก่อนที่เราจะลงเรือ ไกท์จะสอนวิธีพายเรือ แจกไม้พาย เสื้อชูชีพ และกระเป๋ากันน้ำ อ่อ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องจมน้ำครับ เพราะน้ำในแม่น้ำซอง ลึกสุดก็แค่เอว และไกท์จะพายเรือ นำทางเราจนถึงสุดปลายทาง

ระหว่างทางการล่องเรือคุณจะได้พบกับบรรยากาศ ธรรมชาติ ต้นไม้ ลำธาร ขุนเขา สูงตระหง่า เป็นบรรยากาศที่บอกได้เลยว่า ในชีวิตนี้พึ่งเคยเห็น สวยมากๆ ให้นิยามคำว่า "ฟิน" ได้อย่างแท้จิง >
http://pantip.com/topic/33763435
[CR] วังเวียง-เวียงจันทร์ ชมธรรมชาติ เมาเสียหลัก รู้จักเพื่อนใหม่ Part 1
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า การได้ไปเที่ยวของผมครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะตามกระทู้ หรือตามพรีวิวจากเพจต่างๆ แล้วอยากจะไปบ้าง แต่ที่ไป
เพราะว่าวันหนึ่ง คุยกันในไลน์กลุ่มเพื่อนๆที่สนิทกัน แล้วเพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า "กูอยากไปลาวหว่ะ"
คำพูดนี้ทำให้เพื่อนทุกคนในกลุ่ม รู้สึกว่ามันเป็นทริปที่น่าสนใจ แล้วปรึกษากันว่า เราจะไปที่ไหนในประเทศลาวกันดี ก็มีเพื่อนคนหนึ่ง ได้ไปเห็นโพสในเฟสบุ๊ค ในโพสนี้ พูดถึงสถานที่เที่ยงแห่งหนึ่ง คือ วังเวียง จึงตกลงกันว่า เออ จะไปที่นี่ละ โดยตกลงกันว่าจะขับรถข้ามกันไป เพราะไปหลายคน หารกันจะคุ้มกว่า แต่สุดท้าย ด้วยความที่ทุกคน ต่างมีภาระกิจแตกต่างกัน จึงขอตัวผ่านมิสชั่นนี้ ไปทีละคน สองคน เรียกง่ายๆคือ มันเบี้ยว !!!
ขอยืมรูปจาก Google ขอบคุณเจ้าของภาพด้วยครับ
ทำไงละครับทีนี้ ตังพร้อม ลางานพร้อม ร่างกายพร้อม แต่ เพื่อนไม่พร้อม ที่สำคัญ คือ ไอคนที่เอ่ยปากพูดว่า "กูอยากไปลาวหว่ะ" มันยังเบี้ยว
เหลือผู้ไปต่อเพียง 2 ราย แต่ทำยังไงได้ ในเมื่อมากันขนาดนี้แล้ว ก็ตกลงกันว่า 2 คนก็จะไป แต่ยังดีที่มีพี่ของเพื่อน อยากร่วมทางไปอีกคน ก็เป็น 3 คน จึงทำการ วางแผนทริปใหม่ทั้งหมด โดยแผนแรกเลย คือจากที่ต้อง ขับรถไปกันเอง ก็เปลี่ยนเป็นจองตั๋ว รถทัวร์ นครชัยแอร์ ผ่านหน้าเวปในราคา 500 บาท เป็นรถคลาสไหนผมก็เรียกไม่ถูก แต่รู้ว่ามัน หรู กว่ารถทัวร์ ที่ผมเคยขึ้นมาทั้งชีวิต มีทั้ง จอให้นั่งกด ดูนู้นนี่นั่น ที่นั่งปรับไฟฟ้า อาหารเครื่องดื่ม เสริฟตลอดการเดินทาง พูดง่ายๆคือ อย่างกับนั่งเครื่องบินเลยล่ะ
รถทัวร์ ออกจากท่า เวลา 14.00 วันศุกร์ที่ 29/05/15 ถึงจังหวัด อุดรธานี 22.30 พอถึงก็เข้าที่พัก ที่อยู่ด้านหลัง บขส.อุดรฯ ซึ่งได้จองไว้แล้ว
ในราคา 600 บาท คือที่ต้องจองใกล้ๆ เพราะขี้เกียจ ห่างจาก บขส. ด้วยตัวแปร ว่า รถโดยสาร จากจังหวัดอุดรฯ ไปวังเวียง มี 1 เที่ยวถ้วน เปิดขาย
8.00 น. และที่สำคัญ พรุ้งนี้วันเสาร์ ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์หยุดยาว เนื่องจากวันจันทร์เป็นวันวิสาขบูชา ซึ่งแน่นอน นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาแน่ ที่สงสัยคือ
คนก็ไปกันเยอะ แต่ทำไม ถึงมีรถไปแค่เที่ยวเดียว ??
