โสดแล้วพาล
หลายคนคงเคยเผชิญกับมุมเหล่านี้ เชื่อว่าต้องโดนกันบ้างไม่มากก็น้อย เพราะความ “โสด”
มักมาแบบเราไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่เราทิ้งใครสักคน หรือว่า เราเป็นผู้ถูกทิ้ง มันมักเป็นช่วงเวลาที่รวดเร็ว
ต่อให้รักกันหวานชื่นขนาดไหน แต่เมื่อมีอุปสรรคหรือสิ่งกีดขวางเข้ามาคั่นกลางระหว่างคนสองคนเมื่อใด เมื่อนั้นคำว่าเรา
จะกลายเป็นเราสองสามคนขึ้นมาทันใด แล้วคำว่า “โสด” จะเกิดขึ้นทันใด
โสดแล้วพาล มันเป็นช่วงอารมณ์ที่อาร์ตตัวแม่และอาร์ตตัวพ่อ มันจะเกิดขึ้นแบบอธิบายไม่ได้ว่า ตรูเป็นไรว่ะเนี่ย
อารมณ์ยังกะคนจะมุ่งหน้าเข้าสู่วัยทอง ความโสดมันไม่ได้น่ากลัว จริงๆแล้ว เราก็ใช้ชีวิตอยู่ได้และก็ยังหายใจอยู่ทุกนาที
ยังคงมีชีวิตอยู่ได้บนโลกอันกว้างใบนี้ แต่คือตรูเหงาไง เข้าใจยากเนอะ
โสดแล้วพาลของพวกคุณ
เป็นเหมือนกันหรือเปล่า
- เวลาไปดูหนัง ดูหนังคนเดียว โอ้โหอารมณ์ติสสสสสแตกเดขึ้นทันใด ทำได้นะดูหนังคนเดียว แต่เป็นมั้ย ตั้งแต่ซื้อตั๋วล่ะ
คือเรามาคนเดียวตั๋วใบเดียวดูคนเดียว แต่ทำไมคนข้างๆเดินมาคู่กัน เดินจูงมือกัน เดินหยอกล้อกัน จับไหล่ ลูบผม หรือแม้กระทั่ง
ผู้ชายเดินแกล้งแฟนเดินจับตูดแฟน ผู้หญิงก็จะหันมาด่า เล่นไรเนี่ยคนเยอะแยะอายเค้า แต่จริงๆแล้วมันคืออารมณ์มีความสุข
เหมือนแฟนใส่ใจและเล่นไรแบบนี้กับเรา รู้ไว้เลยผู้หญิงบางคนคิดแบบนั้น แต่ปากนี่ด่าไปก่อนแล้ว
- เวลาดูหนังในโรงหนัง เคยสงสัยมั้ย เอ่อคือ ที่นั่งมันไม่ได้สบายเหมือนโซฟาที่บ้าน แต่ก็พยายามเอาน้ำวางไว้ขวามือหรือริมสุด
และดันที่กั้นเก้าอี้ขึ้นเพื่อจะได้แอบซบกันและจับมือกันได้สะดวก แต่ความเป็นจริงคือ การนอนซบไหล่ในโรงหนัง คือมันเป็นท่าที่แม่มโคตรเมื่อยต้นคอ
แต่เอิ่มคนมีคู่ก็ทำ จับมือเหมือนจะมีความสุขแต่ความเป็นจริงมันคือเหงื่อออกแบบทะลักตอนจับมือกัน แต่พวกโสดแล้วพาล คือตอนมีแฟนก็ทำสิ่งเหล่านี้ แต่พอโสดป๊าบ จะไม่เข้าใจว่าเอิ่มอิพวกมีความรักมีแฟนจับมือและซบกันทำไม ตรูไม่เข้าใจ
