สวัสดีครับทุกคน วันนี้เป็นวันที่ 4 ของการเดินทางแล้วนะครับ
ติดตามกระทู้ได้ตามด้านล่างนี้นะครับ
แผนที่วางเอาไว้จากไทยถูกเปลี่ยนวันนี้กระทันหันเลยนะครับผมตัดสินใจไปเที่ยวเนเธอร์แลนด์บ้านเพื่อนแทนที่จะไปดูโอโม่ มิลานครับ
ยกเลิกโรงแรม เปลี่ยนโรงแรม ที่สวิตทั้งหมดทำให้แผนรวนเล็กน้อยทั้งทริปครับ
Day 1
http://pantip.com/topic/33613485 9 เมษายน 2558
Day 2
http://pantip.com/topic/33616202 10 เมษายน 2558
Day 3
http://pantip.com/topic/33618178 11 เมษายน 2558
Day 5
http://pantip.com/topic/33632736 13 เมษายน 2558
วันนี้พวกเราตื่นเช้าเป็นพิเศษเนื่องจากว่า เราวางแผนการมาจากไทยว่าจะมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเล่นๆขำๆ ราคาประหยัดกันครับ
เราไม่อยากถ่ายภาพติดคนสักเท่าไหร่ ดูจากในโปรแกรมแจ้งว่าพระอาทิตย์จะขึ้นราวๆ 7.15 นาที พวกเราออกกัน 8.00 เดินไปหอไอเฟล
เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ไม่มีคนเลย ไม่มีทัวร์ มีแต่คนออกกำลังกายเท่านั้นครับ
***จากกระทู้ก่อนที่ผมได้เล่าว่า วันนี้รูมเมทของผมแนทตี้กับบุดด้าจากอาร์เจนติน่าได้ย้ายออกไป และ มีคนผิวดำประมาณไนจีเรียมาเข้ามาพัก ค่อนข้างน่ากลัว ผมพักห้องแบบ Doom มาหลายที่เพิ่งเจอครั้งแรก ที่พบคนผิวดำ จริงๆแล้วผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเชื้อชาติและอื่นๆนะครับ แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า เพื่อนผมที่อาสาไปเป็นช่างภาพให้มาถึงโรงแรมผมก่อนกำหนดและภายนอกหนาวมาก ผมก็เลยขอพนักงานต้อนรับให้เพื่อนเข้ามารอด้านในครับ (ผมลืมขาตั้งกล้องไว้ที่สายพานรับกระเป๋า CDG

70D Wifi เชื่อมกับมือถือ ไม่มีความหมายไปโดยปริยาย) ผมตื่นมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า ผมก็บอกเขาว่าผมขอเปิดไฟในห้องได้ไหม ตามมารยาท ถึงเราจะไม่เต็มใจแต่คุณมานอนในห้องแบบนี้ก็ต้องรับสภาพให้ได้ มากคนย่อมมากความ เขาตอบปฏิเสธว่าไม่ได้โถไอ .... ผมก็แต่งตัวกันในห้องมืดๆโดยใช้แสงไฟจากมือถือช่วยครับ ผมพยายามเดินและแต่งตัวแบบเงียบที่สุด ระหว่างผมไปอาบน้ำ คนผิวดำก็ออกไปเชคเอ้าท์ เข้าไม่มีอะไรติดตัวมานอกจากเป้ใบเดียว และ บ่นให้พนักงานต้อนรับฟังว่า (เพื่อนผมนั่งอยู่ตรงนั้น เขาคงไม่รู้ เพื่อนผมมาเล่าให้ฟัง) คนจีน 2 คนตื่นแต่เช้าเสียงดังมาก จนผมนอนไม่ได้ บลา บลา บลา โถไอ .... นิสัยเขานี่แหละครับ ที่ทำให้ผมกลัว *** คนจีนที่ไหนหล่ะ คนไทยโว้ย
