สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ผมไม่ได้อยู่สายน้ำมันโดยตรง แต่อยู่ปิโตรเคมีอ่านแล้วก็ขออนุญาติออกความเห็น
ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ ถ้าไม่ชอบใจก็บอกให้ลบได้นะครับ
ตัดประเด็นเรื่องความไม่ยุติธรรมในสังคมก่อนนนะครับ
เท่าที่อ่านดู จขกท เป็นคนที่มีความพยายาม มีเป้าหมาย
แต่มันไม่ชัดครับ
อ่านจนจบ ผมตอบไม่ได้ว่า จขกท เก่งอะไร ทำงานในสายน้ำมัน อยากทำงานอะไร
ตอนอายุ 30, 40 ,50 อยากเป็นอะไร อยากทำสายปฏิบัติการ สายบริหาร หรือด้านไหน
ตอบไม่ได้เลยครับ
เรื่องภาษาและเกรดถือว่าอยู่ในระดับที่มีโอกาส แต่ในตลาดงานปัจจุบัน โปรไฟล์แรงๆเพียบ
ในตลาดงานเค้ามองคนที่ความสามารถและความจำเป็นของความสามารถนั้น ถ้าความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นต่องานอยู่ในระดับเดียวกัน
เค้าก็เลือกคนที่เค้าถูกชะตาครับ สิ่งที่ จขกท คิดว่าตัวเองดีกว่าคู่แข่ง อาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ตำแหน่งงานนั้นต้องการก็ได้
ตอบได้มั๊ยครับ ว่าตำแหน่งที่ต้องการไปทำเค้าต้องการความสามารถอะไร
และถ้าเค้าเลือกคนที่ความสามารถไม่ดีไปจริงๆ จขกท ก็ถือว่าโชคดีที่ไม่ต้องไปทำงานกับบริษัทแบบนั้น
ดูๆไปแล้วเหมือน จขกท มีเป้าหมายแค่ให้ได้ชื่อว่าได้ทำงานในสายน้ำมัน การเลือกเรียนโทก็เป็นไปได้ว่าเลือกเพราะได้ทุนฟรีและมีโอกาสเข้ามา
ถ้าผมจะถามใหม่ว่า ช่วงที่เรียนโท มีการวางแผนพัฒนา skill อย่างไร ได้ลองไปทำงานวิจัยด้านที่เกี่ยวกับงานด้านน้ำมันมั๊ย หรือปล่อยให้เป็นไปตามที่อาจารย์ป้อนให้ คนเก่งๆที่ผมเห็น พอเค้ารู้ตัวว่าอยากทำงานด้านไหน เค้าจะเอาตัวเองเข้าไปในสิ่งแวดล้อมนั้น ตอนนี้ลองถามตัวเองสิว่าช่วงเวลาที่เรียนปริญญาโท มีทักษะอะไรที่จะนำไปใช้กับงานในสายน้ำมันได้บ้าง แล้วได้พัฒนาจนเป็นจุดเด่นหรือยัง ถ้าจะตอบเรื่องภาษากับสกิลที่ จขกท เขียนมา ผมจัดให้อยู่ระดับค่าเฉลี่ยนะ (มีสกิลไหนบ้างที่คนจบวิศวะเคมีไม่มี หรือมีอันไหนที่ จขกท เก่งระดับแถวหน้า) เพราะที่ผมเห็นคนทำงานด้านนี้จริงๆ toeic 800-900 นะ จบตรีโท เมืองนอกก็มีเยอะ ถ้าอยากเพิ่มโอกาสแนะนำให้ทำ toeic เกิน 900 และพัฒนาทัศนคติและวิสัยทัศน์ให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับตำแหน่งงานที่มีความก้าวหน้า
บริษัทชั้นนำเค้าชอบเลือกคนที่มีเป้าหมายชีวิตชัดเจน เพราะคนแบบนั้นจะสามารถวางแผนและช่วยชี้นำองค์กรได้
