[CR] +++Europe Road Trip...ช่างหัวงาน!มั่วๆไป แบบใจเกินร้อย ตะลุย 5 ประเทศ 10 เมืองในฝัน Ep 1: Czech Republic+++

07.30 นาฬิกาปลุกร้องเรียกให้สะดุ้งตื่นเช่นเดียวกับทุกวัน เด้งตัวขึ้นมาวิ่งไปอาบน้ำ แต่งตัว แต่งหน้า พุ่งตัวขับรถไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สุดแสนจะเบียดเสียดเพื่อมุ่งหน้าไปทำงาน ณ ออฟฟิศใจกลางเมืองเฉกเช่นทุกวัน มีโทรศัพท์เป็นดั่งญาติสนิท(คุยตั้งแต่เช้าจรดเย็น) และหน้าจอคอมเป็นดั่งคู้แท้ที่รักกันมานาน (รักกันมาก จ้องกันทั้งวัน) เชื่อว่าหลายๆคนที่อ่านกระทู้นี้ก็มีอาการเดียวกัน อมยิ้ม20 เป็นกิจวัตรประจำวันแบบอัตโนมัติเช่นนี้มาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี...จนวันหนึ่งนั่งไป นั่งมา คิดไป คิดมา...เอ๊อะ!! ชั้นมาทำอะไรอยู่ตรงนี้??? ทุกวันนี้คุยกับลูกค้า มากกว่าพ่อแม่ จ้องคอม มากกว่าจ้องหน้าแฟน ไม่ไหวละ........ร่างกายต้องการสิ่งใหม่ๆๆ ไปเที่ยวดีกว่า!!!!

จากความคิดแว๊บนั้น ทำให้ทริปนี้เกิดขึ้น จุดหมายหลักของเราในทริปนี้ มีทั้งหมด 5 ประเทศ 10 เมืองด้วยกัน ใช้เวลาทั้งหมด 17 วัน แผนการคร่าวๆตามนี้เลยค่ะ
Day 1: Munich, Germany
Day 2-3: Prague, Czech Republic
Day 4: Cesky Kumlov, Czech Republic
Day 5-6: Vienna, Austria
Day 7-8: Salzburg - Hallstat, Austria
Day 9: Verona, Italy
Day 10-11: Milan, Italy
Day 12-13: Interlaken, Switzerland
Day 14: Luzern, Switzerland
Day 15-17: Munich Germany

จะไปยุโรปทั้งที ถ้าไม่พูดถึงการเตรียมตัวที่แสนจะวุ่นวายเลยคงจะไม่ได้ สิ่งหลักๆที่เราต้องเตรียมมีดังนี้นะคะ
1. ตั่วเครื่องบิน - สิ่งแรกที่ต้องทำคือเลือกเมืองที่จะไปลง เพราะจิงๆแล้วเมืองต่างๆในยุโรปค่อนข้างจะเล็ก ขับรถแป็ปๆก็ถึงกันหมด เหตุผลที่เราเลือก Munich เนื่องจากเป็นเมืองเล็ก สนามบินก็เล็กตาม คนไม่พลุกพล่าน แต่ยังเป็นเมืองที่เจริญพอที่จะมีไฟท์มาลงหลายๆสายการบิน
สำหรับการหาตั๋วราคาถูกหาไม่ยากเลย http://www.cheaptickets.co.th/ , http://www.cheaptickets.co.th/ , http://www.expedia.co.th/ ราคายุโรปส่วนมากสนนราคาอยู่ที่ถูกสุด 20,000 บาท - แพงสุด 35,000 บาท ขึ้นอยู่กับสายการบิน, direct/stopover, เวลาไฟท์ และอื่นๆ เลือกกันได้ตามสะดวกเลยค่ะ เราได้ตั๋วไม่ถูกไม่แพงจาก EK BKK-MUC-BKK มาในราคา 29,000 บาท