อย่างที่บอกนะครับ พวกเรามาทริปนี้เราเน้นประหยัด ชุดแฟนผมซื้อจากประตูน้ำครับ 350 บาท
ส่วนชุดของผมสั่งตัดจากเพจนึงใน Facebook ครับลองหาดูนะครับ ไม่ได้ไปวัดไซส์ วัดเองจากที่บ้านและส่งทาง Inbox
ฝีมือเยี่ยมมากครับ ผมชอบมาก พอดีเป๊ะๆไม่รู้ว่ากะขนาดจากข้อมูลของผมและเผื่อเหลือ เผื่อขาดได้ยังไง
เสื้อ กางเกง ไทร์ สูท 3000 บาทถ้วนครับแพงกว่าภรรยาผมอีกครับ
ภาพดิบเลยนะครับ ไม่แต่งใดๆทั้งสิ้น เน้นความทรงจำดีดีเก็บไว้ดูครับ
เราถ่ายภาพกันต่อ 2-3 ชั่วโมงเราก็เปลี่ยนชุดกลับที่พักและเดินทางไปโบสถ์นอร์ทดามกันต่อครับ วันนี่เราเอารถจอดไว้
ขึ้นรถไฟฟ้าไปเนื่องจากบัตรยังเหลืออยู่ครับใช้ให้หมดกักไว้วันสุดท้ายพอ เพราะวันนี้เราจะเดินทางไป NL เนเธอร์แลนด์แล้วครับ
วิธีการขึ้นรถไฟแบบละเอียด ดูได้จาก Day 3 http://pantip.com/topic/33618178 ครับ
เราขึ้นรถไฟจากสถานีใกล้ที่พักเพื่อเดินทางไปโบสถ์นอร์ทดาม ผมลืมเล่าไปเลยนะครับ ก่อนหน้าที่เราจะมากันเราก็เตรียมจากไทย
มาเรื่องขโมยหรือพวกยิปซีตามสถานีรถไฟฟ้า ผมก็ใช้กระเป๋าคาดเอวแล้วเอาเสื้อทับไว้ตามที่เขาบอกๆกันมา
ด้วยความงก ผมไม่ใช้บัตรเครดิตเลยเพราะมันจะตัดรอบบิลหลังจากเราเที่ยวกับมาแล้วถ้าค่าเงินขึ้นเราจะขาดทุนเพราะว่าตอนที่เรามา
ยูโรมันแค่ 34.9 และ สวิสฟรังค์ 32 ผมแลกเงินทั้งหมดติดตัวมาจากไทยคาดเอวมาตลอดจำนวน 1xxxxx บาท

และมีวันนึงผมพกเงินเข้าไปอาบน้ำและแขวนไปที่ตากผ้า แน่นอนครับผมลืมเงิน 1xxxxx ไว้ในห้องน้ำเป็นเวลาเกือบ 10 นาที ผมนี่แทบกรี๊ดดดดดดเลยครับ
ยังอยู่

เดชะบุญของพวกเราครับ ระวังกันด้วยนะครับ เกือบเขาตำราเสียน้อยเสียยาก
กลับมาเรื่องรถไฟฟ้ากันต่อนะครับ ออกทะเลไปไกลแล้ว แฟนผมเขาถามผมว่าไหนๆพวกยิปซีชี้ให้ดูหน่อย บร๊ะ ชี้ให้ดูหน่อย
ปัดโธ่ผมบอกว่าไม่เจอก็ดีแล้วกระเป๋านั้นหน่ะกุมไว้ให้ดีดีเถอะ
เราออกจากรถไฟฟ้ามาที่อนุสาวรีย์อะไรสักอย่างตรงนี้ครับ ด้านหลังเราจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำ และ เห็นโบสถ์นอร์ทดามอยู่ไกลๆ
ผู้คนมากมายและฟ้าเริ่มมืดลงอีกครั้งฝนกำลังจะมาครับ
โบสถ์นอร์ทดาม ปารีสแห่งนี้ แทบจะเป็นโบสถ์เดียวในทริปของเรา 17 วัน 3 ประเทศ 10กว่าโบสถ์เลยก็ว่าได้ที่ให้ถ่ายภาพภายในได้
แต่การถ่ายภาพทั้งหมดนั้นห้ามใช้แฟลชแต่ผมก็เห็นทั้งฝรั่งและชาติอื่นๆถ่ายเปิดแฟลชกันใหญ่อ่านหนังสือไม่ออกกันหรือยังไง