นักศึกษาเก่งๆหลายๆคน มีการวางแผนชีวิตตัวเองเป็นอย่างดี พาตัวเองไปเกี่ยวข้องกับงาน พัฒนาทักษะที่จำเป็นในสายงานนั้น
เวลาไปสมัครงาน ถามคำถามไป คำตอบที่ได้มันเป็นเหตุเป็นผล มีหลักฐานความสำเร็จ
คนแบบนี้จะมีโอกาสได้งานมาก เพราะบริษัทเค้าเห็นว่ามีการวางแผนนำชีวิตตัวเองให้พัฒนาไปในทิศทางที่ต้องการ
ตรรกกะง่ายๆคือ
คนที่วางแผนชีวิตตัวเองไม่ได้ จะมาวางแผนให้องค์กรซึ่งมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มากมายได้อย่างไร
คนที่วางแผนให้ชีวิตตัวเองได้ แสดงว่ามีโอกาสที่จะพัฒนาให้มาชี้นำองค์กรได้
สิ่งที่ต้องทำ
1. วางเป้าหมายให้มันชัดกว่านี้
2. พัฒนาความสามารถขึ้นมาให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
แล้วเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่กรณีไม่ควรให้เกิดขึ้น แม้ว่าใครถูกใครผิด
คนสัมภาษณ์งานเค้าจะถือว่าคนที่มีสติจะคุมอารมณ์ไม้ให้เรื่องขัดแย้งมันลุกลามโดยไม่เกิดประโยชน์
ไม่มีความจำเป็นต้องไปทำเลาะด้วย
ความยุติธรรมในสังคมบางครั้งมันซับซ้อน แต่ความสามารถถ้าเป็นของจริง วันนึงโอกาสมันวิ่งมาหาแน่นอน
ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ ถ้าไม่ชอบใจก็บอกให้ลบได้นะครับ
ตัดประเด็นเรื่องความไม่ยุติธรรมในสังคมก่อนนนะครับ
เท่าที่อ่านดู จขกท เป็นคนที่มีความพยายาม มีเป้าหมาย
แต่มันไม่ชัดครับ
อ่านจนจบ ผมตอบไม่ได้ว่า จขกท เก่งอะไร ทำงานในสายน้ำมัน อยากทำงานอะไร
ตอนอายุ 30, 40 ,50 อยากเป็นอะไร อยากทำสายปฏิบัติการ สายบริหาร หรือด้านไหน
ตอบไม่ได้เลยครับ
เรื่องภาษาและเกรดถือว่าอยู่ในระดับที่มีโอกาส แต่ในตลาดงานปัจจุบัน โปรไฟล์แรงๆเพียบ
ในตลาดงานเค้ามองคนที่ความสามารถและความจำเป็นของความสามารถนั้น ถ้าความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นต่องานอยู่ในระดับเดียวกัน
เค้าก็เลือกคนที่เค้าถูกชะตาครับ สิ่งที่ จขกท คิดว่าตัวเองดีกว่าคู่แข่ง อาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ตำแหน่งงานนั้นต้องการก็ได้
ตอบได้มั๊ยครับ ว่าตำแหน่งที่ต้องการไปทำเค้าต้องการความสามารถอะไร
และถ้าเค้าเลือกคนที่ความสามารถไม่ดีไปจริงๆ จขกท ก็ถือว่าโชคดีที่ไม่ต้องไปทำงานกับบริษัทแบบนั้น
ดูๆไปแล้วเหมือน จขกท มีเป้าหมายแค่ให้ได้ชื่อว่าได้ทำงานในสายน้ำมัน การเลือกเรียนโทก็เป็นไปได้ว่าเลือกเพราะได้ทุนฟรีและมีโอกาสเข้ามา
