[CR] >*-*< เมื่อฉันพาสามีตากล้องออกท่องโลก >*-*< ตอน ประเทศสุดฮิตในเอเชีย



สวัสดีค่ะชาว Pantip กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ อยากจะนำภาพมาเล่าเรื่องและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคู่รักหลายคู่ที่อยากไปเที่ยวและมีรูปคู่สวยๆ หรือผู้ที่เดินทางคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม ที่อยากมีรูปเหมือนมีตากล้องส่วนตัวไปด้วย ซึ่งที่จริงของเราก็มีตากล้องไปค่ะ แต่ตากล้องคนนี้ต้องถ่ายรูปที่มีตัวเองร่วมเฟรมด้วยค่ะ ดังนั้นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ ขาตั้งกล้องคู่ใจ และสิ่งสำคัญที่พึงระลึกไว้เสมอ คือ ความอดทนและความพยายาม ทำไมต้องมี 2 อันหลังนี้ เพราะว่าการที่จะถ่ายรูปแล้วให้ติดคนอื่นมาน้อยที่สุด ต้องรอจังหวะค่ะ ต้องใจเย็น หรือต้องเลือกเวลาให้ถูกว่าจะไปตอนไหน เพื่อหลีกหนีความพลุกพล่าน

ขอเล่าที่มาก่อนที่จะเริ่มออกท่องเที่ยวก่อนนะคะ ใครเห็นว่ายาวไป ข้ามไปดูรูปได้เลยค่ะ แต่ก่อนเรา 2  คนก็ไม่ได้คิดเรื่องเที่ยวต่างประเทศหรอกค่ะ เพราะคิดว่าต้องใช้เงินเยอะและต้องลางานหลายวัน จะไปต่างประเทศทั้งที ไปไม่กี่วันก็รู้สึกเสียเที่ยว จนวันนึงเราเริ่มเห็นคนอื่นไปเที่ยวกัน ได้ไปเปิดหูเปิดตาอะไรใหม่ ๆ ทำให้เราเองก็เริ่มคิดได้ว่าเราก็น่าจะไปบ้าง เพราะในวัยเด็ก ทั้งเราและสามีก็ไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อนเลยค่ะ ครอบครัวก็ไม่ได้ฐานะดีมากมาย มีพอกินพอใช้ ดังนั้นเรื่องเที่ยวต่างประเทศเราก็ไม่มีโอกาสได้ไป ไม่ได้โทษพ่อแม่นะคะ เข้าใจค่ะว่าตอนนั้นมีรายจ่ายอื่นที่สำคัญกว่าเยอะ ดังนั้นลูก ๆ ทั้งหลายอย่างอแง หาเงินได้เองค่อยไปก็ได้จ้า  

บางคนก็บอกว่า “เที่ยวไทยให้ทั่วซะก่อน ค่อยไปต่างประเทศ” แต่ตอนนี้เราสองคนคิดว่า “ถ้ามีแรง และหาเงินได้ ก็เลือกไปต่างประเทศก่อนค่ะ พอแก่ตัว ไม่ค่อยมีแรงเดิน จะเที่ยวไทยพักรีสอร์ทหรู นอนตีพุงให้สบาย” การเที่ยวแต่ละครั้ง แน่นอนว่าคุณสามีเป็นผู้สนับสนุน budget เพราะเค้าหาเงินเก่งกว่าเรา จบปิ๊ง!!! ส่วนเราก็เป็นผู้หาข้อมูลและทำโปรแกรมทั้งหมด ตั้งแต่จองห้องพัก จองตั๋วเครื่องบิน วางแผนต่าง ๆ ดูเส้นทางรถไฟ รถบัส พอไปเที่ยวก็กลายเป็นไกด์ไปโดยปริยาย คุณสามีแค่เดินตามก็พอ อาจจะหลงทางบ้างพอขำๆ