ผมนับถือศาสนาพุทธ และ ผมก็ชอบศาสนาคริสต์ด้วยนะครับเหมือนกับว่าเป็ฯศาสนาที่เป็นตัวแทนของความรักอันนี้ผมคิดเองนะครับ
ให้ความรู้ว่าโลกจะสงบสุขหน่ะครับ (โลกสวย)

มาต่อกันเถอะครับจะออกทะเลอีกแล้ว
เราโชคดีหรือยังไงไม่ทราบนะครับเข้าไปแล้วพบนักบวชกำลังสวดมนต์หรือทำพิธีอะไรสักอย่างด้วย เราอยู่ฟังสักพักเดินวนจนรอบ
แล้วก็ออกมา และ ต้องขอบคุณธรรมชาติอีกครั้งครับ ฝนตก
จบเลิกครับ เราเดินไปทางด้านขวามือหลังจากออกจากโบสถ์จะมีร้านขายของที่ระลึกตลอดทาง เราหาร้านอาหารนั่งกิน ดริ๊งส์เพื่อ
หลบฝนกันครับ ผมทราบดีถึงค่าครองชีพและราคาร้านอาหารต่อหัวที่ค่อนข้างแพง แต่เราก็มีถึงที่นี้กันแล้วจัดไปครับ
มื้อแรกที่นั่งร้านอาหารเต็มตัว ไม่เกี่ยวกับพวกร้านฟาสฟู้ดนะครับ เพื่อนผมบอกว่า วัน บาย วันนะเธอคนละจานแหม่รู้อีกว่าเรางก
จะสั่งจานเดียวมากินด้วยกันสักหน่อยแล้วค่อยกลับไปต้มมาม่ากินที่ห้องพัก ผมสั่งสเต็กไก่ ภรรยาผมสั่งลาซานญ่า พร้อมโค็กคนละ 1 แก้ว
แฟนเพื่อนผมที่เป็นฝรั่งเขาเคยมาเมืองไทยและพวกเราผลัดกันจ่ายสนุกสนาน คนโน้นสต๊อบฉันจ่ายเอง คนนี้สต๊อบฉันจ่ายเอง
และแฟนเพื่อนผมก็ชิงบิลไปจนได้ 555555 เขาบอกผมว่าค่าอาหารหน่ะตามบิลที่พวกเธอเห็นแหละ
ของผม 12 Euro ภรรยาผมก็ 12 Euro เหมือนกันราคาพอรับได้จานละ 300กว่าบาทอิ่มพอดี แต่ผมก็ไม่วายถามว่าค่าน้ำหล่ะเท่าไหร่หรอ
บร๊ะเจ้านรกจาก Sky 100 Hongkong กลับมาหลอกหลอนกันอีกแล้วผมเคยกินโค้กที่แพงที่สุดที่ฮ่องกงครับแก้วละ 200
แฟนเพื่อนผมบอกเธออย่ารู้เลย ถ้าเธอรู้แล้วฉันกลัวเธอจะไม่สนุก เพื่อนผมแอบกระซิบทันที 10 Euro ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

โค้กที่ผมกับภรรยาผมสั่งแก้วละ 300 บาทไทย พวกเราหัวเราะกันสนุกสนานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมคิดในใจ
55555 บ้านเราแก้วละ 45 ตามร้านอาหาร เจอที่นี้ลมแทบจับ
ดูดให้เรียบน้ำแข็งก็ไม่เหลือแก้วละ 300 ฮ่าๆ ที่แปลกอีกอย่างเขาใส่ช้อนมาให้ในแก้วโค้กด้วยผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้ทำอะไร
แต่ถ้าเป็นที่บ้านเราผมจะใช้มันตักน้ำแข็งขึ้นมากิน แต่ที่นี้ผมไม่กล้าทำก็เลยปล่อยไว้แบบนั้นครับ
เราเดินทางกันไปขึ้นประตูชัยต่อฝนหยุดตกพอดีครับเรามาโผล่ตรงสถานีต้นถนนช็องเอลิเซ่ใกล้กับประตูชัยพอดีครับ
เราสามารถใช้ทางเดินด้านล่าง อุโมงค์เดินไปหาทางเข้าประตูชัยได้เลยครับ
