หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ตอนแรกก็กะว่าอยากได้รถBig Bikeสักคันแต่พอได้มาแล้ว คุณต้องไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตผม(4 ปี กับ CBR250r)
กระทู้สนทนา
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวทะเล
มอเตอร์ไซค์
Big Bike
หลายๆคนคงจะได้ฝันว่าอยากจะมี Big Bike สักคันไว้ขี่หล่อๆ หรือขี่เที่ยว ผมเองก็เป็นคนนึงที่มีฝันเดียวกับเพื่อนทุกคนครับ ที่ผ่านมาก็เคยได้ลองรถเพื่อนบ้าง ซ้อนเพื่อนบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้มีโอกาศจับจองเป็นเจ้าของ ผ่านมาหลายปีพอเริ่มทำงาน จังหวะโอกาศมาถึง ผมก็ได้เจ้า CBR250r หรือเจ้า Hermesมาครอบครองครับ
ที่มาของชื่อ Hermes จะอ่านออกเสียงว่า เฮอร์มิส หรือ แอร์เมสก็ได้
ถามว่าทำไมใช้ชื่อนี้ เฮอร์มิสเป็นเทพเจ้าแห่งการเดินทางของกรีกครับ นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์เป็นปีกนกเช่นเดียวกับโลโก้ของค่าย Honda แถมผมยังมีความชอบในกระเป๋าแบนด์แอร์เมสด้วยเป็นการส่วนตัว
ตอนที่ซื้อเจ้า Hermes เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2554 ผมทำงานอยู่ที่หัวหินครับ ไปออกรถที่ปราณบุรี นั่นเป็นจุดกำเนิดที่ผมกับเจ้ารถคันแรกได้ร่วมทางกัน ทุกวันเสาร์อาทิตย์ผมจะตื่นเช้าและขี่เจ้า Hermes ไปเส้นเขาเต่า-ปราณบุรี เพื่อฝึกทักษะการขับขี่โดยฉพาะการจัดระเบียบร่ายกายในการเข้าโค้งครับ พอเริ่มมั่นใจแล้วว่าเราได้ฟื้นฟูทักษะจนปีกกล้าขาแข็ง ผมก็เริ่มอยากไปเที่ยวครับ เพราะที่ผ่านมาก่อนที่จะได้ซื้อรถ ผมทำงาน 6 วัน และเรียนป.โทอีก1วัน จนไม่มีเวลาให้กับชีวิตเลย โดยเริ่มเก็บจากที่เที่ยวรอบๆก่อนตั้งแต่ สวนผึ้ง กาญจนบุรี แก่งกระจาน ปราณบุรี ยาวไปจนถึงบางสะพานน้อย อย่าถามนะครับว่าไปมาแล้วกี่ครั้ง นับไม่ถ้วนเลย มีที่ๆยังไม่ได้ไปคือเขากระโจม ราชบุรีครับ สักวันจะหา Enduro เบาๆสักคันแล้วไปพิชิดเขากระโจมให้ได้
ขี่ไปขี่มาก็อยากไปไกลๆบ้าง เลยคุยกับเพื่อนอีกคนว่าอยากไปเกาะช้าง ทริปนี้เป็นทริปยาวทริปแรกในชีวิตครับ โดยผมขี่รถไปนอนกรุงเทพ ก่อน แล้วมุ่งหน้าสู่เกาะช้างกับแฟน และเพื่อนอีก2คนที่ขับ Mazda 3 แต่งเต็มพร้อมจูนกล่องครับ ในทริปนั้นอุปกรณ์ safety ต่างก็ยังมีไม่ครบ ซึ่งผมไม่แนะนำเลยสำหรับคนที่อยากขี่รถเที่ยว ควรแต่งตัวให้มิดชิดนะครับ
จากทริปนั้นได้บทเรียนมาว่า ถุงมือผ้าถูกๆลื่นๆ ทำให้มือชาในการขี่ทางไกล เลยเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพของเครื่องแต่งกายมากขึ้นครับ