สไตล์การเที่ยวของเรา

   1. ตั๋วเครื่องบิน ถ้ามีตั๋วโปร เราจะคว้าไว้ก่อนค่ะ ขอบคุณ page อาแปะด้วยนะคะ เชื่อว่าหลายคนรู้จักกันดีค่ะ
   2. ที่พัก ส่วนใหญ่จะเลือกแบบราคากลาง ๆ แบบไม่ได้ลำบากมาก ดูปลอดภัย เดินทางสะดวก อาจจะมีที่พักแบบพิเศษในบางที่ ซึ่งราคาอาจจะสูงหน่อย แต่เป็น signature ต้องลองไปพัก ประมาณนี้ค่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ budget แต่ละทริป
   3. อาหารการกิน ไม่เน้นเลยค่ะ กินถูก ๆ ข้างทาง ตามมินิมาร์ท ทั้งทริปอาจจะกินดีแค่มื้อเดียวหรือ 2-3 มื้อ แค่ลองกินของขึ้นชื่อบางอย่างดูบ้าง
   4. ช้อปปิ้ง ขอบายค่ะ ยกเว้นของที่ใช้อยู่แล้ว และถูกกว่าที่ไทยมาก ๆ จึงจะซื้อ เรา 2 คนไม่ใช่ขาช้อปค่ะ  

อุปกรณ์ที่พกไป สาบานว่า ทั้งหมดนี่เอามาถ่ายตัวเองค่ะ ไม่ใช่งานลูกค้าเลย


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กระทู้นี้จะกล่าวถึงการท่องเที่ยวในโซนเอเชียนะคะ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเก๊า ฮ่องกง และเกาหลี

มีทริปเดียวที่ถ่าย VDO เพื่อตัดต่อ MV คือเกาหลี เนื่องจากเป็นทริปที่ไปตอนช่วงหลัง ๆ และเพิ่งคิดได้ค่ะว่าน่าจะถ่าย VDO คือช่วงแรก แค่ถ่ายรูปค่ะ สำหรับผลงาน VDO นั้น คุณสามียังเป็นมือใหม่อยู่นะคะ เพราะปกติรับงานลูกค้า จะมีพี่ในทีมที่เป็นคนทำ VDO ค่ะ ส่วนสามีเราเป็นกล้องหลักภาพนิ่งน่ะค่ะ เทคนิคการทำ MV ครั้งนี้ คงไม่ได้มีอะไรแพรวพราว แบบบ้านๆ เลยค่ะ เอามาตัดต่อแล้วใส่เพลง เชื่อว่าหลายคนก็ทำได้ เปิดกระทู้ด้วย MV ทริปของเราที่เกาหลีก่อนละกันนะคะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ทริปแรก ปี 2012 ค่ะ เราเริ่มที่ประเทศเล็ก ๆ ใกล้ ๆ คือ สิงคโปร์ เดินทางง่าย คนใช้ภาษาอังกฤษ แต่ทริปนี้เนื่องจากว่าเป็นทริปแรก เหมือนลองไปเปิดหูเปิดตา ก็ไม่ได้ถ่ายรูปมากมายเท่าไหร่ค่ะ เน้นไปเดินดู ไปกิน  ไปลองพักโรงแรมที่เป็น signature ของที่นี่กันหน่อย เราพักที่ Marina Bay Sands ค่ะ มีรูปมาให้ดูเล็กน้อย



ทริปแรกอาจจะเห็นว่า skill การโพสท่ายังเหมือนเด็กอนุบาลอยู่นะคะ ถ่ายเล่นๆ ไปเรื่อย ไม่ได้คิดว่าจะเก็บรูปจริงจัง รูปข้างล่างนี้ ที่ถ่ายลำบากที่สุดคือ รูปที่อยู่ในสระน้ำชั้นบนของโรงแรม Marina Bay Sands  เนื่องจากตั้งขาตั้งปุ๊บ เล็งมุม กดตั้งเวลา ตากล้องของเราก็ต้องรีบว่ายน้ำไปให้สุดขอบสระ เพื่อให้ได้ภาพนี้ออกมา ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าห้ามใช้ขาตั้งกล้อง ไม่รู้ว่าไม่มีป้ายบอกหรือเราไม่ทันสังเกต ก็โอค่ะ เค้าไม่ให้ใช้ก็เก็บซะ จึงได้มาแค่นี้