หลังจากตรวจบัตรเรียบร้อยเราเดินขึ้นกันทันทีตามภาพครับบันไดวน ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลียและเวียนหัวครับ
กล้องที่ติดตั้งไว้เพื่อรับชมวิวข้างใต้ประตูชัยบริเวณคบเพลิงครับ
ขึ้นมาถึงด้านบนกันแล้วครับ
เราชมวิวกันจนพอใจแล้วก็ถึงเวลาเดินลงครับ เหนื่อยน้อยกว่าขาขึ้นแต่ยังเวียนหัวเหมือนเดิมครับ
ให้สาวๆเขาลั้ลล้ากันบ้าง
แล้วพวกเราก็กลับที่พักไปเอากระเป๋าที่ได้เชคเอ้าท์ไว้ก่อนแล้ว ผมเชคเอ้าท์ขาดทุนไป 1 วัน วันนี้วันที่ 12 เมษายน ตามแผนเดิม
เช้าวันที่ 13 เพื่อนผมจะไปส่งผมที่บาเซิล และ ผมกับภรรยาเราจะไปเที่ยวสวิตและอิตาลีกันต่อ โดยที่เพื่อนจะกลับบ้านกันเลย
พนักงานถามผมว่าเฮ้ คุณจ่ายค่าที่พักสำหรับคืนนี้ไว้แล้วทำไมคุณถึงไปหล่ะ ผมตอบว่าเราเปลี่ยนแผนกันเล็กน้อยไว้คราวหน้าเรา
จะมาพักที่นี้เราชอบขอบคุณมากนะ เขาก็ตอบรับว่ายินดีและขอบคุณครับ ผมก็ออกจากที่พักมา กระเป๋าผม 4 ใบลากกันแทบตาย
เฉพาะอาหารที่เราเตรียมมา 26 กิโลครับ
นี่ครับอาหารและขนมทั้งหมดที่เตรียมมาจากไทยครับ และ บรรยากาศห้องนั่งเล่นรวมของ Aloha Hostel ร้านค้าแถวๆข้างๆ
ที่พักครับ สเตอเบอร์รี่ถูกมากกกกกกก 1.5 Euro ครับลูกเบ้อเริ่ม
เราลากกันไปที่จุดนัดพบครับจุดจอดรถข้างๆที่พักของผมและเพื่อนไม่ไกลแต่ด้วยน้ำหนักกระเป๋าและพื้นที่ขรุขระเฮ้อกว่าจะถึง
เราออกจากปารีสกันไปตามทางด่วนใช้เวลาเดินทางไปถึงเมือง Heerlen ประเทศเนเธอร์แลนด์บ้านเพื่อนผมประมาณ 5 ชม
ผ่านชายแดนฝรั่งเศสเข้าประเทศเบลเยี่ยมและประเทศเนเธอร์แลนด์ตามลำดับ ที่นี้เขาขับรถกันเป็นระเบียบครับ
ป้ายบอก 50 คือ 50 ป้ายบอก 80 คือ 80 ครับ
บรรยากาศระหว่างทางครับ รถก็เล็กเหลือเกินของก็เยอะสภาพประมาณนี้ครับ
[CR] รีวิวแบบละเอียด 2015 @@@ ปารีส อัมสเตอร์ดัม สวิตเซอร์แลนด์ 17วัน 60000บาทรวมทุกอย่างแล้ว Day4 นอทดาม, Prewedding, NL @@@
ติดตามกระทู้ได้ตามด้านล่างนี้นะครับ
แผนที่วางเอาไว้จากไทยถูกเปลี่ยนวันนี้กระทันหันเลยนะครับผมตัดสินใจไปเที่ยวเนเธอร์แลนด์บ้านเพื่อนแทนที่จะไปดูโอโม่ มิลานครับ
ยกเลิกโรงแรม เปลี่ยนโรงแรม ที่สวิตทั้งหมดทำให้แผนรวนเล็กน้อยทั้งทริปครับ
Day 1 http://pantip.com/topic/33613485 9 เมษายน 2558
Day 2 http://pantip.com/topic/33616202 10 เมษายน 2558
Day 3 http://pantip.com/topic/33618178 11 เมษายน 2558
Day 5 http://pantip.com/topic/33632736 13 เมษายน 2558