ปล.ค่าโดยสารจาก บขส.อุดรฯ ถึง วังเวียง 350
30/05/15 ตื่นแต่เช้า 6 โมง เครื่องฟิต อาบน้ำเก็บของ เผื่อเวลาอย่างดี เดินชิวๆ ไปหาอาหารเช้ากินกัน อากาศสดชื่น เมนูเช้านี้ ไข่กระทะ+ขนมปังปิ้ง+โอวัลตินร้อนๆ
กินอิ่มสบายใจ ก็เดินไปซื้อตั๋วรถ แต่เมื่อถึงที่ขายตั๋ว ....... ก็ต้องถึงกับสะเทือนใจ ....... แถวต่อคิวซื้อตั๋วยาวมาก และที่สำคัญ ขายหมดไว ยิ่งกว่าบัตร Maroon5 ประเด็นคือ มันมีเพียงเที่ยวเดียว และตอนนี้เราตกรถ แล้วจะไปกันยังไง?? ยืนโยกเยก กันสักพัก ก็มีเสียงหญิงสาวตะโกนขึ้นมาว่า ใครจะร่วมเหมารถตู้ไปวังเวียงมั้ยค๊ะ........
ทั้งสามนาย พร้อมใจกันยกมือ แล้วเดินปรี่เข้าไปหาทันที แล้วรวมกลุ่มกันได้ประมาณ 12 คน เหมารถตู้ไปด้วยราคา หัวละ 50 บาท โดยที่รถตู้วินนี้ จะจอดอยู่บริเวณ ข้าง บขส. และไปส่งเราถึงแค่ด่านข้ามไป สปป.ลาวเท่านั้น
ถึงด่านข้ามไป สปป.ลาว รถตู้ปล่อยลง ตรงนี้ แยกย้ายกันเดินหารถตู้คันใหม่เพื่อเหมาไปถึง วังเวียงโดยระหว่างเดินหา ก็เจอหลากหลายราคา ให้ต่อรอง จนมาเจอราคาที่ถูกใจที่สุดคือ 350 บาทต่อคน แต่ตอนนี้ เหลือเพื่อนร่วมเดินทาง 9 คน เนื่องจากที่เหลืออาจจะไม่ได้ไปจุดหมายเดียวกับเรา
เมื่อตกลงราคากันได้แล้ว ทุกคนมารวมตัว กรอกเอกสารต่างๆ และแลกเงิน เพื่อเดินทางเข้าสู้ประเทศลาว ผ่านเมืองเวียงจันทร์ และจุดหมายคือ เมืองวังเวียง ในระหว่างที่นั่งอยู่บนรถ ก็ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทาง ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง
ได้ข้อสรุปคือทุกคนมีจุดหมายเดียวกันคือ วังเวียง จึงต่อรองราคา กับคนขับ ว่าจะเหมารถให้เค้าพาเราเที่ยว ไปรับ-ส่ง ถึงหน้าที่พัก และพากลับมาส่งถึงด่านหนองคาย ในราคาหัวละ 600 บาท
ซึงทุกคนก็พอใจสำหรับราคานี้ เพราะถ้าไปหาซื้อทริปในวังเวียง ราคาโดยรวมก็ไม่ต่างกันมาก
ปล.รถตู้ ที่พวกเราเหมาไป คนขับรถชื่อ พี่ใจ บริการทุกระดับประทับใจ ถ้าใครไปถึงแล้วตกรถ ก็ไปใช้บริการเค้าได้ครับ
