สปอยของสองตอนที่แล้วค่ะ
http://pantip.com/topic/33638189
http://pantip.com/topic/33670585
ตอนนี้ว่าจะไม่ยาวกลายเป็นยาวอีกแล้วค่ะ 5555 ถ้าแปะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คือขยายความเวิ่นเว้อค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
หลังจากที่อาเชอร์เล่าเรื่องความเป็นมาที่ทำให้เจ้าตัวเกลียด”ตัวเอง/ชิโร่”ถึงขนาดนี้
เกลียดตัวเองที่อยากเป็น มิตรแห่งความเที่ยงธรรม ที่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในชะตากรรมที่ต้องเป็นGuardian ไปตลอดกาล
ชายหนุ่มเกลียดชังการมีชีวิตอยู่ของตัวเองถึงขนาดที่ว่า แม้การฆ่าชิโร่จะไม่สามารถทำให้ตัวเองหลุดจากการเป็นGuardian ได้
ก็ขอแค่ให้คนในไทม์ไลน์นี้ไม่ต้องมารับกรรมเพราะ เอมิยะ ชิโร่ คนนี้ก็เพียงพอ
และสำหรับคนที่ลืมดูตอนท้ายED ของตอนที่18 ป๋ากิลกำลังไปเดินเล่นแถววัดริวโด ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของจอกใหญ่
ตอนนี้อาจจะอยู่ระหว่างทางกลับมาที่ปราสาทไอซ์เบิร์น
เปิดตอนมาที่อาเชอร์กำลังประดาบอยู่กับชิโร่ โดยมีเซเบอร์เป็นผู้สังเกตุการณ์ หลังจากอัดเจ้าขาวกระเด็นไปนอนกับพื้นยังไม่ทันไร
ร่างกายของอาเชอร์ก็เริ่มคงสภาพไม่ค่อยได้ซะแล้วเพราะขาดมาสเตอร์ซัพพอร์ตพลังเวทย์มานาน
การอยู่ในคลาสอาเชอร์ช่วยให้ชายหนุ่มยังคงไม่หายไปก็จริง แต่ความสามารถของชายหนุ่มตอนนี้เหลือเพียง1/10ของความสามารถเต็ม
ทว่านั่น…ก็ยังไม่พอให้ชิโร่ฝีมือตีตื้นขึ้นมาอยู่ดี
“นั่นก็ยังไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่านายต้องตายอยู่ดี”
ตัดฉากกลับมาที่ฝั่งริน
คิเรย์ที่เมินเสียงนกเสียงกาอีกครั้ง เดินเข้ามารินเพื่อถามคำสั่งเสีย พร้อมกับเอามือวาดไปตามร่องอก
ไล่ไปตามกระดูกSternumลงมาเพื่อหาตำแหน่งกึ่งกลางหัวใจอย่างนักฆ่าผู้เชี่ยวชาญ.... ซะที่ไหนล่ะ

ไม่ใช่เล่า!!! นี่มันเนียนแต๊ะอั๋งชัดๆ !!
อาเชอร์ยังไม่เนียนแต๊ะอั๋งเยอะขนาดนี้เลยนะ
ทว่า ก่อนที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น แลนเซอร์ที่ทุกคนนึกว่าแน่นิ่งไปแล้วก็ลุกขึ้น
แม้คิเรย์จะไหวตัวทัน แต่ก็ไม่อาจไวไปกว่าความเร็วเซอร์แวนท์ ถูกหอกเสียบทะลุจุดที่น่าจะมีหัวใจ จนตัวไปติดกำแพง
“โทษทีว่ะ โคโตมิเนะถ้าแค่นี้ทำอะไรชั้นได้ ชั้นคงไม่ได้มาเป็นวีรชนหรอก”
เซอร์แวนท์ผู้มีสกิลBattle continuationซึ่งทำให้สามารถต่อสู้ต่อไปได้แม้บาดเจ็บสาหัสขนาดตายได้ บอกกับนายเก่า
เมื่อแน่ใจว่าคิเรย์ แน่นิ่งไม่มีทางกลับมารังควานสาวที่ตัวเองโปรดปรานได้แล้ว แลนเซอร์ก็ลงไปนอนต่อ
