หยุด 4 วัน สะพายเป้ไป อุบล – ปากเซ วันที่ 1 พฤษภาคม – 4 พฤษภาคม 2558

เริ่มเรื่องที่ผมเป็นพนักงานออฟฟิตที่ได้วันหยุดยาว 4 วัน โดยเริ่มวันที่ 1พ.ค. (วันแรงงาน) ถึงวันที่ 4 พ.ค. ผมจึงตัดสินใจออกเดินทางไปเที่ยวตามใจตัวเอง จริงๆก็อยากจะชวนเพื่อนๆไปอยู่อะนะ แต่มันตัดสินใจกระทันหันมากๆ ประมาณสองวันก่อนเดินทาง ผมจึงตัดสินใจว่าจะออกเดินทางไป อุบล คิดว่าไปถึงแล้วเดี๋ยวค่อยคิดว่าจะเที่ยวไหนอีกที พอเช้าวัน ศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 58 ก็ทำการ Backpack ของใส่กระเป๋า The North Face Surge ของผม(ทุกวันนี้ก็ยังไม่แน่ใจ  100% ว่ามันของแท้รึเปล่า 55)  เที่ยงๆ ก็ทำการออกไปหัวลำโพงเพื่อจองที่นั่งรถไฟฟรีไปอุบลที่วิ่งประจำเที่ยว 15:20 ถึงอุบลเวลา 3:35

      (แต่เอาเข้าจริงตามประสบการณ์ จะถึงที่หมายช้ากว่ากำหนดราวๆ 2 ชั่วโมง) พอไปถึงบอกว่าที่นั่งเต็มเหลือแต่ยืน (Stunไป 3 วิ) ผมเคยนั่งรถไฟฟรีไปหนองคายมันจองที่นังได้ง่ายๆเพราะเราขึ้นต้นทาง แต่สงสัยเพราะหยุดยาว คนจึงกลับกันท่วมท้นเลยทีเดียว แล้วผมก็เปลี่ยนวิธีไป โดยลองเปิดเข้าไปดูสายการบินต่างๆ ปรากฏว่าที่นั่ง Economy Class ไม่เหลือเลย ทีนี้ก็หันไปจองรถทัวร์ดูมั่ง ตอนแรกลองโทรไปจองนครชัยแอร์เพราะเคยใช้บริการมาก่อนรู้สึกประทับใจอยู๋พอสมควร ปรากฏว่าเต็มอีก ผมเป็นพวกที่ถือคติว่า ตั้งใจจะไปแล้วก็ต้องไปให้ได้ดิ ทีนี้ลองพยายามจองของ บขส 999 มีที่นั่งเหลือเพียบเลย ตอนพยายามจองในเว็บเหลือบมาเห็นว่ามันมีรถไปถึง ปากเซ เลย

     จากนั้นก็ตัดสินใจเอานี้แหละวะ ไปปากเซซะเลย ว่าแล้วก็ทำการจอง ก็ต้องมา Stun อีก 3  วิ อ่าวจองไม่ได้ ???? เลยโทรไปที่ Call center ของ บขส 999 เป็นผู้ชายรับแจ้งว่า เนื่องจากเลยเวลาจองไปแล้ว (ผ่านเว็บจองกระทันหันไม่ได้นะจ๊ะ) ต้องไปซื้อตั๋วที่ Counter ขายตั๋วเท่านั้น ก็เลยผมก็เลยเดินทางไปหมอชิต