เดินทางมาถึงวังเวียง พี่ใจ(คนขับรถตู้) พาเราส่งที่พัก ซึ่งแต่ละคู่ได้จองไว้แล้ว อ่อ ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าที่มาด้วยกัน แยกเป็น 4 คณะ คือ หญิง 3 คู่ และ กลุ่มผมชาย 3 มาเป็นคี่ เพราะไม่มีคู่ แฮร่......... สาวๆ 3 คู่ เค้าได้จองห้องพักกันเป็นที่เรียบร้อย เหลือแต่พวกผมที่ยังไม่มีที่พัก ก็ต้องเดินหาสิครับ โดยก่อนแยกกัน ได้นัดกันว่า ถ้าเราได้ที่พักแล้ว จะขอยืมโทรสัพของที่พัก โทรไปหา พี่ใจ ให้มารับเรา แล้วค่อยไปรับ พวกผู้หญิง อีก 3 คู่ ไปหาร้านกินข้าวกัน
เราเดินหาที่พักใกล้ๆแม่น้ำซอง เพราะอยากได้วิวสวยๆ แต่ก็เป็นอย่างที่คิด.... เต็มทุกที่ครับจึงเดินขึ้นมาเรื่อยๆ มาเจอที่พักราคาไม่แพงมาก
แต่ไม่ได้อยู่ติดแม่น้ำชื่อว่า Mountain riverview guesthouse ราคาคืนละ 570 บาท เป็นเงินลาว 142500 กีบ ซึ่งก็ไม่แพงมาก พออยู่ได้สบายๆ สำหรับผู้ชาย 3 คน
แต่ถ้าใครที่ได้มีโอกาศมาในช่วงหน้าหนาว แนะนำให้พัก ในกระท่อมแบบนี้เลยครับ จะได้บรรยากาศมาก
เมื่อได้ที่พัก ก็รวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อไปหาร้านกินข้าวกัน ได้ไปนั่งร้าน ที่บรรยากาศดีอยู่ริมแม่น้ำซอง ชื่อร้าน River view bangalows
บรรยากาศใช้ได้ครับ มาถึงก็สั่ง ของที่เรารอคอยกันก่อนเลย นั่นก็คือ เขยลาว หรือ เบียร์ลาว นั่นเอง แล้วก็อาหารอีกหลายอย่างตามมา
รวมแล้วมื้อนี้กินกันไปทั้งหมด ราคา 378,000 กีบ
......... นาทีนี้ ไม่พูดถึง เงินร้อย เงินพัน แล้วครับ นาทีนี้ต้อง เงินแสน เงินล้าน 5555 รู้สึกรวยขึ้นมาเลย
ขอยืมรูปจาก Google ขอบคุณเจ้าของภาพด้วยครับ
ตกดึกก็เดินท่องราตรี วังเวียง สามหนุ่ม สามมุม ได้เดินไปเจอร้านที่ถูกใจ ชื่อร้าน Sakura bar vang vieng บรรยากาศเหมือนเที่ยวแถวถนนข้าวสาร
ในร้าน เท่าที่เห็น 80 เปอร์เซ็น ฝรั่ง 10 เปอร์เซ็น เกาหลี+ญี่ปุ่น อีก 10 เปอร์เซ็น ไทย+ลาว
1/06/15 ตื่นเช้ามาด้วยอาการ แฮงค์ วันนี้ก็จะได้ไปเที่ยวตามแผนการเดินทางที่วางไว้ โทรนัดให้พี่ใจ มารับกลุ่มผู้ชายเป็นกลุ่มแรก 8.30 น.