- ตอนกิน ตอนเวลามีแฟนมีคนแย่งกินแย่งสั่งก็จะบอกว่าโหกินไม่แบ่งเลย ถ่ายรูปก่อนได้มั้ย รอถ่ายเสร็จค่อยกิน นั่นไงความรำคาญบังเกิด
คืออยากตะโกนดังๆว่าตรูหิว ตรูจะกิน แต่เวลาโสดป๊าบ ความคิดมาทันใด โต๊ะข้างๆนี่คือจะรักกันไรนักหนาเซลฟี่ถ่ายกันอยู่นั่น สู้เราก็ไม่ได้
นั่งกินคนเดียวไม่มีใครแย่ง และไม่ต้องรอใครบอกว่ากินได้แล้ว แต่จริงๆในใจโคตรอิจฉาเลย
- ตอนกิน เดินผ่านร้านที่เคยมาด้วยกัน ความทรงจำเคยมีร่วมกับแฟนเก่า เวลาโสดป๊าบ จะมีบุคคลสองประเภท
1.ไม่กงไม่กินแม่มและเห็นร้านนี้แล้วคิดถึงช่วงเวลาดีๆกลัวจะเข้าไปแล้วคิดถึงจนกินไม่ลง ไหนจะต้องทนคนมีคู่โต๊ะข้างๆสวีทกันอีก
และเลือกไปกินอย่างอื่นหรือร้านอื่นแทน
2. บุคคลประเภทที่สอง โสดแล้วพาลแบบขั้นที่ว่า จะคิดว่าก็แล้วไง ก็แค่ร้านที่มาด้วยกัน เดินเข้าไปกินคนเดียวก็ไม่เห็นเป็นไร
กดอารมณ์ว่าไม่เห็นเป็นไรเลย แค่กินคนเดียวในร้านที่เคยมาด้วยกัน จิ๊บๆ แต่ความเป็นจริงๆอารมณ์ลึกๆก็จำไม่เคยลืมว่าเคยมากับแฟนเก่า
และทานอะไรกันไปบ้างมีความสุขกันแค่ไหน เชื่อได้ว่าไม่มีทางไม่คิดถึง ถึงแม้จะแว๊บเดียวก็ตาม
- เดินข้ามถนน ตอนมีแฟนมีคนจูงข้ามถนนจร้า ความสุขเบาเบาเพียงเสี้ยวนาที อาจจะแอบนอยสถ้าแฟนเราข้ามถนนแล้วไม่จูงมือ ยังไงก็มีงอล
แต่เวลาโสด แบบโสดแล้วพาล เอิ่มไม่เข้าใจโลกว่า คือ ข้ามถนนกันเองไม่ได้ไง รถก็ไม่เยอะแยะขนาดนั้น ตาบอดไง ตาถั่วไง ต่างคนต่างเดิน
แล้วไปเจอกันอีกฟากถนนไม่ได้ไง นั่นไง ขวางโลกทันใด ทั้งที่ตัวเองก็เคยทำ5555
- โลกโซเชียล Facebook Line Instargram และอื่นๆอีกมากมาย โสดแล้วพาลไง เจอรูปหน้าฟลีทของเหล่าบรรดาคนมีแฟน
เอิ่มคือวันเกิดแฟนทำไมจะต้องเอารูปหวานมาโชว์ ดอกไม้ช่อใหญ่ให้ทำไมแม่มสิ้นเปลืองมันกินได้มะดอกไม้อ่ะ แล้วทำไมวาเลนไทน์คนมีแฟน
หน้าฟลีทอะไรจะรักกันขนาดน้านก๊าบป๋ม ทั้งหมีทั้งดอกไม้ทั้งรูปคู่ มันแสนกระชากใจเหลือเกิน เกิดคำถามและหงุดหงิด เอิ่มพวกคุณมรึนจะซื้อ
ให้กันทำไมก๊าบ แล้วคำถามเกิดกับตัวเองทันใด แล้วตรูจะไปไหนดีหว่า จะอยู่กับเพื่อนแม่มก็อยู่กับแฟน จะกลับไปหาครอบครัวมันก็ไม่ใช่ฟีลลิ่ง