ถ้าผมจะถามใหม่ว่า ช่วงที่เรียนโท มีการวางแผนพัฒนา skill อย่างไร ได้ลองไปทำงานวิจัยด้านที่เกี่ยวกับงานด้านน้ำมันมั๊ย หรือปล่อยให้เป็นไปตามที่อาจารย์ป้อนให้ คนเก่งๆที่ผมเห็น พอเค้ารู้ตัวว่าอยากทำงานด้านไหน เค้าจะเอาตัวเองเข้าไปในสิ่งแวดล้อมนั้น ตอนนี้ลองถามตัวเองสิว่าช่วงเวลาที่เรียนปริญญาโท มีทักษะอะไรที่จะนำไปใช้กับงานในสายน้ำมันได้บ้าง แล้วได้พัฒนาจนเป็นจุดเด่นหรือยัง ถ้าจะตอบเรื่องภาษากับสกิลที่ จขกท เขียนมา ผมจัดให้อยู่ระดับค่าเฉลี่ยนะ (มีสกิลไหนบ้างที่คนจบวิศวะเคมีไม่มี หรือมีอันไหนที่ จขกท เก่งระดับแถวหน้า) เพราะที่ผมเห็นคนทำงานด้านนี้จริงๆ toeic 800-900 นะ จบตรีโท เมืองนอกก็มีเยอะ ถ้าอยากเพิ่มโอกาสแนะนำให้ทำ toeic เกิน 900 และพัฒนาทัศนคติและวิสัยทัศน์ให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับตำแหน่งงานที่มีความก้าวหน้า
บริษัทชั้นนำเค้าชอบเลือกคนที่มีเป้าหมายชีวิตชัดเจน เพราะคนแบบนั้นจะสามารถวางแผนและช่วยชี้นำองค์กรได้
นักศึกษาเก่งๆหลายๆคน มีการวางแผนชีวิตตัวเองเป็นอย่างดี พาตัวเองไปเกี่ยวข้องกับงาน พัฒนาทักษะที่จำเป็นในสายงานนั้น
เวลาไปสมัครงาน ถามคำถามไป คำตอบที่ได้มันเป็นเหตุเป็นผล มีหลักฐานความสำเร็จ
คนแบบนี้จะมีโอกาสได้งานมาก เพราะบริษัทเค้าเห็นว่ามีการวางแผนนำชีวิตตัวเองให้พัฒนาไปในทิศทางที่ต้องการ
ตรรกกะง่ายๆคือ
คนที่วางแผนชีวิตตัวเองไม่ได้ จะมาวางแผนให้องค์กรซึ่งมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มากมายได้อย่างไร
คนที่วางแผนให้ชีวิตตัวเองได้ แสดงว่ามีโอกาสที่จะพัฒนาให้มาชี้นำองค์กรได้
สิ่งที่ต้องทำ
1. วางเป้าหมายให้มันชัดกว่านี้
2. พัฒนาความสามารถขึ้นมาให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
แล้วเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่กรณีไม่ควรให้เกิดขึ้น แม้ว่าใครถูกใครผิด
คนสัมภาษณ์งานเค้าจะถือว่าคนที่มีสติจะคุมอารมณ์ไม้ให้เรื่องขัดแย้งมันลุกลามโดยไม่เกิดประโยชน์
ไม่มีความจำเป็นต้องไปทำเลาะด้วย
ความยุติธรรมในสังคมบางครั้งมันซับซ้อน แต่ความสามารถถ้าเป็นของจริง วันนึงโอกาสมันวิ่งมาหาแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
หาคนในสายน้ำมันช่วยสานฝันงานสายน้ำมัน วิศวกรเคมี อายุ 27 หน่อยคับ มีโปรไฟล์ ตรี โท ระบายประสบการณ์เลวร้ายที่เจอมา