2. วีซ่า - ขอจัดให้เป็นสิ่งที่ยุ่งยากที่สุดในการไปครั้งนี้เลยค่ะ พูดเลยว่าเป็นมหากาพย์ เนื่องจากเราจาก first stop/last stop ของเราเป็น Munich จึงต้องไปขอวีซ่าที่สถานทูตเยอรมัน ข้อมูลเอกสารต่างๆ ทางสถานทูตได้ให้ข้อมูลไว้ในเว็บเรียบร้อยแล้ว เราแค่จัดเอกสารตามและทำนัดไปในเวลาที่สะดวก http://www.bangkok.diplo.de/Vertretung/bangkok/th/08/0-Visa.html  คำเตือนสำหรับการขอวีซ่าจากสถานทูตเยอรมันนะคะ หนึ่งเลยเอกสารต้องจัดเรียงหน้าหลังให้แป๊ะตามที่แจ้งไว้ สองคือวีซ่าออกตรงวันที่ขอไป ไม่มีเผื่อแม้แต่วันเดียว สามคือเตรียมตัวตอบคำถามไปให้ดีเลย จะไปไหนกี่วัน อยู่ที่ไหนกี่คืน ทางที่ดีทำเป็นตารางแผนการไปให้เจ้าหน้าที่เลยค่ะ เพราะเค้าถามทุกคนแน่นอน สุดท้ายคือ ความอดทน อดกลั้น เคยขอวีซ่ามาก็หลายประเทศ เยอรมันขอจัดให้รั้งท้ายอยู่ใน worst on the list เลยค่ะ เจ้าหน้าที่พูดจาแย่มากถึงมากที่สุด

3. รถเช่า และโรงแรม - สำหรับ รร นั้นทางเลือกมีมากมาย จะจองตรงผ่านเว็บ รร เลยสำหรับคนที่รู้จัก รร อยู่แล้ว หรือจะผ่าน online agent ที่มีให้เลือเยอะแยะมากมาย แนะกันตรงๆ http://www.agoda.com/<<<เว็บนี้ดีลจะดีในฝั่งเอเซีย ยังไม่มีใครเทียบเทียม จองจ่าย ได้ห้องเลย http://www.booking.com/<<<ส่วนดีลยุโรป แนะนำที่นี่ค่ะ เยอะกว่า ถูกกว่า ไปจ่ายหน้า รร ได้ ก้อเลือกสรรค์กันเอาตามใจชอบนะคะ ส่วนรถเช่า แนะนำที่นี่ค่ะ http://www.rentalcars.com/ เชื่อถือได้ เปรียบเทียบราคาทุกบริษัท

และแล้ววันเดินทางก้อมาถึง เรานั่ง EK385 จาก BKK 01.35 - DBX 04.45 แวะเปลี่ยนเครื่องเป็น EK049 จาก DXB 08.50 - MUC 13.30 รวมเวลาเดินและเปลี่ยนเครื่องประมาณ 16 ชมค่ะ




ถึง Munich ด้วยร่างที่ค่อนค้างจะพังเนื่องจากการอดนอน ผิดกับใจที่อยากเที่ยวเกินร้อย ผ่าน immigration ออกมาอย่างรวดเร็ว และแล้วปัญหาแรกที่เจอคือ...บริษัทที่จะมาส่งรถ ไม่มาตาม meeting point!! ยังไงหล่ะ!! รอซัก 10 นาที ด้วยความโมโห กดตู้โทรศัพท์ไปวีนบริษัทเลยค่ะ...สรุปคือ meeting point ที่นัดในอีเมลล์ กับที่แจ้งพนักงานไว้ไม่ตรงกัน อันนี้เป็นข้อควรระวังอีกอย่าง สำหรับคนที่จะจองรถเช่ากับบริษัทรถที่ไม่มี counter ที่สนามบินนะคะ  เราใช้ http://www.caro.info/en/ ราคาจะถูกกว่า Avis, Sixt, Europcar พอสมควร แต่อาจจะต้องบริหารไหวพริบในการรับรถนิดนึง

ซ้อมขับรถวนรอบๆ Munich ซักพักอย่างสบายใจ หานู้นนี่นั่นกินและรีบเข้า รร แต่หัวค่ำ เนื่องจากพรุ่งนี้จะต้องขับรถไป Prague แต่เช้า หลับไปอย่างมีความสุขโดยไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไร...(ขออนุญาติข้าม Munich ไปก่อน เด๋วจะกลับมาตอนท้ายนะคะ)