ทำให้เจ้าหัวสาหร่ายย่ามใจ เข้ามารุ่มร่ามกับรินอีกครั้ง ในขณะที่นางเอกของเราก็ยังเป็นคนดีเช่นเดิม นั่นทำให้เจ้าหัวสาหร่ายพิโรธผลักเก้าอี้ทำเอารินล้มหัวฟาดไปด้วย แล้วจึงขึ้นมาบีบคอบอกให้ โทซากะร้องขอชีวิต พร้อมกับถามว่าใครจะมาทำไรตูด้าย
พระเอกเอ๊ย แลนเซอร์เลยลุกขึ้นมาตบเกรียนอีกครั้ง เจ้าสาหร่าย พยายามจะเรียกกิลออกมาซึ่งน่ายินดีอย่างยิ่งที่กิลยังไม่กลับมา (ถ้ามาแล้วคิเรย์คงไม่ตาย) แลนเซอร์เห็นแก่ รินที่อุตส่าห์พยายามช่วยไอคนไร้ค่านี่ (น่าจะเพื่อซากุระ)
จึงเอาหอกทิ่มจึ้กนึงเป็นอันพอให้ ชินจิวิ่งหนีไป
ตัวน่ารำคาญก็ออกไปแล้ว…แลนเซอร์ที่จัดการตัดเชือกให้ริน ก็เหมือนหมดหน้าที่หมดแรง ร่วงไปซะอย่างงั้น
ฉากตัดมาเป็นชิโร่กำลังโดนต้อนอยู่ฝ่ายเดียว พร้อมกับโดนถากถางว่าเทรสของชิโร่ยังเหมือนแต่รอบนอกแต่โครงสร้างภายในกลวง
ยิ่งสู้ ดาบที่อยู่ในมือของชิโร่ก็แตกอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้กลับเทรสมาทันเป็นฝ่ายผลักอาเชอร์กลับไปได้บ้าง
ธรรมดาการฝึกฝนให้เก่งขึ้นของคนเราจะกินเวลาจากการที่เราหาสไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเอง
แต่ถ้ามีตัวเราที่ฝึกสำเร็จแล้วมาอยู่ตรงหน้าให้เราเลียนแบบล่ะก็ การเก่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ทว่าแค่นี้ก็ไม่พอให้ชนะอาเชอร์อยู่ดี
ชิโร่ที่ประดาบกับอาเชอร์อีกครั้ง มองเห็นอดีต ไม่สิ อนาคตของตัวเอง ชิโร่ถึงกับพยายามบอกตัวเองไม่ให้สงสารอาเชอร์
แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นเมื่อนึกว่านั่นจะเป็นชะตากรรมของตัวเองในอนาคต
อาเชอร์ที่รู้ว่าชิโร่เห็นอดีตของตนก็บอกว่านั่นเป็นความจริงทั้งหมด พร้อมกับเรียกUBWขึ้นมา
เพื่อให้ภาพเนินร้างที่เต็มไปด้วยดาบนั้นตอกย้ำชะตากรรมอนาคตที่จะเกิดขึ้นให้เจ้าขาวได้เห็นอีกครั้ง
Ufoใจดีเติมมานาให้
“I am the bone of my sword”
ใจคอพี่จะไม่ให้อาเชอร์ร่ายจนจบหน่อยเหรอ ตัดจังงงง
ฉากกลับมาที่รินกำลังมอง แลนเซอร์กระอักเลือด อย่างรู้สึกผิดเพราะไม่สามารถช่วยอะไรได้
คู ฮูลินที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมามากบอกปลอบไม่ให้คิดมาก พร้อมกับบ่นขำๆว่าทั้งรินกับเขาต่างก็ได้คู่หูแย่ๆทั้งคู่เลยนะ
“นั่นสินะ ของฉันไม่ถึงกับแย่ แต่เรียกว่า
รับมือยาก ซะมากกว่า”
รินที่รู้อย่างนั้นมาโดยตลอดถึงได้พยายามมาโดยตลอด ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองไม่สามารถที่จะช่วยอาเชอร์ได้
เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่อาเชอร์คิดเป็นสิ่งที่ถูก และเห็นด้วยทั้งหมด สิ่งที่เธอทำได้ในฐานะมาสเตอร์ให้อาเชอร์ได้เห็นคือ
โทซากะ รินที่ “เมื่อเลือกทางไหนแล้ว ก็จะเชื่อมั่นเดินทางนั้น” เผื่อว่าหมอนั่นรู้สึกเชื่อมั่นกับทางที่ได้เดินไปแล้วขึ้นมาบ้าง….