ตอนนี้ผมใกล้จะจบโท มีความรู้สึกว่างานหายากจังครับ ร่อนไปหลายที่ เงียบหมดเลย มีแต่เป็น Tutor โทรมา จนรู้สึกเครียดมากมายเลย ท้อมากเลยประสบการณ์ทำงานมีประมาณ 2 ปี ภาษาก็พอใช้ได้ ซึ่งเรื่องที่จะเล่านี้ จะบอกความรู้สึกผมว่า ผมเหนื่อยและท้อแท้ในชีวิตมากเลย กับความผิดหวังหลายๆอย่าง หลายรอบ และอยากระบาย เรื่องคนเลวๆสิ่งแย่ๆ ที่เคยพบเจอมา เกลียดคนที่เอาความฝันและความพยายามยากลำบากของคนอื่นไปเป็นของเล่นมากๆ ที่จริงผมไม่เคยอยากด่าว่าใครเลยนะ ถ้ามันไม่เลวแบบสุดๆแบบไอ้คนพวกนี้ " ผมอยากถามหาความยุติธรรม มันไม่มีอยู่จริงใช่ไหม "
จนตอนนี้ผมมีอคติกับคนเลวๆภาคหนึ่งอย่างรุนแรง คนพวกนี้ชอบใช้ความรุนแรง ปากหมา
เรื่องงานน้ำมัน ซึ่งผมหางานด้านนี้มาเกือบ 5 ปีแล้ว หาคนที่อยู่ในสายงานนี้ช่วยมาชี้ทางสว่างให้ด้วยครับ ที่ไหนก็ได้ที่เป็นงานด้านนี้
ผมควรจะเพิ่มสกิลงานด้านนี้อย่างไร ถึงจะได้งาน
สกิลตอนนี้ที่มีอยู่นะ TOEIC 685 , CU-TEP 516 , ใบ Cer Safety supervisor , ISO14001 /9001 OSHA 18001 , ใบผ่านงาน จากที่ทำงานเดิมก็ขอไว้ , เปเปอร์ งานวิจัย ที่มีชื่อผมร่วมตีพิมพ์ 3 เปเปอร์ 1 Biogas technology(ตอนทำงานที่สถาบันวิจัยด้านไบโอเทค งานร่วมกับ สถาบันวิจัย ปตท ) , 2 CFD (งานตอน ป. โท)
Skill Computer : ANSYS FLUENT (CFD simulation) , HYSYS , PRO-II , MATLAB (เขียนโปรแกรมประยุกต์งานวิศวะได้ ปานกลาง) ภาษา C , JAVA Skill Laboratory : ทั่วไปตามมาตราฐานวิศวเคมี Unit operation , เคมีวิเคราะห์ , Physico lab
ประวัติการศึกษา
เริ่มจาก เรียน จบ ตรี จากวิศวกรรมเคมี มอ แถวทุ่งครุ เกรดค่อนข้างดีใช้ได้ วิชาภาค ไม่ต่ำกว่า B B+ จบปุ๊ปทำงาน เกรดเกือบ 3นิดๆ
ประวัติการทำงาน เริ่มทำงานเป็นวิศวกรในโรงงานน้ำตาล ได้ 8 เดือน ซึ่งก็ส่วนใหญ่จะเป็นงานคุมรับเหมา และตรวจเช็คงาน คำนวณราคา BOQ ของที่ต้องใช้ทำ Unit ใน Plant และแก้ปัญหาในกระบวนการผลิตภายในโรงน้ำตาล แต่มีปัญหาเรื่อง เพื่อนร่วมงานนิสัยแย่ๆ เป็นรุ่นพี่ ซึ่งัมนเป็นผัวของรุ่นพี่ที่คณะผม ผมขอเรียกแทนว่า มัน ซึ่งมันเป็นเด็กเส้นที่เจ้าของบริษัทนำเข้ามา แต่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าของเลยนะ เรารู้สึกว่ามันเป็นคนที่นิสัยเลวสุดๆไปเลย เรียกว่า ไม่ฟังความเห็นของเพื่อนร่วมงานคนไหนเลย และมันคิดว่าตัวเองใหญ่เลย เที่ยวชี้นิ้วสั่งเค้าไปทั่ว มันชอบมาสั่งเราให้ทำในสิ่งที่มันต้องการ ส่วนใหญ่จะไร้สาระ และมันโง่แถมอวดฉลาด รู้ไปทั่ว สุดท้ายหนีพอมีปัญหาหน้างานก็หนีทุกทีแหละ และทีนี้ทำงานไป ในกลุ่มพี่ที่ทำงานด้วยกัน รวมมันด้วย ผมเล่าให้ฟังว่า ผมมีความฝันอยากทำงานสายน้ำมัน และวางแผนจะไปสมัครโปรแกรมหนึ่ง ซึ่งเป็นโปรแกรมอบรมงานด้านน้ำมัน นี้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งผมเป็นคนหาข้อมูลโปรแกรมนี้เจอเองทางอินเทอร์เนต