หลังจากทริปแรกก็ต้องมีทริปที่ 2 ทีนี้ผมได้เริ่มมีกลุ่มมีก้อนแล้วครับ จริงๆเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าแก๊งค์ใหญ่ๆ เพราะไม่ใช่สไตล์ ชอบมีกันกลุ่มเล็กๆ ที่รู้ใจ ไปเที่ยวกันไม่เรื่องมาก คล่องตัว จอดไหน กินไหน ไม่ต้องคอยเกรงใจกันว่าใครจะว่ายังไง ทริปที่ 2 นี้เราไปทางเหนือกันบ้างครับ โดยไปกัน 3 วัน 2 คืน คืนแรกเราไปนอนกันที่ ภูทับเบิกครับ และไปต่อคืนที่ 2 ที่ เชียงคาน ทริปนี้นับได้ว่าเป็นทริปมอเตอร์ไซด์เต็มๆทริปแรกของผมก็ได้ครับ เพราะไปกันแต่มอเตอร์ไซด์ล้วนๆ ทริปนี้ทำให้ผมได้ย้ำกับตัวเองว่า สิ่งที่ผมชอบคือ การขี่มอเตอร์ไซด์ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ไม่ใช่การเป็น Biker หล่อๆเท่ๆที่หลายๆคนพูดถึง อาจเป็นเพราะผมไม่ได้เล่นรถมาตั้งแต่เด็กก็ได้ครับ ตอนเด็กๆได้แต่ตระเวณแข่ง mountain bike cross country ซึ่งก็ทำให้ได้ทักษะต่างๆติดตัวมาที่สามารถเอามาปรับใช้กับการขี่มอเตอร์ไซด์ได้หลายอย่าง เอาเป็นว่า ผมเริ่มเสพติดการท่องเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซด์เข้าแล้วล่ะ
หลังจากทริปภูทับเบิก – เชียงคาน ผมก็มีทริปเล็กๆรอบๆหัวหินอีกมากมายครับ ชีวิตผมเปลี่ยนไปมาก ความสุขกลับมาก มีเวลาให้กับตัวเยอะเยอะขึ้น แต่ชีวิตก็เปลี่ยนอีกครั้งเมื่อผมตัดสินใจย้ายกลับมาทำงานที่กรุงเทพ หลังจากอยู่ที่หัวหินมา4ปีเต็มๆ การกลับมาทำงานในกทม.ทำให้เวลาผมหายไปเยอะครับ แต่ก็ยอมเพราะแลกกับค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว งานหนัก เงินเยอะ เวลาหาย เรื่องปกติครับ แต่ผมก็ไม่วายที่จะหาเวลาว่างให้กับตัวเอง ก็คนมันอยากเที่ยวนี่นา หาเวลาได้ก็ปรับแต่งรถให้เหมาะกับการขี่เที่ยวมากขึ้นโดยเจาะแผงคอแฮนด์เพื่อใส่แฮนด์บาร์ลดอาการปวดหลังจากการขี่รถยาวๆ พอรถพร้อมแล้วหาเวลาได้แล้ว จะรออะไรล่ะ ก็ไ ปสิครับ ทริปนี้เราไปเหนือเหมือนเดิมครับ โดยครั้งนี้เราไม่ไปเหนือแบบธรรมดา เราไปอ้อมภาคเหนือกัน 5 วัน 5 คืน รอบภาคเหนือ บอกตรงๆวันทริปนี้โหดมากผมเลิกงาน 6.30 กว่าจะเปลี่ยนชุ ดมัดของขึ้นทายรถก็ได้ฤกษ์ออกจากที่ทำงานประมาณ 1 ทุ่ม ขี่ไปเจอเพื่อนอีก2คนที่มาจากหัวหินที่บางปะหัน อยุธยา ประมาณ 4 ทุ่มครับ พอเจอกันก็กินข้าวกินน้ำ แล้วก็ออกเดินทางกันตอน 5 ทุ่ม โดยมุ่งหน้าสู่จ.ตากครับ คืนแรกนี้เราไปนอนกันที่ปั้มน้ำมัน อ.บ้านตากตอนตี 4 ครึ่ง นอนไป2 ชม.ก็ตื่นมาล้างหน้าล้างตาแล้วขี่ต่อครับ ทริปนี้โหดมาก ขี่ไปก็มองหาปั้มไป เพราะเพื่อนขี่ crf ถังน้ำมันเล็กกว่า cbr พอสมควรครับ