(เป็นอันเข้าใจกันว่าทำไมริน ถึงพยายามช่วยชินจิให้ซากุระขนาดนั้น)
“เฮ้อ…ช่วยสาวแล้วสาวก็มาพูดถึงผู้ชายคนอื่นให้ฟังก่อนตายแบบนี้มันน่าเศร้าจังน้า…”
“เฮ้อ…ถ้าได้ผู้หญิงอย่างเธอมาเป็นมาสเตอร์ซะหน่อยน้า…”
แลนเซอร์พูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับโทษดวงเรื่องผู้หญิงของตัวเอง
ว่าแล้วคูฮูลินก็บอกลารินพร้อมกับเขียนรูนบนพื้น ปรากฏไฟลุกไหม้ท่วมห้องทันที
“ลาก่อนนะแลนเซอร์”
“ถึงจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ชั้นก็ชอบคนอย่างนายนะ”
“หึ ยัยหนูน้อย...ไว้โตกว่านี้หน่อยค่อยมาพูดคำนี้เถอะ”
ว่าแล้วร่างแลนเซอร์ก็สลายไป ด้วยคำพูดทิ้งท้ายแบบปากไม่ตรงกับใจขัดกับรอยยิ้มพึงพอใจบนหน้าอย่างสิ้นเชิง
ฉากตัดกลับมาอีกฟากหนึ่ง
เอมิยะ ชิโร่ที่กำลังหมดท่าเพราะสู้ไม่ได้ ยังคงโดนตัวเองจากอนาคตตอกย้ำความต่างชั้น
อาเชอร์ที่รู้ว่าตัวเองเคยคิดอย่างไรในอดีตก็พูดแทงใจดำความคิดของชิโร่ซะไม่เหลือชิ้นดี พร้อมกับยืนยันคำเดิมว่าคนแบบนี้ไม่ควรมีตัวตนอยู่
ชิโร่พุ่งตัวเข้าไปโจมตีอาเชอร์ "เขา"
ไม่ยอมไม่มีทางว่าเชื่ออุดมคติของเขาจะกลายมาเป็นแบบนี้
ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องปฏิเสธตัวตนการมีอยู่ของอาเชอร์
“ขอถามหน่อยเถอะ ว่านายอยากเป็นมิตรแห่งความเที่ยงธรรมนั่นจริงๆน่ะเหรอ”
คนที่น่าจะรู้จัก
เอมิยะ ชิโร่ มากที่สุดเอ่ยถามสิ่งที่ตัวเองน่าจะรู้อยู่แล้ว
“ไม่ใช่อยากเป็น แต่จะเป็นให้ได้ต่างหาก!!!”
ใช่แล้วเพราะนั่นเป็นความรู้สึกต้องการหนึ่งเดียวที่ เอมิยะ ชิโร่มี ทั้งที่เป็นแบบนั้น ความรู้สึกนี้กลับเป็นความรู้สึกของคนอื่นไปซะอีก
ถึงตรงนี้ชิโร่เริ่มออกอาการขัดขืนทันที …เขาไม่อยากยอมรับมัน…ไม่ต้องการให้ใครมาบอกให้รู้….
ว่าใบหน้าที่ยิ้มมีความสุขเหลือเกินในตอนที่คิริทสึคุช่วยตน
ใบหน้าของคิริทสึคุตอนช่วยคน ต่างหากเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ชิโร่บอกตัวเองว่าอยากทำแบบนั้นบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพราะรับปากกับคิริทสึคุในตอนนั้นไปแล้ว เอมิยะ ชิโร่จึงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากมิตรแห่งความเที่ยงธรรม
ความอยากเป็นมิตรแห่งความเที่ยงธรรมของ เอมิยะ ชิโร่ เกิดขึ้นจากความคิด ตื่นเขินเพียงเพราะชื่นชมในตัวคิริทสึคุเท่านั้น
อุดมคติของเอมิยะ ชิโร่เป็นแค่สิ่งที่ยืมมาจากคนอื่น เลียนแบบความเชื่อที่คิริทสึคุคิดว่าถูกต้องเท่านั้น
“ขนาดความคิดที่อยากจะช่วยคนอื่นของนาย ยังไม่ใช่สิ่งที่นายตัดสินใจเองเลย!!”
อาเชอร์ปักดาบลงเข่าชิโร่ทันทีที่หักดาบได้
ชิโร่ยังคงลุกขึ้นมา ทว่ากลับไม่มีเรี่ยวแรงที่จะโต้ตอบ เพราะไม่สามารถโต้กลับว่าสิ่งที่ตัวเขาในอนาคตพูดมามันผิดแม้แต่เรื่องเดียว
“ใช่แล้ว…นายแบกรับอุดมคตินั้นเพราะแค่คิดว่ามันเป็นความคิดที่สวยงามยังไงล่ะ”
“หรือก็คือ นายไม่ได้มีความต้องการเป็นของตัวเองเลย”
“ถ้านี่ไม่เรียกว่าแสร้งทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ จะให้เรียกว่าอะไร!!”