และถึงไม่ได้โปรแกรมนี้ในปีนี้ผมก็จะไปทำงานในกรุงเทพ ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเทคโนชีวภาพของมหาลัยที่ จบ ตรีมา และพัฒนาภาษาด้วยตัวเองไปด้วย เพราะพักใกล้ที่ทำงานมีเวลาอ่านหนังสือเยอะๆมากๆ มีที่อ่านในมหาลัยแอร์เย็นเจี๊ยบ
จากเท่าที่ผมอ่านคุณสมบัติดู คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโปรแกรม ผมคาดเอาเองว่า เกณฑ์คัดเลือกน่าจะเลือกจากผู้สมัครที่มีเกณฑ์ภาษาอังกษพอใช้ได้ แต่มาตอนหลังผมคิดผิดถนัด ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง
ผมเลยวางแผนเอาไว้ว่าจะลาออกไปสมัครโปรแกรมนี้ และถ้ายังไม่ได้โปรแกรมนี้ ก็จะพัฒนาภาษาให้ดียิ่งขึ้นและไปสมัครอีกรอบในปีหน้า เนื่องจากโปรแกรมนี้จะรับนักศึกษา ป ตรี คละกันไปในแต่ละมหาลัยและมีโควต้าจำกัดในแต่ละมหาลัย และได้เจอกับรุ่นพี่ในกลุ่มมหาลัยที่ ซึ่งได้ติดตามโปรแกรมนี้มา2-3ปี แต่ไม่ผ่าน (โปรแกรมนี้เปิดทุกปี) และในท้ายที่สุดปีสุดท้ายเขาก็ได้ไป ในปีสุดท้ายก่อนอายุจะเลยคุณสมบัติ ผมเห็นว่ากรรมการน่าจะเลือกคนจากคุณสมบัติตรงที่มีความพยายามนี้ ผมเลยคิดเลียนแบบบ้าง ซึ่งในปีแรกนี้ผมไม่ได้นะ ไม่ได้ยังไม่พอ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเท่าไหร่ ไอ้รุ่นพี่ที่นิสัยไม่ดีในโรงงานเก่าที่เคยเล่าเรื่องความฝันให้ฟังมันยังโทรมาเยาะเย้ย อีกเนืองจากเมียมันเป็นเพื่อนกับไอ้คนที่ได้โปรแกรมนี้ไป จึงรู้ความเคลื่อนไหวของผมได้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรไป
และคิดในใจว่า ถ้าเราพัฒนาภาษาให้ดี ส่งPortfolio ผลงานที่เราเคยทำไว้ตั้งแต่สมัยเรียน และพัฒนาภาษาให้มากกว่าคนสมัครคนอื่น โอกาสมันก็น่าจะเปนของผมแทบบ 100% เพราะติดตามโปรแกรมมา 2 ปี แล้ว ผมก็เริ่มไปทำงานที่สถาบันวิจัยด้านชีวภาพ ของ มหาลัยเก่าที่จบมา ตำแหน่งผู้ช่วยนักวิจัย ซึ่งงานมันเป็นแนวค่อนข้างใช้แรงงาน พอสมควร เซตแลป ยกของหนักๆ และวิเคราะห์เคมี (สารโลหะหนัก T^T ทั้งนั้น ค่าตอบแทนไม่คุ้มเลย กะสิ่งที่ลงทุนไป )