บางคนมันจะบอกว่าชอบไปเล่นโค้งที่ภาคเหนือ ผมว่าความรู้สึกที่ได้มันไม่ได้เป็นการเล่นโค้งอย่างเดียว มันเหมือนการฝึกเขียนคัดลายมือซ้ำแล้วซ้ำอีกกับโค้งที่เราเจอตามเส้นทางต่างๆ ทริปนี้มีความสุขมากครับ ได้ไปหลายๆที่ที่อยากไป ไม่ว่าจะเป็นดอยแม่อูคอ ภูกระดึง ปางอุ๋ง ปาย แม่สาย ดอยภูคา แต่ก็จะต้องกลับไปเก็บที่ดอยเสมอดาว จ.น่านอีกที่ขี่ไม่ถึงเนื่องจากจะมืดซะก่อน เอาเป็นว่า เป็นทริป 2800 โลที่ยากจะลืมเลยล่ะครับ
หลังจากนั้นก็ได้เวลาไปเปิดประสบการณ์กับที่เที่ยวสุดฮิตของเหล่า Biker พระนคร อย่างนครนายก – เขาใหญ่ – วังน้ำเขียวครับ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมชอบไปกันจัง แล้วก็ถึงบางอ้อว่า อากาศบนเขาใหญ่นั้นช่างแสนบริสุทธิ์ และเย็นกว่าในเมืองเยอะแยะมากมาย เหมาะแก่การหนีเมืองไปเติมความสดชื่นสำหรับชาวกรุงเป็นที่สุด และเส้นทางไปวังน้ำเขียวก็มีถนดีๆ โค้งกว้างๆให้เล่นมากมายครับ 3 ปีที่กลับมาอยู่กรุงเทพก็คงไม่ต้องบอกกันว่า ผมไปเขาใหญ่-วังน้ำเขียวมาแล้วกี่ครั้ง เพราะน่าจะเกิน 15 ครั้งแน่ๆครับ สำหรับคนที่ยังไม่เคยไปเขาใหญ่ หรือยังมีทักษะการขับขี่ที่ยังไม่แข็งแกร่ง ผมจะบอกว่า เขาใหญ่ ไม่ใช่ที่ที่เหมาะสำหรับการเล่นโค้งเลย เพราะนอกจากถนนจะแคบจะไม่มีไหล่ทาง ต้นไม้บังในโค้ง หรือพื้นชื้นๆเป็นบางช่วงแล้ว จุดที่พื้นแห้งบางช่วงที่มีแสงแดดรำไรรอดพุ่มไม้ลงมานั้นก็ยังมีกิ่งไม้ที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้น ถ้าคุณกำลังส่งกำลังรถและแบนโค้งขึ้นเขาอยู่แล้วไปเหยียบเข้า มีกลิ้งได้ง่ายๆเลยครับ เพราะฉะนั้นเวลาไปก็ขี่กินลมชมวิวกันนะครับ อย่าใจร้อน
อีกที่นึงที่ผมชอบไปมากทุกๆหน้าฝนก็คือ ปิล๊อก กาญจนบุรี พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นสภาพภูมิอากาศพิเศษ ชาวบ้านที่นี่จะเจอแดด ปีละ 3-4 เดือนเท่านั้น เพราะนอกจากนั้นก็จะมีหมอกและเมฆฝนสลับกันตลอด ช่วงที่ผมชอบไปมากที่สุดคือหน้าฝนครับ เพราะฝนจะตกจนเปียกชุ่มอยู่ตลอดเมื่อฝนหยุดหมอกก็จะวิ่งผ่านหน้าเราเป็นสายและมีหมอกได้ไม่ถึงครึ่งชม.ก็จะเจอฝนปรอยลงมาอีกสลับกันแบบนี้ทั้งวันทั้งคืน ชาวบ้านที่นี่ต้องมีเครื่องอบผ้ากันทุกครัวเรือนคับ ว่างๆอย่าลืมแวะไปนะครับ
เดี๋ยวมาต่อครับ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
Cafe racer รุ่นไหนบ้างที่เหมาะใช้ไปโรงเรียนที่ทำงานบ้างครับ
คือผมอยากมีรถสักคันเลยจะมาถามทุกคนว่า มีรุ่นไหนบ้างที่เหมาะกับการใช้งานปกติครับ คลาส 100 cc. 110 cc. 150 cc.