เอมิยะ ชิโร่ที่คิดแต่ใช้ชีวิตตัวเองเพื่อคนอื่น เป็นของปลอมแบบรับทำความคิดที่ไม่ใช่ของตัวเองที่สุดท้ายก็ช่วยใครไม่ได้
“วิธีช่วยคนก็ไม่รู้”
“สิ่งที่ต้องการจะช่วยก็ไม่มี”
“สุดท้ายก็จะรู้จักแต่การใช้ความยุติธรรมเหี้ยมๆแบบนั้น”(เสียสละคนส่วนน้อยเพื่อคนส่วนใหญ่)
อาเชอร์ซัดชิโร่ล้มคว่ำไปพร้อมกับตอกย้ำความโลกสวยของอุดมคติที่ชิโร่ต้องการจะให้เกิดอีกครั้ง
ชิโร่ที่ถูกซัดลงไปนอน ไม่เหลือเรี่ยวแรงทั้งกายและใจที่จะสู้ต่อ ไม่ว่าคิดยังไงทุกอย่างที่หมอนั่นพูดมาก็ถูกหมด
แต่ก็คิดว่ามันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ถูกลืมไป
ในช่วงเวลานั้น ชิโร่เห็น ภาพที่เรียกได้ว่าเป็น "นรก" หลายครั้ง
นรกในอนาคต และ ตัวเองกับผลลัพธ์จากการที่เลือกไม่ทิ้งอุดมคติจนถึงวินาทีสุดท้าย
ย้อนกลับไปถึงภาพ "นรก" ครั้งแรกในอดีตที่ตัวเองได้เห็น ชิโร่บอกกับตัวเองตอนเด็กว่าข้างหน้ามีแต่นรกเท่านั้น
แต่ตัวเขาในตอนเด็กก็ยังคงเดินต่อไป
/// ถึงตรงนี้เพลง last Stardust ขึ้น//
"โฮ่ย ทางข้างหน้าน่ะ เป็นนรกนะ"
คำพูดเดียวกันถูกบอกจากตัวเขาในอนาคต
ถ้าเขาเลือกทางเดินนี้ต่อไป สิ่งที่เขาต้องพบ อาจเป็นนรกแบบเดียวกับที่อาเชอร์ได้พบ
จริงอยู่ที่ว่าความคิดที่จะช่วยคนของเขาจะเริ่มต้นจากการชื่นชมคิริทสึคุ แต่สิ่งที่ชายหนุ่มลืมไปก็คือ ความคิดนั้นของเขาก็สร้างมาจาก
"ความรู้สึกที่อยากจะแก้ไขไม่ให้มีนรกแบบนี้อีก"เป็นความรู้สึกร่วมเดียวกับคิริทสึคุ เช่นกัน
แสงอวาลอนจ้าหายไปพร้อมกับภาพในอดีต ชิโร่ที่คิดได้แล้วตัดสินใจเดินหน้าอีกครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถึงแม้ว่าชีวิตนั้นจะเป็นเหมือนกับเครื่องจักรที่เห็นชีวิตตัวเองสำคัญน้อยกว่าคนอื่น
ถึงแม้ว่าชีวิตนั้นจะเป็นชีวิตที่เลือกทำตามความคิดของคนอื่นก็ตาม
เขาตัดสินใจเลือกดึงดาบขึ้นมา
เอมิยะ ชิโร่ ตัดสินใจที่จะเป็นมิตรแห่งความเที่ยงธรรมต่อไป
ภาพตัดกลับมายังโลกความเป็นจริง
อาเชอร์ตกใจที่ชิโร่ยังสามารถลุกขึ้นมาได้
อวาลอนที่ไม่ยอมทำหน้าที่ตั้งนานกลับมาฮีลแผลเต็มตัวของชิโร่ ทั้งที่ไม่มีพันธะสัญญากับเซเบอร์แล้วราวกับปาฏิหารย์
"ร่างกายของชั้นถูกสร้างขึ้นจากคมดาบ"
ชิโร่เทรสดาบขึ้นมาปัดคันฉะเบียคุยะที่อาเชอร์ขว้างมา
"ชั้นจะไปยอมแพ้นายได้ยังไงกัน..."
"จะให้แพ้ใครก็ช่าง แต่ชั้นจะไม่ยอมแพ้ตัวเองเด็ดขาด!!"
ชิโร่ สู้อาเชอร์ ไม่ได้ทั้งฝีมือ หรือแม้แต่ความแน่วแน่ทางความคิด แต่ถ้าแขนขายังขยับได้เขาก็จะสู้ต่อไป
"ความถูกต้องของนายเป็นฝ่ายถูก มันก็แค่นั้นแหล่ะ"
"แต่ของพรรค์นั้นชั้นไม่ต้องการหรอก"
"ไม่ว่ายังไงชั้นก็จะเป็นมิตรแห่งความเที่ยงธรรม"
ชิโร่ชูคันฉะเบียคุยะพร้อมกับประกาศกร้าวว่าจะสู้จนถึงที่สุด
//จบตอนนนนน
อา.... ตอนนี้นับเป็นตอนที่ดีที่สุดตั้งแต่ดูมาเลยค่ะ
ฉากจากลาของรินกับแลนเซอร์ซึ้งตามที่หวังไว้ แต่ที่เหนือความคาดหมายคือฉากการต่อสู้ของอาเชอร์กับชิโร่ค่ะ