(แต่เราเคยนะวาเลนไทน์เรากลับบ้านไปนอนกอดแม่และอยู่กินข้าวกะครอบครัว ก็เพราะมันคือวันแห่งความรัก อยู่กับครอบครัวบ้างก็ได้
แต่ถ้าให้เลือกมันทรมานนะโสดในวันวาเลนไทน์เพราะอารมณ์ติสสสสสมันจะเกิดขึ้นทั้งวันหรือเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนวันวาเลนไทน์วันนึงละ)
- พาลไปยันเพื่อน เวลาเพื่อมีปัญหา ตอนเพื่อนโทรมา ก็จะค่อยๆปลอบเพื่อน เฮ้ยใจเย็นๆเด๋วมันก็ดีขึ้น แต่เวลาเพื่อนแล้วหรือ จะดีหราแก
มันทำได้หราแก ช้านรักเค้านะ เหตุผลแล้วหรือที่เราก็เคยเป็น เจอเพื่อนแล้วหรือ แม่มยุเลย ลองห่างกันดูเผื่ออะไรจะดีขึ้น แน่นอนเพื่อนจะตอบเราว่า
“จะดีหราแก” ยุให้เพื่อนโสดเป็นเพื่อนกันไม่น่าจะขึ้น ออกแนวว่า บอกเพื่อนไปเลยก็ไม่เห็นเป็นไรโสดก้ออยู่คนเดียวไง ทั้งที่ในใจรู้ว่ามันเหงาแค่ไหน 5555พาลใส่เพื่อน
- เสื้อคู่ ประเด็นนี้น่าจะเกิดกับใครหลายคน ตอนมีแฟน มั่นใจได้ว่าผู้หญิงจะเป็นฝ่ายแล้วหรือ ตะเองใส่เสื้อคู่กันนะ ท่าทางจะไม่มีที่ฝ่ายชาย
จะบอกว่าที่รักจ๋าเราใส่เสื้อคู่กันนะ ออกแนวโดนฝ่ายหญิงบังคับแต่ก็ต้องจำยอม เวลาโสดปุ๊บ เดินผ่านอิพวกใส่เสื้อคู่ คิดในใจดังๆเลยว่า
“แม่มท่าจะรักกันขนาดนี้ ทำไมไม่นอนกอดกันอยู่บ้านไปเลยวร้า” นั่นไง นอยสสเพื่อ? ทั้งที่ตู้เสื้อผ้าที่บ้านเสื้อคู่ก็ยังแขวนอยู่
- Status นั่นไงโพสต์มากมายที่เวิ่นเว้อกับการโสดของตัวเอง สเตตัสมาเลยจร้า “โสดแล้วไง คนเดียวเฟี้ยวกว่าเยอะ” แต่คือจริงๆแล้ว
ความคิดตอนพิมพ์ลงไปเนี่ย รับประกันเลยว่าไม่ได้เฟี้ยวหรอกแต่แม่มเหงาชัวร์ๆ ภายใต้สถานะที่พร่ำเพ้อลงไปมันช่างต่างจากสภาพจิตใจ5555
เบาๆกับการโสดแล้วพาล
ฟ้าสร้างทุกอย่างมาคู่กัน
ตะเกียบยังมีคู่
หูก็มีสองข้าง
รองเท้าก็มีข้างซ้ายและขวา
ตาก็หันมองอะไรมากมายได้ก็ยังมีตาสองข้าง
ขาก็มีคู่พร้อมก้ามข้ามไปยังวินาทีแห่งความสุขพร้อมกัน
และฟ้าก็สร้างหัวใจมาสองดวงเหมือนกัน จริงๆแล้วมันก็มีคู่ แต่อยู่ที่จะหาคู่ของมันเจอหรือเปล่า ลองผิดลองถูกกันไปกว่าจะเจอกับคู่ของมันที่แท้จริง
วีรกรรมโสดแล้วพาลของคุณล่ะ
เป็นแบบไหน