วันนี้พวกเราตื่นเช้าเป็นพิเศษเนื่องจากว่า เราวางแผนการมาจากไทยว่าจะมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเล่นๆขำๆ ราคาประหยัดกันครับ
เราไม่อยากถ่ายภาพติดคนสักเท่าไหร่ ดูจากในโปรแกรมแจ้งว่าพระอาทิตย์จะขึ้นราวๆ 7.15 นาที พวกเราออกกัน 8.00 เดินไปหอไอเฟล
เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ไม่มีคนเลย ไม่มีทัวร์ มีแต่คนออกกำลังกายเท่านั้นครับ
***จากกระทู้ก่อนที่ผมได้เล่าว่า วันนี้รูมเมทของผมแนทตี้กับบุดด้าจากอาร์เจนติน่าได้ย้ายออกไป และ มีคนผิวดำประมาณไนจีเรียมาเข้ามาพัก ค่อนข้างน่ากลัว ผมพักห้องแบบ Doom มาหลายที่เพิ่งเจอครั้งแรก ที่พบคนผิวดำ จริงๆแล้วผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเชื้อชาติและอื่นๆนะครับ แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า เพื่อนผมที่อาสาไปเป็นช่างภาพให้มาถึงโรงแรมผมก่อนกำหนดและภายนอกหนาวมาก ผมก็เลยขอพนักงานต้อนรับให้เพื่อนเข้ามารอด้านในครับ (ผมลืมขาตั้งกล้องไว้ที่สายพานรับกระเป๋า CDG
อย่างที่บอกนะครับ พวกเรามาทริปนี้เราเน้นประหยัด ชุดแฟนผมซื้อจากประตูน้ำครับ 350 บาท
ส่วนชุดของผมสั่งตัดจากเพจนึงใน Facebook ครับลองหาดูนะครับ ไม่ได้ไปวัดไซส์ วัดเองจากที่บ้านและส่งทาง Inbox
ฝีมือเยี่ยมมากครับ ผมชอบมาก พอดีเป๊ะๆไม่รู้ว่ากะขนาดจากข้อมูลของผมและเผื่อเหลือ เผื่อขาดได้ยังไง
เสื้อ กางเกง ไทร์ สูท 3000 บาทถ้วนครับแพงกว่าภรรยาผมอีกครับ
ภาพดิบเลยนะครับ ไม่แต่งใดๆทั้งสิ้น เน้นความทรงจำดีดีเก็บไว้ดูครับ
เราถ่ายภาพกันต่อ 2-3 ชั่วโมงเราก็เปลี่ยนชุดกลับที่พักและเดินทางไปโบสถ์นอร์ทดามกันต่อครับ วันนี่เราเอารถจอดไว้
ขึ้นรถไฟฟ้าไปเนื่องจากบัตรยังเหลืออยู่ครับใช้ให้หมดกักไว้วันสุดท้ายพอ เพราะวันนี้เราจะเดินทางไป NL เนเธอร์แลนด์แล้วครับ
วิธีการขึ้นรถไฟแบบละเอียด ดูได้จาก Day 3 http://pantip.com/topic/33618178 ครับ
เราขึ้นรถไฟจากสถานีใกล้ที่พักเพื่อเดินทางไปโบสถ์นอร์ทดาม ผมลืมเล่าไปเลยนะครับ ก่อนหน้าที่เราจะมากันเราก็เตรียมจากไทย
มาเรื่องขโมยหรือพวกยิปซีตามสถานีรถไฟฟ้า ผมก็ใช้กระเป๋าคาดเอวแล้วเอาเสื้อทับไว้ตามที่เขาบอกๆกันมา
ด้วยความงก ผมไม่ใช้บัตรเครดิตเลยเพราะมันจะตัดรอบบิลหลังจากเราเที่ยวกับมาแล้วถ้าค่าเงินขึ้นเราจะขาดทุนเพราะว่าตอนที่เรามา
ยูโรมันแค่ 34.9 และ สวิสฟรังค์ 32 ผมแลกเงินทั้งหมดติดตัวมาจากไทยคาดเอวมาตลอดจำนวน 1xxxxx บาท