ฉากในจิตใจชิโร่ที่เพิ่มนอกเหนือจากในVN เป็นฉากที่ดีมาก
ใช้เวลาทำความเข้าใจฉากนั้นอยู่นานพอสมควร
สคริปต์และการใส่เพลงของตอนนี้ดีมาก ขนาดตอนอาเชอร์ต้อนชิโร่ จขกท.ยังเผลอสงสารเสียน้ำตาเลย
ถึงไม่อยากยอมรับนักแต่ตอนนี้UFOทำชิโร่ออกมาเป็น"พระเอก"ได้สมกับที่เคยสัญญาไว้จริงๆค่ะ
ด้วยความหมั่นไส้...ถ้าเป็นไปได้ขอให้ทุกคอมเม้นช่วยเติม #เป็นแค่ชิโร่แท้ๆ ลงในคอมเม้นจะเป็นพระคุณมากค่ะ

แล้วก็เหมือนเดิม ขอบคุณที่อ่านจบจนถึงตรงนี้ค่าา
สปอย Fate Stay Night UBW ตอนที่20 Ver.แก้ตัวให้อาเชอร์ ใครดูแล้วมาคุยกันค่ะ
http://pantip.com/topic/33638189
http://pantip.com/topic/33670585
ตอนนี้ว่าจะไม่ยาวกลายเป็นยาวอีกแล้วค่ะ 5555 ถ้าแปะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คือขยายความเวิ่นเว้อค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
หลังจากที่อาเชอร์เล่าเรื่องความเป็นมาที่ทำให้เจ้าตัวเกลียด”ตัวเอง/ชิโร่”ถึงขนาดนี้
เกลียดตัวเองที่อยากเป็น มิตรแห่งความเที่ยงธรรม ที่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในชะตากรรมที่ต้องเป็นGuardian ไปตลอดกาล
ชายหนุ่มเกลียดชังการมีชีวิตอยู่ของตัวเองถึงขนาดที่ว่า แม้การฆ่าชิโร่จะไม่สามารถทำให้ตัวเองหลุดจากการเป็นGuardian ได้
ก็ขอแค่ให้คนในไทม์ไลน์นี้ไม่ต้องมารับกรรมเพราะ เอมิยะ ชิโร่ คนนี้ก็เพียงพอ
และสำหรับคนที่ลืมดูตอนท้ายED ของตอนที่18 ป๋ากิลกำลังไปเดินเล่นแถววัดริวโด ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของจอกใหญ่
ตอนนี้อาจจะอยู่ระหว่างทางกลับมาที่ปราสาทไอซ์เบิร์น
เปิดตอนมาที่อาเชอร์กำลังประดาบอยู่กับชิโร่ โดยมีเซเบอร์เป็นผู้สังเกตุการณ์ หลังจากอัดเจ้าขาวกระเด็นไปนอนกับพื้นยังไม่ทันไร
ร่างกายของอาเชอร์ก็เริ่มคงสภาพไม่ค่อยได้ซะแล้วเพราะขาดมาสเตอร์ซัพพอร์ตพลังเวทย์มานาน
การอยู่ในคลาสอาเชอร์ช่วยให้ชายหนุ่มยังคงไม่หายไปก็จริง แต่ความสามารถของชายหนุ่มตอนนี้เหลือเพียง1/10ของความสามารถเต็ม
ทว่านั่น…ก็ยังไม่พอให้ชิโร่ฝีมือตีตื้นขึ้นมาอยู่ดี
“นั่นก็ยังไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่านายต้องตายอยู่ดี”
ตัดฉากกลับมาที่ฝั่งริน
คิเรย์ที่เมินเสียงนกเสียงกาอีกครั้ง เดินเข้ามารินเพื่อถามคำสั่งเสีย พร้อมกับเอามือวาดไปตามร่องอก
ไล่ไปตามกระดูกSternumลงมาเพื่อหาตำแหน่งกึ่งกลางหัวใจอย่างนักฆ่าผู้เชี่ยวชาญ.... ซะที่ไหนล่ะ
อาเชอร์ยังไม่เนียนแต๊ะอั๋งเยอะขนาดนี้เลยนะทว่า ก่อนที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น แลนเซอร์ที่ทุกคนนึกว่าแน่นิ่งไปแล้วก็ลุกขึ้น
แม้คิเรย์จะไหวตัวทัน แต่ก็ไม่อาจไวไปกว่าความเร็วเซอร์แวนท์ ถูกหอกเสียบทะลุจุดที่น่าจะมีหัวใจ จนตัวไปติดกำแพง
“โทษทีว่ะ โคโตมิเนะถ้าแค่นี้ทำอะไรชั้นได้ ชั้นคงไม่ได้มาเป็นวีรชนหรอก”
เซอร์แวนท์ผู้มีสกิลBattle continuationซึ่งทำให้สามารถต่อสู้ต่อไปได้แม้บาดเจ็บสาหัสขนาดตายได้ บอกกับนายเก่า