เหมือนว่าทริปนี้คุณสามีสนใจถ่ายวิวมากกว่าถ่ายคน พอกลับมาดูรูปอีกที ทำไมไม่ค่อยมีรูปเรา 2 คนเลยนะ นี่เราไปที่นี่จริง ๆ เหรอ จึงตั้งใจว่าทริปหน้าต้องมีรูปเรา 2 คนพร้อมกับเก็บวิวไปด้วย



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ทริปที่ 2 ช่วงปลายปี 2013 เป็นช่วงปลายของใบไม้เปลี่ยนสีและต้นหน้าหนาวค่ะ ทริปนี้เราเริ่มวางแผนจริงจัง ชอบการเที่ยวเอง และรู้สึกตัดสินใจไม่ผิดที่ไปเอง ไม่ไปกับทัวร์ เพราะเรา 2 คนใช้เวลาถ่ายรูปแต่ละที่ค่อนข้างนาน ไปกับทัวร์คงไม่สนุกและไม่ใช่ทางของเราแน่ๆ ทริปนี้จัดอุปกรณ์ถ่ายรูปแบบจัดเต็ม แต่น่าเสียดายที่ว่า ตอนนั้นทำไมเราไม่คิดจะถ่าย VDO ไว้บ้างเลย เสียใจๆ เดี๋ยวหาโอกาสไปใหม่  สำหรับทริปญี่ปุ่น เราไปประมาณ 10 วัน เมืองที่ไปคือ Tokyo, Kawaguchiko, Kyoto, Osaka, Hakodate, Otaru, Sapporo

ขอเปิดทริปญี่ปุ่นด้วยรูปนี้ค่ะ เราชอบมาก ตรงนี้อยู่ไม่ห่างจากที่พักของเรา เราพักที่ Sunnide Resort ค่ะ มีจักรยานให้ปั่นด้วย ก็ใช้ของรีสอร์ทนี่แหละค่ะ ซ้อนจักรยานคุณสามี มาเจอฉากหลังที่โดนใจ คุณสามีก็จอด เซ็ทขาตั้งกล้องและขาตั้งแฟลชทันที เราก็ยืนรอเป็นแบบ เพื่อให้ตากล้องโฟกัสก่อนค่ะ จากนั้นตั้งเวลา แล้วตากล้องเปลี่ยนโหมดมาเป็นนายแบบ ถ่ายกันหลายรอบเหมือนกันกว่าจะได้รูปที่โอเค อากาศหนาวมาก ๆ ด้วย



บรรยากาศที่รีสอร์ทและบริเวณใกล้เคียงค่ะ ดีใจมากที่วันที่ไปพักฟ้าโปร่ง เห็นฟูจิซังชัดเจน



รูปนี้เรา 2 คนไปเยี่ยมชมอู่รถ RE Amemiya สำนักแต่งรถ Rx7 ที่คุณสามีชอบมาก ๆ อยู่ที่เมือง Chiba เมืองนี้ตั้งใจมาแวะที่นี่ที่เดียว เรียกแท็กซี่จากสถานีรถไฟ ให้เค้าจอดรอเลยค่ะ ลงไปถ่ายรูปประมาณ 10 นาที แล้วขึ้นแท็กซี่กลับมา



ใบไม้เปลี่ยนสี สถานที่ขึ้นชื่อคงหนีไม่พ้น เกียวโต โอซาก้า รูปนี้ได้รวมภาพที่ Arashiyama ธรรมชาติสวยงามมากๆ น้ำออกสีฟ้าๆ เขียวๆ ตัดกับใบไม้แดง



จากนั้นก็แวะเที่ยวสถานที่อื่น ๆ ในเกียวโต วัดทอง (Kinkakuji) วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) แวะถ่ายรูปที่สถานีรถไฟเกียวโต แต่เนื่องจากช่วงที่เราไป มืดเร็วมาก ๆ ค่ะ ตั้งใจจะไป Fushimi-Inari ก็ค่ำซะแล้ว แต่เราอยู่คันไซแค่ไม่กี่วัน จึงตัดสินใจแวะเลย ฝนก็ตกด้วย สงสารทั้งคน สงสารทั้งกล้อง