สมาชิกหมายเลข 8123440
มอเตอร์ไซค์รุ่นไหนที่คุณขี่แล้วรู้สึก "มั่นใจ" และ "ไม่มั่นใจ" ที่สุดเท่าที่เคยขี่มาครับ
สำหรับผมตามรูปเลยรุ่นที่เคยขี่มา แต่ที่เคยขี่แล้วรู้สึก"มั่นใจ"ที่สุดเท่าที่เคยขี่มาคือ CBR650R เพราะมี Engine Brake ดิสค์เบรคคู่หน้า + ABS เคยเจอรถเก๋งปาดเข้ามาระยะ 100 เมตรที่ความเร็วเกือ
สมาชิกหมายเลข 7321488
อยากจะครอบครอง big bike ซักคัน
ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี เมื่อก่อนก็เคยขี่มอเตอร์ไซด์ไกลสุดก็ประมาณ 100 กม. ตอนนี้มีรถยนต์ก็ขี่มอเตอร์ไซด์บ้างในระยะทางใกล้ๆ อยากได้ big bike เอาไว้ขี่ท่องเที่ยว ออกต่างจังหวัด ระยะทางไกลพอสมควร เลยไม่รู้
สมาชิกหมายเลข 1167949
[MotoGP 2025] Round 13 : BWIN Grand Prix of Austriaคุยกันสดยันแห้ง และทายผลการแข่งขัน
สวัสดีครับ ทุกๆท่าน ห่างหายจากการรับชมไปเกือบๆ 1 เดือน ตอนนี้ MotoGP กลับเข้ามาสู่สนามแข่งขันอีกครั้ง ในสนามที่ 13 รายการ BWIN Grand Prix of Austria สนามที่ 13 จะแข่งขันกันหว่างวันที่ 15 &ndash
เด็กโขทัย
Rc390 กับ Cbr500r เลือกคัยไหนดีครับ??
ผมเล็งRc390 กับ Cbr500rไว้อยู่ พี่ๆคิดว่าคันไหนน่าเล่นกว่ากันครับ หากไม่นับเรื่องศูนย์บริการเน้นที่สมรรถนะของมันกับค่าเซอร์วิส เน้นขี่ในเมือง10โล+นอกเมืองตรงยาวอีก10กว่าโล ขอคำแนะนำหรือรีวิวจากผู้ใช้
สมาชิกหมายเลข 7569704
ราคาดาวน์ Honda CBR250R 2010 ตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่
พอดีแฟนบอกว่าอยากได้ CBR250R มานานแล้วค่ะ แต่ตอนแรกๆเราก็ไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ เมื่อไม่นานมานี้มีพี่ที่ทำงานได้ทำเรื่องกู้เงิน บริษัท ซื้อ Ninja 250 ( มือสอง )ออกมาขี่ แล้วเราก็ได้นั้งคุยกันถึงข้อด
สมาชิกหมายเลข 978736
CBR250R ยังมีคนเล่นอยู่ไหม ละตอนนี้ราคาขายอยู่ที่เท่าไร
ตามหัวข้อเลยครับพอดีผมอยากจะขายซื้อคันใหม่แต่ไม่รู้ว่าราคาซื้อขายตอนนี้ประมาณเท่าไรครับ CBR250R ประมาณปี 2011 วิ่งประมาณ 65,000 km
สมาชิกหมายเลข 3202295
ระหว่าง Daytona660 กับ trident660 ผมควรเลือกคันไหนดีครับ?
มีเรื่องรบกวนสอบถามหน่อยครับ พอดีผมลังเลระหว่าง2รุ่นนี้ครับว่าผมจะเลือกคันไหนดีครับระหว่างDaytonaกับtrident เพราะผมชอบทั้งคู่แต่ชอบคนละแบบ เน้นไปที่การขี่ทางไกล(แต่ไม่ชอบทรงทัวร์ริ่งแบบtiger) Trident
สมาชิกหมายเลข 7761953
ใครมีมอเตอร์ไซด์ 2 คัน บ้างคะ สำหรับขี่ไปทำงาน และ ออกทริป
ใครมีมอเตอร์ไซด์ 2 คัน บ้างคะ โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ คันที่ 1 ตระกูล 155 - 160 CC เช่น xmax, pcx และ adv เป็นต้น เอาไว้ใช้ ขี่ในเมือง ไปทำงาน เพื่อสะดวกต่อการมุดในช่วงรถติดในกรุงเทพ หรือ ออกไปเ
สมาชิกหมายเลข 8756144
สปอตหรือสกู๊ตเตอร์ดี?