โสดแล้วพาล
โสดแล้วพาล
หลายคนคงเคยเผชิญกับมุมเหล่านี้ เชื่อว่าต้องโดนกันบ้างไม่มากก็น้อย เพราะความ “โสด”
มักมาแบบเราไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่เราทิ้งใครสักคน หรือว่า เราเป็นผู้ถูกทิ้ง มันมักเป็นช่วงเวลาที่รวดเร็ว
ต่อให้รักกันหวานชื่นขนาดไหน แต่เมื่อมีอุปสรรคหรือสิ่งกีดขวางเข้ามาคั่นกลางระหว่างคนสองคนเมื่อใด เมื่อนั้นคำว่าเรา
จะกลายเป็นเราสองสามคนขึ้นมาทันใด แล้วคำว่า “โสด” จะเกิดขึ้นทันใด
โสดแล้วพาล มันเป็นช่วงอารมณ์ที่อาร์ตตัวแม่และอาร์ตตัวพ่อ มันจะเกิดขึ้นแบบอธิบายไม่ได้ว่า ตรูเป็นไรว่ะเนี่ย
อารมณ์ยังกะคนจะมุ่งหน้าเข้าสู่วัยทอง ความโสดมันไม่ได้น่ากลัว จริงๆแล้ว เราก็ใช้ชีวิตอยู่ได้และก็ยังหายใจอยู่ทุกนาที
ยังคงมีชีวิตอยู่ได้บนโลกอันกว้างใบนี้ แต่คือตรูเหงาไง เข้าใจยากเนอะ
โสดแล้วพาลของพวกคุณ
เป็นเหมือนกันหรือเปล่า
- เวลาไปดูหนัง ดูหนังคนเดียว โอ้โหอารมณ์ติสสสสสแตกเดขึ้นทันใด ทำได้นะดูหนังคนเดียว แต่เป็นมั้ย ตั้งแต่ซื้อตั๋วล่ะ
คือเรามาคนเดียวตั๋วใบเดียวดูคนเดียว แต่ทำไมคนข้างๆเดินมาคู่กัน เดินจูงมือกัน เดินหยอกล้อกัน จับไหล่ ลูบผม หรือแม้กระทั่ง
ผู้ชายเดินแกล้งแฟนเดินจับตูดแฟน ผู้หญิงก็จะหันมาด่า เล่นไรเนี่ยคนเยอะแยะอายเค้า แต่จริงๆแล้วมันคืออารมณ์มีความสุข
เหมือนแฟนใส่ใจและเล่นไรแบบนี้กับเรา รู้ไว้เลยผู้หญิงบางคนคิดแบบนั้น แต่ปากนี่ด่าไปก่อนแล้ว
- เวลาดูหนังในโรงหนัง เคยสงสัยมั้ย เอ่อคือ ที่นั่งมันไม่ได้สบายเหมือนโซฟาที่บ้าน แต่ก็พยายามเอาน้ำวางไว้ขวามือหรือริมสุด
และดันที่กั้นเก้าอี้ขึ้นเพื่อจะได้แอบซบกันและจับมือกันได้สะดวก แต่ความเป็นจริงคือ การนอนซบไหล่ในโรงหนัง คือมันเป็นท่าที่แม่มโคตรเมื่อยต้นคอ
แต่เอิ่มคนมีคู่ก็ทำ จับมือเหมือนจะมีความสุขแต่ความเป็นจริงมันคือเหงื่อออกแบบทะลักตอนจับมือกัน แต่พวกโสดแล้วพาล คือตอนมีแฟนก็ทำสิ่งเหล่านี้ แต่พอโสดป๊าบ จะไม่เข้าใจว่าเอิ่มอิพวกมีความรักมีแฟนจับมือและซบกันทำไม ตรูไม่เข้าใจ