พอหลังเลิกงาน ผมก็จะกลับมาฝึกสกิลภาษาของผม มีทั้งอ่านฟังเองทุกวัน และเรียนพิเศษ จริงๆแล้วข้อสอบระดับ TOEIC ไม่ต้องเรียนก็ได้ครับผมอ่านเองประมาณ1เดือน ได้มา ช่วง 650-685 ได้CU-TEP มา 516 ซึ่งผมก็สอบเพื่อให้มีผลคะแนนทุกใบ ทั้ง TOEIC (6) ,CU-TEP(3) ,TU-GET (1) ที่โปรแกรมนั้นต้องการมาใช้เป็นเกณฑ์ เรียกว่า ลงทุน หมดหน้าตัก จำนวนเลขในวงเล็บคือ ปริมาณทีสอบไป ผมเฝ้าติดตามหน้าเว๊บของโปรแกรมอบรมงานน้ำมันนั้นทุกวัน รอวันที่เปิดรับสมัครมาถึง ผมเตรียมทำ Resume ถึงแรงบันดาลใจที่อยากเข้าร่วมโปรแกรม ความรู้พื้นฐานที่มี เนื่องจาก วิชาเลือก ป ตรี ได้ Petroleum&Petrochemical A มา ทั้งหมดนี้เขียนเป็นภาษาอังกฤษแต่งเอง essay กว่า 6 หน้า ปริ๊นท์สี ใส่กระดาษหนังช้าง เพื่อเตรียมส่ง พร้อม Portfolio และใบคะแนนภาษาทีทำมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แล้ววันสัมภาษณ์มาถึง ผมแอบสังเกตคะแนนคู่แข่งทักษาะภาษา ซึ่งในมหาลัยเดียวกัน ผมมีคะแนนสูงสุดแล้วครับ และ สิ่งที่ผมแนบไป Essay และ Portfolio คะแนนภาษาค่อนข้างออกมาดี และติดตามให้ความสนใจโปรแกรมนี้มา 2ปี ทำให้ผมมั่นใจว่าน่าจะได้พอสมควร ซึ่งคำถามกรรมการ จะถามว่าพ่อแม่ทำอาชีพอะไร เป็นคนจังหวัดไหน ซึ่ง ทีแรกผมคิดว่าคำถามแบบนี้มันจะใช้คัดคนเข้าร่วมได้ยังไง แต่ด้วยคิดว่าสิงที่ผมลงทุนไป ผมก็น่าจะได้รับสิ่งตอบแทนบ้าง แต่ไม่เลย
ท้ายที่สุด วันประกาศ ไม่มีชื่อผมผ่านเข้าโปรแกรมนั้น วินาทีนั้น มันเหมือนโลกแทบจะหยุดหมุนเลยนะครับ แล้วคนที่ได้ผ่านเข้าไปแทนผมนั้น ที่ผมสังเกตเห็นสิ่งที่ มัน นำมายื่นสมัคร เป็น Resume ที่ปริ๊นท์ตามเว๊บสมัครงาน และคะแนนTOEC ประมาณ 400 นิดๆ ขอเรียกแทนว่า มัน(ไอ้คนภาคนั้น) เพราะไอ้คนแบบนี้ มันเป็นคนที่มาพูดกวนประสาทผมในเว๊บบอร์ดน้ำมัน ปกติ ในบอร์ดต่างๆจะต้องใส่ชื่อ ซึ่งมันพิมพ์กวนๆ เชิงเยาะเย้ยผมประมาณว่า อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว และอย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ทัศนคติไม่ดีบ้าง ( ซ่งตีนหนะสิ ตอนสัมภาษณ์ มันวัดทัศนคติยังไงวะ ผมยัง งง งง อยู่เลย ในคำถามมีถามแค่ว่า พ่อ แม่ทำอะไร อยู่จังหวัดไหนแค่นั้น ) มันโพส โดยใช้ชื่อจริงผม (ซึ่งมาตอนนั้นยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ เพราะเห็นจากคุณสมบัติแล้ว สิ่งที่ผมทำไปนั้น คนที่ควรจะผ่านเข้าไปควรจะเป็นผมมากว่า) เลยฟิวส์ขาด ผมถึงต้องตามไปหาเรื่องมันในเฟสมันโดยหาเฟสจากชื่อจริงมัน จากนั้น มันก็เริ่มพูดจา กร่างกลับมาว่า จะทำไมหรือ ตัวมันหนะปากหมาอยู่แล้ว ที่พูดว่าผม แถมอวดว่าตนเองนั้นเก่งมากขนาดได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ ซึ่งตรรกะมันต่ำมากเลย คะแนนภาษาแค่นี้ เกรดแค่นี้ ได้ทุนต่างประเทศ มันทำให้ผมยิ่งเกลียดไอ้คนคนนี้มากขึ้นไปอีก จนเริ่มด่าว่ามันรุนแรง แต่มันก้ยังพูดจากวนๆ ลามมาถึงฐานะการเงินทางบ้านผมที่ไม่ดีอยู่ ในตอนนั้น (ตอนนี้ดึขึ้นมากแล้ว) และที่น่าโกรธที่สุดคือ มันโพสรูป ชุดทำงานชุดหมีบนแท่นน้ำมัน ให้ผมดู เพื่อยั่วโมโห จนผมต้องด่ามันด้วยคำหยาบคาย เล่นถึงพ่อ แม่มัน และเริ่มท้าตีต่อยกัน ท้ายที่สุดมันก็ปิดเฟสหนีไป