ยังอยู่
กลับมาเรื่องรถไฟฟ้ากันต่อนะครับ ออกทะเลไปไกลแล้ว แฟนผมเขาถามผมว่าไหนๆพวกยิปซีชี้ให้ดูหน่อย บร๊ะ ชี้ให้ดูหน่อย
ปัดโธ่ผมบอกว่าไม่เจอก็ดีแล้วกระเป๋านั้นหน่ะกุมไว้ให้ดีดีเถอะ
เราออกจากรถไฟฟ้ามาที่อนุสาวรีย์อะไรสักอย่างตรงนี้ครับ ด้านหลังเราจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำ และ เห็นโบสถ์นอร์ทดามอยู่ไกลๆ
ผู้คนมากมายและฟ้าเริ่มมืดลงอีกครั้งฝนกำลังจะมาครับ
โบสถ์นอร์ทดาม ปารีสแห่งนี้ แทบจะเป็นโบสถ์เดียวในทริปของเรา 17 วัน 3 ประเทศ 10กว่าโบสถ์เลยก็ว่าได้ที่ให้ถ่ายภาพภายในได้
แต่การถ่ายภาพทั้งหมดนั้นห้ามใช้แฟลชแต่ผมก็เห็นทั้งฝรั่งและชาติอื่นๆถ่ายเปิดแฟลชกันใหญ่อ่านหนังสือไม่ออกกันหรือยังไง
ผมนับถือศาสนาพุทธ และ ผมก็ชอบศาสนาคริสต์ด้วยนะครับเหมือนกับว่าเป็ฯศาสนาที่เป็นตัวแทนของความรักอันนี้ผมคิดเองนะครับ
ให้ความรู้ว่าโลกจะสงบสุขหน่ะครับ (โลกสวย)
เราโชคดีหรือยังไงไม่ทราบนะครับเข้าไปแล้วพบนักบวชกำลังสวดมนต์หรือทำพิธีอะไรสักอย่างด้วย เราอยู่ฟังสักพักเดินวนจนรอบ
แล้วก็ออกมา และ ต้องขอบคุณธรรมชาติอีกครั้งครับ ฝนตก
จบเลิกครับ เราเดินไปทางด้านขวามือหลังจากออกจากโบสถ์จะมีร้านขายของที่ระลึกตลอดทาง เราหาร้านอาหารนั่งกิน ดริ๊งส์เพื่อ
หลบฝนกันครับ ผมทราบดีถึงค่าครองชีพและราคาร้านอาหารต่อหัวที่ค่อนข้างแพง แต่เราก็มีถึงที่นี้กันแล้วจัดไปครับ
มื้อแรกที่นั่งร้านอาหารเต็มตัว ไม่เกี่ยวกับพวกร้านฟาสฟู้ดนะครับ เพื่อนผมบอกว่า วัน บาย วันนะเธอคนละจานแหม่รู้อีกว่าเรางก
จะสั่งจานเดียวมากินด้วยกันสักหน่อยแล้วค่อยกลับไปต้มมาม่ากินที่ห้องพัก ผมสั่งสเต็กไก่ ภรรยาผมสั่งลาซานญ่า พร้อมโค็กคนละ 1 แก้ว
แฟนเพื่อนผมที่เป็นฝรั่งเขาเคยมาเมืองไทยและพวกเราผลัดกันจ่ายสนุกสนาน คนโน้นสต๊อบฉันจ่ายเอง คนนี้สต๊อบฉันจ่ายเอง
และแฟนเพื่อนผมก็ชิงบิลไปจนได้ 555555 เขาบอกผมว่าค่าอาหารหน่ะตามบิลที่พวกเธอเห็นแหละ
ของผม 12 Euro ภรรยาผมก็ 12 Euro เหมือนกันราคาพอรับได้จานละ 300กว่าบาทอิ่มพอดี แต่ผมก็ไม่วายถามว่าค่าน้ำหล่ะเท่าไหร่หรอ
บร๊ะเจ้านรกจาก Sky 100 Hongkong กลับมาหลอกหลอนกันอีกแล้วผมเคยกินโค้กที่แพงที่สุดที่ฮ่องกงครับแก้วละ 200
แฟนเพื่อนผมบอกเธออย่ารู้เลย ถ้าเธอรู้แล้วฉันกลัวเธอจะไม่สนุก เพื่อนผมแอบกระซิบทันที 10 Euro ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