อากาศแจ่มใส ได้เวลาเดินทางกันแล้ว ขับตามเสียงใสๆของ GPS ในรถไปด้วยใจร่าเริง ระยะทางจาก Munich-Prague 381 km ใช้เวลาประมาณ 3.30 ชม...ไม่นานก็ข้ามเขตแดนเข้าสู่ Czech Republic เลี้ยวป๊าดๆๆๆ ลงจาก highway ทันได้นั้น GPS ที่พึ่งเดียวในการบอกทางของเราก้อใบ้กินไปซะงั้น ร้องไห้  อึ้งสิคะ!! งมไปงมมา ก้อถึงบางอ้อ เป็นความรู้ใหม่มาก ที่พึ่งเรียนรู้คือ...GPS ที่ติดในรถนั้น วิ่งตามสัญญาณ tracker ติดอยู่ตาม highway และ main road หลักๆเท่านั้น รถคันนี้เช่ามาจากเยอรมัน เพราะฉะนั้นเข้าสู่ Czech GPS ก้อไม่มี tracker บอกสัญญาน สรุปคือมั่วทางไปต่อค่ะ (ไม่แนะนำเลย อันตรายและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมาก)


ขับเข้า Prague ไปด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ แต่ความกลัวก็เริ่มจางหายไป เมื่อเราค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่ตัวเมือง Prague ถึงแม้ท้องฟ้าในวันนั้นจะขมุกขมัวไม่เป็นใจ แต่เมฆฝนก้อไม่อาจจะบดบังเสน่ห์มนต์ขลัง และความโรแมนติกของ Prague ไปได้เลยแม้แต่น้อย

Prague หรือ Praha เป็นเมืองหลวงของ Czech Republic และยังได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองมรดกโลก จาก UNESCO เมื่อปี 1992 อีกด้วย  



เดินเที่ยวเล่นใจกลาง Old Town Square แล้วร็สึกได้เลยว่า Prague เป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองของยุโรป ที่รวบรวมเอาศิลปะและสถาปัตยกรรมหลากหลายแบบ มาผสมผสานกันไว้ในที่เดียวกันได้อย่างลงตัว ไม่ผิดเลยที่กล่าวกันไว้ว่าที่นี่เป็นหัวใจอีกดวงหนึ่งของยุโรป

Astronomical Clock หรือ Prague Orloj นาฬิกาดาราศาสตร์ที่มีอายุมากกว่า 600 ปี ยังสามารถบอกเวลาได้จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถบอกได้ถึงแผนที่ดวงดาว การเคลี่อนไหวของพระจันทร์และพระอาทิตย์อีกด้วย


การมา Prague ครั้งนี้ ไม่มีได้มีแผนการใดๆมากมายเลย ในใจคิดแค่อยากจะมาเดินดูสถาปัตยกรรม ศิลปะบนตัวตึกราบ้านช่อง เดินเรื่อยๆเปื่อยๆในวันฟ้าหม่น จากตัว Old Town Square มีจุดมุ่งหมายคือ Charles Bridge.




เดินล่องลอยไม่นาน ก้อมาถึง landmark ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Prague ก็ว่าได้

Charles Bridge เป็นสะพานเชื่อมระหว่างฝั่ง Old Town และ Prague Castle ซึ่งมีแม่น้ำ Vltava ผาดผ่านกลางเป็นดั่งเส้นเลิอดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนและตัวเมืองที่แสนสุดจะโรแมนติกแห่งนี้อยู่  ตัวสะพานทำจากหินทรายเรียงตัวกัน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Baroque ปนๆ กับ Gothic เดินจากฝั่ง Old Town จากบนสะพาน สามารถมองเห็น Prague Castle อยู่ไกลลิบๆ พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า ผู้คน นักท่องเที่ยวที่เคยเดินพลุกพล่านบนสะพานก็บางตาลง  



เมื่อวานได้แต่มองตาปริบๆอยู่ไกลๆ ตื่นเช้าวันนี้สิ่งแรกใน Must list ของเราคือการขึ้นไปชม Prague Castle เดินตามเส้นทางเดิมข้ามสะพาน Charles Bridge ไปฝั่ง Mala Strana หรือ Lesser Town ของ Prague ตัวเมืองฝั่ง Lesser Town ปรกนี้คลุมไปด้วยความโออ่าของสถาปัตยกรรมแบบ Baroque ตึกรา ถนนหนทางต่างๆดูแปลกตาเปินเนินสูงๆต่ำๆสลับกันไป  การเดินทางมา Prague Castle นั้น บอกได้เลยว่าไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก แต่ทางขึ้นเป็นเนินเขา สูงๆต่ำๆ ทางเดินเป็นหินบล๊อก เดินค่อนข้างจะยาก ผู้สูงอายุแนะนำเป็นนั่งรถ Tram สาย 22 จากด้านล่างค่ะ