- ตอนกิน ตอนเวลามีแฟนมีคนแย่งกินแย่งสั่งก็จะบอกว่าโหกินไม่แบ่งเลย ถ่ายรูปก่อนได้มั้ย รอถ่ายเสร็จค่อยกิน นั่นไงความรำคาญบังเกิด
คืออยากตะโกนดังๆว่าตรูหิว ตรูจะกิน แต่เวลาโสดป๊าบ ความคิดมาทันใด โต๊ะข้างๆนี่คือจะรักกันไรนักหนาเซลฟี่ถ่ายกันอยู่นั่น สู้เราก็ไม่ได้
นั่งกินคนเดียวไม่มีใครแย่ง และไม่ต้องรอใครบอกว่ากินได้แล้ว แต่จริงๆในใจโคตรอิจฉาเลย
- ตอนกิน เดินผ่านร้านที่เคยมาด้วยกัน ความทรงจำเคยมีร่วมกับแฟนเก่า เวลาโสดป๊าบ จะมีบุคคลสองประเภท
1.ไม่กงไม่กินแม่มและเห็นร้านนี้แล้วคิดถึงช่วงเวลาดีๆกลัวจะเข้าไปแล้วคิดถึงจนกินไม่ลง ไหนจะต้องทนคนมีคู่โต๊ะข้างๆสวีทกันอีก
และเลือกไปกินอย่างอื่นหรือร้านอื่นแทน
2. บุคคลประเภทที่สอง โสดแล้วพาลแบบขั้นที่ว่า จะคิดว่าก็แล้วไง ก็แค่ร้านที่มาด้วยกัน เดินเข้าไปกินคนเดียวก็ไม่เห็นเป็นไร
กดอารมณ์ว่าไม่เห็นเป็นไรเลย แค่กินคนเดียวในร้านที่เคยมาด้วยกัน จิ๊บๆ แต่ความเป็นจริงๆอารมณ์ลึกๆก็จำไม่เคยลืมว่าเคยมากับแฟนเก่า
และทานอะไรกันไปบ้างมีความสุขกันแค่ไหน เชื่อได้ว่าไม่มีทางไม่คิดถึง ถึงแม้จะแว๊บเดียวก็ตาม
- เดินข้ามถนน ตอนมีแฟนมีคนจูงข้ามถนนจร้า ความสุขเบาเบาเพียงเสี้ยวนาที อาจจะแอบนอยสถ้าแฟนเราข้ามถนนแล้วไม่จูงมือ ยังไงก็มีงอล
แต่เวลาโสด แบบโสดแล้วพาล เอิ่มไม่เข้าใจโลกว่า คือ ข้ามถนนกันเองไม่ได้ไง รถก็ไม่เยอะแยะขนาดนั้น ตาบอดไง ตาถั่วไง ต่างคนต่างเดิน
แล้วไปเจอกันอีกฟากถนนไม่ได้ไง นั่นไง ขวางโลกทันใด ทั้งที่ตัวเองก็เคยทำ5555
- โลกโซเชียล Facebook Line Instargram และอื่นๆอีกมากมาย โสดแล้วพาลไง เจอรูปหน้าฟลีทของเหล่าบรรดาคนมีแฟน
เอิ่มคือวันเกิดแฟนทำไมจะต้องเอารูปหวานมาโชว์ ดอกไม้ช่อใหญ่ให้ทำไมแม่มสิ้นเปลืองมันกินได้มะดอกไม้อ่ะ แล้วทำไมวาเลนไทน์คนมีแฟน
หน้าฟลีทอะไรจะรักกันขนาดน้านก๊าบป๋ม ทั้งหมีทั้งดอกไม้ทั้งรูปคู่ มันแสนกระชากใจเหลือเกิน เกิดคำถามและหงุดหงิด เอิ่มพวกคุณมรึนจะซื้อ
ให้กันทำไมก๊าบ แล้วคำถามเกิดกับตัวเองทันใด แล้วตรูจะไปไหนดีหว่า จะอยู่กับเพื่อนแม่มก็อยู่กับแฟน จะกลับไปหาครอบครัวมันก็ไม่ใช่ฟีลลิ่ง