     หลังจากขึ้นรถไปได้ซักพัก พนักงานก็เอาชุดอาหารมาแจกโดนข้างในมีชุดกาแฟมาให้ และมีขนมปัง 1 ห่อ กับน้ำ 1 ขวด หลังจากออกเดินทางไปถึงบริเวณจุดพักรถ บขส. สีคิ้ว ให้ผู้โดยสารแวะลงไปทานข้าวโดยหางตั๋วรถทัวร์มีมูลค่าราวๆ 30 บาท นำไปใช้ทานข้าวและซื้อของได้ …. Concept ถือว่าดีเลยทีเดียวแต่ที่นี้มีข้อเสียใหญ่ๆอยู่นั่นคือ!!!
   -    ห้องน้ำเน่ามาก / มีหลายห้องอุจจาระไม่ราด/สภาพเละเทะหลายห้อง (ห้องน้ำหญิงไม่ทราบไม่ได้เข้าไปดู 555)
   -    อาหาร...นานาจิตตัง
   -    มีการฉวยโอกาศตอนที่รถกำลังจะออก จะมีคนขึ้นมาเอาน้ำส้มราคาไม่เกิน 10บาท มาแลกกับหางบัตรของผู้โดยสารที่ไม่ได้ใช้
     แล้วก็เริ่มออกเดินทางต่อไปจนเกือบจะถึงด่านช่องเม็กก็เริ่มเอะใจได้อีกอย่าง “เออมันให้ชุดถ้วยกาแฟกระดาษ ครีมเทียม น้ำตาล กาแฟ มาให้ตั้งแต่ตอนขึ้นรถหนิน่า แล้วไม่ให้น้ำร้อนเราเหรอ??? หรือเขาให้เรากรอกปากกินผสมกันในท้องน้า 555 ถ้างั้นไม่กินก็ได้ฟร่ะ”
เออใช่ๆๆๆ มีแวะปั๊มน้ำมันอีกรอบนึงก่อนถึงด่านช่องเม็ก แล้วพนักงานรถมาเรี่ยไรเก็บเงินคนละ 5 บาท บอกว่าเป็นค่าอะไรซํกอย่างไม่แน่ใจเหมือนได้ยินว่าค่าร่วงเวลา หรือค่าแวะปั๊ม หรืออะไรซักอย่าง ฟังจับใจความไม่ชัด แต่ก็จ่ายแบบ งงๆ ไป และอีกซักพักนึง มีการแจกซองผ้าป่าร่วมเอาบุญกันด้วย!! อั๊ยยะ ไม่คิดว่าจะได้รับเชิญทำบุญกระทันหันแบบนี้ ช่างเป็นบุญกุศลเสียจริง ชีวิตนี้ 555
อ่ะๆๆๆ ร่ายมายาวไปและ ขอบคุณที่ทนอ่านกันนะครับ










































     วันนี้ก็เหนื่อยอีกวัน ฝนก็เริ่มจะตกแล้ว ก็ได้เวลาเข้านอน แผนต่อไปคือ ตื่นเช้า (ไม่เช้าเท่าไหรหรอกนะ) ว่าจะไปถ่ายรูปที่ตลาดซะหน่อย

















      พอถึงเวลานี้ 10:00 น วันอาทิตย์ ที่ 3 พฤษภาคม 2558 เป็นเวลาที่คนทั้งโลกรอคอย ผมจึงแว้นกลับที่พักในทันที แต่มีเรื่องไม่คาดคิดได้ประมือกับตำรวจในประเทศลาว โอเย้ โดนปรับข้อหาฝ่าไฟแดงขอครับ ผมนี้ร้อง "เย้ยยยยย" เลย เพราะไฟแดงมันเสียชัดๆ ตรงนั้นเป็นบริเวณ 4 แยก และไฟแดงก็ไม่ทำงาน คุณตำรวจเรียกปรับผมจะเอาเงิน 500 บาท "OMG เยอะนะเนี่ย" ผมพยายมแจ้งให้ท่านตำรวจฟังว่าไฟแดงมันไม่ทำงาน ชี้ให้ท่านดูด้วยนะ "เนี่ยครับมันไม่ทำงาน" คุณตำรวจก็ยังยืนยันต้องจ่าย 500 บาท - -' ผมก็เลย อ่ะๆๆๆ งั้น 200 บาทและกัน ยื้อกันอยู่นานสรุปโดนไป 200 บาท
     ในที่สุดผมก็ได้กลับที่พักมานั่งดูมวยคู่หยุดโลก ซึ่งหลายๆคนคงได้ดู ปาเกียวแพ้ไปอย่างน่ากังขาง เจ็บใจจริงจริ๊ง













     ข้อความจะเกินหมื่นตักอักษรและ พักแป๊บเดี๋ยวมาต่อ ^^