เมื่อแน่ใจว่าคิเรย์ แน่นิ่งไม่มีทางกลับมารังควานสาวที่ตัวเองโปรดปรานได้แล้ว แลนเซอร์ก็ลงไปนอนต่อ
ทำให้เจ้าหัวสาหร่ายย่ามใจ เข้ามารุ่มร่ามกับรินอีกครั้ง ในขณะที่นางเอกของเราก็ยังเป็นคนดีเช่นเดิม นั่นทำให้เจ้าหัวสาหร่ายพิโรธผลักเก้าอี้ทำเอารินล้มหัวฟาดไปด้วย แล้วจึงขึ้นมาบีบคอบอกให้ โทซากะร้องขอชีวิต พร้อมกับถามว่าใครจะมาทำไรตูด้าย
พระเอกเอ๊ย แลนเซอร์เลยลุกขึ้นมาตบเกรียนอีกครั้ง เจ้าสาหร่าย พยายามจะเรียกกิลออกมาซึ่งน่ายินดีอย่างยิ่งที่กิลยังไม่กลับมา (ถ้ามาแล้วคิเรย์คงไม่ตาย) แลนเซอร์เห็นแก่ รินที่อุตส่าห์พยายามช่วยไอคนไร้ค่านี่ (น่าจะเพื่อซากุระ)
จึงเอาหอกทิ่มจึ้กนึงเป็นอันพอให้ ชินจิวิ่งหนีไป
ตัวน่ารำคาญก็ออกไปแล้ว…แลนเซอร์ที่จัดการตัดเชือกให้ริน ก็เหมือนหมดหน้าที่หมดแรง ร่วงไปซะอย่างงั้น
ฉากตัดมาเป็นชิโร่กำลังโดนต้อนอยู่ฝ่ายเดียว พร้อมกับโดนถากถางว่าเทรสของชิโร่ยังเหมือนแต่รอบนอกแต่โครงสร้างภายในกลวง
ยิ่งสู้ ดาบที่อยู่ในมือของชิโร่ก็แตกอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้กลับเทรสมาทันเป็นฝ่ายผลักอาเชอร์กลับไปได้บ้าง
ธรรมดาการฝึกฝนให้เก่งขึ้นของคนเราจะกินเวลาจากการที่เราหาสไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเอง
แต่ถ้ามีตัวเราที่ฝึกสำเร็จแล้วมาอยู่ตรงหน้าให้เราเลียนแบบล่ะก็ การเก่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ทว่าแค่นี้ก็ไม่พอให้ชนะอาเชอร์อยู่ดี
ชิโร่ที่ประดาบกับอาเชอร์อีกครั้ง มองเห็นอดีต ไม่สิ อนาคตของตัวเอง ชิโร่ถึงกับพยายามบอกตัวเองไม่ให้สงสารอาเชอร์
แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นเมื่อนึกว่านั่นจะเป็นชะตากรรมของตัวเองในอนาคต
อาเชอร์ที่รู้ว่าชิโร่เห็นอดีตของตนก็บอกว่านั่นเป็นความจริงทั้งหมด พร้อมกับเรียกUBWขึ้นมา
เพื่อให้ภาพเนินร้างที่เต็มไปด้วยดาบนั้นตอกย้ำชะตากรรมอนาคตที่จะเกิดขึ้นให้เจ้าขาวได้เห็นอีกครั้ง
Ufoใจดีเติมมานาให้“I am the bone of my sword”
ใจคอพี่จะไม่ให้อาเชอร์ร่ายจนจบหน่อยเหรอ ตัดจังงงงฉากกลับมาที่รินกำลังมอง แลนเซอร์กระอักเลือด อย่างรู้สึกผิดเพราะไม่สามารถช่วยอะไรได้
คู ฮูลินที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมามากบอกปลอบไม่ให้คิดมาก พร้อมกับบ่นขำๆว่าทั้งรินกับเขาต่างก็ได้คู่หูแย่ๆทั้งคู่เลยนะ
“นั่นสินะ ของฉันไม่ถึงกับแย่ แต่เรียกว่า รับมือยาก ซะมากกว่า”
รินที่รู้อย่างนั้นมาโดยตลอดถึงได้พยายามมาโดยตลอด ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองไม่สามารถที่จะช่วยอาเชอร์ได้
เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่อาเชอร์คิดเป็นสิ่งที่ถูก และเห็นด้วยทั้งหมด สิ่งที่เธอทำได้ในฐานะมาสเตอร์ให้อาเชอร์ได้เห็นคือ
โทซากะ รินที่ “เมื่อเลือกทางไหนแล้ว ก็จะเชื่อมั่นเดินทางนั้น” เผื่อว่าหมอนั่นรู้สึกเชื่อมั่นกับทางที่ได้เดินไปแล้วขึ้นมาบ้าง….