แน่นอนว่าพอถึงแบบมืด ๆ บรรยากาศน่ากลัวเลยค่ะ คงเกิดจากจิตปรุงแต่งของเราเอง กลัวซะงั้น และระหว่างที่ถ่ายรูปนี้ ลองนึกสภาพที่อยู่ที่ศาลเจ้า ซึ่งมืดแล้วค่ะ นาน ๆ ทีจะมีคนเดินผ่าน พอมีคนเดินมา เรากลับโล่งใจแฮะ ปกติไม่ชอบคนเยอะเลย ตากล้องก็เหมือนเดิมค่ะ ตั้งขาตั้งกล้องและแน่นอนว่าต้องใช้แฟลชช่วย เรื่องแปลกตอนนั้นคือ แฟลชไม่ติดเลยค่ะ ลองหลายครั้งจนถอดใจจะไม่ถ่ายแล้ว แต่ดันฟลุ้คติดมา 1 ช็อต เก็บของกลับทันที และรีบไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตั้งจิตอธิษฐาน เพราะเราไม่รู้ว่าเราไปถ่ายรูปรบกวนอะไรหรือเปล่า



วันต่อมาเรามีโปรแกรมไปน้ำตกมิโน ระหว่างทางก็มีธรรมชาติที่สวยงามมาก รูปที่เรานอนที่พื้นนั้น คุณลุงชาวญี่ปุ่นเห็นเราทำแบบนี้ ถึงกับหัวเราะเลยค่ะ คงจะงงว่า 2 คนนี้มันอะไรขนาดนี้นะ แต่จะไปนอนสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะคะ ตรงนี้เป็นข้างทางที่ไม่ใช่ทางเดินหลักค่ะ ก็หลบผู้คนนิดนึง ไม่งั้นจะกลายเป็นไปขวางทางคนอื่น จากนั้นก็กลับเข้ามาตัวเมืองโอซาก้า ปราสาทโอซาก้า ส่วนรูปหน้าป้ายกูลิโกะ อันนี้แวะตอนวันแรกที่มาถึงเลยค่ะ ยังเป็นป้ายเก่าอยู่ ตอนนี้เปลี่ยนใหม่แล้วเนอะ



ผ่านบรรยากาศธรรมชาติ ลองมาดูบรรยากาศในเมืองที่โตเกียวกันบ้าง รูปนี้ยืนถ่ายรูปกันกลางแยกชิบูย่าเลย กว่าจะได้มาเหนื่อยพอสมควร ต้องกะจังหวะไฟจราจรให้ดีค่ะ



สัมผัสใบไม้แดงที่แถบคันไซมาแล้ว ก็ต้องมีใบไม้เหลืองบ้าง เราไปแวะที่มหาวิทยาลัยโตเกียว มีต้นแปะก๊วยเรียงรายให้ถ่ายรูปเต็มไปหมดเลยค่ะ และระหว่างทางจากวัด Sensoji หรือวัด Asakusa เดินมาที่สะพานที่มีฉากหลังเป็น Tokyo Skytree และตึก Asahi เราก็แวะถ่ายรูปที่สะพานนี้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังแวะเที่ยว Odaiba คุณสามีขอเก็บภาพ landscape ของสะพานสายรุ้งบ้าง



***เดี๋ยวมาต่อนะคะ จะพาขึ้นทางเหนือไปฮอกไกโดค่ะ***

ฝากกระทู้ที่ 2 ด้วยค่ะ ตอน ทริปเล็กๆ ในยุโรป http://pantip.com/topic/33729090
กระทู้ที่ 3 ตอน ไอซ์แลนด์จ๋า..พี่มาแล้วจ้ะ http://pantip.com/topic/34597255
กระทู้ที่ 4 จะรุบจุ๊บจิ๊บ:: พาเที่ยวแบบครอบครัว ทัวร์เขาใหญ่ >> พักหรู อยู่สบาย บรรยากาศส่วนตัว…The Air @ Khao Yai http://pantip.com/topic/35426137
ชื่อสินค้า:   เที่ยวสิงคโปร์, ญี่ปุ่น, เกาหลี, มาเก๊า, ฮ่องกง, selfie รูปคู่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่