โค้กที่ผมกับภรรยาผมสั่งแก้วละ 300 บาทไทย พวกเราหัวเราะกันสนุกสนานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมคิดในใจ
55555 บ้านเราแก้วละ 45 ตามร้านอาหาร เจอที่นี้ลมแทบจับ
ดูดให้เรียบน้ำแข็งก็ไม่เหลือแก้วละ 300 ฮ่าๆ ที่แปลกอีกอย่างเขาใส่ช้อนมาให้ในแก้วโค้กด้วยผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้ทำอะไร
แต่ถ้าเป็นที่บ้านเราผมจะใช้มันตักน้ำแข็งขึ้นมากิน แต่ที่นี้ผมไม่กล้าทำก็เลยปล่อยไว้แบบนั้นครับ
เราเดินทางกันไปขึ้นประตูชัยต่อฝนหยุดตกพอดีครับเรามาโผล่ตรงสถานีต้นถนนช็องเอลิเซ่ใกล้กับประตูชัยพอดีครับ
เราสามารถใช้ทางเดินด้านล่าง อุโมงค์เดินไปหาทางเข้าประตูชัยได้เลยครับ
หลังจากตรวจบัตรเรียบร้อยเราเดินขึ้นกันทันทีตามภาพครับบันไดวน ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลียและเวียนหัวครับ
กล้องที่ติดตั้งไว้เพื่อรับชมวิวข้างใต้ประตูชัยบริเวณคบเพลิงครับ
ขึ้นมาถึงด้านบนกันแล้วครับ
เราชมวิวกันจนพอใจแล้วก็ถึงเวลาเดินลงครับ เหนื่อยน้อยกว่าขาขึ้นแต่ยังเวียนหัวเหมือนเดิมครับ
ให้สาวๆเขาลั้ลล้ากันบ้าง
แล้วพวกเราก็กลับที่พักไปเอากระเป๋าที่ได้เชคเอ้าท์ไว้ก่อนแล้ว ผมเชคเอ้าท์ขาดทุนไป 1 วัน วันนี้วันที่ 12 เมษายน ตามแผนเดิม
เช้าวันที่ 13 เพื่อนผมจะไปส่งผมที่บาเซิล และ ผมกับภรรยาเราจะไปเที่ยวสวิตและอิตาลีกันต่อ โดยที่เพื่อนจะกลับบ้านกันเลย
พนักงานถามผมว่าเฮ้ คุณจ่ายค่าที่พักสำหรับคืนนี้ไว้แล้วทำไมคุณถึงไปหล่ะ ผมตอบว่าเราเปลี่ยนแผนกันเล็กน้อยไว้คราวหน้าเรา
จะมาพักที่นี้เราชอบขอบคุณมากนะ เขาก็ตอบรับว่ายินดีและขอบคุณครับ ผมก็ออกจากที่พักมา กระเป๋าผม 4 ใบลากกันแทบตาย
เฉพาะอาหารที่เราเตรียมมา 26 กิโลครับ
นี่ครับอาหารและขนมทั้งหมดที่เตรียมมาจากไทยครับ และ บรรยากาศห้องนั่งเล่นรวมของ Aloha Hostel ร้านค้าแถวๆข้างๆ
ที่พักครับ สเตอเบอร์รี่ถูกมากกกกกกก 1.5 Euro ครับลูกเบ้อเริ่ม
เราลากกันไปที่จุดนัดพบครับจุดจอดรถข้างๆที่พักของผมและเพื่อนไม่ไกลแต่ด้วยน้ำหนักกระเป๋าและพื้นที่ขรุขระเฮ้อกว่าจะถึง
เราออกจากปารีสกันไปตามทางด่วนใช้เวลาเดินทางไปถึงเมือง Heerlen ประเทศเนเธอร์แลนด์บ้านเพื่อนผมประมาณ 5 ชม
ผ่านชายแดนฝรั่งเศสเข้าประเทศเบลเยี่ยมและประเทศเนเธอร์แลนด์ตามลำดับ ที่นี้เขาขับรถกันเป็นระเบียบครับ
ป้ายบอก 50 คือ 50 ป้ายบอก 80 คือ 80 ครับ
บรรยากาศระหว่างทางครับ รถก็เล็กเหลือเกินของก็เยอะสภาพประมาณนี้ครับ