(เป็นอันเข้าใจกันว่าทำไมริน ถึงพยายามช่วยชินจิให้ซากุระขนาดนั้น)
“เฮ้อ…ช่วยสาวแล้วสาวก็มาพูดถึงผู้ชายคนอื่นให้ฟังก่อนตายแบบนี้มันน่าเศร้าจังน้า…”“เฮ้อ…ถ้าได้ผู้หญิงอย่างเธอมาเป็นมาสเตอร์ซะหน่อยน้า…”
แลนเซอร์พูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับโทษดวงเรื่องผู้หญิงของตัวเอง
ว่าแล้วคูฮูลินก็บอกลารินพร้อมกับเขียนรูนบนพื้น ปรากฏไฟลุกไหม้ท่วมห้องทันที
“ลาก่อนนะแลนเซอร์”
“ถึงจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ชั้นก็ชอบคนอย่างนายนะ”
“หึ ยัยหนูน้อย...ไว้โตกว่านี้หน่อยค่อยมาพูดคำนี้เถอะ”
ว่าแล้วร่างแลนเซอร์ก็สลายไป ด้วยคำพูดทิ้งท้ายแบบปากไม่ตรงกับใจขัดกับรอยยิ้มพึงพอใจบนหน้าอย่างสิ้นเชิง
ฉากตัดกลับมาอีกฟากหนึ่ง
เอมิยะ ชิโร่ที่กำลังหมดท่าเพราะสู้ไม่ได้ ยังคงโดนตัวเองจากอนาคตตอกย้ำความต่างชั้น
อาเชอร์ที่รู้ว่าตัวเองเคยคิดอย่างไรในอดีตก็พูดแทงใจดำความคิดของชิโร่ซะไม่เหลือชิ้นดี พร้อมกับยืนยันคำเดิมว่าคนแบบนี้ไม่ควรมีตัวตนอยู่
ชิโร่พุ่งตัวเข้าไปโจมตีอาเชอร์ "เขา"
ไม่ยอมไม่มีทางว่าเชื่ออุดมคติของเขาจะกลายมาเป็นแบบนี้ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องปฏิเสธตัวตนการมีอยู่ของอาเชอร์
“ขอถามหน่อยเถอะ ว่านายอยากเป็นมิตรแห่งความเที่ยงธรรมนั่นจริงๆน่ะเหรอ”
คนที่น่าจะรู้จัก เอมิยะ ชิโร่ มากที่สุดเอ่ยถามสิ่งที่ตัวเองน่าจะรู้อยู่แล้ว
“ไม่ใช่อยากเป็น แต่จะเป็นให้ได้ต่างหาก!!!”
ใช่แล้วเพราะนั่นเป็นความรู้สึกต้องการหนึ่งเดียวที่ เอมิยะ ชิโร่มี ทั้งที่เป็นแบบนั้น ความรู้สึกนี้กลับเป็นความรู้สึกของคนอื่นไปซะอีก
ถึงตรงนี้ชิโร่เริ่มออกอาการขัดขืนทันที …เขาไม่อยากยอมรับมัน…ไม่ต้องการให้ใครมาบอกให้รู้….
ว่าใบหน้าที่ยิ้มมีความสุขเหลือเกินในตอนที่คิริทสึคุช่วยตน
ใบหน้าของคิริทสึคุตอนช่วยคน ต่างหากเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ชิโร่บอกตัวเองว่าอยากทำแบบนั้นบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
“ขนาดความคิดที่อยากจะช่วยคนอื่นของนาย ยังไม่ใช่สิ่งที่นายตัดสินใจเองเลย!!”
อาเชอร์ปักดาบลงเข่าชิโร่ทันทีที่หักดาบได้
ชิโร่ยังคงลุกขึ้นมา ทว่ากลับไม่มีเรี่ยวแรงที่จะโต้ตอบ เพราะไม่สามารถโต้กลับว่าสิ่งที่ตัวเขาในอนาคตพูดมามันผิดแม้แต่เรื่องเดียว
“ใช่แล้ว…นายแบกรับอุดมคตินั้นเพราะแค่คิดว่ามันเป็นความคิดที่สวยงามยังไงล่ะ”
“หรือก็คือ นายไม่ได้มีความต้องการเป็นของตัวเองเลย”
“ถ้านี่ไม่เรียกว่าแสร้งทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ จะให้เรียกว่าอะไร!!”