ดุจดังหัวใจของเมืองนี้  Prague Castle เป็นปราสาทที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้  สร้างขึ้นในคริสตศตวรรษที่ 11 โดยครอบคลุมเนื้อที่ถึงกว่า  70,000 ตรม สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อขึ้นมาถึงตัวปราสาทคือการเข้าชมมหาวิหาร St. Vitus Cathedral ถึงแม้เราจะไม่ค่อยอินไปกับประวัติศาสตร์ซํกเท่าไหร่นัก แต่ความอลังการและปลายยอดแหลมสไตล์ Gothic นับร้อยที่เรียงรายกัน ของมหาวิหารแห่งนี้เป็นเหมือนแรงดึงดูดให้เราต้องเข้าไปชมภายในเสียจนได้

สิ่งที่เราต้องสะดุดตาเมื่อก้าวเข้าสู่ภวังของมหาวิหารแห่งนี้คือ กระจกแก้วที่รังสรรค์สร้างโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงหลากหลายที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิค นอกจากความสำคัญทางด้านศาสนาแล้ว วิหารแห่งนี้ยังเป็นหลุมฝังพระศพของกษัตริย์ เจ้าชายและเชื้อพระวงษ์ของราชวงษ์ Czech อีกด้วย รู้อย่างนี้เดินไป ก้อแอบหวิวๆเล็กๆ




สถาปัตยกรรมภายในว่าอลังการแล้ว...เมื่อก้าวเดินออกมาด้านนอกแล้วแหงนหน้ามองตัววิหารใกล้ๆชัดๆ ก้อต้องตกตะลึงไปกับความแปลกตาของสถาปัตยกรรมแบบ Gothic ด้วยปลายยอดแหลมนับร้อย มองไปมองมายิ่งทำให้คิดถึงปราสาทในเทพนิยายยิ่งนัก


อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า Prague Castle เป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฉะนั้นการเดินชมปรสาทให้ทั่วจึงใช้เวลาเกือบหนึ่งวันเต็ม เหนื่อยการแต่ใจยังพยายามสู้ สิ้นสุดการเดินชมปราสาทแล้ว เราจึงเดินทางกลับลงสู่ตัวเมือง Prague อย่างช้าๆ แวะดูนั่น ดูนี้ตามทางจนหิว เนื่องจากไม่ค่อยถนัดเรื่องกิน และไม่มีข้อมูลใดๆเลยทั้งสิ้น เราจึงอาศัยทักษะที่ถนัดที่สุดคือการเดาสุ่ม เจอร้านไหนก็ร้านนั้น...ลืมบอกไปว่า ค่าครองชีพใน Prague นั้น เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในยุโรป บอกได้เลยว่าค่อนข้างจะถูก เทียบง่ายๆคือไม่ต่างอะไรมากกับ CBD กรุงเทพเลย และแล้วสิ่งที่เราจิ้มมั่วๆ ในเมนูก้อออกมาดังนี้ค่ะ


จาก Old Town Prague สู่สะพาน Charles Bridge จนถึงจุดสูงที่สุดของเมืองที่ Prague Castle, Prague ทำให้เราได้รู้ว่าเมืองเล็กๆ ในประเทศเล็กๆ ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไปก้อยิ่งใหญ่ และสวยงามในใจของเราได้เสมอ หากเราเลือกที่จะมองเห็นคุณค่าและความงดงามของมัน เราปิดท้ายคืนสุดท้ายใน Prague ด้วยการเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนอันครึกครื้นของเมืองที่ Wencesles Square ซึ่งถือเป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญทั้งทางด้านการเมือง และถนนสายเศรษฐกิจหลักของเมือ Prague



การเดินทางใน Czech
ชื่อสินค้า:   Munich-Prague-Cesky Kumlov-Vienna-Salzburg-Hallstat-Verona-Milan-Interlaken-Luzern
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่