และ พูดทิ้งท้ายไว้ว่า "ดีใจๆจริงที่มีโอกาสขัดขวาง หมายถึงน้องชายผมที่จะไปสมัครใช่ไหม" <<<< ไอ้คนภาคนี้สันดานมันเป็นแบบนี้ทุกตัวหรือเปล่า
ซึ่งเรื่องนี้มีอยู่ว่า ตอนหลังผมเพิ่งรู้ว่ามีญาติอยู่เกี่ยวกับโปรแกรมนี้และ พยายามจะฝากน้องชายที่จะจบตรีแล้วไปเข้าแทนผม ซึ่งตัวผมหมดคุณสมบัติเนื่องจากอายุเกิน นึกว่าจะใช้เส้นสายพอช่วยได้ ผมไม่ทราบว่า ไอ้คนคนนั้นมันไปเล่าอะไรให้กรรมการฟัง จนญาติบอกให้ไปขอโทษ วันที่ผมต้องไปหากรรมการที่สัมภาษณ์เพื่อขอโทษ เรื่องที่ผมไปด่ามัน ขนาดผมขอโทษกรรมการแล้ว น้องชายผมก็ยังแห้วอยู่ดี สุดท้ายพวกผมเลยอดโปรแกรมนั้นทั้งคู่
(แล้วทำไมกรรมการถึงได้ฟังคำพูดของมันฝั่งเดียว ทำไมไม่ถามความคิดเห็นและความรู้สึกอะไรผมเลย ว่าใครหาเรื่องใครก่อนกันแน่
สงสัยว่าทำไมครับ ผมไม่ได้เป็นคนหาเรื่องใครเลยแท้ๆ ทำไมฟาดเคราะห์หนักแบบนี้ด้วย )
(ทั้งไอ้รุ่นพี่โง่ๆที่โรงงานที่พูดเยาะเย้ย หลังเพิ่งรู้ว่ามันลาออกไป ทำงานราชการ อบจ และ ไอ้คนที่มันด่าผมและไม่ได้มีความพยายามอะไรเลย สันดานชั่วอีกต่างหาก) " ผมอยากถามหาความยุติธรรม มันไม่มีอยู่จริงใช่ไหม "
หลังๆผมเริ่มปลงชีวิต และพอดีได้ทุนเรียน โทฟรี ที่จุฬา เลยลาออกจากงานที่ทำที่สถาบันวิจัย เบนเข็มมาเรียนดูบ้าง ซึ่งก็ค่อนข้างหนักพอสมควร เป็นทั้ง TA ตรวจการบ้าน คุมแลปเด็ก Course work ไม่เท่าไหร่ครับ ผมค่อนข้างพื้นฐานดีตอน ป.ตรี เกรดป โท เลยออกมาดี จะหนักมากตรง Thesis เป็นการจำลองกระบวนการทางวิศวะเคมี /เครื่องปฏิกรณ์ ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีเขียนโปรแกรมภาษา C นิดหน่อย และออกแบบเครื่องด้วย โปรแกรมCAD นิดหน่อย เหนื่อยตอนทำดึงผลจากData file นี่แหละ
สุดท้าย ตอนนี้ กำลังจะเรียน จบปริญญาโท วิศวเคมีจุฬา เกรด ก็โอเค 3.5+ ซึ่งก็จะสอบจบภายในเดือนกรกฏานี้
ช่วงเรียน ผมก็สอนพิเศษ มาตลอดเลยครับ คณิต วิทย์ ม.1-ม.3 ฟิสิกส์/เคมี ม.4-ม.5 ตามสถาบันกวดวิชาไม่ก็ไปสอนตัวต่อตัวถึงบ้าน
สุดท้าย อยากให้คนที่อยู่ในสายงานน้ำมันช่วยชี้ทางสว่างให้ด้วย ครับ ว่าควรทำยังไงต่อไปดี ผมถึงจะไปถึงเป้าหมายที่ผมยอยากได้ได้