ตามหัวข้อเลยครับอยากสอบถามพี่ๆชาวสองล้อว่าระหว่างมอเตอร์ไซค์ทรงสปอตหรือสกู๊ตเตอร์ดี คือผมลังเลอยู่ 2-3 คัน ระหว่าง r15m 2025 (ทรงสปอต) และ adv160 กับ nmax (สกู๊ตเตอร์) ผมอายุ15 ตอนนี้ขับจีออโน่ของแม่อ
สมาชิกหมายเลข 8929430
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวทะเล
มอเตอร์ไซค์
Big Bike
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 3
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ตอนแรกก็กะว่าอยากได้รถBig Bikeสักคันแต่พอได้มาแล้ว คุณต้องไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตผม(4 ปี กับ CBR250r)
ที่มาของชื่อ Hermes จะอ่านออกเสียงว่า เฮอร์มิส หรือ แอร์เมสก็ได้
ถามว่าทำไมใช้ชื่อนี้ เฮอร์มิสเป็นเทพเจ้าแห่งการเดินทางของกรีกครับ นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์เป็นปีกนกเช่นเดียวกับโลโก้ของค่าย Honda แถมผมยังมีความชอบในกระเป๋าแบนด์แอร์เมสด้วยเป็นการส่วนตัว
ตอนที่ซื้อเจ้า Hermes เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2554 ผมทำงานอยู่ที่หัวหินครับ ไปออกรถที่ปราณบุรี นั่นเป็นจุดกำเนิดที่ผมกับเจ้ารถคันแรกได้ร่วมทางกัน ทุกวันเสาร์อาทิตย์ผมจะตื่นเช้าและขี่เจ้า Hermes ไปเส้นเขาเต่า-ปราณบุรี เพื่อฝึกทักษะการขับขี่โดยฉพาะการจัดระเบียบร่ายกายในการเข้าโค้งครับ พอเริ่มมั่นใจแล้วว่าเราได้ฟื้นฟูทักษะจนปีกกล้าขาแข็ง ผมก็เริ่มอยากไปเที่ยวครับ เพราะที่ผ่านมาก่อนที่จะได้ซื้อรถ ผมทำงาน 6 วัน และเรียนป.โทอีก1วัน จนไม่มีเวลาให้กับชีวิตเลย โดยเริ่มเก็บจากที่เที่ยวรอบๆก่อนตั้งแต่ สวนผึ้ง กาญจนบุรี แก่งกระจาน ปราณบุรี ยาวไปจนถึงบางสะพานน้อย อย่าถามนะครับว่าไปมาแล้วกี่ครั้ง นับไม่ถ้วนเลย มีที่ๆยังไม่ได้ไปคือเขากระโจม ราชบุรีครับ สักวันจะหา Enduro เบาๆสักคันแล้วไปพิชิดเขากระโจมให้ได้
ขี่ไปขี่มาก็อยากไปไกลๆบ้าง เลยคุยกับเพื่อนอีกคนว่าอยากไปเกาะช้าง ทริปนี้เป็นทริปยาวทริปแรกในชีวิตครับ โดยผมขี่รถไปนอนกรุงเทพ ก่อน แล้วมุ่งหน้าสู่เกาะช้างกับแฟน และเพื่อนอีก2คนที่ขับ Mazda 3 แต่งเต็มพร้อมจูนกล่องครับ ในทริปนั้นอุปกรณ์ safety ต่างก็ยังมีไม่ครบ ซึ่งผมไม่แนะนำเลยสำหรับคนที่อยากขี่รถเที่ยว ควรแต่งตัวให้มิดชิดนะครับ
จากทริปนั้นได้บทเรียนมาว่า ถุงมือผ้าถูกๆลื่นๆ ทำให้มือชาในการขี่ทางไกล เลยเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพของเครื่องแต่งกายมากขึ้นครับ