9.30 น. ถ้ำจัง ค่ารถผ่าน 100 บาท + ค่าขึ้นถ้ำ คนละ 40 บาท มีสะพานสีส้มข้ามแม่น้ำซอง เป็นสถานที่ สำคัญที่ช่างภาพทุกคนต้องมาถ่าย
ภายในถ้ำก็ มีหินงอกหินย้อยสวยงาม
11.00 น. บลูลากูน และ ถ้ำปูดำ ราคาเข้า คนละ 40 บาท หรือ 10,000 กีบ นั่นเอง ทางเข้ามา จะเป็นถนนลูกลังดิน ฝุ่นลงหนักมาก แดดร้อนมาก
ระยะทาง ประมาณ 5 กิโล ใครไม่แคร์ก็สามารถเช่า มอเตอร์ไซน์ หรือ ATV ขับลุยเข้ามาได้เลยครับ แนะนำให้เตรียมผ้าปิดจมูก แว่นตา และปลอกแขนอุปกรณ์ กันแดด แต่สำหรับผม รถตู้นี่ละ สบายสุด
ภายในก็จะมี ลำธารและแอ่งน้ำลึกให้ได้แช่เล่น โดดเล่น น้ำที่นี่มีสีฟ้าใส และเย็นมากกกก เดินเข้ามาเห็นสาวเกาหลีอยู่ในน้ำทำปากสั่น คิดในใจ มันหนาวขนาดนั้นเลยหร๋อวะ อากาศตอนนั้นน่าจะซัก 40 องศาได้ แต่พอได้ลงไป ก็รู้ทันที ว่าน้ำมันเย็นมากๆ ปากสั่นหนักกว่าสาวเกาหลีคนนั้นอีก
จุดกระโดดน้ำที่เป็นอะไรที่สนุกมากครับ ขึ้นไปโดดทุกครั้ง ก็ทำใจยากทุกครั้ง
อีกกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือ เจ้านี่เลยครับโหนสลิงจากต้นไม้สูง ไปยังต้นไม้อีกต้น ไม่รู้เค้าเรียกอะไร แล้วก็ไม่ได้ถามราคาด้วย มัวแต่เพลินกับการเล่นน้ำเย็นๆ ใสๆ
14.00 น. ถ้ำลอด เสียค่าเข้า 40 บาท ตามสเต๊ป ที่นี่ต้องเดินจากทางเข้า ไปถึงตีนเขาประมาน 1 กิโล เดินมาพอได้ออกกำลัง เหงื่อเริ่มออก ก็มาเจอทางเข้าถ้ำ เสียตังค่า ห่วงยางและไฟฉายส่องกบ(อารมเหมือนมี Go pro ติดหัว) คนละ 40 บาท อีกตามเคย ตรงนี้เป็นลำธารไหลเข้าไปในถ้ำมืดๆ
มีเชือกให้เราเกาะเข้าไปในถ้ำ ลึกประมาน 500 เมตร และน้ำก็เย็นพอๆกับบลูลากูนเมื่อกี้เลย ก็สนุกไปอีกแบบ
16.30 น. พายเรือคายัคล่องแม่น้ำซอง หลังจากถ้ำลอด ก็นั่งรถเข้ามาในตัวเมือง เพื่อซื้อทริปพายเรือคายัค ตรงนี้เราสามารถต่อรองราคา ได้มาถูกพอสมควร คนละ 250 บาท ตรงนี้จะมีรถ บรรทุกเรือคายัคและเรา ไปส่งทางเหนือแม่น้ำซอง และปล่อยเราพายเรือล่องน้ำมาเรื่อย โดยที่ ให้พี่ใจของเรา ขับรถไปรอที่ปลายทาง
ก่อนที่เราจะลงเรือ ไกท์จะสอนวิธีพายเรือ แจกไม้พาย เสื้อชูชีพ และกระเป๋ากันน้ำ อ่อ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องจมน้ำครับ เพราะน้ำในแม่น้ำซอง ลึกสุดก็แค่เอว และไกท์จะพายเรือ นำทางเราจนถึงสุดปลายทาง
ระหว่างทางการล่องเรือคุณจะได้พบกับบรรยากาศ ธรรมชาติ ต้นไม้ ลำธาร ขุนเขา สูงตระหง่า เป็นบรรยากาศที่บอกได้เลยว่า ในชีวิตนี้พึ่งเคยเห็น สวยมากๆ ให้นิยามคำว่า "ฟิน" ได้อย่างแท้จิง >http://pantip.com/topic/33763435
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น