(แต่เราเคยนะวาเลนไทน์เรากลับบ้านไปนอนกอดแม่และอยู่กินข้าวกะครอบครัว ก็เพราะมันคือวันแห่งความรัก อยู่กับครอบครัวบ้างก็ได้
แต่ถ้าให้เลือกมันทรมานนะโสดในวันวาเลนไทน์เพราะอารมณ์ติสสสสสมันจะเกิดขึ้นทั้งวันหรือเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนวันวาเลนไทน์วันนึงละ)
- พาลไปยันเพื่อน เวลาเพื่อมีปัญหา ตอนเพื่อนโทรมา ก็จะค่อยๆปลอบเพื่อน เฮ้ยใจเย็นๆเด๋วมันก็ดีขึ้น แต่เวลาเพื่อนแล้วหรือ จะดีหราแก
มันทำได้หราแก ช้านรักเค้านะ เหตุผลแล้วหรือที่เราก็เคยเป็น เจอเพื่อนแล้วหรือ แม่มยุเลย ลองห่างกันดูเผื่ออะไรจะดีขึ้น แน่นอนเพื่อนจะตอบเราว่า
“จะดีหราแก” ยุให้เพื่อนโสดเป็นเพื่อนกันไม่น่าจะขึ้น ออกแนวว่า บอกเพื่อนไปเลยก็ไม่เห็นเป็นไรโสดก้ออยู่คนเดียวไง ทั้งที่ในใจรู้ว่ามันเหงาแค่ไหน 5555พาลใส่เพื่อน
- เสื้อคู่ ประเด็นนี้น่าจะเกิดกับใครหลายคน ตอนมีแฟน มั่นใจได้ว่าผู้หญิงจะเป็นฝ่ายแล้วหรือ ตะเองใส่เสื้อคู่กันนะ ท่าทางจะไม่มีที่ฝ่ายชาย
จะบอกว่าที่รักจ๋าเราใส่เสื้อคู่กันนะ ออกแนวโดนฝ่ายหญิงบังคับแต่ก็ต้องจำยอม เวลาโสดปุ๊บ เดินผ่านอิพวกใส่เสื้อคู่ คิดในใจดังๆเลยว่า
“แม่มท่าจะรักกันขนาดนี้ ทำไมไม่นอนกอดกันอยู่บ้านไปเลยวร้า” นั่นไง นอยสสเพื่อ? ทั้งที่ตู้เสื้อผ้าที่บ้านเสื้อคู่ก็ยังแขวนอยู่
- Status นั่นไงโพสต์มากมายที่เวิ่นเว้อกับการโสดของตัวเอง สเตตัสมาเลยจร้า “โสดแล้วไง คนเดียวเฟี้ยวกว่าเยอะ” แต่คือจริงๆแล้ว
ความคิดตอนพิมพ์ลงไปเนี่ย รับประกันเลยว่าไม่ได้เฟี้ยวหรอกแต่แม่มเหงาชัวร์ๆ ภายใต้สถานะที่พร่ำเพ้อลงไปมันช่างต่างจากสภาพจิตใจ5555
เบาๆกับการโสดแล้วพาล
ฟ้าสร้างทุกอย่างมาคู่กัน
ตะเกียบยังมีคู่
หูก็มีสองข้าง
รองเท้าก็มีข้างซ้ายและขวา
ตาก็หันมองอะไรมากมายได้ก็ยังมีตาสองข้าง
ขาก็มีคู่พร้อมก้ามข้ามไปยังวินาทีแห่งความสุขพร้อมกัน
และฟ้าก็สร้างหัวใจมาสองดวงเหมือนกัน จริงๆแล้วมันก็มีคู่ แต่อยู่ที่จะหาคู่ของมันเจอหรือเปล่า ลองผิดลองถูกกันไปกว่าจะเจอกับคู่ของมันที่แท้จริง
วีรกรรมโสดแล้วพาลของคุณล่ะ
เป็นแบบไหน