เอมิยะ ชิโร่ที่คิดแต่ใช้ชีวิตตัวเองเพื่อคนอื่น เป็นของปลอมแบบรับทำความคิดที่ไม่ใช่ของตัวเองที่สุดท้ายก็ช่วยใครไม่ได้
“สิ่งที่ต้องการจะช่วยก็ไม่มี”
“สุดท้ายก็จะรู้จักแต่การใช้ความยุติธรรมเหี้ยมๆแบบนั้น”(เสียสละคนส่วนน้อยเพื่อคนส่วนใหญ่)
อาเชอร์ซัดชิโร่ล้มคว่ำไปพร้อมกับตอกย้ำความโลกสวยของอุดมคติที่ชิโร่ต้องการจะให้เกิดอีกครั้ง
ชิโร่ที่ถูกซัดลงไปนอน ไม่เหลือเรี่ยวแรงทั้งกายและใจที่จะสู้ต่อ ไม่ว่าคิดยังไงทุกอย่างที่หมอนั่นพูดมาก็ถูกหมด
แต่ก็คิดว่ามันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ถูกลืมไป
ในช่วงเวลานั้น ชิโร่เห็น ภาพที่เรียกได้ว่าเป็น "นรก" หลายครั้ง
นรกในอนาคต และ ตัวเองกับผลลัพธ์จากการที่เลือกไม่ทิ้งอุดมคติจนถึงวินาทีสุดท้าย
ย้อนกลับไปถึงภาพ "นรก" ครั้งแรกในอดีตที่ตัวเองได้เห็น ชิโร่บอกกับตัวเองตอนเด็กว่าข้างหน้ามีแต่นรกเท่านั้น
แต่ตัวเขาในตอนเด็กก็ยังคงเดินต่อไป
/// ถึงตรงนี้เพลง last Stardust ขึ้น//
"โฮ่ย ทางข้างหน้าน่ะ เป็นนรกนะ"
คำพูดเดียวกันถูกบอกจากตัวเขาในอนาคต
ถ้าเขาเลือกทางเดินนี้ต่อไป สิ่งที่เขาต้องพบ อาจเป็นนรกแบบเดียวกับที่อาเชอร์ได้พบ
จริงอยู่ที่ว่าความคิดที่จะช่วยคนของเขาจะเริ่มต้นจากการชื่นชมคิริทสึคุ แต่สิ่งที่ชายหนุ่มลืมไปก็คือ ความคิดนั้นของเขาก็สร้างมาจาก
"ความรู้สึกที่อยากจะแก้ไขไม่ให้มีนรกแบบนี้อีก"เป็นความรู้สึกร่วมเดียวกับคิริทสึคุ เช่นกัน
แสงอวาลอนจ้าหายไปพร้อมกับภาพในอดีต ชิโร่ที่คิดได้แล้วตัดสินใจเดินหน้าอีกครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เขาตัดสินใจเลือกดึงดาบขึ้นมา
เอมิยะ ชิโร่ ตัดสินใจที่จะเป็นมิตรแห่งความเที่ยงธรรมต่อไป
ภาพตัดกลับมายังโลกความเป็นจริง
อาเชอร์ตกใจที่ชิโร่ยังสามารถลุกขึ้นมาได้
อวาลอนที่ไม่ยอมทำหน้าที่ตั้งนานกลับมาฮีลแผลเต็มตัวของชิโร่ ทั้งที่ไม่มีพันธะสัญญากับเซเบอร์แล้วราวกับปาฏิหารย์
ชิโร่เทรสดาบขึ้นมาปัดคันฉะเบียคุยะที่อาเชอร์ขว้างมา
"ชั้นจะไปยอมแพ้นายได้ยังไงกัน..."
"จะให้แพ้ใครก็ช่าง แต่ชั้นจะไม่ยอมแพ้ตัวเองเด็ดขาด!!"
ชิโร่ สู้อาเชอร์ ไม่ได้ทั้งฝีมือ หรือแม้แต่ความแน่วแน่ทางความคิด แต่ถ้าแขนขายังขยับได้เขาก็จะสู้ต่อไป
"ความถูกต้องของนายเป็นฝ่ายถูก มันก็แค่นั้นแหล่ะ"
"แต่ของพรรค์นั้นชั้นไม่ต้องการหรอก"
"ไม่ว่ายังไงชั้นก็จะเป็นมิตรแห่งความเที่ยงธรรม"
ชิโร่ชูคันฉะเบียคุยะพร้อมกับประกาศกร้าวว่าจะสู้จนถึงที่สุด
//จบตอนนนนน
อา.... ตอนนี้นับเป็นตอนที่ดีที่สุดตั้งแต่ดูมาเลยค่ะ
ฉากจากลาของรินกับแลนเซอร์ซึ้งตามที่หวังไว้ แต่ที่เหนือความคาดหมายคือฉากการต่อสู้ของอาเชอร์กับชิโร่ค่ะ
ฉากในจิตใจชิโร่ที่เพิ่มนอกเหนือจากในVN เป็นฉากที่ดีมาก
ใช้เวลาทำความเข้าใจฉากนั้นอยู่นานพอสมควรสคริปต์และการใส่เพลงของตอนนี้ดีมาก ขนาดตอนอาเชอร์ต้อนชิโร่ จขกท.ยังเผลอสงสารเสียน้ำตาเลย
ถึงไม่อยากยอมรับนักแต่ตอนนี้UFOทำชิโร่ออกมาเป็น"พระเอก"ได้สมกับที่เคยสัญญาไว้จริงๆค่ะ
ด้วยความหมั่นไส้...ถ้าเป็นไปได้ขอให้ทุกคอมเม้นช่วยเติม #เป็นแค่ชิโร่แท้ๆ ลงในคอมเม้นจะเป็นพระคุณมากค่ะ
แล้วก็เหมือนเดิม ขอบคุณที่อ่านจบจนถึงตรงนี้ค่าา