หลังจากทริปแรกก็ต้องมีทริปที่ 2 ทีนี้ผมได้เริ่มมีกลุ่มมีก้อนแล้วครับ จริงๆเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าแก๊งค์ใหญ่ๆ เพราะไม่ใช่สไตล์ ชอบมีกันกลุ่มเล็กๆ ที่รู้ใจ ไปเที่ยวกันไม่เรื่องมาก คล่องตัว จอดไหน กินไหน ไม่ต้องคอยเกรงใจกันว่าใครจะว่ายังไง ทริปที่ 2 นี้เราไปทางเหนือกันบ้างครับ โดยไปกัน 3 วัน 2 คืน คืนแรกเราไปนอนกันที่ ภูทับเบิกครับ และไปต่อคืนที่ 2 ที่ เชียงคาน ทริปนี้นับได้ว่าเป็นทริปมอเตอร์ไซด์เต็มๆทริปแรกของผมก็ได้ครับ เพราะไปกันแต่มอเตอร์ไซด์ล้วนๆ ทริปนี้ทำให้ผมได้ย้ำกับตัวเองว่า สิ่งที่ผมชอบคือ การขี่มอเตอร์ไซด์ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ไม่ใช่การเป็น Biker หล่อๆเท่ๆที่หลายๆคนพูดถึง อาจเป็นเพราะผมไม่ได้เล่นรถมาตั้งแต่เด็กก็ได้ครับ ตอนเด็กๆได้แต่ตระเวณแข่ง mountain bike cross country ซึ่งก็ทำให้ได้ทักษะต่างๆติดตัวมาที่สามารถเอามาปรับใช้กับการขี่มอเตอร์ไซด์ได้หลายอย่าง เอาเป็นว่า ผมเริ่มเสพติดการท่องเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซด์เข้าแล้วล่ะ
หลังจากทริปภูทับเบิก – เชียงคาน ผมก็มีทริปเล็กๆรอบๆหัวหินอีกมากมายครับ ชีวิตผมเปลี่ยนไปมาก ความสุขกลับมาก มีเวลาให้กับตัวเยอะเยอะขึ้น แต่ชีวิตก็เปลี่ยนอีกครั้งเมื่อผมตัดสินใจย้ายกลับมาทำงานที่กรุงเทพ หลังจากอยู่ที่หัวหินมา4ปีเต็มๆ การกลับมาทำงานในกทม.ทำให้เวลาผมหายไปเยอะครับ แต่ก็ยอมเพราะแลกกับค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว งานหนัก เงินเยอะ เวลาหาย เรื่องปกติครับ แต่ผมก็ไม่วายที่จะหาเวลาว่างให้กับตัวเอง ก็คนมันอยากเที่ยวนี่นา หาเวลาได้ก็ปรับแต่งรถให้เหมาะกับการขี่เที่ยวมากขึ้นโดยเจาะแผงคอแฮนด์เพื่อใส่แฮนด์บาร์ลดอาการปวดหลังจากการขี่รถยาวๆ พอรถพร้อมแล้วหาเวลาได้แล้ว จะรออะไรล่ะ ก็ไ ปสิครับ ทริปนี้เราไปเหนือเหมือนเดิมครับ โดยครั้งนี้เราไม่ไปเหนือแบบธรรมดา เราไปอ้อมภาคเหนือกัน 5 วัน 5 คืน รอบภาคเหนือ บอกตรงๆวันทริปนี้โหดมากผมเลิกงาน 6.30 กว่าจะเปลี่ยนชุ ดมัดของขึ้นทายรถก็ได้ฤกษ์ออกจากที่ทำงานประมาณ 1 ทุ่ม ขี่ไปเจอเพื่อนอีก2คนที่มาจากหัวหินที่บางปะหัน อยุธยา ประมาณ 4 ทุ่มครับ พอเจอกันก็กินข้าวกินน้ำ แล้วก็ออกเดินทางกันตอน 5 ทุ่ม โดยมุ่งหน้าสู่จ.ตากครับ คืนแรกนี้เราไปนอนกันที่ปั้มน้ำมัน อ.บ้านตากตอนตี 4 ครึ่ง นอนไป2 ชม.ก็ตื่นมาล้างหน้าล้างตาแล้วขี่ต่อครับ ทริปนี้โหดมาก ขี่ไปก็มองหาปั้มไป เพราะเพื่อนขี่ crf ถังน้ำมันเล็กกว่า cbr พอสมควรครับ
บางคนมันจะบอกว่าชอบไปเล่นโค้งที่ภาคเหนือ ผมว่าความรู้สึกที่ได้มันไม่ได้เป็นการเล่นโค้งอย่างเดียว มันเหมือนการฝึกเขียนคัดลายมือซ้ำแล้วซ้ำอีกกับโค้งที่เราเจอตามเส้นทางต่างๆ ทริปนี้มีความสุขมากครับ ได้ไปหลายๆที่ที่อยากไป ไม่ว่าจะเป็นดอยแม่อูคอ ภูกระดึง ปางอุ๋ง ปาย แม่สาย ดอยภูคา แต่ก็จะต้องกลับไปเก็บที่ดอยเสมอดาว จ.น่านอีกที่ขี่ไม่ถึงเนื่องจากจะมืดซะก่อน เอาเป็นว่า เป็นทริป 2800 โลที่ยากจะลืมเลยล่ะครับ
หลังจากนั้นก็ได้เวลาไปเปิดประสบการณ์กับที่เที่ยวสุดฮิตของเหล่า Biker พระนคร อย่างนครนายก – เขาใหญ่ – วังน้ำเขียวครับ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมชอบไปกันจัง แล้วก็ถึงบางอ้อว่า อากาศบนเขาใหญ่นั้นช่างแสนบริสุทธิ์ และเย็นกว่าในเมืองเยอะแยะมากมาย เหมาะแก่การหนีเมืองไปเติมความสดชื่นสำหรับชาวกรุงเป็นที่สุด และเส้นทางไปวังน้ำเขียวก็มีถนดีๆ โค้งกว้างๆให้เล่นมากมายครับ 3 ปีที่กลับมาอยู่กรุงเทพก็คงไม่ต้องบอกกันว่า ผมไปเขาใหญ่-วังน้ำเขียวมาแล้วกี่ครั้ง เพราะน่าจะเกิน 15 ครั้งแน่ๆครับ สำหรับคนที่ยังไม่เคยไปเขาใหญ่ หรือยังมีทักษะการขับขี่ที่ยังไม่แข็งแกร่ง ผมจะบอกว่า เขาใหญ่ ไม่ใช่ที่ที่เหมาะสำหรับการเล่นโค้งเลย เพราะนอกจากถนนจะแคบจะไม่มีไหล่ทาง ต้นไม้บังในโค้ง หรือพื้นชื้นๆเป็นบางช่วงแล้ว จุดที่พื้นแห้งบางช่วงที่มีแสงแดดรำไรรอดพุ่มไม้ลงมานั้นก็ยังมีกิ่งไม้ที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้น ถ้าคุณกำลังส่งกำลังรถและแบนโค้งขึ้นเขาอยู่แล้วไปเหยียบเข้า มีกลิ้งได้ง่ายๆเลยครับ เพราะฉะนั้นเวลาไปก็ขี่กินลมชมวิวกันนะครับ อย่าใจร้อน
อีกที่นึงที่ผมชอบไปมากทุกๆหน้าฝนก็คือ ปิล๊อก กาญจนบุรี พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นสภาพภูมิอากาศพิเศษ ชาวบ้านที่นี่จะเจอแดด ปีละ 3-4 เดือนเท่านั้น เพราะนอกจากนั้นก็จะมีหมอกและเมฆฝนสลับกันตลอด ช่วงที่ผมชอบไปมากที่สุดคือหน้าฝนครับ เพราะฝนจะตกจนเปียกชุ่มอยู่ตลอดเมื่อฝนหยุดหมอกก็จะวิ่งผ่านหน้าเราเป็นสายและมีหมอกได้ไม่ถึงครึ่งชม.ก็จะเจอฝนปรอยลงมาอีกสลับกันแบบนี้ทั้งวันทั้งคืน ชาวบ้านที่นี่ต้องมีเครื่องอบผ้ากันทุกครัวเรือนคับ ว่างๆอย่าลืมแวะไปนะครับ
เดี๋ยวมาต่อครับ